อาหารที่เป็นที่ต้องห้ามในศาสนาอิสลามได้แก่ สัตว์ที่ตายเอง และโลหิต และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺ ยามที่(เชือด)มัน และสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และสัตว์ที่ถูกตีตาย และสัตว์ที่ตกเหวตาย และสัตว์ที่ถูกขวิดตาย และสัตว์ที่ถูกสัตว์ร้ายกัดกิน นอกจากที่พวกเธอเชือด และสัตว์ที่ถูกเชือดบนแท่นหินบูชา และการที่พวกเธอเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว; แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้ใดได้รับความคับขันในความหิวโหย โดยไม่ใช่เป็นผู้จงใจกระทำบาป แน่นอนอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัยโทษ นั้นหมายความว่า อาหารเหล่านั้นมุสลิมจะกินได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสภาวะที่ขับขันถึงขั้นอาจจะเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ก็มีอะหารประเภทเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาเสพย์ติดต่างๆ วัตถุประสงค์ของการห้าม อาหารและเครื่องดื่ม ดังกล่าว ก็เพื่อป้องกันสุขภาพของผู้บริโภค การถูกหรือกระทบสิ่งเหล่านั้นไม่ผิดหลักการของอิสลาม เมื่อภายหลังได้ชำระล้างมือและร่างกาย หรืออาบน้ำละหมาด ก่อนทำการละหมาด เพื่อล้างสิ่งสกปรก (นะยิส)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้{5:3} ได้ถูกห้ามแก่พวกเธอแล้ว ซึ่งสัตว์ที่ตายเอง และโลหิต และเนื้อสุกร และสัตว์ที่ถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮฺ ยามที่(เชือด)มัน และสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และสัตว์ที่ถูกตีตาย และสัตว์ที่ตกเหวตาย และสัตว์ที่ถูกขวิดตาย และสัตว์ที่ถูกสัตว์ร้ายกัดกิน นอกจากที่พวกเธอเชือด และสัตว์ที่ถูกเชือดบนแท่นหินบูชา และการที่พวกเธอเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว เหล่านั้นเป็นการละเมิด วันนี้บรรดาผู้ปฏิเสธการศรัทธา หมดหวังในศาสนาของพวกเธอแล้ว ดังนั้นพวกเธอจงอย่ากลัวพวกเขา และจงกลัวฉันเถิด วันนี้ฉันได้ทำให้ศาสนาของพวกเธอสมบูรณ์เพื่อพวกเธอ และฉันได้ทำให้ความโปรดปรานของฉันที่มีต่อพวกเธอนั้นบริบูรณ์ และฉันได้เลือกให้อิสลามเป็นศาสนาของพวกเธอ ผู้ใดได้รับความคับขันในความหิวโหย โดยไม่ใช่เป็นผู้จงใจกระทำบาป แน่นอนอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัยโทษ พระผู้ทรงปรานีเสมอ
ยามปกติในชีวิตประจำวันของมุสลิมชาวบ้านและมุสลิมทั่วๆไป จะปฏิบัติตามข้อห้ามในอัลกุรอานในการบริโภคอาหารเหล่านั้นโดยเคร่งตรัด โดยการใช้สติปัญญาแยกแยะ และสั่งสอนลูกหลานต่อๆกันมา แต่ไม่ได้ทำการ ตรวจอาหารด้วยขบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปถึงอนุภาคของอาหารเพื่อหา Trace หรือ ริ้วรอย ของ อนุภาค DNA ของเนื้อหมู และ อนุภาคโมเลกุลของแอลกอฮอล์ หรือ ยาเสพย์ติดในอาหารหรือยาต่างๆ และในเครื่องสำอางค์ อย่างที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่มีความจำเป็นและก่อให้เกิดความยุ่งยากในชีวิตประจำวันของมุสลิม
องค์การอาหารฮาล้าลเป็นองค์การเอกชน ไม่ใช่อาหารที่ปิดป้ายฮาล้าลจะได้รับการตรวจสอบ อนุภาคของหมูและแอลกอฮอล์ทุกๆร้านอาหารและทุกๆผลิตภันฑ์ก็หาไม่
เป็นสถาบันที่ตั้งขึ้น มาเพื่อหารายได้โดยอาศัยศาสนาเป็นเหตุผล เพราะรายได้ที่ได้จากการขายเครื่องหมายฮาล้าล ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ถ้าจะทำเป็นอุตสาหกรรม
สินค้าฮาล้าลควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยศาสตร์ของไทย โดยมีสำนักจุฬาราชมณตรึ ซึ่งได้รับเงินเดือนจากรัฐอยู่แล้ว เป็นที่ปรึกษาทางหลักการของศาสนาอิสลาม และคัดเลือกเจัาหน้าที่ๆมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเป็นผู้ประสานและนิเทศงาน ซึ่งควรเป็นข้าราชการประจำ
รายได้จากการออกใบรับรองสินค้าฮาล้าลเป็นรายได้ของรัฐ เอกชนไม่มีสิทธิที่จะออกใบรับรองสินค้าฮาล้าลนอกจากกระทรวงอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับการออกใบรับรองขององค์การอาหารและยาของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับร้านขายอาหารมุสลิมหรือแม่ค้าพ่อค้าหาบเร่หรือร้านค้าขายอาหารไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตามไม่มีความจำเป็นจะค้องติดเครื่องหมายฮาล้าล, ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับ ประชาชนชาวไทยซึ่งเป็นมุสลิมจะต้องใช้ความคิดพิจารณาด้วยตัวเองว่าควรจะเลือกกินอะไรที่ไม่ขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม อย่างเช่นปู้ย่าตายายของชาวไทยมุสลิมทำตามกันมาหลายชั่วคนทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ถึงแม้จะไม่มีตราฮาลาลก็ไม่ได้แปลว่ามุสลิมกินไม่ได้ ฮาลาล
นั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่รับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยว่าอาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่มีวัตถุดิบและวิธีการปรุงถูกต้องตามหลักอิสลาม อาหารชนิดอื่นๆที่ไม่มีตราฮาลาลก็อาจจะเป็นอาหารที่ถูกหลักอิสลามได้เช่นกันเพียงแต่ไม่ได้ขอตราฮาลาลมาเนื่องด้วยไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะจ่ายค่าตราฮาล้าลได้
ถ้าเป็น
นโยบายของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มีเพื่อใชัหลักการของศาสนาอิสลามเป็นข้ออ้างในการทำการค้า
โดยขายเครื่องหมายฮาล้าล ตามข้อความที่บรรยายโดยอาจารย์จรูญในคลิปแล้ว คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยตวรที่จะคำนึงถึงหลักการคัาขายทีฺ่ อัลลอฮ์ตะอาลาได้บัญญัติไว้สำหรับ มุสลิมดังนี้
อัลกุรอานได้บัญญัติย้ำไว้อย่างชัดเจนถึงการค้าขายจะต้องกระทำด้วยความเที่ยงตรงและยุติธรรมระหว่างผู้ค้าขายกับผู้ซื้อ
“ถ้าเรา(ทำธุระกิจโดย)ไม่เอาเปรียบเขา เราก็จะไม่ถูกเขาเอาเปรียบ”(2:279)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้{2:279} แล้วถ้าหากพวกเธอไม่ปฏิบัติตาม พวกเธอก็จะจงรับรู้เถิดว่า จะมีสงครามจากอัลลอฮฺและศาสนทูตของพระองค์ และหากพวกเธอกลับใจ พวกเธอก็ได้แต่ต้นทุนของพวกเธอ พวกเธอไม่เอาเปรียบและไม่ถูกเอาเปรียบ
“อย่าโกงกินทรัพย์สินของกันและกันโดยวิธีการที่ทุจริต” (4:29)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ {4:29} ดูกร บรรดาผู้มีศรัทธา! จงอย่ากินทรัพย์ของพวกเธอ ในระหว่างพวกเธอกันเองโดยทุจริต นอกจากมันจะเป็นการค้าขายที่เกิดจากความพอใจในหมู่พวกเธอกันเอง และจงอย่าฆ่าตัวของพวกเธอเอง แท้จริงอัลลอฮฺคือพระผู้ทรงปรานีต่อพวกเธอเสมอ
“จะต้องตวง,ชั่ง และวัดสินค้า ด้วยความเที่ยงตรง,อย่าคดโกงสินค้าของผู้อื่น”(11:85)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้{11:85} และดูกร หมู่ชนของฉัน! พวกเธอจงให้ครบสมบูรณ์ไว้ซึ่งการตวงและการชั่งโดยเที่ยงธรรม และอย่าให้บกพร่องแก่ผู้อื่น ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ของพวกเขา และอย่าก่อกวนในแผ่นดินโดยเป็นผู้บ่อนทำลาย
ฮาลาล เป็นสัญลักษณ์ที่สอด แฝง จริงหรือ?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยามปกติในชีวิตประจำวันของมุสลิมชาวบ้านและมุสลิมทั่วๆไป จะปฏิบัติตามข้อห้ามในอัลกุรอานในการบริโภคอาหารเหล่านั้นโดยเคร่งตรัด โดยการใช้สติปัญญาแยกแยะ และสั่งสอนลูกหลานต่อๆกันมา แต่ไม่ได้ทำการ ตรวจอาหารด้วยขบวนการทางวิทยาศาสตร์ไปถึงอนุภาคของอาหารเพื่อหา Trace หรือ ริ้วรอย ของ อนุภาค DNA ของเนื้อหมู และ อนุภาคโมเลกุลของแอลกอฮอล์ หรือ ยาเสพย์ติดในอาหารหรือยาต่างๆ และในเครื่องสำอางค์ อย่างที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ซึ่งไม่มีความจำเป็นและก่อให้เกิดความยุ่งยากในชีวิตประจำวันของมุสลิม
องค์การอาหารฮาล้าลเป็นองค์การเอกชน ไม่ใช่อาหารที่ปิดป้ายฮาล้าลจะได้รับการตรวจสอบ อนุภาคของหมูและแอลกอฮอล์ทุกๆร้านอาหารและทุกๆผลิตภันฑ์ก็หาไม่ เป็นสถาบันที่ตั้งขึ้น มาเพื่อหารายได้โดยอาศัยศาสนาเป็นเหตุผล เพราะรายได้ที่ได้จากการขายเครื่องหมายฮาล้าล ไม่ได้เป็นผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ถ้าจะทำเป็นอุตสาหกรรม สินค้าฮาล้าลควรเป็นหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงวิทยศาสตร์ของไทย โดยมีสำนักจุฬาราชมณตรึ ซึ่งได้รับเงินเดือนจากรัฐอยู่แล้ว เป็นที่ปรึกษาทางหลักการของศาสนาอิสลาม และคัดเลือกเจัาหน้าที่ๆมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเป็นผู้ประสานและนิเทศงาน ซึ่งควรเป็นข้าราชการประจำ รายได้จากการออกใบรับรองสินค้าฮาล้าลเป็นรายได้ของรัฐ เอกชนไม่มีสิทธิที่จะออกใบรับรองสินค้าฮาล้าลนอกจากกระทรวงอุตสาหกรรม เช่นเดียวกับการออกใบรับรองขององค์การอาหารและยาของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับร้านขายอาหารมุสลิมหรือแม่ค้าพ่อค้าหาบเร่หรือร้านค้าขายอาหารไม่ว่าจะเป็นมุสลิมหรือไม่ก็ตามไม่มีความจำเป็นจะค้องติดเครื่องหมายฮาล้าล, ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่กับ ประชาชนชาวไทยซึ่งเป็นมุสลิมจะต้องใช้ความคิดพิจารณาด้วยตัวเองว่าควรจะเลือกกินอะไรที่ไม่ขัดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม อย่างเช่นปู้ย่าตายายของชาวไทยมุสลิมทำตามกันมาหลายชั่วคนทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศ ถึงแม้จะไม่มีตราฮาลาลก็ไม่ได้แปลว่ามุสลิมกินไม่ได้ ฮาลาลนั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่รับรองจากคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยว่าอาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่มีวัตถุดิบและวิธีการปรุงถูกต้องตามหลักอิสลาม อาหารชนิดอื่นๆที่ไม่มีตราฮาลาลก็อาจจะเป็นอาหารที่ถูกหลักอิสลามได้เช่นกันเพียงแต่ไม่ได้ขอตราฮาลาลมาเนื่องด้วยไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะจ่ายค่าตราฮาล้าลได้
ถ้าเป็นนโยบายของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มีเพื่อใชัหลักการของศาสนาอิสลามเป็นข้ออ้างในการทำการค้า โดยขายเครื่องหมายฮาล้าล ตามข้อความที่บรรยายโดยอาจารย์จรูญในคลิปแล้ว คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยตวรที่จะคำนึงถึงหลักการคัาขายทีฺ่ อัลลอฮ์ตะอาลาได้บัญญัติไว้สำหรับ มุสลิมดังนี้
อัลกุรอานได้บัญญัติย้ำไว้อย่างชัดเจนถึงการค้าขายจะต้องกระทำด้วยความเที่ยงตรงและยุติธรรมระหว่างผู้ค้าขายกับผู้ซื้อ
“ถ้าเรา(ทำธุระกิจโดย)ไม่เอาเปรียบเขา เราก็จะไม่ถูกเขาเอาเปรียบ”(2:279)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“อย่าโกงกินทรัพย์สินของกันและกันโดยวิธีการที่ทุจริต” (4:29)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
“จะต้องตวง,ชั่ง และวัดสินค้า ด้วยความเที่ยงตรง,อย่าคดโกงสินค้าของผู้อื่น”(11:85)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้