ชั่งน้ำหนักทุกวัน วัดรอบเอวและรอบพุงทุกวัน ช่วยควบคุมน้ำหนักได้

ขอออกตัวก่อนว่าวิธีนี้ไม่มีงานวิจัยอะไรรองรับ อาจไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องและก็ไม่แน่ใจว่าว่าจะใช้ได้กับทุกคน แต่เป็นวิธีการควบคุมน้ำหนักส่วนตัวของตนเองมาตลอดยี่สิบปี ปัจจุบันผมอายุ40ปี สูง178ซม. หนัก70กก.

เมื่อยี่สิบปีที่การคำนวนค่าBMIเป็นที่รู้จักน้อยมาก นิยมคำนวนโดยใช้ส่วนสูงลบด้วย100(ผู้ชายลบด้วย100 แต่ถ้าเป็นผู้หญิงลบด้วย110) แต่ผมนำส่วนสูงลบด้วย110 ดังนั้นน้ำหนักที่เหมาะสมที่สุดคือ 178 - 110 = 68กก. ผมนำน้ำหนักมาแบ่งเป็นช่วงชั้น ดังนี้

73ขึ้นไป คือ อ้วน >> ควบคุมอาหารด่วนๆ!! >> เน้นกินปลา ผัก ผลไม้

70 71 72 คือ อวบนิด >> ลดกินได้แล้ว งดบุฟเฟต์ ไก่ทอด พิซซ่า

67 68 69 คือ รูปร่างดีที่สุด!!!!!

64 65 66 คือ โอเคเลย >> กินบุฟเฟต์ได้สบาย

63ลงไป คือ ผอมไป >> หน้าตอบเหมือนคนติดยา

หมายเหตุ : ผมจะดูแค่เลข2ตัวหน้าที่เป็นกก. จุดทศนิยมผมไม่สนใจ

ผมวางเครื่องชั่งน้ำหนักไว้หน้าห้องน้ำและแขวนสายวัดไว้ตรงบริเวณนั้น ทุกวันก่อนอาบน้ำ(แก้ผ้า) ผมจะขึ้นชั่งน้ำหนักเพื่อรับรู้น้ำหนักของตนว่าหนักกี่กก.? ขึ้นหรือลง? น้ำหนักอยู่ในช่วงชั้นไหน? จากนั้นก็หยิบสายวัดมาวัดรอบเอวและวัดรอบพุง เพื่อรับรู้ว่าวันนี้รอบเอวและรอบพุงมีขนาดกี่นิ้ว? ขึ้นหรือลง? แต่การวัดรอบเอวและรอบพุงผมไม่ได้กำหนดค่าไว้ จะให้ความสำคัญไปที่น้ำหนักตัวแค่อย่างเดียว

ผมเองไม่ได้เป็นคนออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักโดยการกินเท่านั้น ไม่ได้อดแต่เลือกกิน เป็นคนกินข้าวไม่หมดจาน(เมื่อก่อนถูกผู้ใหญ่ว่าบ่อยมากที่กินข้าวไม่หมดจาน) เพราะถ้าเวลาใดที่น้ำหนักเกินช่วงชั้น ผมจะกินแค่ให้หายหิว! แต่ไม่ได้กินให้อิ่ม! เมนูที่เลือกกินประจำ คือ สุกี้น้ำ บอกแม่ค้าว่าขอแบบพิเศษใส่ผักเพิ่มแต่เนื้อไม่ต้องใส่เพิ่ม ถ้ากินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวก็จะสั่งเกาเหลาแบบพิเศษใส่ผักเยอะๆไม่ต้องใส่เนื้อเพิ่มข้าวเปล่าไม่ต้อง ระหว่างวันถ้าหิวก็จะกินไข่ต้ม1-2ใบก็หายหิว  

ผมทำอย่างนี้มาตลอด20ปี วิธีการนี้มันส่งผลต่อจิตใจและนิสัยการกินของผม แต่ตั้งแต่อายุ30ปีจะอ้วนง่ายมากลดลงยากต้องระวังเป็นพิเศษ ปัจจุบันอายุ40ปีกินมื้อหลักแค่2มื้อ มื้อเย็นกินเบาๆให้หายหิวเพราะถ้าหิวมักนอนไม่ค่อยหลับ

จึงแชร์วิธีการส่วนตัวครับ อาจมีประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่