อันเนื่องมาจากเมื่อวานอยากกินเมี่ยงปลาเผา
หิว + อยาก = หายนะยกกำลังสอง
ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม คว้าปลาทับทิมตัวใหญ่สุดบนตะแกรงมา
กินไปครึ่งตัว อิ่มถึงคิ้วสิคะอิเด๋อ!!!
นั่งมองปลาเนื้อฉ่ำหวานอย่างสุดเสียดาย ทิ้งไม่ลง
ยัดใส่ตู้เย็นไว้ก่อนวะ พรุ่งนี้อาจคิดออกว่าจะทำยังไงกับแกต่อ

ตัดฉับมาเช้าวันนี้ เปิดตู้เย็นหยิบนมมาชงกาแฟ
เห็นปลาที่ยัดเข้าตู้นอนคู่กับข้าวเย็น
ผ่ามมมม!!! ข้าวต้มปลานี่แหละวะเด๋อ
เอาข้าวมาเทน้ำร้อนใส่แล้วขึ้นเตาต้มจนเป็นข้าวเปียก พักไว้จ้ะ
ต้มน้ำร้อนอีกหม้อ ระหว่างรอน้ำเดือดจัดก็หักหัวปลา เลาะก้างทิ้งให้มากที่สุด ตักเนื้อ แยกหนังปลาไว้
น้ำเดือดพล่านดีแล้วโยนหัวปลาและหนังปลาทั้งแผงลงไป น้ำเดือดอีกทีลดเป็นไฟอ่อน เอาแค่เดือดแบบรุม ๆ
ทิ้งไว้แก้กลุ้มสักครึ่งชั่วโมง ระหว่างนั้นก็ปอกกระเทียมไปย่ะ อย่าปล่อยเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์
เปิดฝาหม้อชิมน้ำซุป เค็มจากเกลือที่เค้าทาตอนเผาปลา หวานจากหัวและหนังปลา หอมข่าตะไคร้ที่เค้ายัดแทนไส้ปลาตอนเผา
อ่ะ หาสวิง เอ้ย!!! กระชอนมาตักหัว หนัง และก้างที่หลงเหลืออยู่ออกไป จะได้ไม่ระคายอารมณ์ตอนกิน
ใส่เนื้อปลาที่แกะไว้แล้วลงไปแทนในน้ำซุปรุม ๆ อย่าให้เดือดพล่าน เนื้อมันจะแตกซะหมด
สักห้านาทีก็ยกหม้อซุปปลาหลบไป ตั้งกระทะเจียวกระเทียมต่อค่ะคุณ
แล้วจัดแจงตักข้าว ซุป เนื้อปลา โปะกระเทียมเหลืองหอม
มีผักชีโรยผักชี มีต้นหอมโรยต้นหอม ไม่มีก็ไม่ต้อง ก็จะได้ข้าวต้มปลาคลีน ๆ แบบเด๋อเนาะ
กินค่ะกิน หิวว้อยยยยยยย...จบ

เรื่องทำอะไรมั่ว ๆ ให้ง่าย ๆ ไว้ใจเด๋อ 5555555