คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล 9 ประการ เธอทั้งหลายจงฟัง ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมอันมีตัณหาเป็นมูล 9 ประการเป็นไฉน การแสวงหาเพราะอาศัยตัณหา 1 การได้เพราะอาศัยการแสวงหา 1 การวินิจฉัยเพราะอาศัยการได้ 1 ฉันทราคะเพราะอาศัยการวินิจฉัย 1 ความหมกมุ่นเพราะอาศัยฉันทราคะ 1 ความหวงแหนเพราะอาศัยความหมกมุ่น 1 ความตระหนี่เพราะอาศัยความหวงแหน 1 การจัดการอารักขาเพราะอาศัยความตระหนี่ 1 ธรรมอันเป็นบาปอกุศลหลายประการ คือ การจับท่อนไม้ จับศาตราการทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท กล่าววาจาส่อเสียดว่าๆ และพูดเท็จย่อมเกิดขึ้น 1 ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรมมีตัณหาเป็นมูล 9 ประการนี้แล ฯ
แสดงความคิดเห็น
สังโยชน์
การละเป็นการไปบีบบังคับ จิต ละได้ชั่วคราว
พอสติสัมปชัญญะเผลอ จิตนิวรณ์ก็เกิด จิตก็เกิดสังโยชน์ขี้นมาอีก จิตผูกพันธ์อยู่กับฉันทะกามราคะ
จิตคลายกำหนัด เกิดเบื่อหน่าย ไม่ต้องไปบีบบังคับจิต ฉันทะกามราคะไม่มีเลย
จิตไม่เอาเลยจิตหนีฉันทะกามราคะเลย การไปผูกจิตกับกามฉันทะนิวรณ์ก็ไม่มี สังโยชน์ก็ไม่มี
จิตก็วางจากกิเลส