ชวนไป #ทริปลาวรูทในฝัน ด้วยการล่องเรือ #แม่น้ำโขง จาก #เชียงของ สู่ #หลวงพระบาง ด้วย #เรือช้า ที่ต้องเดินทาง 2 วัน 1 คืน ที่ตั้งใจไว้ 3 ปี จนได้เดินทางเสียที
เริ่มต้นจากการบินไปลง #เชียงราย แล้วไปข้ามแดนที่ #เชียงของ
เราไปถึงด่านตรวจเวลา 09.30 น.หลังจากตรวจพาสปอร์ตขาออกที่ด่านเชียงของแล้ว ก็ซื้อตั๋วรถบัสเพื่อข้าม #สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 ( #เชียงของ–#ห้วยทราย) ในราคาค่าโดยสาร 25 บาท
#สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 เป็น #สะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยที่หมู่ที่ 9 บ้านดอนมหาวัน ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับประเทศลาว ที่บ้านดอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ระยะทาง 2.48 กิโลเมตร
หลังข้ามสะพานมา รถบัสก็พาเรามาถึงด่านบ่อแก้ว เมืองห้วยทราย ขวงบ่อแก้ว ทำการตรวจคนเข้าเมือง จ่ายค่าผ่านแดน จำนวน 50 บาท แล้วออกมารอรถไปท่าเรือ ซึ่งถ้ามีคนแชร์ด้วยก็คนละ 80-100 แต่ถ้าเหมาคนเดียวก็ 400 บาท
จนเวลาประมาณ 10.30 น. เมื่อไม่มีคนไปท่าเรือด้วย เลยต้องเหมา 400 บาท (จำใจจ่าย) คนเดียว กับระยะทาง 11 กิโลเมตร ผ่านเข้าตัว #เมืองห้วยทราย แล้วก็มาถึงท่าเรือ ก็เข้าไปซื้อตั๋ว #เรือช้า ที่สำนักงานขาย (แนะนำให้ซื้อเองอย่าซื้อกับเอเย่น) ในราคา 700 บาท สามารถใช้เงินบาทซื้อได้เลย
ในตั๋วเรือจะระบุที่นั่งไว้ให้แล้ว เราก็เดินลงไปที่เรือแล้วโหลดกระเป๋าไว้ใต้ท้องเรือก่อนที่จะไปนั่งที่ตามหมายเลขที่ระบุ เบาะนั่งจะเป็นเบาะเก่าจากรถตู้ที่สามารถเอนได้นิดหน่อย เรือบางลำจะให้ถอดรองเท้าก่อน แต่ลำที่เรานั่งไม่ต้องถอด
เวลาเรือออกคือ 11.00 น.จากท่าเรือห้วยทราย ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เที่ยวแบบ Backpacker คนลาวส่วนน้อยและคนไทยคือเราคนเดียว
ระยะแรกก็ล่องมาตามแม่น้ำโขงที่แบ่งประเทศไทยและลาว กับอากาศเย็นๆ 18-20 องศา พอให้ได้บรรยากาศฤดูหนาว
เรือล่องมาตามลำน้ำโขงเขตแดนไทยลาวจนมาถึงสวนสาธารณะแก่งผาได ตรงแก่งก้อนคำ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ก็เป็นช่วงแม่น้ำโขงในดินแดนลาวทั้งสองฝั่ง ช่วงนี้ฝรั่งก็เคลื่อนเก้าอี้หันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุย ดื่มเบียร์เราสามารถซื้อได้ที่มินิบาร์ที่มีทั้งเบียร์ กาแฟ บะหมี่และน้ำในราคาไม่แพง
แนะนำให้ซื้อมื้อเที่ยงมาเตรียมทานระหว่างทางเลย เพราะบนเรือมีแต่บะหมี่ใส่น้ำร้อน โดยหาซื้อที่ห้วยทรายก่อนขึ้นเรือได้ มีหลายร้าน ส่วนน้ำก็ซื้อบนเรือได้ มีขายตลอด
เส้นทางเดินเรือก็ต้องใช้ความชำนาญและทักษะขั้นสูงของคนขับ เพราะมีเกาะแก่งในแม่น้ำโขงจำนวนมากขวางทางอยู่
แวะรับผู้โดยสารชาวลาวเป็นระยะ
เรือล่องมาเรื่อยๆ ช้าๆ สมกับชื่อ Slow Boat จนเวลาประมาณ 17.00 น.ก็มาถึง #ท่าเรือปากแบง จุดแวะพักครึ่งทางของรูท #ทริปลาวรูทในฝัน เราจะพักกันที่นี่ 1 คืน ถือว่าได้แวะเที่ยวเมืองลาวที่น้อยคนจะได้มาถ้าไม่ล่องเรือ
ก่อนลงเรือก็รอกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเรือ เราต้องเอาของทุกอย่างขึ้น เพราะพรุ่งนี้เช้าจะเป็นเรือคนละลำ พอขึ้นจากท่าเรือแล้วหันกลับไป ภาพวิวของเมืองปากแบงคือสวยมาก
ปากแบง สามารถเดินทางไปได้จาก จ.น่าน ที่ด่านห้วยโก๋น
สภาพเมืองปากแบงยามค่ำคืน สงบเงียบ ชิลล์มาก
เดินเที่ยวเมือง #ปากแบง ได้แบบชิลล์ๆ คืนนี้หนาวพอสมควร 9 องศาเซลเซียส หาของกินได้ไม่ยาก อาหารก็เหมือนๆที่ไทย นี่จัดข้าวกะเพราหมูสับไปจานใหญ่ พร้อมเบียร์ลาว ก่อนเข้านอน
เรือนพักที่ปากแบงราคา 300-500 เดินเลือกหาได้เลย แต่ถ้าจองก็จะมีรถมารับส่งถึงท่าเรือ
ร้านขนมจีนยามเช้ากับต้มเนื้อน่องลาย อร่อยมาก ขนมจีนต้มเนื้อน่องลายกับน้ำดื่ม 3 หมื่นกีบ
เอากระเป๋าไปเก็บใต้ท้องเรือ แล้วเดินมากินขนมจีนต้มเนื้อ ร้านที่วิวสวยที่สุด แสงแดดอุ่นๆ วิวแม่น้ำโขงช่วงเมืองปากแบง ดีต่อใจมาก แม่ค้าและผู้คนชาวลาวก็น่ารักเป็นมิตรเสมอ
เมืองปากแบงยามเช้า ตรงนั้นเราจะผ่านในอีกไม่ช้า
เมืองปากแบงมองไปยังเส้นทางที่เราผ่านมาเมื่อวาน
เราลงเรือต่อในเวลา 09.00 น. ซึ่งต้องเก็บตั๋วเรือที่ซื้อจากห้วยทรายไว้ให้ตรวจด้วย เจ้าหน้าที่ประจำเรือจะเก็บไปพร้อมกับตรวจเช็คจำนวนคนขึ้นเรือ โดยเรือลำนี้จะเป็นคนละลำกับที่มาจากต้นทาง และต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเรือ จะมีน้องๆเตรียมถุงพลาสติกไว้ให้ใส่รองเท้า คราวนี้สามารถเลือกนั่งได้ตามสะดวก
นั่งเรือต่อวันที่สอง กับอากาศหนาวตลอดทาง วันนี้ 12-15 องศา ต้องขยับไปหาทางที่มีแดด ลมตีหน้าตลอดเวลาด้วยเรือเป็นแบบโล่ง
วิวสองข้างลำน้ำโขง เกาะแก่งหินและซากเรือมีให้เห็นอยู่เป็นระยะ ด้วยการจับเรือล่องแม่น้ำโขงต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญ บางช่วงก็เสียวๆเพราะเป็นร่องน้ำแคบๆ ขนาบด้วยโขดหินทั้งที่โผล่และดำอยู่ใต้น้ำ
ระหว่างทางเรือจะแวะจอดรับผู้โดยสารอยู่หลายท่า และสะพานข้ามแม่น้ำโขงอยู่เรื่อยๆ
กิจกรรมบนเรือก็หลากหลาย ทั้งอ่านหนังสือเงียบๆ ดื่มเบียร์ลาว เปิดเพลงฟัง เล่นไพ่ จนถึงร้องคาราโอเกะ โดยเจ้าของเรือเอาลำโพงมาให้ สนุกสนานบางช่วงก็น่ารำคาญ
สองข้างแม่น้ำโขงก็จะมีวิวที่มองไม่เบื่อเลย สมใจกับความฝันที่อยากจะมารูทนี้ให้ได้สักครั้ง นี่ก็เป็นอีกวิวที่สวยงาม
ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงในลาวมีให้เห็นเป็นระยะ จากทุนจีนที่เข้ามากลืนกินเกือบทั้งหมดของลาว
ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าในเวลาบ่ายสี่โมงกว่าๆ ของหน้าหนาว
วิวด้านตะวันออกของแม่น้ำโขง
ก่อน 17.00 น.ก็ถึงจุดหมาย ท่าเรือช้า #SlowBoat #หลวงพระบาง รอรับกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเรือ
มาแชร์รถสกายแล็บกับนักเดินทางคนอื่นๆ ในราคา 50,000 กีบ (ประมาณ 100 บาท) เพื่อเข้าในเมืองหลวงพระบาง เป็นช่วงเวลาพอดีๆ กับพลบค่ำ มองดูวิถีผู้คนสองข้างทาง ระหว่างที่รถสามล้อเครื่องวิ่งผ่าน แอบอมยิ้มในใจว่ารูทในฝันครั้งนี้สำเร็จลงได้อย่างสนุกมากๆ
ค่ำคืนของหลวงพระบาง ยังคงมีสเน่ห์เสมอ
สวยงามมากด้วยแสงหัวค่ำ กลางเมืองเก่าหลวงพระบาง
ศูนย์อาหารตอนค่ำบริเวณต้นถนนตลาดมืด
วิหารที่ประดิษฐานพระบาง ภายในพระราชวังหลวงพระบาง
ตลาดเช้าที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
เป็นตลาดเช้าที่เดินสนุกมาก สินค้าหลากหลาย พ่อค้าแม่ค้าน่ารัก นักท่องเที่ยวนิยมมาก ในการเดินตลาดเช้าหลวงพระบาง
เราใช้เวลาในเมือง #หลวงพระบาง 4 วัน แบบสโลว์ไลฟ์มากๆ ถือเป็นการพักผ่อนแบบพักจริงๆ ปลดปล่อยสมองให้ว่าง ตื่นเช้าไปเดินตลาด สายๆกินกาแฟ บ่ายๆไหว้พระ ค่ำๆเดิน #ตลาดมืด ..มีความสุข ชิลล์ เติมพลังชีวิต และดีใจสุดๆกับทริปรูทนี้
พระราชวังหลวงพระบาง ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
สะพานไม้ข้ามแม่น้ำคาน ราคาข้ามสะพาน 20 บาท
หน้าพระราชวังหลวงพระบาง
วิวสวยๆ จากบนพระธาตุพูสี
วัดเชียงทอง วัดที่ห้ามพลาด
การใช้เงินที่ลาว แนะนำให้ใช้เงินบาทไปเลย สะดวกมาก ถ้ามีทอนพ่อค้าแม่ค้าจะทอนเป็นเงินกีบ ไม่ต้องไปแลกให้เสียเวลา อาจมีกีบติดตัวไว้นิดหน่อยกรณีร้านไม่รับเงินบาทซึ่งน้อยมาก ขนาดในตลาดเช้ายังรับ ส่วนถ้าเงินหมดก็กดที่ตู้ ATM ได้เลย แค่เดบิตมีเครื่องหมาย VISA หรือ Master ค่ากด 100 บาท
จบเทรดการเดินทาง #ทริปลาวรูทในฝัน ด้วยเรือช้า slow boat จากเชียงของ-ห้วยทราย-ปากแบง-หลวงพระบาง มีส่วนใดตกหล่นสอบถามมาได้นะครับ สามารถติดตามแบบเคลื่อนไหวดุ๊กดิ๊กได้ที่ช่องยูทูป
https://www.youtube.com/channel/UCU7JVUyUJNVV-i8NCniA3xA
ล่องเรือช้า SlowBoat จากด่านเชียงของ ผ่านด่านห้วยแก้ว ลงเรือท่าเรือห้วยทราย จุดหมายหลวงพระบาง ประเทศลาว
เริ่มต้นจากการบินไปลง #เชียงราย แล้วไปข้ามแดนที่ #เชียงของ
เราไปถึงด่านตรวจเวลา 09.30 น.หลังจากตรวจพาสปอร์ตขาออกที่ด่านเชียงของแล้ว ก็ซื้อตั๋วรถบัสเพื่อข้าม #สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 ( #เชียงของ–#ห้วยทราย) ในราคาค่าโดยสาร 25 บาท
#สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 4 เป็น #สะพานข้ามแม่น้ำโขง เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยที่หมู่ที่ 9 บ้านดอนมหาวัน ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย กับประเทศลาว ที่บ้านดอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ระยะทาง 2.48 กิโลเมตร
หลังข้ามสะพานมา รถบัสก็พาเรามาถึงด่านบ่อแก้ว เมืองห้วยทราย ขวงบ่อแก้ว ทำการตรวจคนเข้าเมือง จ่ายค่าผ่านแดน จำนวน 50 บาท แล้วออกมารอรถไปท่าเรือ ซึ่งถ้ามีคนแชร์ด้วยก็คนละ 80-100 แต่ถ้าเหมาคนเดียวก็ 400 บาท
จนเวลาประมาณ 10.30 น. เมื่อไม่มีคนไปท่าเรือด้วย เลยต้องเหมา 400 บาท (จำใจจ่าย) คนเดียว กับระยะทาง 11 กิโลเมตร ผ่านเข้าตัว #เมืองห้วยทราย แล้วก็มาถึงท่าเรือ ก็เข้าไปซื้อตั๋ว #เรือช้า ที่สำนักงานขาย (แนะนำให้ซื้อเองอย่าซื้อกับเอเย่น) ในราคา 700 บาท สามารถใช้เงินบาทซื้อได้เลย
ในตั๋วเรือจะระบุที่นั่งไว้ให้แล้ว เราก็เดินลงไปที่เรือแล้วโหลดกระเป๋าไว้ใต้ท้องเรือก่อนที่จะไปนั่งที่ตามหมายเลขที่ระบุ เบาะนั่งจะเป็นเบาะเก่าจากรถตู้ที่สามารถเอนได้นิดหน่อย เรือบางลำจะให้ถอดรองเท้าก่อน แต่ลำที่เรานั่งไม่ต้องถอด
เวลาเรือออกคือ 11.00 น.จากท่าเรือห้วยทราย ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติที่เที่ยวแบบ Backpacker คนลาวส่วนน้อยและคนไทยคือเราคนเดียว
ระยะแรกก็ล่องมาตามแม่น้ำโขงที่แบ่งประเทศไทยและลาว กับอากาศเย็นๆ 18-20 องศา พอให้ได้บรรยากาศฤดูหนาว
เรือล่องมาตามลำน้ำโขงเขตแดนไทยลาวจนมาถึงสวนสาธารณะแก่งผาได ตรงแก่งก้อนคำ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ก็เป็นช่วงแม่น้ำโขงในดินแดนลาวทั้งสองฝั่ง ช่วงนี้ฝรั่งก็เคลื่อนเก้าอี้หันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุย ดื่มเบียร์เราสามารถซื้อได้ที่มินิบาร์ที่มีทั้งเบียร์ กาแฟ บะหมี่และน้ำในราคาไม่แพง
แนะนำให้ซื้อมื้อเที่ยงมาเตรียมทานระหว่างทางเลย เพราะบนเรือมีแต่บะหมี่ใส่น้ำร้อน โดยหาซื้อที่ห้วยทรายก่อนขึ้นเรือได้ มีหลายร้าน ส่วนน้ำก็ซื้อบนเรือได้ มีขายตลอด
เส้นทางเดินเรือก็ต้องใช้ความชำนาญและทักษะขั้นสูงของคนขับ เพราะมีเกาะแก่งในแม่น้ำโขงจำนวนมากขวางทางอยู่
แวะรับผู้โดยสารชาวลาวเป็นระยะ
เรือล่องมาเรื่อยๆ ช้าๆ สมกับชื่อ Slow Boat จนเวลาประมาณ 17.00 น.ก็มาถึง #ท่าเรือปากแบง จุดแวะพักครึ่งทางของรูท #ทริปลาวรูทในฝัน เราจะพักกันที่นี่ 1 คืน ถือว่าได้แวะเที่ยวเมืองลาวที่น้อยคนจะได้มาถ้าไม่ล่องเรือ
ก่อนลงเรือก็รอกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเรือ เราต้องเอาของทุกอย่างขึ้น เพราะพรุ่งนี้เช้าจะเป็นเรือคนละลำ พอขึ้นจากท่าเรือแล้วหันกลับไป ภาพวิวของเมืองปากแบงคือสวยมาก
ปากแบง สามารถเดินทางไปได้จาก จ.น่าน ที่ด่านห้วยโก๋น
สภาพเมืองปากแบงยามค่ำคืน สงบเงียบ ชิลล์มาก
เดินเที่ยวเมือง #ปากแบง ได้แบบชิลล์ๆ คืนนี้หนาวพอสมควร 9 องศาเซลเซียส หาของกินได้ไม่ยาก อาหารก็เหมือนๆที่ไทย นี่จัดข้าวกะเพราหมูสับไปจานใหญ่ พร้อมเบียร์ลาว ก่อนเข้านอน
เรือนพักที่ปากแบงราคา 300-500 เดินเลือกหาได้เลย แต่ถ้าจองก็จะมีรถมารับส่งถึงท่าเรือ
ร้านขนมจีนยามเช้ากับต้มเนื้อน่องลาย อร่อยมาก ขนมจีนต้มเนื้อน่องลายกับน้ำดื่ม 3 หมื่นกีบ
เอากระเป๋าไปเก็บใต้ท้องเรือ แล้วเดินมากินขนมจีนต้มเนื้อ ร้านที่วิวสวยที่สุด แสงแดดอุ่นๆ วิวแม่น้ำโขงช่วงเมืองปากแบง ดีต่อใจมาก แม่ค้าและผู้คนชาวลาวก็น่ารักเป็นมิตรเสมอ
เมืองปากแบงยามเช้า ตรงนั้นเราจะผ่านในอีกไม่ช้า
เมืองปากแบงมองไปยังเส้นทางที่เราผ่านมาเมื่อวาน
เราลงเรือต่อในเวลา 09.00 น. ซึ่งต้องเก็บตั๋วเรือที่ซื้อจากห้วยทรายไว้ให้ตรวจด้วย เจ้าหน้าที่ประจำเรือจะเก็บไปพร้อมกับตรวจเช็คจำนวนคนขึ้นเรือ โดยเรือลำนี้จะเป็นคนละลำกับที่มาจากต้นทาง และต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นเรือ จะมีน้องๆเตรียมถุงพลาสติกไว้ให้ใส่รองเท้า คราวนี้สามารถเลือกนั่งได้ตามสะดวก
นั่งเรือต่อวันที่สอง กับอากาศหนาวตลอดทาง วันนี้ 12-15 องศา ต้องขยับไปหาทางที่มีแดด ลมตีหน้าตลอดเวลาด้วยเรือเป็นแบบโล่ง
วิวสองข้างลำน้ำโขง เกาะแก่งหินและซากเรือมีให้เห็นอยู่เป็นระยะ ด้วยการจับเรือล่องแม่น้ำโขงต้องใช้ประสบการณ์และความชำนาญ บางช่วงก็เสียวๆเพราะเป็นร่องน้ำแคบๆ ขนาบด้วยโขดหินทั้งที่โผล่และดำอยู่ใต้น้ำ
ระหว่างทางเรือจะแวะจอดรับผู้โดยสารอยู่หลายท่า และสะพานข้ามแม่น้ำโขงอยู่เรื่อยๆ
กิจกรรมบนเรือก็หลากหลาย ทั้งอ่านหนังสือเงียบๆ ดื่มเบียร์ลาว เปิดเพลงฟัง เล่นไพ่ จนถึงร้องคาราโอเกะ โดยเจ้าของเรือเอาลำโพงมาให้ สนุกสนานบางช่วงก็น่ารำคาญ
สองข้างแม่น้ำโขงก็จะมีวิวที่มองไม่เบื่อเลย สมใจกับความฝันที่อยากจะมารูทนี้ให้ได้สักครั้ง นี่ก็เป็นอีกวิวที่สวยงาม
ก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงในลาวมีให้เห็นเป็นระยะ จากทุนจีนที่เข้ามากลืนกินเกือบทั้งหมดของลาว
ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าในเวลาบ่ายสี่โมงกว่าๆ ของหน้าหนาว
วิวด้านตะวันออกของแม่น้ำโขง
ก่อน 17.00 น.ก็ถึงจุดหมาย ท่าเรือช้า #SlowBoat #หลวงพระบาง รอรับกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเรือ
มาแชร์รถสกายแล็บกับนักเดินทางคนอื่นๆ ในราคา 50,000 กีบ (ประมาณ 100 บาท) เพื่อเข้าในเมืองหลวงพระบาง เป็นช่วงเวลาพอดีๆ กับพลบค่ำ มองดูวิถีผู้คนสองข้างทาง ระหว่างที่รถสามล้อเครื่องวิ่งผ่าน แอบอมยิ้มในใจว่ารูทในฝันครั้งนี้สำเร็จลงได้อย่างสนุกมากๆ
ค่ำคืนของหลวงพระบาง ยังคงมีสเน่ห์เสมอ
สวยงามมากด้วยแสงหัวค่ำ กลางเมืองเก่าหลวงพระบาง
ศูนย์อาหารตอนค่ำบริเวณต้นถนนตลาดมืด
วิหารที่ประดิษฐานพระบาง ภายในพระราชวังหลวงพระบาง
ตลาดเช้าที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
เป็นตลาดเช้าที่เดินสนุกมาก สินค้าหลากหลาย พ่อค้าแม่ค้าน่ารัก นักท่องเที่ยวนิยมมาก ในการเดินตลาดเช้าหลวงพระบาง
เราใช้เวลาในเมือง #หลวงพระบาง 4 วัน แบบสโลว์ไลฟ์มากๆ ถือเป็นการพักผ่อนแบบพักจริงๆ ปลดปล่อยสมองให้ว่าง ตื่นเช้าไปเดินตลาด สายๆกินกาแฟ บ่ายๆไหว้พระ ค่ำๆเดิน #ตลาดมืด ..มีความสุข ชิลล์ เติมพลังชีวิต และดีใจสุดๆกับทริปรูทนี้
พระราชวังหลวงพระบาง ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ
สะพานไม้ข้ามแม่น้ำคาน ราคาข้ามสะพาน 20 บาท
หน้าพระราชวังหลวงพระบาง
วิวสวยๆ จากบนพระธาตุพูสี
วัดเชียงทอง วัดที่ห้ามพลาด
การใช้เงินที่ลาว แนะนำให้ใช้เงินบาทไปเลย สะดวกมาก ถ้ามีทอนพ่อค้าแม่ค้าจะทอนเป็นเงินกีบ ไม่ต้องไปแลกให้เสียเวลา อาจมีกีบติดตัวไว้นิดหน่อยกรณีร้านไม่รับเงินบาทซึ่งน้อยมาก ขนาดในตลาดเช้ายังรับ ส่วนถ้าเงินหมดก็กดที่ตู้ ATM ได้เลย แค่เดบิตมีเครื่องหมาย VISA หรือ Master ค่ากด 100 บาท
จบเทรดการเดินทาง #ทริปลาวรูทในฝัน ด้วยเรือช้า slow boat จากเชียงของ-ห้วยทราย-ปากแบง-หลวงพระบาง มีส่วนใดตกหล่นสอบถามมาได้นะครับ สามารถติดตามแบบเคลื่อนไหวดุ๊กดิ๊กได้ที่ช่องยูทูป https://www.youtube.com/channel/UCU7JVUyUJNVV-i8NCniA3xA