"ใครที่มันเกลียดกู กูจะฆ่ามันให้มันตาย ทรมานมากกว่ากูเป็นร้อยเท่าพันเท่า!"
สิ้นเสียงตะโกนสาปแช่ง ร่างของบุคคลหนึ่งที่มีผมยาวเฟื้อยลากพื้น ได้เดินไปยังรูปหล่อที่บรรจงปั้นเอาไว้ พร้อมกับมองดูรูปปั้นนั้นพลางแสยะยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นกลับดูเหมือนเพชรฆาตรที่เกลียดแค้นชิงชังต่อรูปปั้นตรงหน้า
"นี่คือร่างของกูเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า สวยจริงนะ สวยราวเทพธิดาใครๆก็ต้องหลงรักหุ่นนี้ แต่ดูข้า! ดู ดู ดู !" เขากรีดเสียงออกมาอย่างรุนแรง เสียงนั้นไม่เหมือนผู้หญิงแต่มันคือเสียงผู้ชาย ทำไมเป็นอย่างนั้น ร่างที่อรชรบอบบาง ทำไมถึงได้มีเสียงดุจชายชาตรีเช่นนี้ได้
"ข้าอยากสวย ข้าอยากเป็นสตรีที่มีแต่คนรัก ข้าอยากให้ผู้ชายทุกคนรักข้า ไม่รังเกียจข้า”
เสียงที่เกรี้ยวกราดตอนต้นบัดนนี้กลับกลายเป็นเสียงสะอื้นไห้ เขาฟุบหมอบลงตรงปลายเท้ารูปปั้นนั้นที่ยืนสง่าด้วยชุดไทยโบราณ หุ่นนั้นเป็นสีเงินสว่างจ้ายามกระทบแสงเทียนอันริบหรี่ในห้องมืดนั้น เหมือนทำมาจากโลหะเงินทั้งร่าง ใบหน้าหุ่นสวยงามไร้ที่ติ เหมือนเจ้าของหุ่นตั้งใจปั้นด้วยหัวใจ
“ทำไมชีวิตข้า ต้องเกิดมาเป็นเพศที่ไม่ใช่ผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนรังเกียจข้า ทุกคนเกลียดข้า ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ฮือๆๆ” เขาหรือหล่อนก้มหน้าร้องไห้ เสมือนร่างข้างในจิตใจได้เปิดเผยออกมา อา….ใช่แล้วหล่อนคือชายวิปริตผิดเพศผู้อ่อนแอน่าสงสาร
แต่ฉับพลันอารมณ์อ่อนไหวก็แปรเปลี่ยนเป็นพายุเจ้าอารมณ์อีกครั้ง หล่อนพยุงตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับปาดน้ำแต่แห่งความเสียใจ ใบหน้าของเขาหรือหล่อนนั้นบัดนี้กระทบแสงเทียน ทำให้มองเห็นใบหน้าภายใต้ผมที่ยาวดกดำนั้น หน้าตาดูเป็นชายไม่มีผิด เพียงแต่รูปร่างจะดูอ้อนแอ้นอรชรผิดแปลกไปจากใบหน้าที่ดูแล้วมีความเป็นชายมากกว่าหญิง
“กูไม่ผิด ไม่ผิดเลยที่เกิดมาเป็นชายแต่จิตใจเป็นหญิง ทำไมต้องมีคนคอยจะฆ่ากูนัก ได้ ในเมื่ออยากให้กูตายนัก กูก็จะตายแต่เมื่อกูตายพวกก็ต้องตายตามกันไป!”
สุดเสียงร้องนั้นเอง เขาหรือหล่อนผู้นั้นหยิบมีดออกมาถือมือที่ดูผอมแห้งทั้งสองข้างกำมีดไว้แน่น พร้อมกับค่อยยกขึ้นสูงทีละนิดอย่างช้าๆ
“ขอให้วิญญาณของกูสิงสถิตอยู่ในรูปปั้นนี้ ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหนก็ไม่สามารถทำอะไรกูได้ กูจะเป็นผู้หญิงทีสวยที่สุดผู้ชายทุกคนจะต้องตกอยู่ในอำนาจของกู”
“ฉวบ!!”
สิ้นเสียงนั้น มีดแหลมคมได้ถูกแทงเข้าที่หัวใจด้านซ้าย ร่างนั้นเผยอยิ้มออกมาโดยไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขประหนึ่งไม่เคยพบเจอความสุขอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ร่างนั้นฟุบลงไปแน่นิ้งกับพื้นดินด้านลางฐานของหุ่นปั้น ทว่าดวงตาของเขาหรือหล่อนนั้นกลับไม่ปิดเหมือนคนที่ตายแล้ว แต่เบิกโพลงอย่างน่าหวาดกลัวถ้าหากจะมีผู้พบเห็น
แต่ว่าจะมีวันนั้นหรือ ในเมื่อปากทางเข้าถ้ำได้ถูกปิดตายเอาไว้โดยที่จะไม่มีใครได้พบเจออีก!
พ.ศ. 2500
“เอ็งจะเอารูปปั้นนี้ไปขายจริงๆหรือวะ ไอ้นก ข้าว่ามันดูแปลกๆอยุ่นะเว้ย” ไอ้เปลวทักเพื่อนเกลอของมันออกมาอย่างหวั่นใจเมื่อชายร่างเล็กแต่กำยำแข็งแรงบอกเขาอย่างนั้น
“ข้าอยากรวย อยากออกไปจากบ้านป่านี้เสียที ข้าคิดไว้แล้วว่าในถ้ำนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่เสียแรงเลยที่อดทนขุดกันหลายเดือน” ไอ้นกตอบเจ้าเปลวเพื่อนยากอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับสูบยาอย่างมีความสุข
ไอ้เปลวมองดูรูปปั้นผู้หญิงที่ไม่มีแม้แต่รอยอะไรให้หม่นหมองเลยทั้งที่ดูอายุแล้วก็น่าจะหลายร้อยปี สีเงินที่แผ่กระจายออกมามันยิ่งทำให้ดูสวยงามเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
ใบหน้าของรูปปั้นนั้นสวยงามราวกับเทพธิดา เขาคิดคำนึงว่าใครกันนะ ที่มาแอบซ่อนรูปปั้นที่สวยงามเช่นนี้ไว้ในถ้ำปิดตายหลายร้อยปี มันน่าจะมีอะไรพิเศษเป็นแน่
“เสียดายนะพี่ ที่ไม่เป็นทอง ไม่งั้นเรารวยเละเลยพี่เอ๊ย” เจ้าเปลวพูดขึ้นอีกพลางเอามือหยาบกร้านแห้งดำไปด้วยดินทรายจากการขุดหินกันมาข้ามเดือนลูบไล้อย่างช้าๆไปที่ใบหน้าและริมฝีปากของหุ่นรูปงามนั้นอย่างช้าๆ
“เอ็งไม่รู้อะไร ไม่ต้องให้เป็นทองราคามันก็เหมือนทองแล้ว ข้าจะเอาหุ่นนี่ไปขายให้กับเศรษฐีเรือนคำบนดอยที่เชียงรายนู่น เขาว่าแกชอบสะสมของเก่า ของมีค่า ว่ากันว่าแกทุ่มไม่อั้นเลยล่ะ”
ไอ้เปลวได้ยินเสียงของไอ้นกที่พูดออกมา ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มอย่างมีความฝันว่าจะได้รวยกับเขาสักทีแล้ว
“พี่จะเรียกสักกี่แสนดีพี่”
“กี่แสนเหรอ ไม่หรอก กี่ล้านต่างหากล่ะโว๊ยยยย”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องป่าเขาละแวกนั้น ยิ่งหัวเราะดังเท่าไหร่เสียงก็สะท้อนกลับมาเท่านั้น แต่ทำเสียงที่สะท้อนกลับมานั้นไม่เหมือนเสียงของชายหนุ่มผู้กำลังฝันหวานตรงนั้นเลยเล่า
พวกเขาไม่ได้สังเกตอะไรเลยสักนิดว่ามีความผิดปกตินี้อยู่โดยรอบ กลับสนใจเพียงแค่เงินที่จะได้จากการขายหุ่นปั้นเท่านั้นเอง พวกเขาหารู้ไม่ว่าความเงียบสงัดนั้นมีเพชฌฆาตซ่อนตัวอยู่!
“เอาล่ะโว๊ยคืนนี้พอเท่านี้ก่อน นอนในถ้ำนี่ล่ะ แล้วรุ่งสางค่อยช่วยกันยกรูปปั้นนี้ขึ้นรถกระบะ แล้วพากันไปเชียงราย”
ไอ้นกพูดอย่างสบายอารมณ์กับเพื่อนผู้มีอายุน้อยกว่าไม่เท่าไหร่ทั้งคู่ผิวปากร้องเล่นกันอย่างสนุกสนานเพราะคิดว่าตนนั้นกำลังจะรวยใหญ่
หลังจากหัวขโมยนอนหลับลงไปอย่างอ่อนเพลียภายในถ้ำแห่งนั้น เปลวเพลิงจากกองไม้ที่สุมไว้เพื่อให้แสงสว่างนั้นเริ่มมอดดับ จากแสงสว่างจุดใหญ่ๆกลับค่อยมืดลงที่ละนิด
แต่ทว่ารูปปั้นอิสตรีนั้นกลับมีลำแสงสะท้อนออกมาอย่างแปลกประหลาดเหมือนไม่ใช่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของสิ่งที่ไม่มีชีวิต
ในความเงียบสงัดที่แสนจะบรมสุขนั้น ความสุขที่คิดไว้ว่าจะได้ใช้เงินก้อนโต ไอ้โจรถ่อยทั้งสองไม่รู้เลยว่าเหตุร้ายกำลังจะมาเยือน
เงาสลัวของแมกไม้ที่ทอดปกคลุมเต็มภูเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงน่าหวาดกลัวดุจจะเกิดพายุกระหน่ำหนัก แต่ภายในถ้ำกลับไม่มีความรู้สึกถึงพายุรุนแรงนั้น กลับเงียบเชียบได้ยินเพียงเสียงกรนและเสียงหายใจของชายทั้งสองที่นอนอยู่
ทันใดนั้นเองรูปปั้นเทพธิดาก็กลับมีการเคลื่อนไหวได้อย่างช้าๆ ใบหน้าที่ยิ้มหวานกลับกลายเป็นบิดเบี้ยวแสดงถึงอาการโกรธแค้น ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงดุจไฟนรกโลกันต์
บัดนี้หุ่นมีชีวิตและวิญญาณที่รอคอยการปลดปล่อยมาหลายร้อยปี รอคอยวันนี้ที่จะได้แก้แค้นกับอ้ายอีที่ทำกับหล่อนไว้ ความแค้นมันไม่ได้ดับลงพร้อมกับชีวิต แต่ว่ามันคือการเริ่มต้นต่างหากล่ะ
สายลมดุจพายุจากภายนอกนั้นตอนนี้ได้เข้ามาในถ้ำโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จากที่กองไฟกำลังจะมอดดับ ลมรุนแรงกลับทำให้ไฟนั้นกลับติดขึ้นมาอีกครั้งและโหมรุนแรงมากกว่าเดิมทั้งที่ไม่มีเชื้อไฟเหลือยู่แล้ว
ชายหนุ่มทั้งสองต้องตื่นขึ้นจากฝันหวานเมื่อถูกรบกวนด้วยลมพายุที่กระหน่ำรุนแรง ท่าทางงัวเงียแปรเปลี่ยนเป็นหวาดผวาเมื่อพวกเขาเห็นว่ารูปปั้นได้หายไปแล้ว
“เฮ้ยยยยย
แล้ว หุ่นหายไปไหน” พูดออกมาพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน
ทั้งคู่มองตากันและมองหากวาดสายตาไปรอบๆ ท่ามกลางลมพายุรุนแรง ที่ไม่อาจจะมองอะไรได้ชัดเจนมือไม้ก็ต้องคอยปัดเศษใบไม้และกิ่งไม้ที่ถาโถมเข้ามา
พวกเขาน่าจะหวาดกลัวกันได้มากกว่านี้ถ้าหากไม่เห็นร่างของผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณสีทองทั้งชุด ผมยาวสลวยใบหูด้านซ้ายทัดดอกลั่นทมสีขาวนวล
หล่อนมองยิ้มมาที่ชายหนุ่มทั้งสอง และเดินเข้ามาหาท่าทางเชื้อเชิญและต้อนรับดุจชอบพอในตัวชายหนุ่ม
พายุลมรุนแรงบัดนี้ได้สงบลงเหมือนจะยินยอมให้กับความงามของสตรีตรงหน้า
อารมณ์ของคนที่ชอบหญิงงามไม่อาจจะทัดทานอารมณ์ของความหวาดกลัวในใจได้เพราะเมื่อพินิจเห็นชัดเจนแล้ว สตรีนางนี้กับหุ่นเหมือนกันมาก ใช่แล้วหุ่นที่หายไปบัดนี้กลับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
“ผะผะผี ผีใช่ไหมพี่นก” เจ้าเปลวเห็นอย่างนั้นก็หวาดกลัวเป็นอย่างมากถึงกับตัวสั่นและหลบอยู่หลังรุ่นพี่
“ผีอะไรสวยขนาดนี้ ถ้าสวยขนาดนี้กูจะเอาทำเมียเลย” ไอ้นกข่มใจไม่กลัวสตรีตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาไกล้เรื่อย แต่ก็พูดเสียงเบาๆเหมือนอยากจะให้รู้กันเพียงสองคน
ไอ้เปลวที่หลบอยู่ด้านหลังไอ้นกนั้นพยายามดึงเสื้อของอีกฝ่ายตรงหน้าเพื่อให้ถอยลงไปเรื่อยๆไม่ให้หญิงสาวเดินมาถึงตัวได้ แต่ก็สิ้นสุดแค่นั้นเพราะหลังของไอ้เปลวก็ชนกับผนังถ้ำไม่อาจจะขยับไปไหนได้อีก
สตรีสาวผมยาวในชุดไทยเดินเข้ามาถึงตรงหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร ดวงตาที่งามได้รูปหากมองลึกลงไปเหมือนโดนสะกดให้ตกอยู่ในภวังค์
“พวกท่านไม่ต้องกลัว ข้าอยากจะขอบคุณที่พวกท่านได้ปลดปล่อยข้าออกจากถ้ำแห่งนี้ ข้าต้องทนทุกข์ทรมานที่นี่มานานเหลือเกินแล้ว” สตรีนางนี้ยิ้มออกมาอย่างเป็นสุขใจ
ไอ้นกและเจ้าเปลวรู้สึกถึงความเป็นมิตรขึ้นมาอย่างทันทีเหมือนต้องมนตรา พวกเขาเริ่มมีรอยยิ้มตอบ
“ข้า นี่ เหรอที่ปลดปล่อยท่าน” ไอ้นกถามกลับพลางยิ้มแหยๆ
“ใช่ ด้วยเหตุผลนี้ข้ามีบางสิ่งบางอย่างจะตอบแทนน้ำใจที่มีต่อข้า ลองขุดถ้ำให้ลุกกว่านี้ซี ด้านหลังที่พวกท่านอยู่อยู่นั่น มีเงินทองเพชรมากมาย พอที่จะทำให้พวกท่านร่ำรวยไปทั้งชาติ “
พูดจบคำให้นกและเจ้าเปลวหัวเราะออกมาและกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ “ เงิน ทอง เพชร แม่เจ้าโว๊ยกูกำลังจะรวย เจ้าแม่ให้โชคกูแล้วโว๊ย “
“และสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะให้กับพวกท่าน ข้าคิดว่าไม่มีอะไรสามารถซื้อสิ่งนี้ได้ และจะไม่มีโอกาสได้แม้จะใช้เงินสักกี่ล้านซื้อ!”
ชายหนุ่มทั้งสองได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด ท่านมีสิ่งสุดท้ายอะไรให้ข้า” ไอ้นกถามอย่างอยากรู้ ในใจเขาคิดว่าอะไรจะมีค่ามากกว่าเงินทองได้อีก
ทันใดนั้นเองสตรีที่ออกมาจากรูปปั้น ที่ดูงดงามเหมือนเทวดามากกว่าภูติผีปีศาจกำลังเปลื้องสะไบออกมาจากไหล่เผยให้เห็นเนื้อในที่ขาวผ่องและนวลเนียนตา ทั้งสองมองตากันและคิดว่าใช่แล้ว
สิ่งนี้ซีนะที่เงินก็หาซื้อไม่ได้
สตรีร่างงามมองมาที่ชายหนุ่มทั้งสอง สายตารุมเร้าไปด้วยตัณหาราคะเหมือนไม่เคยต้องชายมานานแรมปี ริมผีปากบางได้รูปเม้มเข้าหากันช้าๆ เชิงเชิญชวน
มีหรือชายหนุ่มทั้งแท่งอย่างทั้งสองจะไม่รีบปรี่เข้าไปหาสตรีตรงหน้าที่ยั่วยวนเขาอยู่ตรงหน้า เหมือนแมวที่เห็นชิ้นปลาใหญ่
“ข้ารักท่านทั้งสอง ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด “
ภาพที่ได้เห็นตรงหน้าชายหนุ่มผู้หิวโหย และหญิงสาวผู้โหยหา ได้ร่วมรักกันอย่างผิดธรรมชาติเพราะหาได้มีเพียงหนึ่งกับหนึ่ง แต่เป็นสองหนุ่มกับหนึ่งสาว
“เฮ้ยยยยยยย
”
ไอ้นกรีบถอยลงออกห่างจากสตรีร่างนั้นอย่างตกใจ สีหน้าไอ้นกซีดเซียวและแสดงความต่ำทรามออกมา
“ไอ้เปลว อีนี่เป็นกะเทยว่ะ”
ไอ้เปลวได้ยินอย่างนั้นก็รีบผละออกมาจากจูบที่ดูดดื่มนั้นอย่างตกใจ
“กะเทยจริงเหรอพี่ ทำไมมันสวยขนาดนี้ล่ะ” ไอ้นกกับเจ้าเปลวรีบใส่เสื้อกันอย่างเร่งรีบกระดุมแต่ละเม็ดก็พากันติดไม่ตรงจุด
“กะเทยผีน่ะซี” ไอ้นกพูดออกมา
ร่างของสตรีตรงหน้าเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ร่างที่สวยงามแปรเปลี่ยนเป็นร่างที่ใหญ่โตขึ้นอืด เหมือนศพที่ตายเน่ามาหลายวัน กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
ใบหน้าใหญ่โตบิดเบี้ยว ดวงตาที่เคยสวยงามก็ทะลุออกมาอยู่นอกเบ้าทั้งสองข้าง หนอนไต่ยั่วเยี่ยเต็มตัวไปหมด ชุดไทยที่สวยงามก็ฉีกขาดด้วยแรงดันจากภายในร่างกายที่บวมเป่ง
“ไม่มีใครรักกูจริง ไม่มี ไม่มี ไม่มีกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงกรีดร้องดังอย่างรุนแรง ไอ้เปลวกับเจ้านกตกใจสุดขีด หมายจะวิ่งออกไปนอกถ้ำเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ด้วยอำนาจของปีศาจกลับทำให้หินหล่นลงมาทับปิดทางเข้าออกที่มีเพียงรูเล็กๆใช้คลานเข้ามานั้นได้ปิดตายแล้ว
ทั้งสองร้องไห้กอดกัน ตัวสั่นเหมือนลูกนกที่รอการเชือด สองมือพนมไหว้สิ่งสักสิทธิ์ ขอชีวิตอย่างหวาดกลัว
“กลัวแล้ว กลัวๆๆๆ ปล่อยกูไปกูกลัวแล้ว”
ทั้งสองร้องประสานเสียงกันจนจับใจความไม่ได้
ปีศาจตรงหน้าเดินทะมึนเข้ามาจนถึงตรงหน้า
"เกลียดกูมากใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็อยู่แทนกูในนี้แล้วกัน พวกแกจะได้รู้ว่าการทรมานตาย ข้างในเป็นยังไง!”
บัณเฑาะก์อาถรรพ์ (กะเทยผี) ตอนที่ 1 จุดกำเนิดอาถรรพ์ สาปสยอง
สิ้นเสียงตะโกนสาปแช่ง ร่างของบุคคลหนึ่งที่มีผมยาวเฟื้อยลากพื้น ได้เดินไปยังรูปหล่อที่บรรจงปั้นเอาไว้ พร้อมกับมองดูรูปปั้นนั้นพลางแสยะยิ้มออกมา แต่รอยยิ้มนั้นกลับดูเหมือนเพชรฆาตรที่เกลียดแค้นชิงชังต่อรูปปั้นตรงหน้า
"นี่คือร่างของกูเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า สวยจริงนะ สวยราวเทพธิดาใครๆก็ต้องหลงรักหุ่นนี้ แต่ดูข้า! ดู ดู ดู !" เขากรีดเสียงออกมาอย่างรุนแรง เสียงนั้นไม่เหมือนผู้หญิงแต่มันคือเสียงผู้ชาย ทำไมเป็นอย่างนั้น ร่างที่อรชรบอบบาง ทำไมถึงได้มีเสียงดุจชายชาตรีเช่นนี้ได้
"ข้าอยากสวย ข้าอยากเป็นสตรีที่มีแต่คนรัก ข้าอยากให้ผู้ชายทุกคนรักข้า ไม่รังเกียจข้า”
เสียงที่เกรี้ยวกราดตอนต้นบัดนนี้กลับกลายเป็นเสียงสะอื้นไห้ เขาฟุบหมอบลงตรงปลายเท้ารูปปั้นนั้นที่ยืนสง่าด้วยชุดไทยโบราณ หุ่นนั้นเป็นสีเงินสว่างจ้ายามกระทบแสงเทียนอันริบหรี่ในห้องมืดนั้น เหมือนทำมาจากโลหะเงินทั้งร่าง ใบหน้าหุ่นสวยงามไร้ที่ติ เหมือนเจ้าของหุ่นตั้งใจปั้นด้วยหัวใจ
“ทำไมชีวิตข้า ต้องเกิดมาเป็นเพศที่ไม่ใช่ผู้หญิงและผู้ชาย ทุกคนรังเกียจข้า ทุกคนเกลียดข้า ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ฮือๆๆ” เขาหรือหล่อนก้มหน้าร้องไห้ เสมือนร่างข้างในจิตใจได้เปิดเผยออกมา อา….ใช่แล้วหล่อนคือชายวิปริตผิดเพศผู้อ่อนแอน่าสงสาร
แต่ฉับพลันอารมณ์อ่อนไหวก็แปรเปลี่ยนเป็นพายุเจ้าอารมณ์อีกครั้ง หล่อนพยุงตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับปาดน้ำแต่แห่งความเสียใจ ใบหน้าของเขาหรือหล่อนนั้นบัดนี้กระทบแสงเทียน ทำให้มองเห็นใบหน้าภายใต้ผมที่ยาวดกดำนั้น หน้าตาดูเป็นชายไม่มีผิด เพียงแต่รูปร่างจะดูอ้อนแอ้นอรชรผิดแปลกไปจากใบหน้าที่ดูแล้วมีความเป็นชายมากกว่าหญิง
“กูไม่ผิด ไม่ผิดเลยที่เกิดมาเป็นชายแต่จิตใจเป็นหญิง ทำไมต้องมีคนคอยจะฆ่ากูนัก ได้ ในเมื่ออยากให้กูตายนัก กูก็จะตายแต่เมื่อกูตายพวกก็ต้องตายตามกันไป!”
สุดเสียงร้องนั้นเอง เขาหรือหล่อนผู้นั้นหยิบมีดออกมาถือมือที่ดูผอมแห้งทั้งสองข้างกำมีดไว้แน่น พร้อมกับค่อยยกขึ้นสูงทีละนิดอย่างช้าๆ
“ขอให้วิญญาณของกูสิงสถิตอยู่ในรูปปั้นนี้ ไม่ว่าไอ้อีหน้าไหนก็ไม่สามารถทำอะไรกูได้ กูจะเป็นผู้หญิงทีสวยที่สุดผู้ชายทุกคนจะต้องตกอยู่ในอำนาจของกู”
“ฉวบ!!”
สิ้นเสียงนั้น มีดแหลมคมได้ถูกแทงเข้าที่หัวใจด้านซ้าย ร่างนั้นเผยอยิ้มออกมาโดยไม่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเลยสักนิด กลับยิ้มออกมาอย่างมีความสุขประหนึ่งไม่เคยพบเจอความสุขอย่างนี้มาก่อนเลยในชีวิต
ร่างนั้นฟุบลงไปแน่นิ้งกับพื้นดินด้านลางฐานของหุ่นปั้น ทว่าดวงตาของเขาหรือหล่อนนั้นกลับไม่ปิดเหมือนคนที่ตายแล้ว แต่เบิกโพลงอย่างน่าหวาดกลัวถ้าหากจะมีผู้พบเห็น
แต่ว่าจะมีวันนั้นหรือ ในเมื่อปากทางเข้าถ้ำได้ถูกปิดตายเอาไว้โดยที่จะไม่มีใครได้พบเจออีก!
พ.ศ. 2500
“เอ็งจะเอารูปปั้นนี้ไปขายจริงๆหรือวะ ไอ้นก ข้าว่ามันดูแปลกๆอยุ่นะเว้ย” ไอ้เปลวทักเพื่อนเกลอของมันออกมาอย่างหวั่นใจเมื่อชายร่างเล็กแต่กำยำแข็งแรงบอกเขาอย่างนั้น
“ข้าอยากรวย อยากออกไปจากบ้านป่านี้เสียที ข้าคิดไว้แล้วว่าในถ้ำนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ ไม่เสียแรงเลยที่อดทนขุดกันหลายเดือน” ไอ้นกตอบเจ้าเปลวเพื่อนยากอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับสูบยาอย่างมีความสุข
ไอ้เปลวมองดูรูปปั้นผู้หญิงที่ไม่มีแม้แต่รอยอะไรให้หม่นหมองเลยทั้งที่ดูอายุแล้วก็น่าจะหลายร้อยปี สีเงินที่แผ่กระจายออกมามันยิ่งทำให้ดูสวยงามเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
ใบหน้าของรูปปั้นนั้นสวยงามราวกับเทพธิดา เขาคิดคำนึงว่าใครกันนะ ที่มาแอบซ่อนรูปปั้นที่สวยงามเช่นนี้ไว้ในถ้ำปิดตายหลายร้อยปี มันน่าจะมีอะไรพิเศษเป็นแน่
“เสียดายนะพี่ ที่ไม่เป็นทอง ไม่งั้นเรารวยเละเลยพี่เอ๊ย” เจ้าเปลวพูดขึ้นอีกพลางเอามือหยาบกร้านแห้งดำไปด้วยดินทรายจากการขุดหินกันมาข้ามเดือนลูบไล้อย่างช้าๆไปที่ใบหน้าและริมฝีปากของหุ่นรูปงามนั้นอย่างช้าๆ
“เอ็งไม่รู้อะไร ไม่ต้องให้เป็นทองราคามันก็เหมือนทองแล้ว ข้าจะเอาหุ่นนี่ไปขายให้กับเศรษฐีเรือนคำบนดอยที่เชียงรายนู่น เขาว่าแกชอบสะสมของเก่า ของมีค่า ว่ากันว่าแกทุ่มไม่อั้นเลยล่ะ”
ไอ้เปลวได้ยินเสียงของไอ้นกที่พูดออกมา ทั้งสองมองหน้ากันและยิ้มอย่างมีความฝันว่าจะได้รวยกับเขาสักทีแล้ว
“พี่จะเรียกสักกี่แสนดีพี่”
“กี่แสนเหรอ ไม่หรอก กี่ล้านต่างหากล่ะโว๊ยยยย”
เสียงหัวเราะดังกึกก้องป่าเขาละแวกนั้น ยิ่งหัวเราะดังเท่าไหร่เสียงก็สะท้อนกลับมาเท่านั้น แต่ทำเสียงที่สะท้อนกลับมานั้นไม่เหมือนเสียงของชายหนุ่มผู้กำลังฝันหวานตรงนั้นเลยเล่า
พวกเขาไม่ได้สังเกตอะไรเลยสักนิดว่ามีความผิดปกตินี้อยู่โดยรอบ กลับสนใจเพียงแค่เงินที่จะได้จากการขายหุ่นปั้นเท่านั้นเอง พวกเขาหารู้ไม่ว่าความเงียบสงัดนั้นมีเพชฌฆาตซ่อนตัวอยู่!
“เอาล่ะโว๊ยคืนนี้พอเท่านี้ก่อน นอนในถ้ำนี่ล่ะ แล้วรุ่งสางค่อยช่วยกันยกรูปปั้นนี้ขึ้นรถกระบะ แล้วพากันไปเชียงราย”
ไอ้นกพูดอย่างสบายอารมณ์กับเพื่อนผู้มีอายุน้อยกว่าไม่เท่าไหร่ทั้งคู่ผิวปากร้องเล่นกันอย่างสนุกสนานเพราะคิดว่าตนนั้นกำลังจะรวยใหญ่
หลังจากหัวขโมยนอนหลับลงไปอย่างอ่อนเพลียภายในถ้ำแห่งนั้น เปลวเพลิงจากกองไม้ที่สุมไว้เพื่อให้แสงสว่างนั้นเริ่มมอดดับ จากแสงสว่างจุดใหญ่ๆกลับค่อยมืดลงที่ละนิด
แต่ทว่ารูปปั้นอิสตรีนั้นกลับมีลำแสงสะท้อนออกมาอย่างแปลกประหลาดเหมือนไม่ใช่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของสิ่งที่ไม่มีชีวิต
ในความเงียบสงัดที่แสนจะบรมสุขนั้น ความสุขที่คิดไว้ว่าจะได้ใช้เงินก้อนโต ไอ้โจรถ่อยทั้งสองไม่รู้เลยว่าเหตุร้ายกำลังจะมาเยือน
เงาสลัวของแมกไม้ที่ทอดปกคลุมเต็มภูเขาสั่นไหวอย่างรุนแรงน่าหวาดกลัวดุจจะเกิดพายุกระหน่ำหนัก แต่ภายในถ้ำกลับไม่มีความรู้สึกถึงพายุรุนแรงนั้น กลับเงียบเชียบได้ยินเพียงเสียงกรนและเสียงหายใจของชายทั้งสองที่นอนอยู่
ทันใดนั้นเองรูปปั้นเทพธิดาก็กลับมีการเคลื่อนไหวได้อย่างช้าๆ ใบหน้าที่ยิ้มหวานกลับกลายเป็นบิดเบี้ยวแสดงถึงอาการโกรธแค้น ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงดุจไฟนรกโลกันต์
บัดนี้หุ่นมีชีวิตและวิญญาณที่รอคอยการปลดปล่อยมาหลายร้อยปี รอคอยวันนี้ที่จะได้แก้แค้นกับอ้ายอีที่ทำกับหล่อนไว้ ความแค้นมันไม่ได้ดับลงพร้อมกับชีวิต แต่ว่ามันคือการเริ่มต้นต่างหากล่ะ
สายลมดุจพายุจากภายนอกนั้นตอนนี้ได้เข้ามาในถ้ำโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง จากที่กองไฟกำลังจะมอดดับ ลมรุนแรงกลับทำให้ไฟนั้นกลับติดขึ้นมาอีกครั้งและโหมรุนแรงมากกว่าเดิมทั้งที่ไม่มีเชื้อไฟเหลือยู่แล้ว
ชายหนุ่มทั้งสองต้องตื่นขึ้นจากฝันหวานเมื่อถูกรบกวนด้วยลมพายุที่กระหน่ำรุนแรง ท่าทางงัวเงียแปรเปลี่ยนเป็นหวาดผวาเมื่อพวกเขาเห็นว่ารูปปั้นได้หายไปแล้ว
“เฮ้ยยยยย แล้ว หุ่นหายไปไหน” พูดออกมาพร้อมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมายกันมาก่อน
ทั้งคู่มองตากันและมองหากวาดสายตาไปรอบๆ ท่ามกลางลมพายุรุนแรง ที่ไม่อาจจะมองอะไรได้ชัดเจนมือไม้ก็ต้องคอยปัดเศษใบไม้และกิ่งไม้ที่ถาโถมเข้ามา
พวกเขาน่าจะหวาดกลัวกันได้มากกว่านี้ถ้าหากไม่เห็นร่างของผู้หญิงใส่ชุดไทยโบราณสีทองทั้งชุด ผมยาวสลวยใบหูด้านซ้ายทัดดอกลั่นทมสีขาวนวล
หล่อนมองยิ้มมาที่ชายหนุ่มทั้งสอง และเดินเข้ามาหาท่าทางเชื้อเชิญและต้อนรับดุจชอบพอในตัวชายหนุ่ม
พายุลมรุนแรงบัดนี้ได้สงบลงเหมือนจะยินยอมให้กับความงามของสตรีตรงหน้า
อารมณ์ของคนที่ชอบหญิงงามไม่อาจจะทัดทานอารมณ์ของความหวาดกลัวในใจได้เพราะเมื่อพินิจเห็นชัดเจนแล้ว สตรีนางนี้กับหุ่นเหมือนกันมาก ใช่แล้วหุ่นที่หายไปบัดนี้กลับมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ
“ผะผะผี ผีใช่ไหมพี่นก” เจ้าเปลวเห็นอย่างนั้นก็หวาดกลัวเป็นอย่างมากถึงกับตัวสั่นและหลบอยู่หลังรุ่นพี่
“ผีอะไรสวยขนาดนี้ ถ้าสวยขนาดนี้กูจะเอาทำเมียเลย” ไอ้นกข่มใจไม่กลัวสตรีตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาไกล้เรื่อย แต่ก็พูดเสียงเบาๆเหมือนอยากจะให้รู้กันเพียงสองคน
ไอ้เปลวที่หลบอยู่ด้านหลังไอ้นกนั้นพยายามดึงเสื้อของอีกฝ่ายตรงหน้าเพื่อให้ถอยลงไปเรื่อยๆไม่ให้หญิงสาวเดินมาถึงตัวได้ แต่ก็สิ้นสุดแค่นั้นเพราะหลังของไอ้เปลวก็ชนกับผนังถ้ำไม่อาจจะขยับไปไหนได้อีก
สตรีสาวผมยาวในชุดไทยเดินเข้ามาถึงตรงหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตร ดวงตาที่งามได้รูปหากมองลึกลงไปเหมือนโดนสะกดให้ตกอยู่ในภวังค์
“พวกท่านไม่ต้องกลัว ข้าอยากจะขอบคุณที่พวกท่านได้ปลดปล่อยข้าออกจากถ้ำแห่งนี้ ข้าต้องทนทุกข์ทรมานที่นี่มานานเหลือเกินแล้ว” สตรีนางนี้ยิ้มออกมาอย่างเป็นสุขใจ
ไอ้นกและเจ้าเปลวรู้สึกถึงความเป็นมิตรขึ้นมาอย่างทันทีเหมือนต้องมนตรา พวกเขาเริ่มมีรอยยิ้มตอบ
“ข้า นี่ เหรอที่ปลดปล่อยท่าน” ไอ้นกถามกลับพลางยิ้มแหยๆ
“ใช่ ด้วยเหตุผลนี้ข้ามีบางสิ่งบางอย่างจะตอบแทนน้ำใจที่มีต่อข้า ลองขุดถ้ำให้ลุกกว่านี้ซี ด้านหลังที่พวกท่านอยู่อยู่นั่น มีเงินทองเพชรมากมาย พอที่จะทำให้พวกท่านร่ำรวยไปทั้งชาติ “
พูดจบคำให้นกและเจ้าเปลวหัวเราะออกมาและกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ “ เงิน ทอง เพชร แม่เจ้าโว๊ยกูกำลังจะรวย เจ้าแม่ให้โชคกูแล้วโว๊ย “
“และสิ่งสุดท้ายที่ฉันจะให้กับพวกท่าน ข้าคิดว่าไม่มีอะไรสามารถซื้อสิ่งนี้ได้ และจะไม่มีโอกาสได้แม้จะใช้เงินสักกี่ล้านซื้อ!”
ชายหนุ่มทั้งสองได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ข้าไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านพูด ท่านมีสิ่งสุดท้ายอะไรให้ข้า” ไอ้นกถามอย่างอยากรู้ ในใจเขาคิดว่าอะไรจะมีค่ามากกว่าเงินทองได้อีก
ทันใดนั้นเองสตรีที่ออกมาจากรูปปั้น ที่ดูงดงามเหมือนเทวดามากกว่าภูติผีปีศาจกำลังเปลื้องสะไบออกมาจากไหล่เผยให้เห็นเนื้อในที่ขาวผ่องและนวลเนียนตา ทั้งสองมองตากันและคิดว่าใช่แล้ว
สิ่งนี้ซีนะที่เงินก็หาซื้อไม่ได้
สตรีร่างงามมองมาที่ชายหนุ่มทั้งสอง สายตารุมเร้าไปด้วยตัณหาราคะเหมือนไม่เคยต้องชายมานานแรมปี ริมผีปากบางได้รูปเม้มเข้าหากันช้าๆ เชิงเชิญชวน
มีหรือชายหนุ่มทั้งแท่งอย่างทั้งสองจะไม่รีบปรี่เข้าไปหาสตรีตรงหน้าที่ยั่วยวนเขาอยู่ตรงหน้า เหมือนแมวที่เห็นชิ้นปลาใหญ่
“ข้ารักท่านทั้งสอง ได้โปรดช่วยข้าด้วยเถิด “
ภาพที่ได้เห็นตรงหน้าชายหนุ่มผู้หิวโหย และหญิงสาวผู้โหยหา ได้ร่วมรักกันอย่างผิดธรรมชาติเพราะหาได้มีเพียงหนึ่งกับหนึ่ง แต่เป็นสองหนุ่มกับหนึ่งสาว
“เฮ้ยยยยยยย”
ไอ้นกรีบถอยลงออกห่างจากสตรีร่างนั้นอย่างตกใจ สีหน้าไอ้นกซีดเซียวและแสดงความต่ำทรามออกมา
“ไอ้เปลว อีนี่เป็นกะเทยว่ะ”
ไอ้เปลวได้ยินอย่างนั้นก็รีบผละออกมาจากจูบที่ดูดดื่มนั้นอย่างตกใจ
“กะเทยจริงเหรอพี่ ทำไมมันสวยขนาดนี้ล่ะ” ไอ้นกกับเจ้าเปลวรีบใส่เสื้อกันอย่างเร่งรีบกระดุมแต่ละเม็ดก็พากันติดไม่ตรงจุด
“กะเทยผีน่ะซี” ไอ้นกพูดออกมา
ร่างของสตรีตรงหน้าเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ร่างที่สวยงามแปรเปลี่ยนเป็นร่างที่ใหญ่โตขึ้นอืด เหมือนศพที่ตายเน่ามาหลายวัน กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
ใบหน้าใหญ่โตบิดเบี้ยว ดวงตาที่เคยสวยงามก็ทะลุออกมาอยู่นอกเบ้าทั้งสองข้าง หนอนไต่ยั่วเยี่ยเต็มตัวไปหมด ชุดไทยที่สวยงามก็ฉีกขาดด้วยแรงดันจากภายในร่างกายที่บวมเป่ง
“ไม่มีใครรักกูจริง ไม่มี ไม่มี ไม่มีกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงกรีดร้องดังอย่างรุนแรง ไอ้เปลวกับเจ้านกตกใจสุดขีด หมายจะวิ่งออกไปนอกถ้ำเพื่อเอาชีวิตรอด แต่ด้วยอำนาจของปีศาจกลับทำให้หินหล่นลงมาทับปิดทางเข้าออกที่มีเพียงรูเล็กๆใช้คลานเข้ามานั้นได้ปิดตายแล้ว
ทั้งสองร้องไห้กอดกัน ตัวสั่นเหมือนลูกนกที่รอการเชือด สองมือพนมไหว้สิ่งสักสิทธิ์ ขอชีวิตอย่างหวาดกลัว
“กลัวแล้ว กลัวๆๆๆ ปล่อยกูไปกูกลัวแล้ว”
ทั้งสองร้องประสานเสียงกันจนจับใจความไม่ได้
ปีศาจตรงหน้าเดินทะมึนเข้ามาจนถึงตรงหน้า
"เกลียดกูมากใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็อยู่แทนกูในนี้แล้วกัน พวกแกจะได้รู้ว่าการทรมานตาย ข้างในเป็นยังไง!”