บทนำ
ตีสามสิบห้าของเช้าวันพฤหัสบดี ท้องฟ้าในหน้าฝนเปิดโล่งสว่างสดใส เดือนเสี้ยวข้างแรมลอยคล้อยต่ำใกล้ลาลับลงหลังทิวขุนเขา หมู่ดวงดาวน้อยใหญ่ทอประกายแสงส่องละลานตา ก้อนเมฆขาวบางเบากระจัดกระจายเคลื่อนตัวตามสายลมเชื่องช้าอ่อนแรง
เบื้องล่างคือสายน้ำแม่โขงกว้างใหญ่ที่กำลังไหลล้นเชี่ยวกรากและรวดเร็วน่าสะพึงกลัว มวลธารามหาศาลสาดซัดรุนแรงในคืนสลัว เพียงมีใครสักคนพลัดตกลงไปก็คงถูกพลังน้ำพัดพาจมหาย หมดโอกาสรอดกลับขึ้นมาใช้ชีวิตบนแผ่นดินทองผืนนี้อีกครั้งเป็นแน่แท้
เรือหางยาวเล็กบางลำหนึ่งมองเห็นเป็นเงาตะคุ่ม แล่นออกจากฝั่งเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ข้ามฝ่ากระแสน้ำเกรี้ยวกราดด้วยความเชี่ยวชาญของคนบังคับหางเสือ เข้ามาเทียบท่าส่วนบุคคลของ ดิ เอ็กโซติก แม่โขง รีสอร์ต แอนด์ สปา บนฝั่งอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ใกล้จุดที่หญิงวัยกลางคนกำลังยืนอยู่ในขณะนี้
เธอกำลังรอรับผู้โดยสารที่ข้ามมาพร้อมกับเรือลำน้อยตรงหน้า
แขกลับ
เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าเต็มปอด สองมือซุกกระเป๋าเสื้อคลุมชุดนอนผ้าแพรเนียนบางสีขาวแนบเนื้อ ส่วนคอกว้างและเว้าลึกเผยให้เห็นร่องอกคู่งาม มือข้างขวากำโทรศัพท์แน่น ข้างซ้ายคลึงขวดสเปรย์น้ำหอมใบเล็ก หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น
‘ลูกค้าติดต่อมากะทันหัน ในเวลารีบเร่งแบบนี้ ผมนึกถึงแต่คุณคนเดียว รู้ว่าคุณยังไม่หายเหนื่อยจากงานที่แล้ว แต่แขกรายนี้พิเศษและลับที่สุด บริการให้ดี อย่าให้เสียชื่อเสียงเครือโรงแรมของเรา คุณเป็นมือหนึ่งที่ผมไว้ใจ’ ผู้จัดการใหญ่ที่กรุงเทพฯ บอกเมื่อวานพร้อมยื่นแผ่นกระดาษระบุวันเวลาสถานที่นัดหมายให้เธอ
ที่จริงแล้วเธอควรจะได้พักอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หลังจากเพิ่งไปรับลูกค้าชายชาวอาหรับรูปร่างใหญ่โตคนหนึ่งจากบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเพื่อข้ามพรมแดนอรัญประเทศเข้าสู่แผ่นดินไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้จัดการใหญ่มีเส้นสายที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยศตำแหน่งสูงมากมายในภูมิภาคอาเซียน พวกนั้นช่วยเปิดช่องทางผ่านด่านตรวจเอกสารการเดินทางทั้งสองฝั่งให้เธอเข้าและออกได้อย่างสะดวกราบรื่น ในวันเดียวกันนั้นเธอนำลูกค้าเข้าพักที่โรงแรมสี่ดาวในเครือเดียวกับ ดิ เอ็กโซติก ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดนนทบุรีและให้บริการเขาสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน พอรุ่งขึ้นจึงยกให้คนของเธอรับช่วงทำหน้าที่ต่อไป
แต่เช้ามืดวันนี้ แขกลับ ข้ามมาทางพรมแดนธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเหมือนนักเดินทางท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป เขาคงเป็นคนพิเศษที่สุดอย่างแท้จริง
ไม่มีข้อมูลว่าแขกรายนี้เป็นใครมาจากไหน รู้สึกไม่ค่อยดีเลย...เธอคิด
ในวัยสี่สิบสอง เธอยังคงรักษาใบหน้าให้งดงามอ่อนเยาว์ได้ไม่ต่างจากเด็กสาวช่วงอายุสามสิบชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องอิจฉา ผมดำเป็นมันยาวสยาย เนื้อหนังทั่วกายเต่งตึง รูปร่างเพรียวสะโอดสะอง อกตั้งโดดเด่น สะโพกแน่น แขนขาเรียวกระชับ หน้าท้องมีมัดกล้ามพอเหมาะชวนลูบไล้สัมผัส ความสวยและประสบการณ์ส่งผลให้ผู้จัดการใหญ่ไว้ใจมอบหมายให้เธอไปต้อนรับและบริการลูกค้าสำคัญตามสถานที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เธอเป็นหมายเลขหนึ่งเหนือหญิงสาวคนอื่นใดในอาณัติของเขา
แต่ดูเหมือนผู้จัดการใหญ่จะรู้ว่า เธอแอบไปทำสวยในเกาหลีใต้มาแล้วหลายครั้ง เขาจึงดูไม่ค่อยแปลกใจในความสาวของเธอสักเท่าไร
เธอเดินสำรวจรีสอร์ตแห่งนี้ทันทีที่มาถึงในช่วงบ่ายเมื่อวานเพื่อจะได้รู้ทางหนีทีไล่ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ในยามฉุกเฉิน แต่ก็ไม่พบว่ามีทางเข้าออกจุดอื่นนอกเหนือจากประตูใหญ่ เธอมักจะจดจำสิ่งแวดล้อมรอบด้านให้ได้มากที่สุดเมื่อต้องเข้ามาทำงานอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่ง มันกลายเป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว
เนื้อที่ทั้งหมดน่าจะมากกว่าหนึ่งร้อยไร่ โอบคลุมเนินเขาและพืชพรรณน้อยใหญ่ แยกตัวอยู่ไกลจากชุมชนอำเภอเชียงของแปดกิโลเมตร ถนนภายในทำด้วยอิฐรูปตัวหนอนเชื่อมต่อระหว่างอาคารกับเรือนพักแต่ละหลังที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วพื้นที่ พนักงานจะขับรถไฟฟ้าสี่ล้อคันเล็กๆ แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามกอล์ฟคอยบริการรับส่งลูกค้าและบรรทุกกระเป๋า แนวเขตแดนด้านเหนือ ใต้และตะวันตกล้อมรอบด้วยกำแพงหินศิลาแลงสูงสามเมตรครึ่ง ส่วนปลายผืนดินทางทิศตะวันออกสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งมีตลิ่งสูงชันและถูกใช้เป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติไปโดยปริยาย ประตูใหญ่อยู่ด้านทิศตะวันตกติดกับทางหลวงสายเชียงของ-เชียงแสน ตรงจุดนั้นมีป้อมยามรักษาความปลอดภัยยี่สิบสี่ชั่วโมงพร้อมกล้องวงจรปิดสำหรับบันทึกภาพรถและคนเข้าออกสองตัวติดตั้งอยู่ รีสอร์ตแห่งนี้มีทางหลักให้ยวดยานกับผู้คนสัญจรเพียงเส้นเดียวคือถนนปูนซีเมนต์ที่ตัดจากประตูใหญ่แล้วเลี้ยวลดคดเคี้ยวตามไหล่เขามาสู่ลานจอดรถใกล้อาคารต้อนรับส่วนหน้า
ลูกค้าส่วนใหญ่ของรีสอร์ตคงต่างกำลังหลับไหลอยู่ในเรือนพักของตนเอง เธอขอให้พนักงานดับไฟทุกดวงที่ท่าเรือรวมทั้งด้านนอกอาคาร ตามทางเดินในสวนและสนามหญ้าเพื่ออำพรางการมาถึงของแขกลับรายนี้จากสายตาของผู้ไม่เกี่ยวข้องที่อาจจะมัวแต่นั่งนับดาวบนท้องฟ้าอย่างเพลิดเพลินจนไม่ยอมหลับยอมนอนและบังเอิญได้เห็นกิจกรรมปกปิดแถวนี้เข้าโดยไม่เจตนา ข้อดีของที่นี่คือไม่มีกล้องวงจรปิดภายในบริเวณที่ตั้งของหมู่อาคารและบ้านพักสักตัวเดียวซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้างที่งานของเธอจะไม่ถูกบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และรอบตัวเธอในโมงยามนี้ก็ปราศจากความเคลื่อนไหวหรือคำสนทนาใดแว่วมาให้ได้ยิน จะมีก็เพียงแมลงกลางคืนหลากชนิดแข่งกันส่งเสียงขับขานอยู่อย่างสนุกสนาน
อาศัยเพียงแสงหมู่ดวงดาว เงาร่างหนึ่งเหวี่ยงตัวออกจากเรือที่กำลังโคลงเคลงตามคลื่นน้ำขึ้นมายืนบนท่าปูนซีเมนต์ เงาร่างนั้นสูงใหญ่กำยำและว่องไวทะมัดทะแมง ใครคนหนึ่งโยนสิ่งของรูปร่างคล้ายกระเป๋าเป้ตามหลังให้รับมาคล้องสะพายบนหัวไหล่ แต่อีกชั่วอึดใจเดียว เธอก็เห็นอีกเงาร่างหนึ่งทะยานขึ้นจากเรือมายืนบนท่าเทียบ อีกทั้งยังดูคล่องแคล่วปราดเปรียวและสูงใหญ่บึกบึนไม่แพ้เงาร่างแรก สิ่งที่ปรากฏสร้างความงุนงงสงสัยให้เธอเป็นอันมาก
‘ไหนผู้จัดการใหญ่บอกว่ามีแขกคนเดียวไง แล้วทำไมจึงกลายเป็นสองไปได้?’...เธอพึมพำกับตัวเอง
เรือหันหัวกลับตามทิศทางน้ำไหล ล่องตามสายน้ำโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ครู่เดียวก็ลับตาหายไปในเงามืดของหมู่ต้นไม้ใหญ่และแนวกอหญ้าหนาทึบบนแนวตลิ่งสูง
เธอพยายามทำจิตใจให้สงบ เลื่อนมือออกจากกระเป๋าเสื้อคลุมมาประสานไว้ข้างหน้า เดินเข้าไปหาลูกค้าอย่างมั่นคง โค้งตัวแล้วขยับเข้าใกล้ยิ่งขึ้น เธอสูงเมตรเจ็ดสิบ แต่หน้าผากของเธออยู่แค่ระดับกลางหน้าอกของสองคนนี้เท่านั้น ซ้ำยังผอมบางกว่ามาก...คล้ายกับไม้เสียบลูกชิ้นที่ปักอยู่ระหว่างกลางเสาไฟฟ้าคู่หนึ่ง
พวกเขาต่างมีผืนผ้าสีดำปิดคลุมศีรษะและใบหน้าลงมาจนถึงลำคอ เปิดช่องให้เห็นเพียงลูกตาสองข้าง ทั้งยังสวมแจ็กเก็ตสีทึมตัวใหญ่กับกางเกงผ้าทหารสีเข้มและรองเท้าบู๊ทพื้นหนาคล้ายกัน
“ฉันคือ มิเกล เป็นเพื่อนเที่ยวของคุณ เอ่อ..คุณคนใดคนหนึ่ง ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย ขอให้ฉันช่วยถือ...” เธอพูดด้วยภาษาอังกฤษ แล้วยื่นมือไปขอรับกระเป๋า แต่ลูกค้าที่สะพายเป้ สะบัดมือปฏิเสธโดยไม่เอ่ยคำใดออกมา
เธอฝืนยิ้มให้ตัวเอง เปลี่ยนท่าทีเป็นผายมือเชื้อเชิญ แล้วย่ำรองเท้าหุ้มส้นพื้นเรียบเดินนำออกไปตามผิวซีเมนต์ จากนั้นลงไปเหยียบบนทางอิฐตัวหนอน ผ่านต้นราตรีที่ส่งกลิ่นหอมจรุงใจ ลอดผ่านร่มเงาต้นแคป่าและดอกปีบขนาดใหญ่รวมทั้งไม้ยืนต้นสูงที่แผ่กิ่งใบบดบังแสงดาวส่อง เร่งฝีเท้าในความมืดไร้สุ้มเสียงอยู่ราวห้านาที ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดสู่เรือนพักหรูหราแบบชั้นเดียวยกพื้นสูงบนเนินเตี้ยๆ ซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างไกลจากเรือนหลังอื่นมาทางทิศเหนือของท่าเรือ เธอเปิดประตูก้าวนำเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น
ภายในมีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยพอมองเห็น เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำและสดชื่นด้วยกลิ่นไอดอกคาโมไมล์อ่อนๆ จากเตาจุดน้ำมันหอมระเหยใบเล็ก ขวดไวน์แดงวางในตะกร้าบุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินบนชั้นวาง ไวน์ขาวแช่เย็นในตู้พร้อมให้หยิบออกมาเปิดรินใส่แก้วดื่ม เธอรูดม่านประตูกระจกเปิดให้แขกมองข้ามระเบียงออกไปยังเงาทะมึนเหนือลำน้ำโขง ไกลออกไปบนฝั่งตรงข้ามเป็นย่านชุมชนเมืองห้วยทรายที่เปิดไฟสว่างไสวนอกอาคารและตามถนนเลียบริมฝั่งแม่น้ำเป็นทางยาว เธอเป็นคนเลือกเรือนพักหลังนี้ด้วยตัวเอง
มิเกลยกโทรศัพท์มือถือขึ้นจะกดโทร.ออก แต่ชายที่มาตัวเปล่ารีบยกมือห้ามแล้วดึงโทรศัพท์จากมือเธอไปวางไว้บนโต๊ะ เขาก้มลงจ้องตาเธอ สันจมูกของเขาโด่งดันผ้าคลุมนูนขึ้น เบ้าตากว้างและลึก ดูเร้นลับดำมืดน่าขนลุกขนพอง แววตาแข็งกร้าวดุดัน แต่นัยน์ตากลับมีเพียงความกระด้างแห้งแล้งเหมือนสีของทะเลทราย คลับคล้ายดวงตาอีกคู่หนึ่งที่เธอเคยจ้องมองมาก่อน ใช่แล้ว...มันช่างดูคล้ายกับดวงตาของลูกค้าชายชาวอาหรับที่เธอไปรับจากฝั่งปอยเปตคนนั้นเสียเหลือเกิน
แต่ทันใดนั้นเอง ชายตรงหน้าก็ใช้อุ้งมือซ้ายขยุ้มเข้าที่คอหอยของเธออย่างรวดเร็วปานอสรพิษฉกแล้วบีบรัดแน่นเหมือนคีมเหล็กโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ตั้งตัวหรือหลบหลีก จากนั้นก็ยกตัวเธอลอยขึ้นค้างไว้ในอากาศ เธอหายใจไม่ออก เปล่งเสียงพูดอู้อี้ไม่เป็นคำ เจ็บปวดใต้ซอกคอเหมือนกระดูกกับหลอดลมจะแตกเป็นเสี่ยงตามแรงบีบ แต่ก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด เหวี่ยงขาเตะเต็มเหนี่ยวพลางใช้สองมือทั้งดึงและผลักท่อนแขนที่แข็งปานแท่งโลหะออกแล้วเปลี่ยนมากำหมัดทุบตีสุดแรงเกิด ในหัวของเธอร้องบอก
ปล่อย...ปล่อยฉันซิ ไอ้บัดซบ ทว่าไร้ผล ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไร มือที่กำลำคออยู่ก็ยิ่งบีบรัดรุนแรงขึ้นเท่านั้น เธอยังคงติดตายอยู่ในพันธนาการที่ยากจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นเป็นอิสระได้ และในตอนนี้เธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัดแน่นขึ้นกลางหน้าอก เหมือนปอดสองข้างจะระเบิดฉีกขาดทะลุร่างกายออกมา ลมหายใจใกล้จะขาดลงเต็มที
“ฉันรับรองว่า เธอจะถูกฆ่าและสภาพศพของเธอจะไม่สวยอย่างแน่นอน” แขกลับถลึงตาลุกโพลง จ้องหน้าหญิงสาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเธอเข้าไปทั้งตัวด้วยความโกรธแค้น เขาพูดภาษาอังกฤษออกสำเนียงอาหรับ น้ำเสียงนั้นห้าวลึกเย็นยะเยือกลงไปถึงไขสันหลังของเหยื่อในกำมือ
-----------------------------------------------------
เขียนโดย นาถ นทีธาร
[นิยาย] ฝ่าฝูงโจร (บทนำ)
ตีสามสิบห้าของเช้าวันพฤหัสบดี ท้องฟ้าในหน้าฝนเปิดโล่งสว่างสดใส เดือนเสี้ยวข้างแรมลอยคล้อยต่ำใกล้ลาลับลงหลังทิวขุนเขา หมู่ดวงดาวน้อยใหญ่ทอประกายแสงส่องละลานตา ก้อนเมฆขาวบางเบากระจัดกระจายเคลื่อนตัวตามสายลมเชื่องช้าอ่อนแรง
เบื้องล่างคือสายน้ำแม่โขงกว้างใหญ่ที่กำลังไหลล้นเชี่ยวกรากและรวดเร็วน่าสะพึงกลัว มวลธารามหาศาลสาดซัดรุนแรงในคืนสลัว เพียงมีใครสักคนพลัดตกลงไปก็คงถูกพลังน้ำพัดพาจมหาย หมดโอกาสรอดกลับขึ้นมาใช้ชีวิตบนแผ่นดินทองผืนนี้อีกครั้งเป็นแน่แท้
เรือหางยาวเล็กบางลำหนึ่งมองเห็นเป็นเงาตะคุ่ม แล่นออกจากฝั่งเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ข้ามฝ่ากระแสน้ำเกรี้ยวกราดด้วยความเชี่ยวชาญของคนบังคับหางเสือ เข้ามาเทียบท่าส่วนบุคคลของ ดิ เอ็กโซติก แม่โขง รีสอร์ต แอนด์ สปา บนฝั่งอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ประเทศไทย ใกล้จุดที่หญิงวัยกลางคนกำลังยืนอยู่ในขณะนี้
เธอกำลังรอรับผู้โดยสารที่ข้ามมาพร้อมกับเรือลำน้อยตรงหน้า
แขกลับ
เธอสูดอากาศเย็นสดชื่นเข้าเต็มปอด สองมือซุกกระเป๋าเสื้อคลุมชุดนอนผ้าแพรเนียนบางสีขาวแนบเนื้อ ส่วนคอกว้างและเว้าลึกเผยให้เห็นร่องอกคู่งาม มือข้างขวากำโทรศัพท์แน่น ข้างซ้ายคลึงขวดสเปรย์น้ำหอมใบเล็ก หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น
‘ลูกค้าติดต่อมากะทันหัน ในเวลารีบเร่งแบบนี้ ผมนึกถึงแต่คุณคนเดียว รู้ว่าคุณยังไม่หายเหนื่อยจากงานที่แล้ว แต่แขกรายนี้พิเศษและลับที่สุด บริการให้ดี อย่าให้เสียชื่อเสียงเครือโรงแรมของเรา คุณเป็นมือหนึ่งที่ผมไว้ใจ’ ผู้จัดการใหญ่ที่กรุงเทพฯ บอกเมื่อวานพร้อมยื่นแผ่นกระดาษระบุวันเวลาสถานที่นัดหมายให้เธอ
ที่จริงแล้วเธอควรจะได้พักอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์หลังจากเพิ่งไปรับลูกค้าชายชาวอาหรับรูปร่างใหญ่โตคนหนึ่งจากบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาเพื่อข้ามพรมแดนอรัญประเทศเข้าสู่แผ่นดินไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผู้จัดการใหญ่มีเส้นสายที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองยศตำแหน่งสูงมากมายในภูมิภาคอาเซียน พวกนั้นช่วยเปิดช่องทางผ่านด่านตรวจเอกสารการเดินทางทั้งสองฝั่งให้เธอเข้าและออกได้อย่างสะดวกราบรื่น ในวันเดียวกันนั้นเธอนำลูกค้าเข้าพักที่โรงแรมสี่ดาวในเครือเดียวกับ ดิ เอ็กโซติก ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดนนทบุรีและให้บริการเขาสุดลิ่มทิ่มประตูอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งคืน พอรุ่งขึ้นจึงยกให้คนของเธอรับช่วงทำหน้าที่ต่อไป
แต่เช้ามืดวันนี้ แขกลับ ข้ามมาทางพรมแดนธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเหมือนนักเดินทางท่องเที่ยวธรรมดาทั่วไป เขาคงเป็นคนพิเศษที่สุดอย่างแท้จริง
ไม่มีข้อมูลว่าแขกรายนี้เป็นใครมาจากไหน รู้สึกไม่ค่อยดีเลย...เธอคิด
ในวัยสี่สิบสอง เธอยังคงรักษาใบหน้าให้งดงามอ่อนเยาว์ได้ไม่ต่างจากเด็กสาวช่วงอายุสามสิบชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องอิจฉา ผมดำเป็นมันยาวสยาย เนื้อหนังทั่วกายเต่งตึง รูปร่างเพรียวสะโอดสะอง อกตั้งโดดเด่น สะโพกแน่น แขนขาเรียวกระชับ หน้าท้องมีมัดกล้ามพอเหมาะชวนลูบไล้สัมผัส ความสวยและประสบการณ์ส่งผลให้ผู้จัดการใหญ่ไว้ใจมอบหมายให้เธอไปต้อนรับและบริการลูกค้าสำคัญตามสถานที่ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เธอเป็นหมายเลขหนึ่งเหนือหญิงสาวคนอื่นใดในอาณัติของเขา
แต่ดูเหมือนผู้จัดการใหญ่จะรู้ว่า เธอแอบไปทำสวยในเกาหลีใต้มาแล้วหลายครั้ง เขาจึงดูไม่ค่อยแปลกใจในความสาวของเธอสักเท่าไร
เธอเดินสำรวจรีสอร์ตแห่งนี้ทันทีที่มาถึงในช่วงบ่ายเมื่อวานเพื่อจะได้รู้ทางหนีทีไล่ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ในยามฉุกเฉิน แต่ก็ไม่พบว่ามีทางเข้าออกจุดอื่นนอกเหนือจากประตูใหญ่ เธอมักจะจดจำสิ่งแวดล้อมรอบด้านให้ได้มากที่สุดเมื่อต้องเข้ามาทำงานอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่ง มันกลายเป็นนิสัยส่วนตัวไปแล้ว
เนื้อที่ทั้งหมดน่าจะมากกว่าหนึ่งร้อยไร่ โอบคลุมเนินเขาและพืชพรรณน้อยใหญ่ แยกตัวอยู่ไกลจากชุมชนอำเภอเชียงของแปดกิโลเมตร ถนนภายในทำด้วยอิฐรูปตัวหนอนเชื่อมต่อระหว่างอาคารกับเรือนพักแต่ละหลังที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วพื้นที่ พนักงานจะขับรถไฟฟ้าสี่ล้อคันเล็กๆ แบบเดียวกับที่ใช้ในสนามกอล์ฟคอยบริการรับส่งลูกค้าและบรรทุกกระเป๋า แนวเขตแดนด้านเหนือ ใต้และตะวันตกล้อมรอบด้วยกำแพงหินศิลาแลงสูงสามเมตรครึ่ง ส่วนปลายผืนดินทางทิศตะวันออกสิ้นสุดที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงซึ่งมีตลิ่งสูงชันและถูกใช้เป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติไปโดยปริยาย ประตูใหญ่อยู่ด้านทิศตะวันตกติดกับทางหลวงสายเชียงของ-เชียงแสน ตรงจุดนั้นมีป้อมยามรักษาความปลอดภัยยี่สิบสี่ชั่วโมงพร้อมกล้องวงจรปิดสำหรับบันทึกภาพรถและคนเข้าออกสองตัวติดตั้งอยู่ รีสอร์ตแห่งนี้มีทางหลักให้ยวดยานกับผู้คนสัญจรเพียงเส้นเดียวคือถนนปูนซีเมนต์ที่ตัดจากประตูใหญ่แล้วเลี้ยวลดคดเคี้ยวตามไหล่เขามาสู่ลานจอดรถใกล้อาคารต้อนรับส่วนหน้า
ลูกค้าส่วนใหญ่ของรีสอร์ตคงต่างกำลังหลับไหลอยู่ในเรือนพักของตนเอง เธอขอให้พนักงานดับไฟทุกดวงที่ท่าเรือรวมทั้งด้านนอกอาคาร ตามทางเดินในสวนและสนามหญ้าเพื่ออำพรางการมาถึงของแขกลับรายนี้จากสายตาของผู้ไม่เกี่ยวข้องที่อาจจะมัวแต่นั่งนับดาวบนท้องฟ้าอย่างเพลิดเพลินจนไม่ยอมหลับยอมนอนและบังเอิญได้เห็นกิจกรรมปกปิดแถวนี้เข้าโดยไม่เจตนา ข้อดีของที่นี่คือไม่มีกล้องวงจรปิดภายในบริเวณที่ตั้งของหมู่อาคารและบ้านพักสักตัวเดียวซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นบ้างที่งานของเธอจะไม่ถูกบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และรอบตัวเธอในโมงยามนี้ก็ปราศจากความเคลื่อนไหวหรือคำสนทนาใดแว่วมาให้ได้ยิน จะมีก็เพียงแมลงกลางคืนหลากชนิดแข่งกันส่งเสียงขับขานอยู่อย่างสนุกสนาน
อาศัยเพียงแสงหมู่ดวงดาว เงาร่างหนึ่งเหวี่ยงตัวออกจากเรือที่กำลังโคลงเคลงตามคลื่นน้ำขึ้นมายืนบนท่าปูนซีเมนต์ เงาร่างนั้นสูงใหญ่กำยำและว่องไวทะมัดทะแมง ใครคนหนึ่งโยนสิ่งของรูปร่างคล้ายกระเป๋าเป้ตามหลังให้รับมาคล้องสะพายบนหัวไหล่ แต่อีกชั่วอึดใจเดียว เธอก็เห็นอีกเงาร่างหนึ่งทะยานขึ้นจากเรือมายืนบนท่าเทียบ อีกทั้งยังดูคล่องแคล่วปราดเปรียวและสูงใหญ่บึกบึนไม่แพ้เงาร่างแรก สิ่งที่ปรากฏสร้างความงุนงงสงสัยให้เธอเป็นอันมาก
‘ไหนผู้จัดการใหญ่บอกว่ามีแขกคนเดียวไง แล้วทำไมจึงกลายเป็นสองไปได้?’...เธอพึมพำกับตัวเอง
เรือหันหัวกลับตามทิศทางน้ำไหล ล่องตามสายน้ำโดยไม่ติดเครื่องยนต์ ครู่เดียวก็ลับตาหายไปในเงามืดของหมู่ต้นไม้ใหญ่และแนวกอหญ้าหนาทึบบนแนวตลิ่งสูง
เธอพยายามทำจิตใจให้สงบ เลื่อนมือออกจากกระเป๋าเสื้อคลุมมาประสานไว้ข้างหน้า เดินเข้าไปหาลูกค้าอย่างมั่นคง โค้งตัวแล้วขยับเข้าใกล้ยิ่งขึ้น เธอสูงเมตรเจ็ดสิบ แต่หน้าผากของเธออยู่แค่ระดับกลางหน้าอกของสองคนนี้เท่านั้น ซ้ำยังผอมบางกว่ามาก...คล้ายกับไม้เสียบลูกชิ้นที่ปักอยู่ระหว่างกลางเสาไฟฟ้าคู่หนึ่ง
พวกเขาต่างมีผืนผ้าสีดำปิดคลุมศีรษะและใบหน้าลงมาจนถึงลำคอ เปิดช่องให้เห็นเพียงลูกตาสองข้าง ทั้งยังสวมแจ็กเก็ตสีทึมตัวใหญ่กับกางเกงผ้าทหารสีเข้มและรองเท้าบู๊ทพื้นหนาคล้ายกัน
“ฉันคือ มิเกล เป็นเพื่อนเที่ยวของคุณ เอ่อ..คุณคนใดคนหนึ่ง ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย ขอให้ฉันช่วยถือ...” เธอพูดด้วยภาษาอังกฤษ แล้วยื่นมือไปขอรับกระเป๋า แต่ลูกค้าที่สะพายเป้ สะบัดมือปฏิเสธโดยไม่เอ่ยคำใดออกมา
เธอฝืนยิ้มให้ตัวเอง เปลี่ยนท่าทีเป็นผายมือเชื้อเชิญ แล้วย่ำรองเท้าหุ้มส้นพื้นเรียบเดินนำออกไปตามผิวซีเมนต์ จากนั้นลงไปเหยียบบนทางอิฐตัวหนอน ผ่านต้นราตรีที่ส่งกลิ่นหอมจรุงใจ ลอดผ่านร่มเงาต้นแคป่าและดอกปีบขนาดใหญ่รวมทั้งไม้ยืนต้นสูงที่แผ่กิ่งใบบดบังแสงดาวส่อง เร่งฝีเท้าในความมืดไร้สุ้มเสียงอยู่ราวห้านาที ก่อนจะก้าวขึ้นบันไดสู่เรือนพักหรูหราแบบชั้นเดียวยกพื้นสูงบนเนินเตี้ยๆ ซึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยวห่างไกลจากเรือนหลังอื่นมาทางทิศเหนือของท่าเรือ เธอเปิดประตูก้าวนำเข้ามาในส่วนที่เป็นห้องนั่งเล่น
ภายในมีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยพอมองเห็น เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำและสดชื่นด้วยกลิ่นไอดอกคาโมไมล์อ่อนๆ จากเตาจุดน้ำมันหอมระเหยใบเล็ก ขวดไวน์แดงวางในตะกร้าบุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินบนชั้นวาง ไวน์ขาวแช่เย็นในตู้พร้อมให้หยิบออกมาเปิดรินใส่แก้วดื่ม เธอรูดม่านประตูกระจกเปิดให้แขกมองข้ามระเบียงออกไปยังเงาทะมึนเหนือลำน้ำโขง ไกลออกไปบนฝั่งตรงข้ามเป็นย่านชุมชนเมืองห้วยทรายที่เปิดไฟสว่างไสวนอกอาคารและตามถนนเลียบริมฝั่งแม่น้ำเป็นทางยาว เธอเป็นคนเลือกเรือนพักหลังนี้ด้วยตัวเอง
มิเกลยกโทรศัพท์มือถือขึ้นจะกดโทร.ออก แต่ชายที่มาตัวเปล่ารีบยกมือห้ามแล้วดึงโทรศัพท์จากมือเธอไปวางไว้บนโต๊ะ เขาก้มลงจ้องตาเธอ สันจมูกของเขาโด่งดันผ้าคลุมนูนขึ้น เบ้าตากว้างและลึก ดูเร้นลับดำมืดน่าขนลุกขนพอง แววตาแข็งกร้าวดุดัน แต่นัยน์ตากลับมีเพียงความกระด้างแห้งแล้งเหมือนสีของทะเลทราย คลับคล้ายดวงตาอีกคู่หนึ่งที่เธอเคยจ้องมองมาก่อน ใช่แล้ว...มันช่างดูคล้ายกับดวงตาของลูกค้าชายชาวอาหรับที่เธอไปรับจากฝั่งปอยเปตคนนั้นเสียเหลือเกิน
แต่ทันใดนั้นเอง ชายตรงหน้าก็ใช้อุ้งมือซ้ายขยุ้มเข้าที่คอหอยของเธออย่างรวดเร็วปานอสรพิษฉกแล้วบีบรัดแน่นเหมือนคีมเหล็กโดยไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ตั้งตัวหรือหลบหลีก จากนั้นก็ยกตัวเธอลอยขึ้นค้างไว้ในอากาศ เธอหายใจไม่ออก เปล่งเสียงพูดอู้อี้ไม่เป็นคำ เจ็บปวดใต้ซอกคอเหมือนกระดูกกับหลอดลมจะแตกเป็นเสี่ยงตามแรงบีบ แต่ก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด เหวี่ยงขาเตะเต็มเหนี่ยวพลางใช้สองมือทั้งดึงและผลักท่อนแขนที่แข็งปานแท่งโลหะออกแล้วเปลี่ยนมากำหมัดทุบตีสุดแรงเกิด ในหัวของเธอร้องบอก ปล่อย...ปล่อยฉันซิ ไอ้บัดซบ ทว่าไร้ผล ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไร มือที่กำลำคออยู่ก็ยิ่งบีบรัดรุนแรงขึ้นเท่านั้น เธอยังคงติดตายอยู่ในพันธนาการที่ยากจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นเป็นอิสระได้ และในตอนนี้เธอก็เริ่มรู้สึกอึดอัดแน่นขึ้นกลางหน้าอก เหมือนปอดสองข้างจะระเบิดฉีกขาดทะลุร่างกายออกมา ลมหายใจใกล้จะขาดลงเต็มที
“ฉันรับรองว่า เธอจะถูกฆ่าและสภาพศพของเธอจะไม่สวยอย่างแน่นอน” แขกลับถลึงตาลุกโพลง จ้องหน้าหญิงสาวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเธอเข้าไปทั้งตัวด้วยความโกรธแค้น เขาพูดภาษาอังกฤษออกสำเนียงอาหรับ น้ำเสียงนั้นห้าวลึกเย็นยะเยือกลงไปถึงไขสันหลังของเหยื่อในกำมือ
-----------------------------------------------------
เขียนโดย นาถ นทีธาร