💫🕛💫 "หลงกาล" Episode-43 : โซดอม เมืองคนบาป #7 (จบภาค) 💫🕛💫

กระทู้คำถาม


ล็อต ภรรยา และยาเฟต์ลูกสาวคนโต เดินทางมุ่งหน้าสู่เมือง “โซอาร์” ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ และต้องเลียบเชิงเขาซิดดิมไปทางทิศตะวันตก ใกล้ทะเลมรณะ อ้อมเมืองโกโมร่าห์ซึ่งขวางกั้นอยู่ตรงกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะกับชาวเมืองนั้นซึ่งมีพฤติกรรมเหลวแหลกฟอนเฟะไม่ต่างไปจากชาวเมืองโซดอมเลยแม้แต่น้อย

แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่รอดพ้นไปจากสายตาของชาวเมืองโกโมร่าห์บางคนผู้อาศัยอยู่ในบริเวณชายแดนทางทิศตะวันตกอยู่ดี ในขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินเท้าผ่านไปได้ประมาณครึ่งทาง

“นั่นมัน ล็อตกับภรรยาและลูกสาว ใช่ไหม ?” ชายคนหนึ่งถามเพื่อนสองคนซึ่งกำลังเสพทวารกันอยู่ริมทุ่งนา ในขณะที่ตัวเขาเองก็กำลังเมามันในรสสวาทกับสุกรเพศเมียตัวหนึ่งซึ่งตนขุนมันจนอ้วนพีในคอกซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กัน แล้วเหลือบไปเห็นสามคนนั้นเข้าในยามสายของวันนั้น จึงหยุดกิจกรรมบัดสีบัดเถลิงกับสุกรนั้นเสียกลางคัน ปล่อยมันไปหากินตามยถากรรม แล้วชี้ให้เพื่อนดูคนทั้งสามซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป แต่ยังพอมองเห็นหน้าเห็นตาแล้วรู้ได้ว่าคือใคร

“ใช่แล้วๆ ข้าจำหน้ามันได้เป็นอย่างดี มันเคยเข้ามาเกลี้ยกล่อมชาวเมืองเราให้เลิกเสพกามกัน ให้มีชีวิตคู่คือชายหญิงเพียงคู่เดียว ห้ามแลกเปลี่ยนกัน ห้ามเสพเพศเดียวกัน ห้ามเสพสวาทกับสัตว์ทั้งปวง และให้เคารพกราบไหว้พระเจ้า” เพื่อนของเขาก็หยุดชะงักการกระทำกับคู่ขาหนุ่ม แล้วชวนเพื่อนทั้งสอง “เราไปชวนชาวเมืองคนอื่นๆกันเถิด เรียกพวกเขาออกมากันมากๆ เพื่อจับสามคนนั่นมาให้ได้! ข้าอยากเสพสมกับหัวหน้าครอบครัว สองนางผู้สาวและผู้แก่ เจ้าจะเลือกเสพกับคนไหนก็ตามใจเจ้า”

“แน่นอน ข้าต้องเลือกลูกสาวของมันอยู่แล้ว หญิงแก่นั่นมอบให้ชายผู้นิยมคนสูงอายุ หรือไม่ก็หญิงผู้ชมชอบหญิงเหมือนกันไป เพราะฉะนั้นในระหว่างเจ้ากับข้า ก็ไม่ต้องแก่งแย่งกันให้วุ่นวาย”

“ข้าจะเสพภรรยาของล็อตก่อน!” ชายคนที่เป็นคู่ขาของคนแรกกล่าว “เป็นอันว่าเราทั้งสามคนแบ่งกันลงตัว รีบไปชวนคนอื่นๆกันเถิด อย่ามัวชักช้า”

แล้วชายจอมกระสันทั้งสามก็รีบเข้าไปในเมือง บอกทุกคนที่พบเจอว่าพวกตนได้เห็นล็อตกับภรรยาและลูกสาวกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้ลงใต้ พร้อมกับชักชวนพวกเขาให้ไล่ตามสามคนนั้นไปด้วยกัน จึงมีชาวเมืองโกโมร่าห์กลุ่มใหญ่ร่วมร้อยคนออกไปไล่ล่าบุคคลทั้งสาม โดยพากันขึ้นรถม้าหลายสิบคันไล่กวดตามไป สารถีทุกคนลงแส้หนัก ทำให้ม้าทั้งหลายห้อตะบึงไปด้วยความเร็ว ไม่นานนัก พวกเขาก็ไล่กระชั้นชิดเข้าทุกที...

ล็อต ภรรยา และยาเฟต์ เหลียวหลังกลับไปมอง พอเห็นรถม้าจำนวนมากวิ่งเข้ามาจนฝุ่นตลบพร้อมกับเสียงอื้ออึงของผู้คน จึงรีบร้องตะโกนบอกหญิงทั้งสอง “รีบวิ่งหนีไปข้างหน้า ข้าจะรั้งอยู่ข้างหลังปกป้องพวกเจ้า!!”

“ท่านพี่ ท่านจะสู้กับพวกเขาได้อย่างไรกัน ? ไปพร้อมกันเถิด”

“เจ้าอย่ามัวพิรี้พิไร รีบพาลูกหนีไปเดี๋ยวนี้!!” ล็อตออกคำสั่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียดแล้วผลักไสหญิงทั้งสองไปข้างหน้า

สองนางมิอาจขัดคำสั่ง จึงรีบจูงมือกันวิ่งไปข้างหน้า ล็อตตามมาข้างหลังติดๆ วิ่งไปพลางเหลียวกลับไปมองพลาง พวกชาวเมืองบนรถม้าก็ขยับใกล้เข้ามาทุกทีๆ

"ท่านพี่"

"ท่านพ่อ พวกเขาใกล้จะมาถึงตัวพวกเราแล้ว ทำอย่างไรดี ?"

สองแม่ลูกร้องถามล็อตด้วยความหวาดหวั่น โดยเฉพาะยาเฟต์ นางหวาดกลัวชาวเมืองเหล่านั้นจนตัวและปากคอสั่น

รถม้าทั้งหลายของชาวเมืองโกโมร่าห์ไล่ตามจนเหลือระยะห่างราวยี่สิบวา แต่ทันใดนั้น แสงสว่างสีขาวเจิดจ้าก็แผดจ้า พร้อมกับการปรากฏกายของทูตสวรรค์สององค์นั้น ณ กึ่งกลางระหว่างผู้ล่าและผู้ถูกล่า  รัศมีอันร้อนแรงจากกายของเทพทั้งสองทำให้ชาวโกโมร่าห์เหล่านั้นต้องยกมือยกแขนปิดหน้า และหลายคนไม่ทันได้ปกป้องในหน้า เผลอเปิดตามองเทพทั้งสองและตาบอดไปในฉับพลัน! พากันส่งเสียงร้องระงม

"โอ๊ยยยยย........", "อ๊าาาา......"

"เจ้าพวกคนบาปทั้งหลาย!" ทูตสวรรค์องค์หนึ่งเปล่งเสียงดังกังวาน "พระเจ้าใกล้จะทรงทำลายล้างเมืองของพวกเจ้า รวมทั้งเมืองโซดอมอยู่รอมร่อแล้ว เจ้าทั้งหลาย ก็ยังใฝ่ต่ำศำส่อนกันทั่วไป ไม่สนใจไยดีกับคำเตือนซึ่งล็อตผู้รับใช้ของพระเจ้าเคยบอกเตือนไว้ วันนี้แล...พวกเจ้าพร้อมกับเมืองทั้งสอง โซดอมและโกโมร่าห์ ถึงคราต้องพินาศย่อยยับเสียที!!"

หมู่ชนทั้งหลายพากันแตกกระเจิง หลายคนตาบอดไปโดยฉับพลัน และวิ่งหนีสะเปะสะปะไปจากรถม้า และม้าทั้งหลายจำนวนมากก็เกิดอาการตื่นตระหนก ดิ้นรนหนัก ถอยกรูดไปด้านหลังก็มี ยกสองขาหน้าขึ้นตะกุยกลางอากาศและร้องเสียงดัง สะบัดทั้งคนทั้งรถปลิวไปจากตัวก็มี ไม่มีใครสนใจจะติดตามล็อตและครอบครัวแล้ว ขณะนี้ทุกคนล้วนมีแต่ความกลัวตาย กระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง

"พวกมันหนีไปกันหมดแล้ว ท่านตามไปส่งล็อตกับครอบครัวด้วยนะ กาเบรียล" ทูตสวรรค์องค์เดิมกล่าวกับเพื่อนผู้เป็นเทพด้วยกัน "ข้าต้องกลับขึ้นไปก่อน มีกิจด่วนที่ต้องทำรอข้าอยู่"

"ได้ โจเซฟัส ข้าจะตามส่งพวกเขาและคุ้มกันพวกเขาเอง" ทูตสวรรค์กาเบรียลตอบ จากนั้นทูตสวรรค์โจเซฟัสก็หายวับไป

"ล็อต!" ทูตสวรรค์กาเบรียลร้องเรียก

"ว่าอย่างไรหรือขอรับ เจ้านายของข้า ?" ชายผู้เป็นหลานของอับราฮัมตะโกนถาม

"พวกเจ้าสามคนเร่งฝีเท้าเข้าเถิด อีกไม่นานก็จะถึงเมืองโซอาร์แล้ว ข้าจะคอยระวังหลังให้พวกเจ้าเอง ไม่ต้องกลัวต่อใครๆ หรือต่อสิ่งไรๆ" เทพกาเบรียลร้องบอก

"ขอรับ เจ้านายของข้า" ล็อตพร้อมลูกสาวคนโตและภรรยาก้มศีรษะโค้งกายลงคำนับ จากนั้นจึงพากันเร่งฝีเท้าเพื่อจะไปเสียให้พ้นจากเขตแดนเมืองคนบาปและเข้าสู่เมืองโซอาร์ต่อไป

******************************************************************************


ขณะเดียวกัน กัปตันวันชนะและคณะ รวมทั้งด็อกเตอร์สถาพร ก็กลับขึ้นเขาซิดดิม และในที่สุดก็มาถึงจุดที่ยาน The Fugitive จอดอยู่

"ยานตากแดดตากฝนมานานเลยนะคะเนี่ย ดูเก่าหมองไปเยอะเลย" สาวจอยแหงนหน้ามอง

"เดี๋ยวผมจัดการทำความสะอาดให้ครับ" แอนดี้ว่า และทำท่าจะเหินขึ้นบนอากาศ แต่กัปตันวันชนะยกมือห้ามไว้ "อย่าเพิ่งทำตอนนี้เลย แอนดี้ เวลาเรามีไม่มาก เมืองจะถูกถล่มด้วยอะไรก็ไม่รู้ ในนาทีไหนก็ไม่รู้ ต้องรีบขึ้นยานไปกันแล้ว"

"ครับผม เจ้านาย" แอนดี้ตอบรับคำสั่งเบรคนั้น และลดมือที่กำลังจะปล่อยไอพ่นขับดันตัวลอยขึ้นไปลง

เอ็มม่าก้าวเดินไปที่ช่องประตูยานซึ่งปิดสนิทอยู่ แล้วยกฝ่ามือขวาขึ้นวางทาบบนบานประตู ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างสีฟ้าเรืองออกมาจากตัวยานทั้งลำ พร้อมกับข้อความเป็นภาษาเนโอโซรอส "โปรดให้เจ้าของยานมายืนหน้าประตู เพื่อสแกนร่างกายทั้งตัว มิฉะนั้นประตูยานจะไม่เปิด"

คุณแม่ต่างดาวจึงหันไปพูดกับสามีชาวโลก "วันชนะคะ คุณต้องมาให้ยานสแกนร่างกายของคุณค่ะ ยานถึงจะเปิดประตูให้ มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะเปิดประตูยานได้ เป็น Security ชั้นสูงที่พวกของฉันได้ช่วยทำให้ค่ะ"

"ครับที่รัก" กัปตันตอบภรรยา แล้วก้าวไปยืนนิ่งอยู่อยู่หน้าประตูทางเข้ายานตรงนั้น

เสียงพูดภาษาไทยจากยานเป็นคำถามดังออกมา "โปรดแจ้งสถานะของคุณ"

กัปตันกล่าวด้วยเสียงดังก้องกังวาน "ผมชื่อ วันชนะ ชัยสิทธินิรันดร์ กัปตันประจำกองกำลังอากาศยานแห่งคณะกอบกู้อิสรภาพเพื่อเสรีประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หน่วยที่ 1049 รหัสประจำตัว 02478533699"

ลูกทีมทั้ง 4 คือ แซม เอก สองสาวจอยและเล็ก ขนลุกซู่กับคำประกาศแสดงตนของกัปตัน พวกเขาไม่ได้ยินเจ้านายกล่าวอย่างนี้มานานมาก นึกไม่ถึงว่าจะมาได้ยินเขากล่าวอีกครั้งในสภาวการณ์เช่นตอนนี้

สิ้นคำประกาศแจ้งรหัสประจำตัวหมายเลขสุดท้าย ประตูยานก็เลื่อนเปิดออก "ฟี้ดดดด........."

กัปตันวันชนะ ก้าวเข้าไปในยานเป็นคนแรก ผ่านลำแสงสีส้มอันทำหน้าที่สแกนตรวจตรวจร่างกายซึ่งส่องลงมาจากบนเพดานเข้าไป ตามด้วยเอ็มม่า สาวน้อยแอนนา แอนดี้ ลูกทีมทั้ง 4 ทุกคนเดินผ่านลำแสงตรวจร่างกายเข้าไปข้างในยานได้หมด

เหลือแต่ สถาพร และเอวา ...

โดยไม่มีใครคาดคิด ทันทีที่หนุ่มสาวทั้งสองจูงมือกันก้าวเดินเข้าไปอยู่ท่ามกลางลำแสง ก็ปรากฏกำแพงตาข่ายอันเกิดจากเลเซอร์ออกมา บังคนทั้งสองไว้ทั้งด้านหน้า ด้านซ้ายและขวา และเหนือศีรษะ เหลือแต่ด้านหลังซึ่งประตูยานเปิดอยู่ให้ทั้งสองคนออกไปจากยาน! ตามมาด้วยเสียงประกาศซึ่งเป็นเสียงผู้หญิงของจากระบบคอมพิวเตอร์ "ยามรักษาการณ์"

"คุณสองคน ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปกับยานลำนี้ เพราะไม่ใช่สมาชิกของยานลำนี้ โปรดถอยออกไปจากยาน เดี๋ยวนี้! คุณสองคน ไม่ได้รับอนุญาตให้ไปกับยานลำนี้ เพราะไม่ใช่สมาชิกของยานลำนี้ โปรดถอยออกไปจากยาน เดี๋ยวนี้!...คุณสองคน..."

"เฮ้ย!! ไหงเป็นยังงี้อะ ???" สถาพรโวยวาย "ฉันเป็นคนขับยานนี่มาเองนะโว้ย! อะไรวะ ? วันชนะ !! พวกนาย ทำอะไรกับยานลำนี้วะ ? ลบข้อมูลเราออกไปหมดหรือไง ? ทำไมทำแบบนี้ ???"

กัปตันวันชนะก็ตกใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น จึงหันไปถามภรรยา "เอ็มม่า ตอนที่พวกคุณช่วยอัพเกรดยาน พวกคุณลบข้อมูลของสถาพรออกไปหรือครับ ?"

"เอ้อ...ใช่ค่ะ!" สาวต่างดาวพยักหน้าตอบด้วยสีหน้าเจื่อนๆ "พวกเรา...ตั้งใจให้ยานมีแต่พวกเรา คือคุณ ฉัน แอนนา แอนดี้ และลูกน้องของคุณอีก 4 คนเป็นสมาชิกถาวร จึงลบความจำที่เกี่ยวกับคนอื่นๆออกไปหมด"

"ยุ่งแล้ว!" กัปตันครางเสียงแหบแห้ง "คุณ...สามารถสั่งยกเลิกการขวางกั้นนี้ได้ไหม ? เราต้องให้ทั้งสองคนไปด้วย ทิ้งพวกเขาไว้ไม่ได้นะครับ"

"จะลองดูค่ะ!" เอ็มม่าตอบสามีแล้วหันมาหาสองหนุ่มสาวใน 'กรงขังเลเซอร์' "คุณสถาพร ใจเย็นๆก่อนนะคะ ฉันจะลองไปสั่งยกเลิกคอมพิวเตอร์ของยานดู รอก่อนนะคะ บอกเอวาด้วยระวังอย่าแตะต้องซี่กรงซึ่งเป็นแสงเลเซอร์เด็ดขาด!"

สถาพรทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ถอนหายใจเฮือกใหญ่ "ไม่อยากจะเชื่อเลยครับ ให้ตาย! ยานผมขับมาแท้ๆ!"

"ฉัน...ขอโทษ แทนเพื่อนๆของฉันเหล่านั้นด้วยค่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีผมเข้ามาส...เอ้อ ยุ่งเกี่ยวด้วยในภายหลังแบบนี้นี่นะ! ช่วยไม่ได้ ผมซวยเอง! ก็สมกับความเลวของผมแล้วละครับ คุณเอ็มม่า!"

"เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง นายอย่าโทษตัวเองเลย" กัปตันพยายามปลอบใจด็อกเตอร์หนุ่ม

"ใช่ๆค่ะ คุณสถาพร อย่าโทษตัวเอง คุณความดีของคุณปรากฏแล้วตั้งแต่ตอบรับเอวาเป็นภรรยา พวกเราไม่ทอดทิ้งคุณกับนางแน่นอนค่ะ!"

"คุณรีบไปหาทางยกเลิกคำสั่งยานเถอะครับ" กัปตันบอกเตือนภรรยาต่างดาว

"โอเคค่ะ ฉันไปตอนนี้หละ รอกันหน่อยนะคะ!"

เอ็มม่าวิ่งปราดเข้าไปยังห้องนักบิน กวาดสายตาไล่มองดูแผงบังคับยานซึ่งหลายๆที่มีภาษาเนโอโซรอสติดอยู่ หล่อนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งจึงลองเอื้อมมือกดปุ่มต่างๆตามที่เห็นว่าน่าจะเกี่ยวข้องดู พร้อมกับพึมพำอ่าน

"ระบบป้องกันความปลอดภัย....เปิดประตู....ปิดประตู....ซ่อนอำพรางยาน....ล็อกประตู....แสงเลเซอร์ปิดกั้นบุคคลภายนอก! นี่ไง!!" หล่อนทำตาลุกวาว แล้วไล่นิ้วหาปุ่มกด "ยกเลิกการปิดกั้น"....ไม่มี! หาต่อไป....

มีคำสั่งที่ปุ่มสีแดงรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดและข้อความภาษาเนโอโซรอส "ยกเลิกคำสั่งทั้งหมด ตั้งระบบใหม่ทั้งหมด"

เอ็มม่าตัดสินใจ กระแทกนิ้วหัวแม่โป้งกดปุ่มนั้นทันที

"ต๊อดดด......."

มีเสียงพูดเป็นภาษาเนโอโซรอสดังขึ้นทันที ก้องไปทั่วทั้งยาน

"กรุณาป้อนรหัสประจำตัวของคุณ"

เอ็มม่ากดรหัสซึ่งเป็นตัวเลขล้วนๆสิบกว่าตัวลงไปในช่องที่มองเห็นและมีแผงปุ่มคีย์อยู่ข้างล่าง

"รหัสประจำตัวของคุณถูกต้อง กรุณาให้ผู้ตั้งระบบ มาป้อนรหัสประจำตัวของเขา ด้วยตนเอง!"

"บ้าจริง!" หล่อนสบถออกมาเบาๆ "ต้องเรียกไปที่ดาวของเราแล้วสิ! ยุ่งจริงๆเชียว!! เรียกจากไหนล่ะ ? ออกไปข้างนอกยานตอนนี้ก็ไม่ได้ ให้เรียกจากยานไปเหรอ ? แล้วจะสั่งการได้ไหมเนี่ย ???"

เอ็มม่ามองหาปุ่มคำสั่ง "เปิดช่องมิติอวกาศ"  และคำสั่ง "ติดต่อสื่อสาร" หล่อนพบทั้งสองปุ่ม จึงเริ่มกดปุ่มแรก

แล้วหล่อนก็ถอนใจออกมาเฮือกยาวด้วยความโล่งอก เมื่อได้ยินเสียงตอบรับ

"ช่องมิติอวกาศเปิดแล้ว โปรดแจ้งคำสั่ง"

คุณแม่ต่างดาวสั่งการด้วยคำพูดภาษาเนโอโซรอสทันที

"ส่งสาสน์ผ่านช่องมิติอวกาศ จากยานนี้ ถึงสถานีสื่อสารบนดวงจันทร์โซเฟีย แห่งเนโอโซรอส ด่วนที่สุด..."

(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่