ประกาศที่ ๙ พ.ศ. ๒๔๐๒
๑๘๑. ประกาศว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ปีมะแม เอกศก
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ สุทธิสมมติเทพยพงศวงศาดิศวรกระษัตริย์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริตริตรองในการจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองไปในการภายหน้า จึงได้มีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่พระสงฆ์ ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ ฝ่ายคามวาสีอรัญวาสีทั้งในกรุงนอกกรุง ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการในหัวเมือง เอกโทตรีจัตวาปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือให้ทราบทั่วกันว่า การในพระศาสนาคือพระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท รักษาพระจตุปาริสุทธิศีล แลจำเริญสมถะวิปัสสนา ทำสังฆกรรมมีอุโบสถกรรมเป็นต้น แลการที่ปฏิบัติตามโบราณคติทั้งนี้ พระสงฆ์บางพวกก็ประพฤติตามโบราณคติท่านผู้เป็นครูอุปัชฌายอาจารย์ แต่ก่อนสั่งสอนให้ศึกษาสืบ ๆ มา พระสงฆ์บางพวกได้เห็นพระบาลีในคัมภีร์ พระวินัยได้ดำริตริตรองเห็นถ่องแท้แน่ในใจ แล้วปฏิบัติไปตามตนเห็น ด้วยสำคัญว่าอย่างนั้น เป็นการฝืนอย่างโบราณดั้งเดิม และการนั้นผู้ซึ่งไม่ได้รู้เห็นด้วยก็เรียกว่าการอุตริขึ้น แลในที่ถูกเที่ยงแท้ในพระบาลีคัมภีร์ พระวินัยสิกขาบทนั้น จะให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงรู้เห็น แลเชื่อต้องกันพร้อมเหมือนกันนั้นก็เป็นอันยาก พระสงฆ์สองพวกนี้จะประพฤติปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างในอภิสมาจาริกวัตร เป็นต้นว่า พินทุอธิษฐานบริโภคนุ่งห่มสบงจีวรอย่างมอญอย่างไทย อย่างไรในหลวงก็ไม่ต้องห้าม ตามแต่ใจของพระสงฆ์จะปฏิบัติ เพราะเป็นการประพฤติดีไม่เป็นการทุจริต ไม่ติดไปด้วยการบาปหยาบช้า ไม่เกี่ยวข้องการแผ่นดิน แต่อย่าให้พระสงฆ์ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร แลฆราวาสที่มียศบรรดาศักดิ์ ที่ไม่มียศบรรดาศักดิ์ ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการที่นับถือพระสงฆ์ ซึ่งเป็นครูอาจารย์แลพวกของตัว ข่มขี่ปรับโทษว่าเป็นผิดลงทัณฑกรรม แลติเตียนนินทาว่ากล่าวเสียดสีกระทบกระทั่งแก่พระสงฆ์พวกอื่นที่ปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างเล็กน้อยดังนี้ ไม่เป็นประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ถ้าแลประชุมกันมากเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาส เป็นการแปลกประหลาด ณ หัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการเมืองนั้นบอกมา ให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จะได้ทรงพระราชดำริตริตรองว่าจะเกี่ยวข้องในการแผ่นดินบ้างหรือ หรือไม่เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จะเป็นความดีหรือร้ายประการใด จะได้โปรดเกล้า ฯ ให้ชำระ ที่ไม่ควรจะชำระก็จะไม่ไให้ชำระ ด้วยทรงรังเกียจว่าจะเหมือนความผู้วิเศษเกิดขึ้นที่เมืองประจันตคิรีเขต ผู้วิเศษคนนี้คิดทำการโกหกล่อลวงกรมการ แลราษฎรที่ไม่มีปัญญาให้ลุ่มหลงเลื่อมใสแล้วตั้งซ่องประชุมชายหญิงชาวเมืองนั้น ชักชวนให้หญิงถวายเมถุนธรรมแก่ตัว ทำเล่ห์กลให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จึงทรงรังเกียจในพระราชหฤทัยดังนี้ ถ้าประชุมกันเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาสในหัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการบอกมาให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทดังกล่าวแล้วนั้น ข้อหนึ่งพระสงฆ์ในอารามใด ขัดสนด้วยบิณฑบาต จึงทำเวชชะกรรมเป็นหมอยารักษาโรคป่วยไข้แก่ตระกูลที่มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎร หรือทำการช่างต่าง ๆ แต่พอได้ทรัพย์มูลค่าจตุปัจจัยทั้งสี่เลี้ยงชีวิต ในหลวงก็ไม่ทรงห้าม เว้นเสียจากการที่ประพฤติทุจริต เป็นการบาปหยาบช้าทำให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน คือภิกษุประพฤติเป็นพาลคบเพื่อนทำอนาจารการลามก สูบฝิ่นสูบกัญชา เสพสุราบ้าหรั่น กินน้ำตาลเมาเหล้าอุ กินข้าวค่ำ เที่ยวตีชิงวิ่งราวไม่มีหิริโอตตัปปะ แลเป็นนักเลงเที่ยวกลางคืน ถือเครื่องศัสตราวุธปืนเล็ก หอก ดาบ ขวานเล็ก มีดหมอ มีดกราย มีดกะหลาป๋า กล้องใหญ่ กระบองสั้น กระบองยาว มีเหลี่ยม แลไม่มีเหลี่ยม เที่ยวลอบยิงลอบฟันแทงตีกันกับเพื่อนสมณะหรือคฤหัสถ์ในนอกพระอาราม แลเป็นนักเลงเล่นการพนัน ชนนกเขา ชนไก่ วิ่งวัว วิ่งควาย เล่นโปถั่ว หวยกำตัดเล่นปลากัดตัดทุเรียน โพกศรีษะห่มผ้าขาวสีชมพู แลเที่ยวดูงานมหรสพเบียดเสียดแทรกผู้หญิง แลนั่งพูดกับผู้หญิงในที่ลับสองต่อสอง ส้องเสพเมถุนธรรมกับด้วยบุรุษสตรีจนถึงชำเรา แลลงเรือแจวเรือพายไปกับผู้หญิง ขึ้นล่องแข่งเรือเล่นทุ่งเล่นกฐินชักพระ เที่ยวดูเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนแห่พยุหบาตร ทำองอาจไม่หลักหลบ แจวเรือพายเรือเดินผ่านกระบวน ทำให้เสื่อมพระราชศรัทธา แลพระเกียรติยศในหลวง แต่บรรดาต่างประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนาเข้ามาอยู่ในพระมหาพระนครนี้ ได้เห็นพระสงฆ์ประพฤติอนาจารอย่างนี้ ก็จะติเตียนนินทาได้ว่าคนไทยชาวสยามนี้ เคารพนับถือผู้ที่ไม่สำรวมกาย ไม่ปฏิบัติให้เป็นที่เลื่อมใสของผู้เคารพนับถือดังนี้ จะว่างามดีว่าประเสริฐอย่างไร ภิกษุผู้ประพฤติอนาจารให้เกี่ยวข้องการแผ่นดินดังนี้ ในหลวงจะต้องทรงชำระ แลพระสงฆ์ทำการ สวนไร่นา ตัดไม้ทำเรือ ตัดไม่ไผ่ ตัดขอนสัก ตัดเสาขาย แลล่องแพไม้ขอน สักไม้เสาร ไม้ไผ่ ไม้รวกขาย ล่องเรือฉลอม เรือเป็ด แลเรือแม่ปะ เรือกูและ แลเรืออะไร ๆ ใหญ่เล็ก บรรทุกข้าวแลสินค้าต่าง ๆ มาขาย แลขายลงเรือกำปั่นสำเภาปักษ์ใต้ ด้วยกำลังตัวหรือเข้าส่วนกับฆราวาส เป็นสุงกะฆาฏขาดจากอากรสมพักศรภาษี ที่เป็นพระราชทรัพย์ของหลวงแลทรัพย์ของราษฎร แลประกอบการดังฆราวาส ไถ่ทาสทำกรมธรรม์ใส่ชื่อตัว เก็บเอากระยาดอกเบี้ยแก่ผู้มากู้มาขายตัวบุตรภรรยา แลญาติพี่น้องทาสเชลยหรือพวกของตัว ผูกดอกเบี้ย แลรับจำนำ ทำตึก ทำเรือนโรงร้านเรือแพขาย แลให้เช่าเก็บค่าเช่า หรือเข้าส่วนกับฆราวาส ปราศจากละอาย เป็นมิจฉาชีพ ไม่ชอบในสมณกิจ แลพระสงฆ์อวดความรู้เป็นผู้วิเศษทำเวทมนตร์ คาถาเสกน้ำรดน้ำประ ผู้มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎรผู้ดีไพร่ให้เกี่ยวข้องการแผ่นดิน ทั้งนี้ในหลวงจะต้องชำระ
ข้อหนึ่งการที่จะว่ากล่าวข่มขี่แลยกย่องทั้งสองนี้ เป็นการสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ด้วยว่าพระวินัยสิกขาบทเป็นที่ดำรงพระพุทธศาสนาให้ถาวร สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินได้เป็นผู้ทำนุบำรุงให้รุ่งเรืองไปในการภายหน้า เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำพระพุทธศาสนาให้มัวหมอง จึงต้องทรงชำระ ฝ่ายสมณธผู้ประพฤติชอบประกอบการปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท ก็ทรงสงเคราะห์ยกย่องโดยสมควรแก่คุณวิเศษมากน้อย เพราะฉะนั้นพระราชาคณธ ฐานานุกรม แลเปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร ฝ่ายคามวาสี อรัญวาสี ในกรุงนอกกรุงทั้งปวง จงประพฤติโดยชอบประกอบด้วยศีลวังวร อุตสาหศึกษาสอนศิษยานุศิษย์ในข้อพระวินัยสิกขาบท แลให้เล่าเรียนคันถธุระวิปัสสนาสมณกิจจึงจะสมควรเป็นสมณสักยบุตรสมมติสงฆ์อันประเสริฐ ในพระพุทธศาสนาเป้นที่นมัสการบูชา สักการะเนื้อนาบุญของเทวดามนุษย์บุรุษสตรีที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ให้พระสงฆ์ทั้งปวงจงมีความปรารถนา แลพยายามจิตแลปัญญา พิจารณาในวินัยสิกขาบทให้เห็นพร้อมกัน เมื่อเห็นผิดชอบประการใดก็ให้ไต่ถามปรึกษากัน โดยบาลีแลอรรถกถาอาจริยวาท คือถ้อยคำของอาจารย์สั่งสอนสืบ ๆ กันมา กับอัตตโนมัติปัญญาของตัว สอบสวนให้ถูกต้องกันเห็นสมควรแล้ว จงอนุโมทนาสาธุแก่กัน ถ้าไม่ชอบใจจงตั้งจิตเป็นอุเบกษาเพิกเฉยไว้ อย่าได้มีจิตเป็นฉันทาคติเป็นโทษาคติภยาคติโมหาคติแก่กัน จงเห็นแด่พระเดชพระคุณในหลวงที่ทรงบริจาคพระราชทรัพย์นับมิได้ ออกปฏิบัติด้วยจตุปัจจัยทั้งสี่ โดยสมควรแก่คุณานุรูปอันมีวิเศษมากวิเศษน้อย ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ถาวรรุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า
ประกาศมา ณ ปีมะแม เอกศก ในรัชกาลปัจจุบันนี้
ว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
๑๘๑. ประกาศว่าด้วยทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ปีมะแม เอกศก
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ สุทธิสมมติเทพยพงศวงศาดิศวรกระษัตริย์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ บรมธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนาถบพิตร พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชดำริตริตรองในการจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรืองไปในการภายหน้า จึงได้มีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ให้ประกาศแก่พระสงฆ์ ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ ฝ่ายคามวาสีอรัญวาสีทั้งในกรุงนอกกรุง ผู้สำเร็จราชการเมืองแลกรมการในหัวเมือง เอกโทตรีจัตวาปักษ์ใต้ฝ่ายเหนือให้ทราบทั่วกันว่า การในพระศาสนาคือพระภิกษุสงฆ์ปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท รักษาพระจตุปาริสุทธิศีล แลจำเริญสมถะวิปัสสนา ทำสังฆกรรมมีอุโบสถกรรมเป็นต้น แลการที่ปฏิบัติตามโบราณคติทั้งนี้ พระสงฆ์บางพวกก็ประพฤติตามโบราณคติท่านผู้เป็นครูอุปัชฌายอาจารย์ แต่ก่อนสั่งสอนให้ศึกษาสืบ ๆ มา พระสงฆ์บางพวกได้เห็นพระบาลีในคัมภีร์ พระวินัยได้ดำริตริตรองเห็นถ่องแท้แน่ในใจ แล้วปฏิบัติไปตามตนเห็น ด้วยสำคัญว่าอย่างนั้น เป็นการฝืนอย่างโบราณดั้งเดิม และการนั้นผู้ซึ่งไม่ได้รู้เห็นด้วยก็เรียกว่าการอุตริขึ้น แลในที่ถูกเที่ยงแท้ในพระบาลีคัมภีร์ พระวินัยสิกขาบทนั้น จะให้ท่านทั้งหลายทั้งปวงรู้เห็น แลเชื่อต้องกันพร้อมเหมือนกันนั้นก็เป็นอันยาก พระสงฆ์สองพวกนี้จะประพฤติปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างในอภิสมาจาริกวัตร เป็นต้นว่า พินทุอธิษฐานบริโภคนุ่งห่มสบงจีวรอย่างมอญอย่างไทย อย่างไรในหลวงก็ไม่ต้องห้าม ตามแต่ใจของพระสงฆ์จะปฏิบัติ เพราะเป็นการประพฤติดีไม่เป็นการทุจริต ไม่ติดไปด้วยการบาปหยาบช้า ไม่เกี่ยวข้องการแผ่นดิน แต่อย่าให้พระสงฆ์ราชาคณะ ฐานานุกรม เปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร แลฆราวาสที่มียศบรรดาศักดิ์ ที่ไม่มียศบรรดาศักดิ์ ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการที่นับถือพระสงฆ์ ซึ่งเป็นครูอาจารย์แลพวกของตัว ข่มขี่ปรับโทษว่าเป็นผิดลงทัณฑกรรม แลติเตียนนินทาว่ากล่าวเสียดสีกระทบกระทั่งแก่พระสงฆ์พวกอื่นที่ปฏิบัติแปลกต่างกันบ้างเล็กน้อยดังนี้ ไม่เป็นประโยชน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งเลย ถ้าแลประชุมกันมากเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาส เป็นการแปลกประหลาด ณ หัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการเมืองนั้นบอกมา ให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จะได้ทรงพระราชดำริตริตรองว่าจะเกี่ยวข้องในการแผ่นดินบ้างหรือ หรือไม่เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จะเป็นความดีหรือร้ายประการใด จะได้โปรดเกล้า ฯ ให้ชำระ ที่ไม่ควรจะชำระก็จะไม่ไให้ชำระ ด้วยทรงรังเกียจว่าจะเหมือนความผู้วิเศษเกิดขึ้นที่เมืองประจันตคิรีเขต ผู้วิเศษคนนี้คิดทำการโกหกล่อลวงกรมการ แลราษฎรที่ไม่มีปัญญาให้ลุ่มหลงเลื่อมใสแล้วตั้งซ่องประชุมชายหญิงชาวเมืองนั้น ชักชวนให้หญิงถวายเมถุนธรรมแก่ตัว ทำเล่ห์กลให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน จึงทรงรังเกียจในพระราชหฤทัยดังนี้ ถ้าประชุมกันเป็นการใหญ่ฝ่ายสมณะหรือฆราวาสในหัวเมืองใด ก็ให้ผู้สำเร็จราชการเมือง แลกรมการบอกมาให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทดังกล่าวแล้วนั้น ข้อหนึ่งพระสงฆ์ในอารามใด ขัดสนด้วยบิณฑบาต จึงทำเวชชะกรรมเป็นหมอยารักษาโรคป่วยไข้แก่ตระกูลที่มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎร หรือทำการช่างต่าง ๆ แต่พอได้ทรัพย์มูลค่าจตุปัจจัยทั้งสี่เลี้ยงชีวิต ในหลวงก็ไม่ทรงห้าม เว้นเสียจากการที่ประพฤติทุจริต เป็นการบาปหยาบช้าทำให้เกี่ยวข้องในการแผ่นดิน คือภิกษุประพฤติเป็นพาลคบเพื่อนทำอนาจารการลามก สูบฝิ่นสูบกัญชา เสพสุราบ้าหรั่น กินน้ำตาลเมาเหล้าอุ กินข้าวค่ำ เที่ยวตีชิงวิ่งราวไม่มีหิริโอตตัปปะ แลเป็นนักเลงเที่ยวกลางคืน ถือเครื่องศัสตราวุธปืนเล็ก หอก ดาบ ขวานเล็ก มีดหมอ มีดกราย มีดกะหลาป๋า กล้องใหญ่ กระบองสั้น กระบองยาว มีเหลี่ยม แลไม่มีเหลี่ยม เที่ยวลอบยิงลอบฟันแทงตีกันกับเพื่อนสมณะหรือคฤหัสถ์ในนอกพระอาราม แลเป็นนักเลงเล่นการพนัน ชนนกเขา ชนไก่ วิ่งวัว วิ่งควาย เล่นโปถั่ว หวยกำตัดเล่นปลากัดตัดทุเรียน โพกศรีษะห่มผ้าขาวสีชมพู แลเที่ยวดูงานมหรสพเบียดเสียดแทรกผู้หญิง แลนั่งพูดกับผู้หญิงในที่ลับสองต่อสอง ส้องเสพเมถุนธรรมกับด้วยบุรุษสตรีจนถึงชำเรา แลลงเรือแจวเรือพายไปกับผู้หญิง ขึ้นล่องแข่งเรือเล่นทุ่งเล่นกฐินชักพระ เที่ยวดูเสด็จพระราชดำเนินโดยกระบวนแห่พยุหบาตร ทำองอาจไม่หลักหลบ แจวเรือพายเรือเดินผ่านกระบวน ทำให้เสื่อมพระราชศรัทธา แลพระเกียรติยศในหลวง แต่บรรดาต่างประเทศที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนาเข้ามาอยู่ในพระมหาพระนครนี้ ได้เห็นพระสงฆ์ประพฤติอนาจารอย่างนี้ ก็จะติเตียนนินทาได้ว่าคนไทยชาวสยามนี้ เคารพนับถือผู้ที่ไม่สำรวมกาย ไม่ปฏิบัติให้เป็นที่เลื่อมใสของผู้เคารพนับถือดังนี้ จะว่างามดีว่าประเสริฐอย่างไร ภิกษุผู้ประพฤติอนาจารให้เกี่ยวข้องการแผ่นดินดังนี้ ในหลวงจะต้องทรงชำระ แลพระสงฆ์ทำการ สวนไร่นา ตัดไม้ทำเรือ ตัดไม่ไผ่ ตัดขอนสัก ตัดเสาขาย แลล่องแพไม้ขอน สักไม้เสาร ไม้ไผ่ ไม้รวกขาย ล่องเรือฉลอม เรือเป็ด แลเรือแม่ปะ เรือกูและ แลเรืออะไร ๆ ใหญ่เล็ก บรรทุกข้าวแลสินค้าต่าง ๆ มาขาย แลขายลงเรือกำปั่นสำเภาปักษ์ใต้ ด้วยกำลังตัวหรือเข้าส่วนกับฆราวาส เป็นสุงกะฆาฏขาดจากอากรสมพักศรภาษี ที่เป็นพระราชทรัพย์ของหลวงแลทรัพย์ของราษฎร แลประกอบการดังฆราวาส ไถ่ทาสทำกรมธรรม์ใส่ชื่อตัว เก็บเอากระยาดอกเบี้ยแก่ผู้มากู้มาขายตัวบุตรภรรยา แลญาติพี่น้องทาสเชลยหรือพวกของตัว ผูกดอกเบี้ย แลรับจำนำ ทำตึก ทำเรือนโรงร้านเรือแพขาย แลให้เช่าเก็บค่าเช่า หรือเข้าส่วนกับฆราวาส ปราศจากละอาย เป็นมิจฉาชีพ ไม่ชอบในสมณกิจ แลพระสงฆ์อวดความรู้เป็นผู้วิเศษทำเวทมนตร์ คาถาเสกน้ำรดน้ำประ ผู้มียศบรรดาศักดิ์แลราษฎรผู้ดีไพร่ให้เกี่ยวข้องการแผ่นดิน ทั้งนี้ในหลวงจะต้องชำระ
ข้อหนึ่งการที่จะว่ากล่าวข่มขี่แลยกย่องทั้งสองนี้ เป็นการสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน ด้วยว่าพระวินัยสิกขาบทเป็นที่ดำรงพระพุทธศาสนาให้ถาวร สมเด็จพระเจ้าแผ่นดินได้เป็นผู้ทำนุบำรุงให้รุ่งเรืองไปในการภายหน้า เพราะฉะนั้นผู้ที่ทำพระพุทธศาสนาให้มัวหมอง จึงต้องทรงชำระ ฝ่ายสมณธผู้ประพฤติชอบประกอบการปฏิบัติในพระวินัยสิกขาบท ก็ทรงสงเคราะห์ยกย่องโดยสมควรแก่คุณวิเศษมากน้อย เพราะฉะนั้นพระราชาคณธ ฐานานุกรม แลเปรียญ เจ้าอธิการ อนุจร ฝ่ายคามวาสี อรัญวาสี ในกรุงนอกกรุงทั้งปวง จงประพฤติโดยชอบประกอบด้วยศีลวังวร อุตสาหศึกษาสอนศิษยานุศิษย์ในข้อพระวินัยสิกขาบท แลให้เล่าเรียนคันถธุระวิปัสสนาสมณกิจจึงจะสมควรเป็นสมณสักยบุตรสมมติสงฆ์อันประเสริฐ ในพระพุทธศาสนาเป้นที่นมัสการบูชา สักการะเนื้อนาบุญของเทวดามนุษย์บุรุษสตรีที่เป็นสัมมาทิฏฐิ ให้พระสงฆ์ทั้งปวงจงมีความปรารถนา แลพยายามจิตแลปัญญา พิจารณาในวินัยสิกขาบทให้เห็นพร้อมกัน เมื่อเห็นผิดชอบประการใดก็ให้ไต่ถามปรึกษากัน โดยบาลีแลอรรถกถาอาจริยวาท คือถ้อยคำของอาจารย์สั่งสอนสืบ ๆ กันมา กับอัตตโนมัติปัญญาของตัว สอบสวนให้ถูกต้องกันเห็นสมควรแล้ว จงอนุโมทนาสาธุแก่กัน ถ้าไม่ชอบใจจงตั้งจิตเป็นอุเบกษาเพิกเฉยไว้ อย่าได้มีจิตเป็นฉันทาคติเป็นโทษาคติภยาคติโมหาคติแก่กัน จงเห็นแด่พระเดชพระคุณในหลวงที่ทรงบริจาคพระราชทรัพย์นับมิได้ ออกปฏิบัติด้วยจตุปัจจัยทั้งสี่ โดยสมควรแก่คุณานุรูปอันมีวิเศษมากวิเศษน้อย ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ถาวรรุ่งเรืองไปในกาลภายหน้า
ประกาศมา ณ ปีมะแม เอกศก ในรัชกาลปัจจุบันนี้