Iron Condor Arbitrage เป็นการทำ arbitrage แบบหนึ่ง
โดยใช้กลยุทธ์ iron condor
ใช้ทำตอนที่ราคาของ call หรือ put options ที่ต่าง strike กัน
มีราคาถูก หรือแพงกว่าปกติ
สามารถทำได้ทุกรูปแบบของ iron condor
เช่น call iron condor, put iron condor หรือ แบบผสมอื่นๆ
สมมติ long s50u18p1100 (lp1100) 1 สัญญา ที่ premium 2
และ short s50u18p1125 (sp1125) 1 สัญญา ที่ premium 15
และ short s50u18p1150 (sp1150) 1 สัญญา ที่ premium 30
และ long s50u18p1175 (lp1175) 1 สัญญา ที่ premium 40
เส้นสีแดง คือ lp1100
เส้นสีเขียว คือ sp1125
เส้นสีน้ำเงิน คือ sp1150
เส้นสีน้ำตาล คือ lp1175
เส้นสีดำ คือ lp1100 + sp1125 + sp1150 + lp1175 คือ put iron condor
จุดกำไรต่ำสุด (หรือขาดทุน) เท่ากับ
ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย
= ((15 + 30) - (2 + 40)) = 3 จุด (ติดลบ หมายถึง ขาดทุน)
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ
(strike สูงสุด - strike ถัดมา) - (ผลต่างค่า premium ที่จ่าย - ที่รับ)
= (1175 - 1150) - ((2 + 40) - (15 + 30)) = 25 - (-3) = 28 จุด
ในทางปฏิบัติจริง เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นยากมาก และอยู่ได้ไม่นาน
เพราะโดยปกติจะมีคนเฝ้ากระดาน หรือพวก robot
เมื่อเห็นราคาผิดปกติที่ได้เปรียบจนสามารถทำ arbitrage ได้
ก็จะเข้ามาทำ arbitrage กันทันที
ดังนั้นเราจึงต้องรีบส่ง order ทั้งหมดด้วยความรวดเร็ว
ถ้าได้ order ไม่ครบทั้งหมด
หรือได้ order ครบ แต่ราคาที่ match ไม่ได้ตามที่คิดไว้
ซึ่งอาจจะขาดทุนได้
จึงต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย
TFEX Options - 19/9/2018 - Options Arbitrage ตอนที่ 8 - Iron Condor Arbitrage
โดยใช้กลยุทธ์ iron condor
ใช้ทำตอนที่ราคาของ call หรือ put options ที่ต่าง strike กัน
มีราคาถูก หรือแพงกว่าปกติ
สามารถทำได้ทุกรูปแบบของ iron condor
เช่น call iron condor, put iron condor หรือ แบบผสมอื่นๆ
สมมติ long s50u18p1100 (lp1100) 1 สัญญา ที่ premium 2
และ short s50u18p1125 (sp1125) 1 สัญญา ที่ premium 15
และ short s50u18p1150 (sp1150) 1 สัญญา ที่ premium 30
และ long s50u18p1175 (lp1175) 1 สัญญา ที่ premium 40
เส้นสีแดง คือ lp1100
เส้นสีเขียว คือ sp1125
เส้นสีน้ำเงิน คือ sp1150
เส้นสีน้ำตาล คือ lp1175
เส้นสีดำ คือ lp1100 + sp1125 + sp1150 + lp1175 คือ put iron condor
จุดกำไรต่ำสุด (หรือขาดทุน) เท่ากับ
ผลต่างค่า premium ที่รับ - ที่จ่าย
= ((15 + 30) - (2 + 40)) = 3 จุด (ติดลบ หมายถึง ขาดทุน)
จุดสูงสุด คือ จุดที่กำไรมากสุด เท่ากับ
(strike สูงสุด - strike ถัดมา) - (ผลต่างค่า premium ที่จ่าย - ที่รับ)
= (1175 - 1150) - ((2 + 40) - (15 + 30)) = 25 - (-3) = 28 จุด
ในทางปฏิบัติจริง เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นยากมาก และอยู่ได้ไม่นาน
เพราะโดยปกติจะมีคนเฝ้ากระดาน หรือพวก robot
เมื่อเห็นราคาผิดปกติที่ได้เปรียบจนสามารถทำ arbitrage ได้
ก็จะเข้ามาทำ arbitrage กันทันที
ดังนั้นเราจึงต้องรีบส่ง order ทั้งหมดด้วยความรวดเร็ว
ถ้าได้ order ไม่ครบทั้งหมด
หรือได้ order ครบ แต่ราคาที่ match ไม่ได้ตามที่คิดไว้
ซึ่งอาจจะขาดทุนได้
จึงต้องระวังเรื่องนี้ไว้ด้วย