ไม่ตรัสว่าจิตเป็นอนัตตา หรือโดยไตรลักษณ์

ไม่ตรัสว่าจิตเป็นอนัตตา

เป็นอันว่าได้ทรงจำแนกเอาไว้ชัดเจน วิญญาณก็ดี มโนก็ดี เป็นข้อที่พึงพิจารณาว่าเป็นอนัตตา หรือโดยไตรลักษณ์ และเมื่อเป็นของร้อน แต่ว่าจิตนั้นมิได้ตรัสรวมเข้าด้วย แต่ว่าตรัสว่าเมื่อได้ฟังพระธรรมเทศนานี้ จิตของพระเบ็ญจวัคคีย์ และของพระปุราณชฎิลพันรูป ก็พ้นจากอาสวะทั้งหลาย เพราะฉะนั้น จิตจึงเป็นสิ่งสำคัญดังกล่าว

และจิตนี้ ยังได้ตรัสเอาไว้ว่า ทุรังคมัง เที่ยวไปไกล เอกะจรัง เที่ยวไปผู้เดียว อสรีรัง ไม่มีสรีระรูปร่างสัณฐาน คูหาสยัง มีคูหาคือถ้ำเป็นที่อาศัย ตามที่ตรัสเอาไว้นี้เมื่อมากำหนดพิจารณาดูจิตของตนก็จะเห็นได้ ว่าเที่ยวไปไกล คือคิดไปนั่นคิดไปนี่ได้ไกลมาก คิดไปถึงดวงอาทิตย์ก็ได้ คิดถึงดวงจันทร์ก็ได้ ถึงดวงดาวดวงใดดวงหนึ่งก็ได้ ในโลกนี้ก็คิดไปถึงที่นั่นที่นี่ได้ทั่วโลกทั้งนั้น และก็เที่ยวไปผู้เดียวหรือเที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีสรีระคือรูปร่างสัณฐาน แต่ว่ามีคูหาเป็นที่อาศัย มีคูหาก็คือมีถ้ำเป็นที่อาศัย คูหาคือถ้ำนี้พระอาจารย์ท่านอธิบายรวมกันไปว่ามีกายนี้เป็นที่อาศัยไปทีเดียว และพระอาจารย์ผู้อธิบายในภายหลังที่ท่านอธิบายตามความเข้าใจของท่านเอง ว่าจิตนี้อาศัยอยู่ที่หทัยวัตถุคือที่หัวใจของทุก ๆ คนที่เต้นตุบ ๆ อยู่ทุกเวลานี้ ว่าจิตอาศัยอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่มีพุทธพจน์ตรัสแสดงเอาไว้ ตรัสเอาไว้ว่ามีคูหาคือมีถ้ำเป็นที่อาศัยเท่านั้น

จิต วิญญาณ มโน

›››››

สมเด็จพระญาณสังวร

สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วัดบวรนิเวศวิหาร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่