จากระทู้นี้ ซึ่งผมเข้าไปตอบไม่ได้ ขอตั้งใหม่ก็แล้วกัน
https://ppantip.com/topic/37217204
ถ้าประเทศนั้น ๆ ไม่มีเป้าหมายเปลี่ยนประเทศตัวเองให้กลายเป็นรัฐอิสลามเหมือนอย่างเพื่อนบ้านของไทยบางประเทศ จงอย่าแม้แต่จะคิดจะเอาเรื่องตราฮาลาลเข้าไปให้ข้าราชการเป็นคนทำ เพราะนั่นรัฐกำลังนำกฎหมายชาริอะห์ เข้าไปใช้แล้วแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง
ในยุโรป และสหรัฐ แม้จะมีเครื่องหมายตราฮาลาล แต่เขาไม่ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลทำ แต่การออกเครื่องหมายตราฮาลาล ถือเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิม ส่วนลูกค้ามุสลิมในประเทศก็ได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง
จากการที่ตราฮาลาลนั้นไม่มีมาตรฐานกลางของโลกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ประเทศมุสลิมแต่ละประเทศก็จะสร้างมาตราฐานตราฮาลาลเป็นของตนเองขึ้นมา และยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การจะส่งสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิมประเทศไหน ต้องทำตามมาตรฐานฮาลาลของประเทศนั้น ๆ เท่านั้น อย่าไปคิดว่าถ้ามีตราฮาลาลของประเทศตัวเองแล้ว หรือสามารถส่งไปขายยังประเทศมุสลิมบางประเทศได้แล้ว จะสามารถส่งไปขายยังตลาดมุสลิมโลกได้ทั้ง 1,600 ล้านคน ..... อันนี้ไม่จริง เพราะแต่ละประเทศมีมาตรฐานฮาลาล ของตนเอง แล้วมีการพัฒนาเปลี่ยนเแปลงตลอดเวลา การรับรองมาตรฐานฮาลาลส่วนมากมีระยะเวลา เช่น กำหนดเป็นรายปี เป็นต้น
ประเทศอย่างเนเทอร์แลนด์ จึงมีผู้ให้บริการออกตราฮาลาลร่วม 30-40 ราย เพื่อให้สินค้าแต่ละชนิดเข้าไปขายเฉพาะเจาะจงแต่ละประเทศไป สหรัฐอเมริกา ก็มีประมาณ 7 ราย แต่แม้จะมีมากขนาดนี้และสามารถส่งไปขายยังตลาดตะวันออกกลางได้ แต่ก็ยังไม่สามารถส่งไปขายในตลาดอินโดนีเซียได้ จนต้องฟ้ององค์กรการค้าโลกให้ตัดสิน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าอินโดนีเซียก็ตั้งมาตรฐานฮาลาลของตนเองขึ้นมา
หรือแม้แต่มาเลเซียกับอินโดนีเซีย ก็มีมาตรฐานฮาลาลไม่เหมือนกัน ผู้นำของทั้งสองประเทศเพิ่งจะคุยกันเมื่อเดือนที่แล้วที่เกาะซาราวัค ในการประชุมฮาลาลโลก ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เขาก็คุยกันมานานแล้ว แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้
มุสลิมโลกมีเยอะจริง เฉพาะ OIC ก็ประมาณ 1,600 ล้านคน อินเดียอีก 180 ล้านคน ยุโรปรวม ๆ ทั้งหมดประมาณ 40-50 ล้านคน รวมทั้งโลกก็ประมาณ 1,800 ล้านคน ...... อันนี้เรื่องจริง
แต่ตลาดส่งออกสินค้าที่มีตราฮาลาล โลก เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก นั้น ........ นี่เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ..... มาเลเซียซึ่งได้รับการยอมรับว่าทำเรื่องตราฮาลาลดีที่สุดในโลก เคยทำวิจัยว่าตลาดส่งออกของสินค้าที่มีตราฮาลาลนั้นส่งไปประเทศไหนบ้าง พบว่า ใน 10 อันดับแรก มีกลุ่มประเทศ OIC ประเทศเดียว คืออินโดนีเซีย ซึ่งอยู่อันดับ 5 และการส่งออกสินค้าที่ตราฮาลาลไปอินโดนีเซียก็มีมูลค่าพอ ๆ กับไทย ที่มีประชากรมุสลิมประมาณ 5% เท่านั้น
ประเทศมุสลิมใหญ่ ๆ จีดีพีสูง ๆ อย่าาง อินโดนีเซีย กับ มาเลเซีย ก็ค้าขายกับประเทศมุสลิมใหญ่ในตะวันออกกลางอย่าง ซาอุดิอารเบีย ตุรกี น้อยมาก อย่างไม่น่าเชื่อ
บางคนยังไม่รู้ว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีประชากรถึง 240 ล้านคนนั้น นำเข้าสินค้าจากสหรัฐน้อยมาก และน้อยกว่าไทยเกือบครึ่ง โดยปี 2016 อินโดนีเซียนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 6,023 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ( ไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 10,444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนสินค้าที่อินโดนีเซียส่งออกไปยังสหรัฐนั้นมีจำนวน 19,194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อินโดนีเซียได้ดุลการค้าสหรัฐ 13,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเป็นเช่นนี้ จากกรณีสหรัฐรับรองกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ....... อินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจีดีพีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ OIC จะทำอะไรเพื่อพี่น้องปาาเลสไตน์ได้บ้าง เท่าที่เห็นผู้นำทางการเมืองก็ออกมาประนามเท่านั้น ส่วนประชาชนราว 80,000 คน ก็เดินขบวนประท้วง แล้วเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าของสหรัฐ ....... ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียกล้าทำไหมล่ะ?
....
...
...
สำหรับเรื่องตราฮาลาลของไทยนั้น แก้ง่าย ๆ คือ ใครที่จะขอตราฮาลาล ต้องมียอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศมุสลิมส่วนใหญ่อย่างน้อย 5% ของ ยอดขาย ถ้าเป็นสินค้าใหม่ให้เวลาทำตลาด 5 ปี เลย ผมไม่วอรี่เรื่องจ่ายเงินตราฮาลาล ถ้าหากว่าตราฮาลาลนั้นสามารถส่งเป็นสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิมได้จริง อย่างที่ชอบโฆษณษชวนเชื่อ อวดอ้าง มากว่าตลาดมุสลิมโลกนั้นใหญ่มากถึง 1,800 ล้านคน
แต่ประเทศไทยมันปีปัญหาก็เพราะสินค้าที่มีตราฮาลาลร่วม 6,000 ชนิด เพิ่มขึ้นจาก 15 ปี ที่แล้ว ที่มีเพียง 400-500 ชนิด เท่านั้น แล้วสินค้าส่วนใหญ่ก็ขายในประเทศเท่านั้น แม้แต่น้ำดื่มยังต้องมีตราฮาลาล ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นว่ามีการส่งออกน้ำดื่มไปยังประเทศมุสลิม หรือส่งออกไปด้วยมูลค่าเท่าไหร่ ดังนั้นตราฮาลาลในประเทศไทยก็ขายให้กับคนไทยที่เป็นประชากรไม่ใช่มุสลิมเป็นส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมุสลิมในไทยก็น้อยมีประมาณ 5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
กลายเป็นว่าตราฮาลาลของไทยนั้น เก็บเงินจากคนที่ไม่ใช่มุสลิมไปหล่อเลี้ยงองค์กรศาสนาอิสลามที่ออกตราฮาลาล ออกมา
ไทยเป็นรัฐเซคคิวลาร์ อย่าแม้จะคิดจะเอาเรื่องตรา "ฮาลาล" ให้รัฐเป็นคนทำ
https://ppantip.com/topic/37217204
ถ้าประเทศนั้น ๆ ไม่มีเป้าหมายเปลี่ยนประเทศตัวเองให้กลายเป็นรัฐอิสลามเหมือนอย่างเพื่อนบ้านของไทยบางประเทศ จงอย่าแม้แต่จะคิดจะเอาเรื่องตราฮาลาลเข้าไปให้ข้าราชการเป็นคนทำ เพราะนั่นรัฐกำลังนำกฎหมายชาริอะห์ เข้าไปใช้แล้วแบบไม่รู้ตัวนั่นเอง
ในยุโรป และสหรัฐ แม้จะมีเครื่องหมายตราฮาลาล แต่เขาไม่ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลทำ แต่การออกเครื่องหมายตราฮาลาล ถือเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง วัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิม ส่วนลูกค้ามุสลิมในประเทศก็ได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง
จากการที่ตราฮาลาลนั้นไม่มีมาตรฐานกลางของโลกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ประเทศมุสลิมแต่ละประเทศก็จะสร้างมาตราฐานตราฮาลาลเป็นของตนเองขึ้นมา และยังมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การจะส่งสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิมประเทศไหน ต้องทำตามมาตรฐานฮาลาลของประเทศนั้น ๆ เท่านั้น อย่าไปคิดว่าถ้ามีตราฮาลาลของประเทศตัวเองแล้ว หรือสามารถส่งไปขายยังประเทศมุสลิมบางประเทศได้แล้ว จะสามารถส่งไปขายยังตลาดมุสลิมโลกได้ทั้ง 1,600 ล้านคน ..... อันนี้ไม่จริง เพราะแต่ละประเทศมีมาตรฐานฮาลาล ของตนเอง แล้วมีการพัฒนาเปลี่ยนเแปลงตลอดเวลา การรับรองมาตรฐานฮาลาลส่วนมากมีระยะเวลา เช่น กำหนดเป็นรายปี เป็นต้น
ประเทศอย่างเนเทอร์แลนด์ จึงมีผู้ให้บริการออกตราฮาลาลร่วม 30-40 ราย เพื่อให้สินค้าแต่ละชนิดเข้าไปขายเฉพาะเจาะจงแต่ละประเทศไป สหรัฐอเมริกา ก็มีประมาณ 7 ราย แต่แม้จะมีมากขนาดนี้และสามารถส่งไปขายยังตลาดตะวันออกกลางได้ แต่ก็ยังไม่สามารถส่งไปขายในตลาดอินโดนีเซียได้ จนต้องฟ้ององค์กรการค้าโลกให้ตัดสิน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าอินโดนีเซียก็ตั้งมาตรฐานฮาลาลของตนเองขึ้นมา
หรือแม้แต่มาเลเซียกับอินโดนีเซีย ก็มีมาตรฐานฮาลาลไม่เหมือนกัน ผู้นำของทั้งสองประเทศเพิ่งจะคุยกันเมื่อเดือนที่แล้วที่เกาะซาราวัค ในการประชุมฮาลาลโลก ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ เขาก็คุยกันมานานแล้ว แต่ก็ยังตกลงกันไม่ได้
มุสลิมโลกมีเยอะจริง เฉพาะ OIC ก็ประมาณ 1,600 ล้านคน อินเดียอีก 180 ล้านคน ยุโรปรวม ๆ ทั้งหมดประมาณ 40-50 ล้านคน รวมทั้งโลกก็ประมาณ 1,800 ล้านคน ...... อันนี้เรื่องจริง
แต่ตลาดส่งออกสินค้าที่มีตราฮาลาล โลก เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก นั้น ........ นี่เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ..... มาเลเซียซึ่งได้รับการยอมรับว่าทำเรื่องตราฮาลาลดีที่สุดในโลก เคยทำวิจัยว่าตลาดส่งออกของสินค้าที่มีตราฮาลาลนั้นส่งไปประเทศไหนบ้าง พบว่า ใน 10 อันดับแรก มีกลุ่มประเทศ OIC ประเทศเดียว คืออินโดนีเซีย ซึ่งอยู่อันดับ 5 และการส่งออกสินค้าที่ตราฮาลาลไปอินโดนีเซียก็มีมูลค่าพอ ๆ กับไทย ที่มีประชากรมุสลิมประมาณ 5% เท่านั้น
ประเทศมุสลิมใหญ่ ๆ จีดีพีสูง ๆ อย่าาง อินโดนีเซีย กับ มาเลเซีย ก็ค้าขายกับประเทศมุสลิมใหญ่ในตะวันออกกลางอย่าง ซาอุดิอารเบีย ตุรกี น้อยมาก อย่างไม่น่าเชื่อ
บางคนยังไม่รู้ว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลกมีประชากรถึง 240 ล้านคนนั้น นำเข้าสินค้าจากสหรัฐน้อยมาก และน้อยกว่าไทยเกือบครึ่ง โดยปี 2016 อินโดนีเซียนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 6,023 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ( ไทยนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 10,444 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ส่วนสินค้าที่อินโดนีเซียส่งออกไปยังสหรัฐนั้นมีจำนวน 19,194 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้อินโดนีเซียได้ดุลการค้าสหรัฐ 13,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเป็นเช่นนี้ จากกรณีสหรัฐรับรองกรุงเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ....... อินโดนีเซีย ประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีจีดีพีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ OIC จะทำอะไรเพื่อพี่น้องปาาเลสไตน์ได้บ้าง เท่าที่เห็นผู้นำทางการเมืองก็ออกมาประนามเท่านั้น ส่วนประชาชนราว 80,000 คน ก็เดินขบวนประท้วง แล้วเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าของสหรัฐ ....... ซึ่งรัฐบาลอินโดนีเซียกล้าทำไหมล่ะ?
....
...
...
สำหรับเรื่องตราฮาลาลของไทยนั้น แก้ง่าย ๆ คือ ใครที่จะขอตราฮาลาล ต้องมียอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศมุสลิมส่วนใหญ่อย่างน้อย 5% ของ ยอดขาย ถ้าเป็นสินค้าใหม่ให้เวลาทำตลาด 5 ปี เลย ผมไม่วอรี่เรื่องจ่ายเงินตราฮาลาล ถ้าหากว่าตราฮาลาลนั้นสามารถส่งเป็นสินค้าไปขายยังประเทศมุสลิมได้จริง อย่างที่ชอบโฆษณษชวนเชื่อ อวดอ้าง มากว่าตลาดมุสลิมโลกนั้นใหญ่มากถึง 1,800 ล้านคน
แต่ประเทศไทยมันปีปัญหาก็เพราะสินค้าที่มีตราฮาลาลร่วม 6,000 ชนิด เพิ่มขึ้นจาก 15 ปี ที่แล้ว ที่มีเพียง 400-500 ชนิด เท่านั้น แล้วสินค้าส่วนใหญ่ก็ขายในประเทศเท่านั้น แม้แต่น้ำดื่มยังต้องมีตราฮาลาล ซึ่งผมยังไม่เคยเห็นว่ามีการส่งออกน้ำดื่มไปยังประเทศมุสลิม หรือส่งออกไปด้วยมูลค่าเท่าไหร่ ดังนั้นตราฮาลาลในประเทศไทยก็ขายให้กับคนไทยที่เป็นประชากรไม่ใช่มุสลิมเป็นส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยวมุสลิมในไทยก็น้อยมีประมาณ 5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น
กลายเป็นว่าตราฮาลาลของไทยนั้น เก็บเงินจากคนที่ไม่ใช่มุสลิมไปหล่อเลี้ยงองค์กรศาสนาอิสลามที่ออกตราฮาลาล ออกมา