ขึ้นเชียงของ ล่องลำโขง เยือนพี่น้อง @แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว

หลวงพ่อเพชรคู่เมือง   ลือเลื่องปลาบึกหาดไคร้   แหล่งผ้าทอน้ำไหล   ประตูใหม่อินโดจีน

         ยามอรุณรุ่งฟ้าสาง ตะวันดวงโตค่อยๆโผล่พ้นขอบฟ้าอย่างใจเย็น ส่องแสงสีทองระเรื่อทาทับขอบฟ้าเป็นแนวยาว  หมอกบางๆปกคลุมแผ่ซ่านความหนาวเย็นไปทั่วบริเวณ  เสียงเพลงดังเป็นระลอกมาจากอีกมุมหนึ่งของฝั่งโขง  ผสานเสียงไก่ขัน จังหวะชวนให้เพลิดเพลินอารมณ์ อิ่มเอมร่วมไปกับภาพบรรยากาศอันสวยสดงดงามที่เห็น เรือข้ามฝากจอดแน่นิ่งเรียงรายบนผิวน้ำ ผู้คนตื่นแต่เช้านึ่งข้าวทำอาหาร  บ้างไปตลาด เด็กๆเตรียมตัวไปโรงเรียน พระสงฆ์ออกบิณฑบาต ชาวเขากลุ่มหนึ่งเดินผ่านหน้าเราไปอย่างรีบเร่ง  ข้างหลังพวกเขามีตะกร้าไม้ไผ่ขนาดเขื่องบรรจุพืชผักสวนครัวไปขายที่ตลาด

      ขณะนี้เป็นเวลา หกโมงเช้า เรายืนอยู่ที่หน้าวัดหัวเวียง  อ.เชียงของ  จ.เชียงราย ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 333 เมตร เชียงของเป็นอำเภอเล็กๆ ติดกับชายแดนบ้านห้วยทราย แขวง(จังหวัด)บ่อแก้ว ประเทศลาว ที่นี่ถือเป็นประตูสู่อินโดจีน วันนี้เราจะพาทุกท่านล่องแม่น้ำโขงข้ามฟากธาราไปเยือนเมืองลาว ซึ่งขั้นตอนแรกคือการติดต่อขอออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว  ก่อนที่จะลงเรือข้ามฟากไปยังบ้านห้วยทรายโดยเรือรับจ้างรอบริการ  มีนักเที่ยวหลายกลุ่มทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาขึ้นฝั่งที่นี่มากมาย ครึกครื้นไม่แพ้ระยองเลยทีเดียว  เมื่อถึงฝั่งก็มีเจ้าหน้าที่ตรวจใบหนังสือผ่านแดน มีรถสามล้อฝั่งลาวสุดเท่ห์ พร้อมไกด์ชาวลาวคอยต้อนรับและพาเราเดินทางไปเที่ยวชมรอบเมืองทันที  ถนนทอดยาวไปตามทิวเขาสูง ตลอดระยะทางสามารถมองเห็นวิวภูเขาสลับซับซ้อนเขียวขจีสวยงาม          มีวัดวาอารามแห่งความศรัทธาตามแบบวิถีชาวลาวดั้งเดิม ทั้ง วัดจอมแก้วมณีรัตน์ ,วัดพระธาตุตากผ้าทอง  รากเหง้าภูมิปัญญาและวัฒนธรรมยังปรากฏอย่างน่าชื่นชม  รถแล่นไปไกลพบหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆเช่น ลาวห้วย, ชาวไทลื้อ, ชาวไทเขิน เป็นต้นปลูกเรียงรายกันตามสองฟากฝั่งถนน ซึ่งบริเวณนี้ส่วนใหญ่จะมีชนเผ่าดั้งเดิมหลายเผ่าอาศัยกันอยู่ที่นี่  พวกเขามีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกับชาวเขาในเมืองไทย  มีการทำกระดาษสา  งานหัตถกรรมเย็บปักถักร้อย  ทอฝ้า ยอมผ้าใช้เอง  มีลานกว้างๆ  เลี้ยงหมูป่า เลี้ยงไก่งวงตัวโต  มีความสุขกันแบบพอเพียงและเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยี่ยมชมอย่างมาก  เด็กนักเรียนท้องถิ่นที่นี่ล้วนเป็นมิตร ยิ้มแย้มแจ่มใส พวกเขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียนลาวอย่างสุภาพ  ให้การต้อนรับ และถ่ายภาพกับนักท่องเที่ยวอย่างคุ้นเคย  นอกจากเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วเราก็ยังได้    ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของชาวเขาที่สวยงามเป็นที่ระลึกอีกด้วย
     เราใช้เวลาบนฝั่งลาวอยู่หลายชั่วโมง  เป็นช่วงเวลาที่แสนคุ้มค่า ที่ได้ใช้เวลาทุกนาที  ซึมซับวิถีชีวิต วัฒนธรรมของเพื่อนบ้านอย่างหาโอกาสได้ไม่บ่อยนักที่จะได้มาเยือน  แม้เราจะพูดกันคนละภาษา แต่เราก็เข้าใจกัน เป็นพี่เป็นน้องกันตลอดไป นับช่วงเวลาที่มีความสุขและวิเศษที่สุดในชีวิตของนักเดินทางคนนี้ครับ















ชอบกันไหมครับผม ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่