คำกล่าวสั้น ๆ ส่วนหนึ่งจากการเทศน์ของท่าน ว.วชิรเมธี ยายชอบฟัง่ทานเนื่องจากท่านมีนิทาน หรือ ตัวอย่างสนุก ๆ จากญาติโยมมาเล่าให้ฟัง วันนี้พอได้ยินคำกล่าวของท่านว่า “การเป็นสุข คือ การเห็นความทุกข์” ก็สะดุดหยุดคิดทบทวนขึ้นมา เอ...ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมายายเพิ่งจะเครียดเรื่องงานเพราะเพื่อนร่วมงานลาออกกะทันหัน ยายก็เสียใจส่วนหนึ่งว่าทำไมเพื่อนไม่ยอมบอกกันก่อน ทำไมไม่ให้ยายช่วยอะไรอย่างนี้ อีกอย่างเมื่อปีกลายเพื่อนสนิทมากก็เพิ่งจะออกไป ก็เครียดต่อไปว่าคนเดียวจะทำงานของ 3 คนยังไงดี ปัญหามันรวมเป็นก้อนใหญ่เบ้อเร้อ ตอนนั้นเท่าที่จำอาการได้ วันแรกเป็นหนัก หัวมันตื้อไปหมด หัวใจมันหุบเข้า ความรู้สึกมันทึบๆ เอาจริงๆ เรื่องงานยายว่ายายเอาอยู่ เพราะเจ้านายก็พร้อมจะช่วย แต่ที่หนัก คือ เรื่องเสียใจที่เพื่อนไม่ยอมปรึกษา Ego ยายมันสะเทือน ว่า เราก็คุยกันทุกเรื่องทำไมเค้าไม่ยอมขอคำปรึกษาเรานะ ทำนองนี้ แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปนี้ พอยอมรับเบื้องต้นได้ก็รู้สึกเบาขึ้น ส่วนเรื่องงาน พอได้คิดแผนรับมือคร่าว ๆ เสนอเจ้านายก็โอเคด้วยก็ดีขึ้น สุดท้ายเอาทุกอย่างมากอง แล้วเขียนแผนผัง ลำดับงานที่จะต้องทำ ก็โล่งละทีนี้ ตอนมีสติขึ้นปัญหาก้อนใหญ่ มันย่อยออกมาเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วมันทำให้รู้สึกว่าเรารับมือได้ ครั้งนี้ยายท้าวความสาเหตุยาวหน่อยเพราะอยากให้เข้าใจความรู้สึกที่ต้องการจะสื่อ ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น จะไม่เห็น Ego ไม่ได้ใช้หัวสมองแก้ไขปัญหา ที่สำคัญ ยายชอบคิดเอาเองว่า ตัวเองเข้มแข็งอยู่คนเดียวได้สบาย พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ ก็งอแง ร้องหาเพื่อน ร้องหาความเห็นใจ ตอนนี้ยายทำได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ ยายก็ถือว่าผ่านแบบทดสอบ “การเห็นความทุกข์ แล้วสุขก็ตามมา”
การเป็นสุข คือ การเห็นความทุกข์
คำกล่าวสั้น ๆ ส่วนหนึ่งจากการเทศน์ของท่าน ว.วชิรเมธี ยายชอบฟัง่ทานเนื่องจากท่านมีนิทาน หรือ ตัวอย่างสนุก ๆ จากญาติโยมมาเล่าให้ฟัง วันนี้พอได้ยินคำกล่าวของท่านว่า “การเป็นสุข คือ การเห็นความทุกข์” ก็สะดุดหยุดคิดทบทวนขึ้นมา เอ...ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมายายเพิ่งจะเครียดเรื่องงานเพราะเพื่อนร่วมงานลาออกกะทันหัน ยายก็เสียใจส่วนหนึ่งว่าทำไมเพื่อนไม่ยอมบอกกันก่อน ทำไมไม่ให้ยายช่วยอะไรอย่างนี้ อีกอย่างเมื่อปีกลายเพื่อนสนิทมากก็เพิ่งจะออกไป ก็เครียดต่อไปว่าคนเดียวจะทำงานของ 3 คนยังไงดี ปัญหามันรวมเป็นก้อนใหญ่เบ้อเร้อ ตอนนั้นเท่าที่จำอาการได้ วันแรกเป็นหนัก หัวมันตื้อไปหมด หัวใจมันหุบเข้า ความรู้สึกมันทึบๆ เอาจริงๆ เรื่องงานยายว่ายายเอาอยู่ เพราะเจ้านายก็พร้อมจะช่วย แต่ที่หนัก คือ เรื่องเสียใจที่เพื่อนไม่ยอมปรึกษา Ego ยายมันสะเทือน ว่า เราก็คุยกันทุกเรื่องทำไมเค้าไม่ยอมขอคำปรึกษาเรานะ ทำนองนี้ แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะเลือกทำอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างที่เราคิดเสมอไปนี้ พอยอมรับเบื้องต้นได้ก็รู้สึกเบาขึ้น ส่วนเรื่องงาน พอได้คิดแผนรับมือคร่าว ๆ เสนอเจ้านายก็โอเคด้วยก็ดีขึ้น สุดท้ายเอาทุกอย่างมากอง แล้วเขียนแผนผัง ลำดับงานที่จะต้องทำ ก็โล่งละทีนี้ ตอนมีสติขึ้นปัญหาก้อนใหญ่ มันย่อยออกมาเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วมันทำให้รู้สึกว่าเรารับมือได้ ครั้งนี้ยายท้าวความสาเหตุยาวหน่อยเพราะอยากให้เข้าใจความรู้สึกที่ต้องการจะสื่อ ถ้าเหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้น จะไม่เห็น Ego ไม่ได้ใช้หัวสมองแก้ไขปัญหา ที่สำคัญ ยายชอบคิดเอาเองว่า ตัวเองเข้มแข็งอยู่คนเดียวได้สบาย พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ ก็งอแง ร้องหาเพื่อน ร้องหาความเห็นใจ ตอนนี้ยายทำได้แล้ว ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ ยายก็ถือว่าผ่านแบบทดสอบ “การเห็นความทุกข์ แล้วสุขก็ตามมา”