💫🕛💫🚀 แดนศิวิไลซ์ ( หลงกาล ภาค 2 ) ตอนที่ 49 🚀💫🕛💫

กระทู้คำถาม
ณ ด้านมืดแห่งดวงจันทร์.......

THE FUGITIVE และ SAVIOR FALCON ได้บินออกจากโลกมาถึงในเวลาไม่กี่วินาทีผ่าน "ช่องลัดระยะทาง" และเลือกพื้นที่ราบแห่งหนึ่งเป็นฐานปฏิบัติการสังเคราะห์ธาตุพิเศษอันหาไม่ได้ในโลกนี้ ซึ่งได้มาจากยานของพวกเร็พไทเลี่ยนลำหนึ่ง กัปตันวันชนะ สถาพร และเอ็มม่ายังมีความคิดก้าวล้ำไปไกลยิ่งขึ้น คือหากสังเคราะห์ธาตุเลียนแบบธาตุของพวกเร็พไทเลี่ยนสำเร็จแล้ว ยังจะทดลองรวมธาตุนั้นเข้ากับ "ธาตุกายสิทธิ์" ซึ่งได้จากชาวแอตแลนติสเหนืออีกด้วย และหากทำสำเร็จ พวกเขาจะได้ธาตุชนิดใหม่ขึ้นมาทันที และจะสร้างพลังงานอันอเนกอนันต์ งานสำคัญนี้ ชาวเนโอโซรอสคือ  มูฟ่อน ผู้บัญชาการกองกำลังที่ 8 แห่งหน่วยเฝ้าระวังภัยและรักษาความสงบและสันติภาพประจำแกแล็กซี่ทางช้างเผือก ได้ส่งนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรชาวเนโอโซรอสมาร่วมงานด้วย โดยตกลงกันว่าผลสำเร็จจากงานนี้คือธาตุชนิดใหม่ที่จะได้มา จะแบ่งปันแก่กันและกัน ฝ่ายกัปตันขอต่อรองเพิ่มขึ้นว่า หากงานสำเร็จ ขอให้เทคโนโลยีที่ชาวเนโอโซรอสอัพเกรดให้แก่ยาน Savior Falcon ของสถาพรนั้นคงอยู่กับยานตลอดไป อย่าได้ถอดเอากลับคืนไปเลย เพราะทางฝ่ายตนเป็นผู้รักษาสันติภาพแต่เพียงอย่างเดียว ไม่นำยานไปใช้ในทางที่ผิดและไม่เผยแพร่ให้แก่ผู้อื่นใดเป็นอันขาด และทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกันได้ด้วยดี

นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรจากดาวเนโอโซรอสได้สร้างห้องแล็ปชั่วคราวขึ้นบนที่ราบนั้นเสร็จในเวลาอันรวดเร็ว เป็นห้องปฏิบัติการรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีกระจกครอบด้านบนซึ่งมีระบบเกราะป้องกันตัวสามารถป้องกันภัยจากอุกกาบาตหรือการจู่โจมใดๆ ตลอดเวลา และสามารถที่จะเคลื่อนย้ายออกจากดวงจันทร์แล้วเข้าไปในยานแม่ของพวกเขาได้เลยทันทีที่งานเสร็จ จากนั้นทุกคนก็ได้เริ่มงานกันอย่างต่อเนื่อง

การวิเคราะห์ สังเคราะห์ และ "ก๊อปปี้" ธาตุซึ่งได้มาจากยานของพวกเร็พไทเลี่ยนผ่านไปได้ด้วยดี ทำให้ได้ธาตุนั้นบรรจุในตลับโลหะขนาดเล็กนับร้อยๆ ชิ้น แต่ละชิ้นสามารถนำไปติดตั้งเป็นแหล่งให้พลังงานแก่ยานทุกลำของฝ่ายจักรพรรดิเนรอสซึ่งกำลังรออยู่ได้ทันที

และแล้วก็มาถึงงานสำคัญ...การรวมธาตุของพวกเร็พไทเลี่ยนเข้ากับธาตุกายสิทธิ์ของชาวแอตแลนติสเพื่อให้กลายเป็นธาตุชนิดใหม่!

ขณะที่ทุกคนกำลังช่วยงานกันอย่างขมักเขม้น เหนือฟ้านภากาศแห่งด้านมืดของดวงจันทร์บริเวณนั้น ปรากฏแสงสีแดงส้มของยานบินนับสิบลำ และมีสัญญาณการติดต่อส่งเข้ามาในห้องแล็ปอย่างปุปปับกระทันหัน เป็นภาษาต่างดาวซึ่งชาวโลกฟังไม่ออก แต่ชาวเนโอโซรอสเข้าใจเพราะเป็นภาษากลางที่ชาวต่างดาวใช้สื่อสารระหว่างกันทั่วแกแลกซี่!

เอ็มม่า และนักวิทยาศาสตร์กับวิศวกรชาวเนโอโซรอสหยุดชะงักมือซึ่งกำลังทำงานอยู่ กัปตันและชาวคณะเห็นอากัปกิริยาดังนั้นของพวกเขาก็แปลกใจหยุดมือไปตามๆ กัน

"มีอะไรหรือครับที่รัก ?" กัปตันถามภรรยา พลางหันไปมองชาวเนโอโซรอสที่เหลือ

"พวกนั้นตามมาค่ะ วันชนะ" เอ็มม่าตอบ

"พวกมันติดต่อมาว่าไงบ้างครับ ?" สถาพรถาม

"พวกมันต้องการเอาธาตุของพวกมันคืนค่ะ"

"อ๋ายย....ก็เอาต้นฉบับคืนให้พวกมันไปสิครับ เราก๊อปปี้ไว้เยอะแล้วนี่นา" ด็อกเตอร์จอมระห่ำว่า

"มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกค่ะ คุณสถาพร" คุณแม่ต่างดาวตอบยิ้มๆ "พวกมันขอให้พวกเราส่ง 'งานก๊อป' ทุกชิ้น ให้พวกมันด้วย"

"ฮะ! ไอ้พวกนี้นี่ คิดจะชุบมือเปิบเว้ยเฮ้ย!! ท่าทางคงอยากจะประลองกำลัง!" สถาพรว่าพลางถูกไม้ถูกมือตัวเอง

"คงงั้นแหละค่ะ! พวกมันบอกว่า ถ้าพวกเราไม่ให้ พวกมันก็จะถล่มฐานปฏิบัติการของพวกเรา"

"ก็สวยเซ่ !!" ว่าแล้วสถาพรก็หันหน้าไปหาลูกน้องคนเก่งของกัปตัน "เตรียมลุยโว้ย แอนดี้!"

"ครับ คุณสถาพร" แอนดี้ตอบรับคู่หูทันทีอย่างรู้ใจ

"คุณตอบกลับพวกมันไปหรือยัง ?" กัปตันถามภรรยา

"ตอบไปแล้วค่ะ ว่า ไม่ให้ อยากได้คืนก็เข้ามาเอาเอง!"

สถาพรฟังแล้วตบมือหัวเราะชอบใจ ยกนิ้วให้ภรรยาเพื่อนรัก "อย่างนี้สิครับ! สมแล้วที่เป็นภรรยาวันชนะ"

เอ็มม่าฟังแล้วอมยิ้ม กัปตันแหงนมองฟ้าเบื้องบนผ่านเกราะกระจก พลางกล่าว "พวกมันมากันสิบกว่าลำ ถ้าพวกมันโจมตีพร้อมกัน พวกเราในฐานนี่ จะต้านทานไหวเหรอครับ ?"

"แค่ยานสิบกว่าลำ ไหวอยู่ค่ะ!" เอ็มม่าพยักหน้าอย่างมั่นใจ "ระบบเกราะป้องกันของเนโอโซรอสไม่ถูกเจาะได้ง่ายๆ หรอกค่ะ วันชนะ ไม่ต้องห่วง"

คุณแม่ต่างดาวพูดยังไม่ทันขาดคำ ลำแสงพิฆาตจากยานเหล่านั้นก็เริ่มสาดลงมา ทำให้ชาวคณะหลายคนสะดุ้งผวา แต่แล้วก็โล่งใจเมื่อเห็นลำแสงเหล่านั้นหักเหเบี่ยงเบนออกไปทางอื่นหมด

"ฮืมม.....แต่ว่า การปล่อยให้พวกมันถล่มอยู่ข้างเดียว ไม่โสภาผมแน่ครับ!" ด็อกเตอร์ขาลุยกล่าวเล่นมุก

"ไม่โสภาคุณ ? หมายความว่าไงคะ ?" คุณแม่ต่างดาวทำหน้างงๆ

กัปตันหัวเราะ ก่อนเฉลยมุกของเพื่อน "ไม่ 'โสภา-สถาพร' น่ะครับ!"

"โฮ๊ยย! ภาษาไทยพวกคุณนี่!! เอ็มม่าหัวเราะพลางส่ายหน้า

"ไปแอนดี้" สถาพรยกมือตบไหล่คู่หู "ไปเอ็กเซอร์ไซส์ข้างนอกกัน"

"เดี๋ยวค่ะ คุณสถาพร" คุณแม่ต่างดาวรีบเบรค ทำให้เขาชะงักกึก หันมาถาม "มีอะไรหรือครับ ?"

"ยานของพวกมันแต่ละลำใหญ่ๆ ทั้งนั้น และมีหลายลำด้วย คุณกับแอนดี้จะเหาะไปสู้กับพวกมันด้วยตัวเองแบบนี้ ไม่สวยแน่ค่ะ!"

"งั้นก็ต้องขึ้นยาน!"

"ค่ะ! ต้องอยู่ในยาน"

"โอเคครับผม ไป! แอนดี้" ว่าแล้วด็อกเตอร์ผู้คันไม้คันมือเต็มแก่ก็พยักหน้ากับคู่หูและก้าวเดินไปที่ประตู

"ระวังตัวกันให้ดี ทั้งสองคน" กัปตันตะโกนบอก สถาพรตอบรับโดยชูนิ้วโป้งขึ้น แล้วเดินออกจากประตูห้องแล็ปซึ่งเลื่อนเปิดขึ้นข้างบนและปิดทันทีที่ทั้งสองคนก้าวพ้นจากประตู

คู่หูผู้พร้อมลุยวิ่งตีคู่ไปด้วยกันตรงไปยังยาน Savior Falcon ซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ตามทางเดินอันเป็นแผ่นโลหะ ภายใต้เกราะ "มหาบาเรีย" คุ้มกัน ระบบสร้างแรงโน้มถ่วงซึ่งจำลองแรงโน้มถ่วงของโลกมาทำให้การวิ่งไปของทั้งสองเป็นไปอย่างราบรื่นเป็นธรรมชาติเหมือนกำลังวิ่งอยู่บนพื้นโลกจริงๆ มิใช่พื้นผิวแห่งดวงจันทร์ เหนือฟ้า ลำแสงมหากาฬจากยานนับสิบลำเหล่านั้นก็ยังคงระดมยิงลงมาราวกับห่าฝน แต่ไม่มีแสงลำใดเล็ดลอดทะลุผ่านเกราะมหาบาเรียลงมาได้ ทั่วทั้งฐานปฏิบัติการซึ่งสร้างโดยเทคโนโลยีของชาวเนโอโซรอสนั้นเป็นดุจอยู่ใต้เปลือกไข่อันโปร่งแสงขนาดมหึมา ทุกลำแสงซึ่งยิงกระหน่ำลงมา พอชนเข้ากับเปลือกไข่นั้นก็เบี่ยงเบนไปทางอื่นเสียหมดสิ้น

ครั้นสถาพรและแอนดี้ขึ้นไปบนยาน Savior Falcon กันแล้ว ด็อกเตอร์จอมระห่ำก็ไม่รอช้า ออกคำสั่งต่อ "ผู้ช่วยสาว" ประจำยาน โชว์ของใหม่ให้แอนดี้เห็นทันที

"ลูซี่! แต่งตัวให้ฉัน ด่วน!"

"ได้ค่ะ เจ้านาย" บริวารสาวผู้มองไม่เห็นตัวตอบผ่านระบบของยาน จากนั้นประตูห้องเก็บเกราะเหล็กภายในยานซึ่งอยู่ด้านหลังสถาพรก็เลื่อนเปิดออก ชิ้นส่วนต่างๆ ของ "ไออ้อนแมน" สีเงินวาววับพุ่งออกมาประกอบเข้ากับร่างของเขาทีละชิ้นๆ จนครบเป็นไออ้อนแมนโดยสมบูรณ์!

"อ้าว!" แอนดี้อุทาน "ไหนว่าจะอยู่ด้วยกันในยาน ไม่ใช่หรือครับ คุณสถาพร ?"

"เฮ่ย....แบบนั้นจะไปมันส์อะไรเล้า!" ไออ้อนแมนพูดหน้าตาเฉย

"ขัดคำสั่งนายหญิงสิครับแบบนี้ ?" แอนดี้ยกมือขึ้นกุมหัว

"เค้านึกว่าฉันมีแค่นี้ไง! ก็เลยห้ามไม่ให้ฉันออกไปลุย" พูดจบ สถาพรภายใต้หน้ากากไออ้อนแมนขยิบตาข้างหนึ่ง ปรากฏว่าตาข้างนั้นของหุ่นเหล็กก็กะพริบแสงไฟตาม

"หมายความว่า ยังมีอย่างอื่นอีกหรือครับ ?" แอนดี้ถามและแสดงอาการ "ทึ่ง" ออกมาให้เห็น

"เออว่ะ!" ไออ้อนแมนพยักหน้าหงึก แล้วสั่งลูกน้องสาวอีก "ลูซี่! เดี๋ยวพอฉันเหาะออกจากยานแล้ว ส่ง 'กันดั้ม' ตามไปให้ด้วย!"

"ได้ค่ะ เจ้านาย พร้อมจะส่งให้แล้วค่ะ"

"เปิดประยูยาน"

"ค่ะ เจ้านาย"

บานประตูยาน Savior Falcon เลื่อนเปิดออกอีกครั้ง ไออ้อนแมนพุ่งออกจากยาน ตามด้วยชิ้นส่วน "กันดั้ม" ซึ่งสถาพรออกแบบมาเป็นพิเศษและสร้างเสร็จใหม่ๆ บินตามหลังมาเป็นพรวน! เขาบังคับให้ไออ้อนแมนลอยตัวกลางอากาศ ชิ้นส่วนต่างๆ ของกันดั้มเหล่านั้นก็ลอยเข้ามาหาและประกอบเข้ากับร่างของไออ้อนแมนจดหมดสิ้น!! ทำให้ร่างกายใหญ่โตขึ้นเป็นสองเท่า ปลอกมือปลอกแขน ขา และรองเท้า ติดอาวุธเพียบ แถมติดปีกสองข้างอย่างสวยเริ่ด  หน้ากากไออ้อนแมนครอบทับด้วยหัวของกันดั้มอันอลังการ กลายเป็น "กันดั้มไออ้อนแมน" ไปในบัดดล!!

"โอ้...โห.....แจ่มจริงๆ ครับคุณสถาพร" แอนดี้ว่าและปรบมือรัวๆ อยู่ในยาน

ไม่เพียงแอนดี้เท่านั้นที่ตะลึงและทึ่งกับฝีมืออลังการงานสร้างของสถาพร ความรู้สึกอึ้งทึ่งอย่างมากมายนั้นเกิดแก่กัปตันวันชนะและชาวคณะซึ่งจ้องมอง อยู่เบื้องล่างด้วย

"เขาไปสร้างของเล่นใหม่นี้ไว้ตั้งแต่เมื่อไรนิ ?" เอ็มม่ากล่าวยิ้มๆ ขณะแหงนมอง

"สถาพรก็แบบนี้แหละครับ ชอบเซอร์ไพรซ์พวกเราอยู่เรื่อย" กัปตันตอบ แล้วส่งวิทยุไปถามเพื่อน "เฮ้ย! สงสัยว่านาย...แอบขโมยอะไหล่ของเราไปหลายชิ้นเลยนะนั่น!"

"นิดหน่อยน่าเพื่อน!" เขาตอบมา พลางยกนิ้วโป้งโชว์ให้ดู

"ตอนนี้ นายเป็นทั้งไออ้อนแมน เป็นทั้งกันดั้ม! จะให้เรียกว่าไงดีวะ ?"

"ก็...กันดั้มไออ้อนแมน ไปเลย!"

กัปตันได้แต่หัวเราะและส่ายหน้า

"นิสัยส่วนนี้ของเขา เหมือนกับเด็กๆ เลยนะคะ" เอ็มม่าวิจารณ์

"ใช่ครับ" กัปตันพยักหน้าและยิ้มตลอดเวลา "เขามีความใฝ่ฝันจะเป็นอะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว"

"ไป แอนดี้ ลุยโว้ย !!" ด็อกเตอร์จอมระห่ำตะโกนบอกคู่หู แล้วขับดันไอพ่นจากฝ่าเท้าพุ่งขึ้นไปจนพ้นระยะเกราะป้องกันโดยเปิดระบบป้องกันตัวเองพร้อม แอนดี้ขับยาน Savior Falcon ตามขนาบข้าง ยานต่างดาวทั้งหลาย หลายลำเบนเป้ายิงถล่มทั้งคู่ทันที!

แซ่ดดดดดด.........แซ่ดดดดดดด..........แซ่ดดดดดดดดด.........แซ่ดดดดดดด..........

บางลำ ก็ปล่อยลำแสงอันประกอบด้วยรังสีสลายอณู หวังจะป่นทั้งคู่ให้เป็นผุยผง!

วูมมมมมมม............ วูมมมมมมมมมมม............. วูมมมมมมมมมมม..........

"อ๋าย...เล่นของหนักเหรอวะพวกแก! ไม่ได้แอ้มหรอกเว้ย!! ข้าพัฒนาแล้ว !!!" ว่าแล้วกันดั้มไออ้อนแมนก็ส่งรังสีสลายอณูสะท้อนกลับไป !

วูมมมมมมมมมม..............วูมมมมมมมมมมม............ วูมมมมมมมมมม..........

กร่อดดดดดดดดดดด............กร่อดดดดดดดดดดดด..........กร่อดดดดดดด........

คำสุภาษิต "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" ผุดขึ้นมาในหัวสถาพรทันที เมื่อเขามองเห็นยานเหล่านั้นซึ่งหวังจะป่นเขาให้แหลกเป็นจุณ กลายเป็นถูกรังสีของพวกมันเองกัดกร่อนยานด้วยความเร็วอันเหลือเชื่อแหลกเป็นผุยผง ราวกับถูกธานอสในหนังเรื่องอเวนเจอร์สวมถุงมืออันมีมณีครบแล้วดีดนิ้วสลายปลิวไปตามลมฉะนั้น !!

พวกที่เหลือถึงกับผงะ! นึกไม่ถึงว่าฝ่ายตรงกันข้ามจะต้านทานอาวุธร้ายของพวกตนได้ มิหนำซ้ำยังส่งย้อนกลับมาทำร้ายพวกตนได้อีกต่างหาก!

"ถึงตาพวกกูมั่งแล้ว ไอ้พวกกร๊วกทั้งหลาย !!" กันดั้มไออ้อนแมนคำราม แล้วแบสองฝ่ามือ กราดยิงลำแสงชนิดหนึ่งไปยังยานทุกลำที่ตนมองเห็น
"แสงสลายเกราะ!!"

วูมมมม..............วูมมมมมม.............วูมมมม..........วูมมมมม............

เกราะป้องกันรอบยานบินทุกลำของเหล่าอสูรเร็พไทเลี่ยนก็ปลาสนาการไปหมดสิ้นเพียงไม่กี่วินาที จากนั้นสถาพรก็แหกปากตะโกนลั่นพร้อมกับปล่อยแสงพิฆาตออกมาทั้งจากสองฝ่ามือและแผงรูปตัว V บนหน้าอกของเกราะ "กันดั้ม"!!

"ยิงแม่มมให้หมด แอนดี้ !!!  ฌาปนกิจหมู่โว้ยยย !!!"

แซ่ดดดด...........แซ่ดดดดดด...............แซ่ดดดดดด.........แซ่ดดดดดด..............แซ่ดดดดดด...............แซ่ดดดดดด.........

บึ้มมมมม !!!!  บึ้มมมมมม !!!! บึ้มมมมม !!!!  บึ้มมมม !!!!! บึ้มมมมม !!!!  บึ้มมมม !!!!!

แอนดี้ภายในยาน Savior Falcon ก็มือระรัวกดปุ่มบนแผงควบคุมปล่อยแสงมหาประลัยไล่สาดยิงยานที่เหลือ สอดประสานงานกับสถาพรอย่างลงตัว ดุจกาแฟกับครีมชั้นยอดชงเข้ากัน ฉันใดก็ฉันนั้น!!

แซ่ดดดดดด...........แซ่ดดดดด...............แซ่ดดดดดดด.........แซ่ดดดดดด...........แซ่ดดดดด...............แซ่ดดดดดดด.........แซ่ดดดดดด...........

(ต่อครับ) ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่