ออกกำลังกายครบ 1 เดือนพอดี คุมอาหารด้วย ได้ผลเป็นที่น่าพอใจมาก
เราสูง 150 หนัก 50 แต่มีแต่ไขมัน ช่วงบนไซส์ s ช่วงล่างไซส์ m หุ่นลูกแพร์ พุง ก้น ต้นขาใหญ่ ย้วย เพราะผ่านการมีลูก 2 คน
และผ่านการลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว และเด้งกลับขึ้นมา ไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายปี เหนื่อยง่าย ร่างกาย สุขภาพไม่ดี
เราชั่งน้ำหนักทุกอาทิตย์ โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักเราลงอาทิตย์ละ ครึ่งโล
สัดส่วน เราวัดหมด ซึ่งช่วงแรก มันจะลดแต่ช่วงบนเช่น นม ต้นแขน ส่วนที่อยากลด เช่น พุง ก้น ต้นขา มันไม่ลด
โดยเฉพาะต้นขา มันใหญ่ขึ้น คือไร ไม่เข้าใจ แต่ก็ออกไปเรื่อยๆ
พึ่งวัดสัดส่วนอีกทีตอนครบ 1 เดือน ช่วงล่างมันลดแล้ว ดีใจมาก
พุง ลด 2 ซม. สะโพก 2 ซม. ต้นขา ครึ่งเซน(ไม่แน่ใจว่าคลาดเคลื่อนป่าว แต่ก็เอาน่าเป็นกำลังใจอย่างน้อยก็ลดไปตั้งครึ่ง)
หน้าอกลด 1 นิ้ว เอว 4 ซม. ต้นแขน 3 ซม. (ช่วงบนลดเยอะ) (หน้าอกไม่รู้เอาตรงไหนไปลด เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว)
เริ่มแรกเราออกกำลังกายตาม youtube ของ figure robic ของผู้หญิงเกาหลีจำชื่อไม่ได้ค่ะ มีแบบเสื้อสีเทาอันนี้เบามาก
กับที่ใส่กางเกงแดงหนักขึ้นมานิดนึง
เราว่าคลิปนี้เหมาะสำหรับคนพึ่งออกกำลังกาย เพราะเค้าจะออกช้าๆ แต่เน้นกล้ามเนื้อ มีท่า squat อะไรแบบนี้
เพราะช่วงแรกๆ เราลองแอโรบิกอันไหนที่มีท่ากระโดดๆ เราออกไม่ไหวค่ะ เหนื่อยมาก แต่ของเกาหลีอันนี้เราไม่เหนื่อยเลยค่ะ ออกแนวเมื่อยมากกว่า
พึ่งจะมาเหนื่อนตอนท้ายๆคลิป
พอเราเริ่มรู้สึกเฉยๆกับคลิปนี้ เราก็เริ่มไปคลิปอื่นๆต่อ เช่นคลิปที่ถือดัมเบล เราใช้ขวดน้ำ 500 ml. แทนค่ะ อันนี้คือ ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยเลย
และก็มี เวทบ้าง ตามเว็บ darebee เน้นท่าพวกลด ขา พุง และก็ทั้งตัว โปรแกรม foundation สำหรับ beginner อันนี้จะเลือกแต่เบาๆ
บางครั้งก็รู้สึกเหมือนไม่ค่อยได้อะไร (แต่จริงๆได้) เลือกอันยากเกินก็ไม่ไหวอีก
บางทีก็ออกตามแอพ female fitness (บางท่าต้องใช้อุปกรณ์ก็ข้ามไป) หรือ nike training(อันนี้เรารู้สึกเหมือนหนักไปสำหรับเรา)
บางวัน โยคะ (แอพ yoga studio) แต่นานๆทีทำครั้ง
คาร์ดิโอ เราปั่นจักรยานบ้างแต่ไม่บ่อย อาทิตย์ละวัน 2 วัน
บางทีก็เต้น เต้นตามยูทูปอีกนั้นแหละ เต้นฮิปฮอปบ้าง เต้นตามเค้ามั่วๆบ้าง ตามเพลงที่ชอบ เอาให้พอได้เหงื่อ
ส่วนอาหารแรกๆ ยากหน่อย เพราะเรายังกินนอกบ้าน และมันคุมแคลอรี่ยาก
แต่เราโหลดแอพคำนวณแคล my net diary แอพนี้เป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆสำหรับเราในการคุมอาหาร
เราอยู่จีน อาหารทีนี่ขอบอกว่าแต่ละอย่างน้ำมันมหาศาลมาก
ข้าวก็ให้เยอะมาก แรกๆมาอยู่จีนใหม่ๆเรากินไม่หมด ผ่านไปเดือนนึงก็กินหมด และเราพึ่งรู้ทีหลังว่าจานนึงของเค้า
เท่ากับ 300 g คือเยอะมาก ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ไม่คุมอาหาร ถึงเวลากลับไทยเราได้กลายเป็นหมูแน่ๆ
การที่มีแอพนี้ ทำให้เรารู้ว่า อะไรควรทาน อะไรไม่ควรทาน เวลาเราใส่สารอาหารแต่ละอย่าง(ตามฉลากข้างกล่อง)
มันจะขึ้นให้เลยว่าอาหารนี้อยู๋ในเกรดไหน A B C D
เวลาเลือกซื้อของกินเราก็จะดูฉลากทุกครั้ง แรกๆแคลอาจจะเกิน แต่พอเราออกกำลังกาย แคลอรี่มันก็จะลด ทำให้เรากินได้เพิ่มขึ้น
การกินเพื่อคุมแคลอรี่ให้ไม่เกิน สำหรับเราไม่ใช่เรื่องยาก แค่กินให้น้อยลง และเลือกกิน (เมื่อรู้ว่าอะไรควร ไม่ควรทาน)
แต่สิ่งที่ยากคือกินยังไงให้ได้สารอาหารครบถ้วน โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะกินแต่คาร์บและไขมัน แต่ขาดโปรตีนและไฟเบอร์
ครบ 1 เดือน เรายังทาน โปรตีนไม่เคยครบเลย หรือวันที่โปรตีนครบ วันนั้นก็คือวันที่แคลอรี่เกิน 555
แต่มันทำให้เราสรรหาว่าอะไรน้า ที่โปรตีนเยอะ ไขมันน้อย กินแล้วอิ่ม และในข้อจำกัดที่เราอยู่จีน อาหารต่างๆก็แตกต่างกับที่ไทย
แต่มันก็เป็นเรื่องสนุกสำหรับเรา ตอนนี้พอเราเริ่มรู้แล้วว่าควรกินอะไร และพอเรากินสิ่งที่ควรทาน ปรากฏว่าปริมาณที่ทานได้มันก็เยอะ
บางทีกินไม่ถึงแคลอรี่อีก 555
สรุปคือ เราไม่ได้ซีเรียสมากเรื่องคุมแคลอรี่ แต่ใช้มันเหมือนให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารและสารอาหาร
พอตอนนี้เราก็เริ่มกะ ประมวลเอาคร่าวๆได้แล้ว แต่ก็ยังใช้แอพจด บันทึกอยู่เรื่อยๆ เพราะสนุกดี
จบแล้วค่ะ
ออกกำลังกายได้แค่ดือนเดียว ก็เห็นผลแล้ว ทั้งผลที่อยากได้และผลที่ไม่อยากได้
เราสูง 150 หนัก 50 แต่มีแต่ไขมัน ช่วงบนไซส์ s ช่วงล่างไซส์ m หุ่นลูกแพร์ พุง ก้น ต้นขาใหญ่ ย้วย เพราะผ่านการมีลูก 2 คน
และผ่านการลดน้ำหนักแบบรวดเร็ว และเด้งกลับขึ้นมา ไม่ได้ออกกำลังกายมาหลายปี เหนื่อยง่าย ร่างกาย สุขภาพไม่ดี
เราชั่งน้ำหนักทุกอาทิตย์ โดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักเราลงอาทิตย์ละ ครึ่งโล
สัดส่วน เราวัดหมด ซึ่งช่วงแรก มันจะลดแต่ช่วงบนเช่น นม ต้นแขน ส่วนที่อยากลด เช่น พุง ก้น ต้นขา มันไม่ลด
โดยเฉพาะต้นขา มันใหญ่ขึ้น คือไร ไม่เข้าใจ แต่ก็ออกไปเรื่อยๆ
พึ่งวัดสัดส่วนอีกทีตอนครบ 1 เดือน ช่วงล่างมันลดแล้ว ดีใจมาก
พุง ลด 2 ซม. สะโพก 2 ซม. ต้นขา ครึ่งเซน(ไม่แน่ใจว่าคลาดเคลื่อนป่าว แต่ก็เอาน่าเป็นกำลังใจอย่างน้อยก็ลดไปตั้งครึ่ง)
หน้าอกลด 1 นิ้ว เอว 4 ซม. ต้นแขน 3 ซม. (ช่วงบนลดเยอะ) (หน้าอกไม่รู้เอาตรงไหนไปลด เพราะแทบจะไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว)
เริ่มแรกเราออกกำลังกายตาม youtube ของ figure robic ของผู้หญิงเกาหลีจำชื่อไม่ได้ค่ะ มีแบบเสื้อสีเทาอันนี้เบามาก
กับที่ใส่กางเกงแดงหนักขึ้นมานิดนึง
เราว่าคลิปนี้เหมาะสำหรับคนพึ่งออกกำลังกาย เพราะเค้าจะออกช้าๆ แต่เน้นกล้ามเนื้อ มีท่า squat อะไรแบบนี้
เพราะช่วงแรกๆ เราลองแอโรบิกอันไหนที่มีท่ากระโดดๆ เราออกไม่ไหวค่ะ เหนื่อยมาก แต่ของเกาหลีอันนี้เราไม่เหนื่อยเลยค่ะ ออกแนวเมื่อยมากกว่า
พึ่งจะมาเหนื่อนตอนท้ายๆคลิป
พอเราเริ่มรู้สึกเฉยๆกับคลิปนี้ เราก็เริ่มไปคลิปอื่นๆต่อ เช่นคลิปที่ถือดัมเบล เราใช้ขวดน้ำ 500 ml. แทนค่ะ อันนี้คือ ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อยเลย
และก็มี เวทบ้าง ตามเว็บ darebee เน้นท่าพวกลด ขา พุง และก็ทั้งตัว โปรแกรม foundation สำหรับ beginner อันนี้จะเลือกแต่เบาๆ
บางครั้งก็รู้สึกเหมือนไม่ค่อยได้อะไร (แต่จริงๆได้) เลือกอันยากเกินก็ไม่ไหวอีก
บางทีก็ออกตามแอพ female fitness (บางท่าต้องใช้อุปกรณ์ก็ข้ามไป) หรือ nike training(อันนี้เรารู้สึกเหมือนหนักไปสำหรับเรา)
บางวัน โยคะ (แอพ yoga studio) แต่นานๆทีทำครั้ง
คาร์ดิโอ เราปั่นจักรยานบ้างแต่ไม่บ่อย อาทิตย์ละวัน 2 วัน
บางทีก็เต้น เต้นตามยูทูปอีกนั้นแหละ เต้นฮิปฮอปบ้าง เต้นตามเค้ามั่วๆบ้าง ตามเพลงที่ชอบ เอาให้พอได้เหงื่อ
ส่วนอาหารแรกๆ ยากหน่อย เพราะเรายังกินนอกบ้าน และมันคุมแคลอรี่ยาก
แต่เราโหลดแอพคำนวณแคล my net diary แอพนี้เป็นอะไรที่มีประโยชน์มากๆสำหรับเราในการคุมอาหาร
เราอยู่จีน อาหารทีนี่ขอบอกว่าแต่ละอย่างน้ำมันมหาศาลมาก
ข้าวก็ให้เยอะมาก แรกๆมาอยู่จีนใหม่ๆเรากินไม่หมด ผ่านไปเดือนนึงก็กินหมด และเราพึ่งรู้ทีหลังว่าจานนึงของเค้า
เท่ากับ 300 g คือเยอะมาก ถ้าเราไม่ออกกำลังกาย ไม่คุมอาหาร ถึงเวลากลับไทยเราได้กลายเป็นหมูแน่ๆ
การที่มีแอพนี้ ทำให้เรารู้ว่า อะไรควรทาน อะไรไม่ควรทาน เวลาเราใส่สารอาหารแต่ละอย่าง(ตามฉลากข้างกล่อง)
มันจะขึ้นให้เลยว่าอาหารนี้อยู๋ในเกรดไหน A B C D
เวลาเลือกซื้อของกินเราก็จะดูฉลากทุกครั้ง แรกๆแคลอาจจะเกิน แต่พอเราออกกำลังกาย แคลอรี่มันก็จะลด ทำให้เรากินได้เพิ่มขึ้น
การกินเพื่อคุมแคลอรี่ให้ไม่เกิน สำหรับเราไม่ใช่เรื่องยาก แค่กินให้น้อยลง และเลือกกิน (เมื่อรู้ว่าอะไรควร ไม่ควรทาน)
แต่สิ่งที่ยากคือกินยังไงให้ได้สารอาหารครบถ้วน โดยส่วนใหญ่แล้วเราจะกินแต่คาร์บและไขมัน แต่ขาดโปรตีนและไฟเบอร์
ครบ 1 เดือน เรายังทาน โปรตีนไม่เคยครบเลย หรือวันที่โปรตีนครบ วันนั้นก็คือวันที่แคลอรี่เกิน 555
แต่มันทำให้เราสรรหาว่าอะไรน้า ที่โปรตีนเยอะ ไขมันน้อย กินแล้วอิ่ม และในข้อจำกัดที่เราอยู่จีน อาหารต่างๆก็แตกต่างกับที่ไทย
แต่มันก็เป็นเรื่องสนุกสำหรับเรา ตอนนี้พอเราเริ่มรู้แล้วว่าควรกินอะไร และพอเรากินสิ่งที่ควรทาน ปรากฏว่าปริมาณที่ทานได้มันก็เยอะ
บางทีกินไม่ถึงแคลอรี่อีก 555
สรุปคือ เราไม่ได้ซีเรียสมากเรื่องคุมแคลอรี่ แต่ใช้มันเหมือนให้ความรู้เกี่ยวกับอาหารและสารอาหาร
พอตอนนี้เราก็เริ่มกะ ประมวลเอาคร่าวๆได้แล้ว แต่ก็ยังใช้แอพจด บันทึกอยู่เรื่อยๆ เพราะสนุกดี
จบแล้วค่ะ