#เพลิงนรก ตาสวรรค์ ใต้ผืนใตรงามผู้ใดหยั่งรู้#
หลังแสดงบทพระธรรมชุดนี้แก่สงฆ์ หลังแสดงจบ ภิกษุ ๖๐ รูป กระอักเลือด
๖๐ รูปลาสึกไปเป็นฆราวาส อีก ๖๐ รูป บรรลุธรรม เพราะเหตุใดคงต้องลองติดตาม
ชื่อตอน "กระอักเลือด" แบ่งออกเป็นตอนย่อยหลายตอน
ตอนที่ ๕. กระอักเลือด ๑
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จไปในแคว้นโกศลชนบทพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จดำเนินไปสู่ทางไกล ได้ทอดพระเนตรเห็นไฟกองใหญ่ กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ในที่แห่งหนึ่ง จึงเสด็จแวะประทับนั่งบนอาสนะที่ปูไว้ใกล้โคนไม้แห่งหนึ่ง ครั้นแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเห็นไฟกองใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่หรือไม่”
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า “เห็น พระเจ้าข้า”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเข้าใจว่าอย่างไร
การเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่โน่น กับการเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม อย่างไหนจะดีกว่ากัน”
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การที่บุคคลเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีเหล่านั้นย่อมดีกว่าเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ ด้วยการกอดกองไฟย่อมเป็นทุกข์”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจจะขอเตือนเธอทั้งหลายว่า การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่อ้างว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติธรรมเพื่อความบริสุทธิ์แต่ปฏิญาณว่าตนพระพฤติธรรม เป็นผู้เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
เธอเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีทั้งหลายจะดีอย่างไร
เธอเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์
โชติช่วงอยู่โน้น ยังจะดีเสียกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะการเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเพียงทำให้ตายหรือทุกข์ปางตายเท่านั้น
แต่การที่เธอเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่มนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อหายนะ เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา และผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก”
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ขอเชิญอ่านพระสูตรบทเต็มได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/_mcu/v.php?B=23&A=2629&Z=2793
ขอเชิญอ่าน "เพลิงนรก ตาสวรรค์ ใต้ผืนไตรงามผู้ใดหยั่งรู้" ตั้งแต่ตอนที่ ๑ ได้ที่
http://toncoon.com/community/index.php?topic=2008.0
ขออนุโมทนาสามารถเผยแผ่เป็นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย
**************************************
ขอให้ทั้งหลายเจริญในธรรม มีธรรมเป็นที่ไป มีธรรมดำเนินไป มีธรรมนำทางไป
บุญกุศลทั้งหลายทั้งปวงขอจงถึงแก่ ท่านอ.พันธุม คีริวัต คุณแม่เสาวลักษณ์ เที่ยงธรรม ตลอดถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ผู้ถูกเบียดเบียนของข้าพเจ้าและทุกท่านที่ศึกษาพระธรรมร่วมกัน ขอพวกเราทั้งหลายจงเจริญแต่กุศลปิดหนทางอบาย ได้เวียนว่ายเพียงในเฉพาะสุคติภูมิ ไม่พบเจอกับทุคติวินิบาตนรกอีกตลอดทุกภพทุกชาติตราบถึงวันแห่งพระนิพพานด้วยเทอญ
#เพลิงนรก ตาสวรรค์ ใต้ผืนใตรงามผู้ใดหยั่งรู้# ตอนที่ ๕.กระอักเลือด ๑ (พระไตรปิฎก จบคำสอนนี้ภิกษุกระอักเลือด)
หลังแสดงบทพระธรรมชุดนี้แก่สงฆ์ หลังแสดงจบ ภิกษุ ๖๐ รูป กระอักเลือด
๖๐ รูปลาสึกไปเป็นฆราวาส อีก ๖๐ รูป บรรลุธรรม เพราะเหตุใดคงต้องลองติดตาม
ชื่อตอน "กระอักเลือด" แบ่งออกเป็นตอนย่อยหลายตอน
ตอนที่ ๕. กระอักเลือด ๑
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จไปในแคว้นโกศลชนบทพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จดำเนินไปสู่ทางไกล ได้ทอดพระเนตรเห็นไฟกองใหญ่ กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ในที่แห่งหนึ่ง จึงเสด็จแวะประทับนั่งบนอาสนะที่ปูไว้ใกล้โคนไม้แห่งหนึ่ง ครั้นแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเห็นไฟกองใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่หรือไม่”
ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า “เห็น พระเจ้าข้า”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเข้าใจว่าอย่างไร
การเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่โน่น กับการเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี ผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่ม อย่างไหนจะดีกว่ากัน”
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การที่บุคคลเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีเหล่านั้นย่อมดีกว่าเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ ด้วยการกอดกองไฟย่อมเป็นทุกข์”
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจจะขอเตือนเธอทั้งหลายว่า การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่อ้างว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติธรรมเพื่อความบริสุทธิ์แต่ปฏิญาณว่าตนพระพฤติธรรม เป็นผู้เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
เธอเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีทั้งหลายจะดีอย่างไร
เธอเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่ที่กำลังลุกรุ่งโรจน์
โชติช่วงอยู่โน้น ยังจะดีเสียกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร
เพราะการเข้าไปกอดกองไฟใหญ่นั้นเพียงทำให้ตายหรือทุกข์ปางตายเท่านั้น
แต่การที่เธอเข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดสตรีผู้มีฝ่ามือฝ่าเท้าอ่อนนุ่มนั้น ย่อมเป็นไปเพื่อหายนะ เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา และผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก”
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
ขอเชิญอ่านพระสูตรบทเต็มได้ที่
http://www.84000.org/tipitaka/_mcu/v.php?B=23&A=2629&Z=2793
ขอเชิญอ่าน "เพลิงนรก ตาสวรรค์ ใต้ผืนไตรงามผู้ใดหยั่งรู้" ตั้งแต่ตอนที่ ๑ ได้ที่
http://toncoon.com/community/index.php?topic=2008.0
ขออนุโมทนาสามารถเผยแผ่เป็นธรรมทานได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย
**************************************
ขอให้ทั้งหลายเจริญในธรรม มีธรรมเป็นที่ไป มีธรรมดำเนินไป มีธรรมนำทางไป
บุญกุศลทั้งหลายทั้งปวงขอจงถึงแก่ ท่านอ.พันธุม คีริวัต คุณแม่เสาวลักษณ์ เที่ยงธรรม ตลอดถึงบิดามารดาครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ผู้ถูกเบียดเบียนของข้าพเจ้าและทุกท่านที่ศึกษาพระธรรมร่วมกัน ขอพวกเราทั้งหลายจงเจริญแต่กุศลปิดหนทางอบาย ได้เวียนว่ายเพียงในเฉพาะสุคติภูมิ ไม่พบเจอกับทุคติวินิบาตนรกอีกตลอดทุกภพทุกชาติตราบถึงวันแห่งพระนิพพานด้วยเทอญ