ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมาชาวคาตาลันต่างเรียกร้องเอกราช (ก็มีบางส่วนที่ยังคงอยากรวมกับสเปน) ทำประชามติ เพื่อเอกราชของคาตาโลเนีบ สาเหตุมีทั้งเศรษฐกิจ ทั้งกีฬา ทั้งวัฒนธรรม เเต่ในที่นี้จะเสนอในมุมมองของประวัติศาสตร์เท่านั้น ซึ่งมีหลายตอน ผิดพลาดประการใด เช่น เเปลผิด ข้อมูลผิด ก็เเจ้งได้ หรือ ถกเถี่ยงกัน เพื่อความรู้ต่อไป
(คอนที่1
https://ppantip.com/topic/36941336 เเละ ตอนที่2
https://ppantip.com/topic/36945135 ตอนที่3
https://ppantip.com/topic/36948232 ตอนที่4
https://ppantip.com/topic/36958700 เเละตอนที่5
https://ppantip.com/topic/36962780 ตอนที่6
https://ppantip.com/topic/36967458 เเละตอนที่7
https://ppantip.com/topic/36973144 ตอนที่8
https://ppantip.com/topic/36985242ตอนที่9 https://ppantip.com/topic/36988968 ตอนที่10
https://ppantip.com/topic/36993192 ตอนที่11
https://ppantip.com/topic/36997321 เเละ ตอนที่12
https://ppantip.com/topic/37016757 )
พระเจ้าFerdinand VI เเห่งสเปน รัชกาลที่3 เเห่งราชวงศ์Spanish Bourbon ทรงเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าPhilip V เเห่งสเปน อันประสูติจากราชินีMaria Luisa เจ้าหญิงเเห่งซาวอย ทรงเป็นพระอนุชาร่วมบิดามารดากับพระเจ้าLouis I เเห่งสเปน รัชกาลที่2 เเละเป็นพระเชษฐาต่างมารดาของ"พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ทรงสืบราชสมบัติสเปนต่อจากพระราชบิดา (ครั้งที่2) ภายหลังการสวรรคตของพระราชบิดาในวันที่ 9 กรกฎาคม 1746 พระชนมายุ 33 ปี ในช่วงที่อยู่ในรัชสมัยของพระราชบิดา(ครั้งเเรก 23 ปี เเละครั้งที่สอง 22 ปี)เเละพระเชษฐาธิราช (ขั้นกลางระหว่างรัชสมัยพระราชบิดา 7 เดือน) พระองค์ทรงสนพระทัยการดนตรีของประเทศ โดยทรงอุปถัมภ์นักร้องชื่อดังในยุคนั้น ก็คือ "Farinelli" ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงBarbara พระราชธิดาในพระเจ้าJohn V เเห่งโปรตุเกส
ในช่วงต้นรัชกาลทรงต้องทำสงครามต่อเนื่องจากรัชกาลก่อน ก็คือ"สงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย" โดยต้องเล่นศึกพร้อมกันถึง 2 สมรภูมิ ได้เเก่ ทวีปยุโรป เเละทวีปอเมริกา ซึ่งสาเหตุของสงครามนี้เกิดจาก การสวรรคตของจักรพรรดิCharles VI เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย กษัตริย์เเห่งฮังการี-โครเอเซีย-โบฮีเมีย ดยุคเเห่งปาร์มา-เบอร์กันดีใต้ ซึ่งพระองค์มีเเต่พระราชธิดา โดยเหล่าขุนนางออสเตรียได้อัญเชิญให้เจ้าหญิงMaria Theresa พระราชธิดาองค์ใหญ่ เป็นอาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย ราชินีนาถเเห่งฮังการี-โครเอเซีย-โบฮีเมีย ดัชเชสเเห่งปาร์มาเเละเบอร์กันดีใต้ เเต่การดังกล่าวถูกคัดค้านโดยจักรรพรรดิ Charles VII เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าผู้ครองเเคว้นบาวาเรีย เนื่องจากกฎหมายของเยอรมัน หรือ Salic law ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงรับมรดกที่ดิน หากการนี้ทำได้ มเหสีของพระองค์"Maria Amalia" ก็มีสิทธิธรรมเหนือกว่าเจ้าหญิงMaria Theresa เพราะทรงเป็นพระธิดาในจักรรพรรดิJoseph I เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย พระเชษฐาในจักรพรรดิCharles VI เเคว้นบาวาเรียจึงประกาศสงครามกับเเคว้นออสเตรีย โดย ออสเตรีย มี สหราชอาณาจักร เเคว้นฮานโนเวอร์ สาธารณรัฐดัตซ์ โปเเลนด์-เเซกซอน ซาร์ดิเนีย-ซาวอย เเคว้นทัสคานี เเละรัสเซีย เป็นพันธมิตร ส่วนบาวาเรีย มี ฝรั่งเศส สเปน ปรัสเซีย สวีเดน เเละเนเปิล-ซิชิลี สงครามดำเนินอย่างดุเดือด จนกระทั่ง จักรรพรรดิCharles VII สวรรคตในปี1745 ดยุคFrancisเเห่งทัสคานี พระสวามีเเห่งออสเตรีย ได้รับเลือกเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สงครามนี้จบลงในปี1748 เมื่อทำสัญญาAix-la-Chapelle มีเนื้อหาว่า ทุกฝ่ายยอมรับในราชสมบัติของจักรพรรดินีMaria Theresa เเต่ออสเตรียต้องเสียดินเเดนSilesiaให้เเก่ปรัสเซีย เสียเเคว้นปาร์มาให้เเก่สเปน โดยมอบให้เเก่ ดยุคPhilipเเห่งปาร์ม่า พระอนุชาต่างมารดาของพระเจ้าFerdinand VI ต้องให้เอกราชเเก่เจนัวเเละโมเดนา-เรจโจ ส่วนดินเเดนอื่นๆให้กับสู่เจ้าของเดิมก่อนสงคราม
หลังจากสงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย ทรงต้องเข้ามาจัดการเรื่องภายใน เนื่องจากต้นรัชกาล เหล่าขุนนางสายของราชินีElisabethในพระเจ้าPhilip V มารดาเลี้ยงของพระเจ้าFerdinand VI ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขุนนางปาร์ม่า ซึ่งมาพึ่งพระบารมีองค์ราชินีในฐานะเจ้าหญิงเเห่งปาร์ม่า ภายหลังสงครามสืบราชสมบัติโปเเลนด์ จากเดิมที่รับใช้ "ดยุคCharlesเเห่งปาร์ม่า" พระอนุชาต่างมารดาอันประสูติจากราชินีElisabeth เเต่เมื่อ "ดยุคCharlesเเห่งปาร์ม่า" สละตำเเหน่งดยุคเเห่งปาร์ม่าให้กับจักรพรรดิCharles VI เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์(ในฐานะอาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย) เพื่อเเลกกับเเผ่นดินเเละราชบัลลังก์เนเปิลเเละชิซิลีที่มางออสเตรียครอบครองอยู่ เมื่อพระองค์กลายเป็น "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ขุนนางปาร์ม่าบางคนก็รับใช้นายเหนือหัวใหม่(อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย) บางคนก็ตามเสด็จไปรับใช้ที่เนเปิลเเละซิชิลี บางคนก็มาพึ่งบารมีราชินีElisabeth พวกขุนนางปาร์ม่าในสเปนมีอำนาจในราชสำนักมาก เเต่เนื่องจากติดสงครามสืบราชสมบัติออสเตรียจึงยังมิได้จัดการอย่างจริงจัง เพียงเเต่ใช้อิทธิพลของขุนนางโปรตุเกสที่ตามราชินีของพระองค์กดดันขุนนางปาร์ม่าบ้าง สุดท้ายเมื่อเสร็จศึกจึงจัดการขุนนางปาร์ม่าโดยเนรเทศจากสเปนให้เลือกไปรับใช้พระอนุชาต่างมารดาคนใดคนหนึ่ง ระหว่าง "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" หรือ "ดยุค Philip เเห่งปาร์ม่า" ซึ่งได้รับดินเเดนนี้คืนจากออสเตรียในสงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย
เมื่อทรงจัดการขุนนางปาร์ม่าได้เเล้ว ทรงใช้ขุนนางโดยถ่วงดุลกันระหว่างอัครมหาเสนาบดี 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพันธมิตรสหราชอาณาจักร นำโดย José de Carvajal y Lancáster เเละ ฝ่ายพันธมิตรฝรั่งเศส นำโดย Zenón de Somodevilla โดยทรงถ่วงดุลทั้งสองฝ่าย เพื่อรักษาความสงบในประเทศเเละนอกประเทศ ทรงดำเนินการสานสัมพันธ์กับอังกฤษโดยขุนนางฝ่ายอังกฤษ จนได้Sacramento(อุรุกกวัย)จากอังกฤษโดยสันติวิธี รวมถึงการปักปันเขตเเดนระหว่างสเปนเเละโปรตุเกสในอเมริกาใต้ เเละเริ่มทำการปฏิรูปประเทศ ที่เรียกว่า "The Projects of Ensenada" ตามข้อเสนอของZenón de Somodevilla โดยทำการดังนี้ 1.จัดการระบบเก็บภาษีใหม่ มีการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก เป็นต้น 2.ลดอำนาจทหารของขุนนางท้องถิ่น โดยเฉพาะกองทัพบก เพื่อลดการใช้จ่ายในกองทัพ 3.จัดตั้งระบบธนาคารหลวงขึ้น 4.เปิดการค้าเสรีในอาณานิคม 5.เพิ่มศักยภาพกองทัพเรือ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสหราชอาณาจักร 6.ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับศาสนจักรที่ไม่ได้ยอมรับราชวงศ์บูร์บองในสเปน จนกระทั่งยอมรับในที่สุด 7.พัฒนาการศึกษาทั้งการทหาร เเละส่งเสริมโรงเรียนศิลปะ เมื่อJosé de Carvajal y Lancáster ถึงเเก่อสัญกรรม เเละZenón de Somodevilla ถูกเนรเทศจากมาดริด (อาจถูกยุยงโดยขุนนางที่เสียผลประโยชน์จากการปฏิรูป คหสต) ในปี1754 ราชสำนักจึงไปอยู่ในอิทธิพลของขุนนางไอริชที่องค์กษัตริย์โปรดปราน "Ricardo Wall" (เป็นเสนาบดีถึงรัชกาลถัดไป)
พระเจ้าFerdinand VI เเห่งสเปน เสด็จสวรรคตโดยไม่มีทายาท ในวันที่ 10 สิงหาคม 1759 สิริพระชนมายุ 45 พรรษา ครองราชสมบัติยาวนาน 13 ปี ภายหลังจากจาการสวรรคตของราชินีBarbara เพียง 1 ปี เหล่าขุนนางสเปนจึงอัญเชิญ พระอนุชาในลำดับถัดมาจากพระองค์ ก็คือ "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ให้ขึ้นเป็น "พระเจ้าCharles III เเห่งสเปน"
ความเเตกต่าง ความเอาเปรียบ ความไม่ยุติธรรม เอกราชของคาตาลัน (ตอนที่13 Ferdinand VI ยุคเเห่งราชวงศ์บูร์บองปฏิรูปสเปน)
(คอนที่1 https://ppantip.com/topic/36941336 เเละ ตอนที่2 https://ppantip.com/topic/36945135 ตอนที่3 https://ppantip.com/topic/36948232 ตอนที่4 https://ppantip.com/topic/36958700 เเละตอนที่5 https://ppantip.com/topic/36962780 ตอนที่6 https://ppantip.com/topic/36967458 เเละตอนที่7 https://ppantip.com/topic/36973144 ตอนที่8 https://ppantip.com/topic/36985242ตอนที่9 https://ppantip.com/topic/36988968 ตอนที่10 https://ppantip.com/topic/36993192 ตอนที่11 https://ppantip.com/topic/36997321 เเละ ตอนที่12 https://ppantip.com/topic/37016757 )
พระเจ้าFerdinand VI เเห่งสเปน รัชกาลที่3 เเห่งราชวงศ์Spanish Bourbon ทรงเป็นพระราชโอรสในพระเจ้าPhilip V เเห่งสเปน อันประสูติจากราชินีMaria Luisa เจ้าหญิงเเห่งซาวอย ทรงเป็นพระอนุชาร่วมบิดามารดากับพระเจ้าLouis I เเห่งสเปน รัชกาลที่2 เเละเป็นพระเชษฐาต่างมารดาของ"พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ทรงสืบราชสมบัติสเปนต่อจากพระราชบิดา (ครั้งที่2) ภายหลังการสวรรคตของพระราชบิดาในวันที่ 9 กรกฎาคม 1746 พระชนมายุ 33 ปี ในช่วงที่อยู่ในรัชสมัยของพระราชบิดา(ครั้งเเรก 23 ปี เเละครั้งที่สอง 22 ปี)เเละพระเชษฐาธิราช (ขั้นกลางระหว่างรัชสมัยพระราชบิดา 7 เดือน) พระองค์ทรงสนพระทัยการดนตรีของประเทศ โดยทรงอุปถัมภ์นักร้องชื่อดังในยุคนั้น ก็คือ "Farinelli" ทรงอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงBarbara พระราชธิดาในพระเจ้าJohn V เเห่งโปรตุเกส
ในช่วงต้นรัชกาลทรงต้องทำสงครามต่อเนื่องจากรัชกาลก่อน ก็คือ"สงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย" โดยต้องเล่นศึกพร้อมกันถึง 2 สมรภูมิ ได้เเก่ ทวีปยุโรป เเละทวีปอเมริกา ซึ่งสาเหตุของสงครามนี้เกิดจาก การสวรรคตของจักรพรรดิCharles VI เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย กษัตริย์เเห่งฮังการี-โครเอเซีย-โบฮีเมีย ดยุคเเห่งปาร์มา-เบอร์กันดีใต้ ซึ่งพระองค์มีเเต่พระราชธิดา โดยเหล่าขุนนางออสเตรียได้อัญเชิญให้เจ้าหญิงMaria Theresa พระราชธิดาองค์ใหญ่ เป็นอาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย ราชินีนาถเเห่งฮังการี-โครเอเซีย-โบฮีเมีย ดัชเชสเเห่งปาร์มาเเละเบอร์กันดีใต้ เเต่การดังกล่าวถูกคัดค้านโดยจักรรพรรดิ Charles VII เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ เจ้าผู้ครองเเคว้นบาวาเรีย เนื่องจากกฎหมายของเยอรมัน หรือ Salic law ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงรับมรดกที่ดิน หากการนี้ทำได้ มเหสีของพระองค์"Maria Amalia" ก็มีสิทธิธรรมเหนือกว่าเจ้าหญิงMaria Theresa เพราะทรงเป็นพระธิดาในจักรรพรรดิJoseph I เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย พระเชษฐาในจักรพรรดิCharles VI เเคว้นบาวาเรียจึงประกาศสงครามกับเเคว้นออสเตรีย โดย ออสเตรีย มี สหราชอาณาจักร เเคว้นฮานโนเวอร์ สาธารณรัฐดัตซ์ โปเเลนด์-เเซกซอน ซาร์ดิเนีย-ซาวอย เเคว้นทัสคานี เเละรัสเซีย เป็นพันธมิตร ส่วนบาวาเรีย มี ฝรั่งเศส สเปน ปรัสเซีย สวีเดน เเละเนเปิล-ซิชิลี สงครามดำเนินอย่างดุเดือด จนกระทั่ง จักรรพรรดิCharles VII สวรรคตในปี1745 ดยุคFrancisเเห่งทัสคานี พระสวามีเเห่งออสเตรีย ได้รับเลือกเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ สงครามนี้จบลงในปี1748 เมื่อทำสัญญาAix-la-Chapelle มีเนื้อหาว่า ทุกฝ่ายยอมรับในราชสมบัติของจักรพรรดินีMaria Theresa เเต่ออสเตรียต้องเสียดินเเดนSilesiaให้เเก่ปรัสเซีย เสียเเคว้นปาร์มาให้เเก่สเปน โดยมอบให้เเก่ ดยุคPhilipเเห่งปาร์ม่า พระอนุชาต่างมารดาของพระเจ้าFerdinand VI ต้องให้เอกราชเเก่เจนัวเเละโมเดนา-เรจโจ ส่วนดินเเดนอื่นๆให้กับสู่เจ้าของเดิมก่อนสงคราม
หลังจากสงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย ทรงต้องเข้ามาจัดการเรื่องภายใน เนื่องจากต้นรัชกาล เหล่าขุนนางสายของราชินีElisabethในพระเจ้าPhilip V มารดาเลี้ยงของพระเจ้าFerdinand VI ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขุนนางปาร์ม่า ซึ่งมาพึ่งพระบารมีองค์ราชินีในฐานะเจ้าหญิงเเห่งปาร์ม่า ภายหลังสงครามสืบราชสมบัติโปเเลนด์ จากเดิมที่รับใช้ "ดยุคCharlesเเห่งปาร์ม่า" พระอนุชาต่างมารดาอันประสูติจากราชินีElisabeth เเต่เมื่อ "ดยุคCharlesเเห่งปาร์ม่า" สละตำเเหน่งดยุคเเห่งปาร์ม่าให้กับจักรพรรดิCharles VI เเห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์(ในฐานะอาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย) เพื่อเเลกกับเเผ่นดินเเละราชบัลลังก์เนเปิลเเละชิซิลีที่มางออสเตรียครอบครองอยู่ เมื่อพระองค์กลายเป็น "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ขุนนางปาร์ม่าบางคนก็รับใช้นายเหนือหัวใหม่(อาร์คดยุคเเห่งออสเตรีย) บางคนก็ตามเสด็จไปรับใช้ที่เนเปิลเเละซิชิลี บางคนก็มาพึ่งบารมีราชินีElisabeth พวกขุนนางปาร์ม่าในสเปนมีอำนาจในราชสำนักมาก เเต่เนื่องจากติดสงครามสืบราชสมบัติออสเตรียจึงยังมิได้จัดการอย่างจริงจัง เพียงเเต่ใช้อิทธิพลของขุนนางโปรตุเกสที่ตามราชินีของพระองค์กดดันขุนนางปาร์ม่าบ้าง สุดท้ายเมื่อเสร็จศึกจึงจัดการขุนนางปาร์ม่าโดยเนรเทศจากสเปนให้เลือกไปรับใช้พระอนุชาต่างมารดาคนใดคนหนึ่ง ระหว่าง "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" หรือ "ดยุค Philip เเห่งปาร์ม่า" ซึ่งได้รับดินเเดนนี้คืนจากออสเตรียในสงครามสืบราชสมบัติออสเตรีย
เมื่อทรงจัดการขุนนางปาร์ม่าได้เเล้ว ทรงใช้ขุนนางโดยถ่วงดุลกันระหว่างอัครมหาเสนาบดี 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายพันธมิตรสหราชอาณาจักร นำโดย José de Carvajal y Lancáster เเละ ฝ่ายพันธมิตรฝรั่งเศส นำโดย Zenón de Somodevilla โดยทรงถ่วงดุลทั้งสองฝ่าย เพื่อรักษาความสงบในประเทศเเละนอกประเทศ ทรงดำเนินการสานสัมพันธ์กับอังกฤษโดยขุนนางฝ่ายอังกฤษ จนได้Sacramento(อุรุกกวัย)จากอังกฤษโดยสันติวิธี รวมถึงการปักปันเขตเเดนระหว่างสเปนเเละโปรตุเกสในอเมริกาใต้ เเละเริ่มทำการปฏิรูปประเทศ ที่เรียกว่า "The Projects of Ensenada" ตามข้อเสนอของZenón de Somodevilla โดยทำการดังนี้ 1.จัดการระบบเก็บภาษีใหม่ มีการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก เป็นต้น 2.ลดอำนาจทหารของขุนนางท้องถิ่น โดยเฉพาะกองทัพบก เพื่อลดการใช้จ่ายในกองทัพ 3.จัดตั้งระบบธนาคารหลวงขึ้น 4.เปิดการค้าเสรีในอาณานิคม 5.เพิ่มศักยภาพกองทัพเรือ เพื่อให้ใกล้เคียงกับสหราชอาณาจักร 6.ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับศาสนจักรที่ไม่ได้ยอมรับราชวงศ์บูร์บองในสเปน จนกระทั่งยอมรับในที่สุด 7.พัฒนาการศึกษาทั้งการทหาร เเละส่งเสริมโรงเรียนศิลปะ เมื่อJosé de Carvajal y Lancáster ถึงเเก่อสัญกรรม เเละZenón de Somodevilla ถูกเนรเทศจากมาดริด (อาจถูกยุยงโดยขุนนางที่เสียผลประโยชน์จากการปฏิรูป คหสต) ในปี1754 ราชสำนักจึงไปอยู่ในอิทธิพลของขุนนางไอริชที่องค์กษัตริย์โปรดปราน "Ricardo Wall" (เป็นเสนาบดีถึงรัชกาลถัดไป)
พระเจ้าFerdinand VI เเห่งสเปน เสด็จสวรรคตโดยไม่มีทายาท ในวันที่ 10 สิงหาคม 1759 สิริพระชนมายุ 45 พรรษา ครองราชสมบัติยาวนาน 13 ปี ภายหลังจากจาการสวรรคตของราชินีBarbara เพียง 1 ปี เหล่าขุนนางสเปนจึงอัญเชิญ พระอนุชาในลำดับถัดมาจากพระองค์ ก็คือ "พระเจ้าCharles VII เเห่งเนเปิล เเละ V เเห่งซิชิลี" ให้ขึ้นเป็น "พระเจ้าCharles III เเห่งสเปน"