คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ขอแนะนำเรื่องลดน้ำหนัก บางทีไม่ต้องสนใจตัวเลขมากก็ได้ค่ะ ไขมันกับกล้ามเนื้อน้ำหนักเท่ากัน แต่ขนาดต่างกัน
บางทีคนลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย น้ำหนักเพิ่มด้วยซ้ำ เพราะได้กล้ามเนื้อมาแทนไขมันที่ออกไป
หนูแค่คุมอาหาร เดินสายกลางก็พอ กินไม่ต้องอด แค่กินให้พอกับร่างกาย(คำนวนไปถึงส่วนที่จะออกกำลัง)
คิดซะว่าออกเพื่อสุขภาพ เราจะไม่เครียดมาก คาร์ดิโอเอาส่วนเกินออก เวทเพื่อกระชับร่างกาย
เราเคยอวบๆ ตอนชั่งน้ำหนักก็เครียด ทุกวันนี้ไม่ได้ชั่งเลย ก็ออกกำลังเรื่อยๆ กินอาหารพอประมาณ
ไม่อด มันคิดตามความเป็นจริงมันไม่มีใครอดได้ตลอดไปอ่ะค่ะ ถ้าอดมันจะโหยมากเวลากิน จะทำให้โยโย่
เรากินเน้นข้าวเช้าจัดเต็ม กลางวันพออิ่มท้อง เย็นๆกินเบาๆ ระหว่างวันพยายามจิบน้ำเปล่าเรื่อยๆ
เพราะเมื่อก่อนติดทานชากาแฟปั่น มันจะหวานๆหน่อย กินวันละ1-2แก้ว คือก็ไม่อ้วนนะ แต่เป็น skinny fat แล้วก็เผละๆ เสื้อผ้าแน่นๆ
ก็ลดเหลือกินแค่สัปดาห์ละไม่เกิน3แก้ว แล้วก็ลดหวาน-ไม่หวานเลย ถ้าจะกินหวานก็หวานนิดนึงแต่แค่สัปดาห์ละแก้วพอ พอหายอยาก
น้ำอัดลมลดดื่ม เดือนนึงกิน1-2ครั้งได้ ขนมหวานไม่ค่อยทานอยู่แล้ว นานๆกินที
แล้วก็พวกของจุกจิกก็เปลี่ยนไปกินจุกจิกมีประโยชน์แทน จากเลย์เป็นถั่วต่างๆ
บางทีหิวๆก็กินที่มันอยู่ท้องแทน โยเกิร์ตรสธรรมชาติ นมจืด หรือผลไม้ที่ไม่หวานมาก ที่ชอบก็แอปเปิ้ลเขียว
ก็พยายามกินของที่ชอบ ทำให้มีความสุข ไม่รู้สึกฝืนทนที่จะทำ แต่ก็พยายามเข็ญตัวเองออกกำลังบ่อยๆ สัปดาห์นึงหยุด2วัน
ออกกำลังกายต้องมีวันพักบ้างค่ะ ให้ร่างกายพักผ่อน การทำอะไรมากไปไม่ใช่ว่าจะดีไปหมด บริหารเวลาไปทำอื่นๆบ้าง
จะได้ไม่คิดแต่เรื่องนี้ ส่วนเรื่องจิตใจถ้าทำตามนี้ไม่ได้จริงๆแนะนำว่าควรพบจิตแพทย์นะคะ
มีน้องคนนึงเคยแชร์เหมือนกัน เป็นประมาณนี้ แต่หนักมาก สุดท้ายก็ไปพทจิตแพทย์แล้วหายแล้ว ตอนนี้มีความสุขกว่าเดิมเยอะมาก
สนใจข้อมูลลองหาย้อนในเพจ drama-addict นะคะ เคยเห็นจ่าแชร์มาอยู่ สักพักแล้ว
บางทีคนลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย น้ำหนักเพิ่มด้วยซ้ำ เพราะได้กล้ามเนื้อมาแทนไขมันที่ออกไป
หนูแค่คุมอาหาร เดินสายกลางก็พอ กินไม่ต้องอด แค่กินให้พอกับร่างกาย(คำนวนไปถึงส่วนที่จะออกกำลัง)
คิดซะว่าออกเพื่อสุขภาพ เราจะไม่เครียดมาก คาร์ดิโอเอาส่วนเกินออก เวทเพื่อกระชับร่างกาย
เราเคยอวบๆ ตอนชั่งน้ำหนักก็เครียด ทุกวันนี้ไม่ได้ชั่งเลย ก็ออกกำลังเรื่อยๆ กินอาหารพอประมาณ
ไม่อด มันคิดตามความเป็นจริงมันไม่มีใครอดได้ตลอดไปอ่ะค่ะ ถ้าอดมันจะโหยมากเวลากิน จะทำให้โยโย่
เรากินเน้นข้าวเช้าจัดเต็ม กลางวันพออิ่มท้อง เย็นๆกินเบาๆ ระหว่างวันพยายามจิบน้ำเปล่าเรื่อยๆ
เพราะเมื่อก่อนติดทานชากาแฟปั่น มันจะหวานๆหน่อย กินวันละ1-2แก้ว คือก็ไม่อ้วนนะ แต่เป็น skinny fat แล้วก็เผละๆ เสื้อผ้าแน่นๆ
ก็ลดเหลือกินแค่สัปดาห์ละไม่เกิน3แก้ว แล้วก็ลดหวาน-ไม่หวานเลย ถ้าจะกินหวานก็หวานนิดนึงแต่แค่สัปดาห์ละแก้วพอ พอหายอยาก
น้ำอัดลมลดดื่ม เดือนนึงกิน1-2ครั้งได้ ขนมหวานไม่ค่อยทานอยู่แล้ว นานๆกินที
แล้วก็พวกของจุกจิกก็เปลี่ยนไปกินจุกจิกมีประโยชน์แทน จากเลย์เป็นถั่วต่างๆ
บางทีหิวๆก็กินที่มันอยู่ท้องแทน โยเกิร์ตรสธรรมชาติ นมจืด หรือผลไม้ที่ไม่หวานมาก ที่ชอบก็แอปเปิ้ลเขียว
ก็พยายามกินของที่ชอบ ทำให้มีความสุข ไม่รู้สึกฝืนทนที่จะทำ แต่ก็พยายามเข็ญตัวเองออกกำลังบ่อยๆ สัปดาห์นึงหยุด2วัน
ออกกำลังกายต้องมีวันพักบ้างค่ะ ให้ร่างกายพักผ่อน การทำอะไรมากไปไม่ใช่ว่าจะดีไปหมด บริหารเวลาไปทำอื่นๆบ้าง
จะได้ไม่คิดแต่เรื่องนี้ ส่วนเรื่องจิตใจถ้าทำตามนี้ไม่ได้จริงๆแนะนำว่าควรพบจิตแพทย์นะคะ
มีน้องคนนึงเคยแชร์เหมือนกัน เป็นประมาณนี้ แต่หนักมาก สุดท้ายก็ไปพทจิตแพทย์แล้วหายแล้ว ตอนนี้มีความสุขกว่าเดิมเยอะมาก
สนใจข้อมูลลองหาย้อนในเพจ drama-addict นะคะ เคยเห็นจ่าแชร์มาอยู่ สักพักแล้ว
แสดงความคิดเห็น
คิดว่าตัวเองเป็นโรคคลั่งผอมค่ะ(Anorexia)นำ้หนักลงมาแล้ว19โล
ก่อนอื่นก็คงต้องขอแนะนำตัวก่อนค่ะ เราชื่อว่าแก้วนะตอนนี้เรียนอยู่ปี1 อายุ17 หนัก57 สูง160 แปลกใจใช่ไหมคะ ว่านำ้หนักเท่านี้มันผอมตรงไหน5555
เอาเป็นว่าเราเคยหนัก 77 โล(อ้วนมากกกกก) มาก่อนค่ะเมื่อต้นปีนี้เอง เราก็มีความคิดตามภาษาวัยรุ่นค่ะว่าจะขึ้นมหาลัยแล้ว อยากผอมลงจังอยากสวยเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ก็เลยลดน้ำหนักค่ะด้วยการอออกกกำลังกาย แต่ก็ตามภาษาคนอ้วนค่ะที่จริงเราเคยลดนำ้หนักหลายครั้งแล้วแต่ก็เหลวไม่เป็นท่าเพราะความขี้เกียจนี่แหละ ครั้งนี้เราเลยตัดสินใจว่าเราจะไม่ยอมผลาดอีก เราจะออกกำลังกายทุกวัน ระหว่างที่ปิดเรียนรอมหาลัยเปิดนี่แหละ!!
เริ่มแรกเลยที่เราทำก็คือ วิ่งค่ะ ทุกวันวันละครึ่งชั่วโมง ทุกวันยกเว้นวันเสาร์ แต่กินข้าวปกตินะ เช้า เย็น กลางวันไม่กิน ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังให้ตัวเองผอมมากมายอะไรนะคะ ว่านำ้หนักจะลดกลัวตัวเองจะผิดหวังหมดกำลังใจไปซะก่อน
สรุปช่วงนั้น กิน ข้าวเช้า+ข้าวเย็น+นมหนึ่งกล่อง
ออกกำลังกาย วิ่ง 30นาที
ทีนี้เวลาผ่านไปซักพักนึงนำ้หนักเริ่มลงนิดหน่อยค่ะ คนรอบตัวเราก็พากันเชียร์ว่าลดลงหน่อยแล้วนะเนี่ยพยายามเข้า เราก็เริ่มได้ใจค่ะ วิ่งเพิ่มตอนเย็นอีกครึ่งชั่วโมง จากที่ปกติวิ่งตอนบ่ายอย่างเดียวครึ่งชั่วโมง รวมกันเป็น1ชั่วโมง นำ้หนักก็ลงมาอีก เราเลยเริ่มงดข้าวเย็นเพราะมีคนแนะนำมาว่างดแล้วจะได้ผอมลงอีกไง ทีนี้เราก็เลยงดข้าวเย็นแล้วกินโยเกิร์ตแทน555
สรุปช่วงนั้นกิน ข้าวเช้า+นมหนึ่งกล่อง+โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย วิ่ง1ชั่วโมง
พอนำ้หนักไต่ลงมาเราก็มีความรู้สึกว่าอยากลงอีกแค่นี้มันไม่พอเราก็เลยโดดเชือกเพิ่มค่ะ วันละ500ที แล้วก็วิ่งเหมือนเดิม คนก็ยิ่งทักว่านำ้หนักลงอีกแล้วสวยขึ้น ลดอีกสิ เราก็บ้ายอค่ะ อยากผอมด้วยบวกกับที่มีคนแนะนำให้งดอาหารลงจะได้ลงเร็วขึ้น เราก็เลยลดปริมาณข้าวลงค่ะจากที่คิดว่ากินข้าวแค่วันละมื้อกินเต็มที่ก็ค่อยๆลดลงจาก1จานพูนๆเหลือ1ถ้วย แล้วก็งดนมด้วย
สรุปช่วงนั้นกิน ข้าว1จาน+โยเกิร์ต
ออกกำลังกาย วิ่ง1ชั่วโมง+โดดเชือก500
จากนั้นเราก็ลดนำ้หนักลงมาอีกหน่อย แต่จะเห็นได้เลยค่ะ จากตัวอย่างข้างบน ยิ่งนำ้หนักลดเรายิ่งออกกำลังกายหนักขึ้น ยิ่งกินน้อยลง ช่วงนี้เราชั่งน้ำหนักบ่อยมากๆค่ะมากที่สุดเท่าที่จะมากได้พะวงกับตัวเลขอยู่ตลอดเวลา รู้สึกกังวลทุกครั้งที่เห็ตัวเลขเพิ่มขึ้นหนึ่งขีด ไม่กล้ากินอะไรค่ะ ขนาดนำ้เราก็ไม่กล้ากินเยอะเพราะกลัวนำ้หนักเพิ่ม
ทุกวันนี้เราเป็นหนักมากค่ะ เรากินข้าวแค่2ข้อยโต๊ะตอนเช้า นำอึกสองอึกจิบแค่พอหายหิวนำ้ อมลูกอมนิดหน่อย ตอนเย็นก็กินข้าวบ้าง2-3คำ พอกินเสร็จก็ไปชั่งน้ำหนัก เหนื่อยมากค่ะ อยากกลับไปกินเหมือนเดิมแต่ถ้ากินมากกว่านั้นก็จะรู้สึกผิดแล้วไปล้วงคออ้วกออกมาหมด ขนมก็มีกินบ้างค่ะ คำสองคำแล้วก็ส่งให้คนอื่น บางครั้งเราอดใจไม่ไหวก็หยิบช้อนตักกับข้าวที่วางไว้กินบ้างแต่ก็แค่เคี้ยวๆแล้วคายทิ้ง เวลากินนมก็กินแบบ1กล่องกิน2-3วัน เราไม่เข้าใจเลยค่ะว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง มันทรมาณใจมากเลย แต่เราก็หยุดไม่ได้เราเหนื่อยแต่ก็ออกกำลังกายทุกวันเพราะกลัวว่านำ้หนักจะขึ้น
ทุกวันนี้เราออกกำลังกายทุกวันค่ะจันทร์-อาทิตย์ ไม่พัก แต่ก็กินตามที่บอกไว้ข้างบน
สรุปออกกำลังกาย วิ่ง30นาที เพราะว่าเปิดเทอมแล้วไม่มีเวลาตอนเย็น + โดดเชือก2000ครั้ง+ ฮูล่าฮูบ ครึ่งชั่วโมง ที่ทำอยู่ตอนนี้มันไม่เยอะเท่าไหร่ใช่ไหมคะ5555 แต่มันเป็นเพราะว่าเราไม่มีเวลาค่ะ
ถ้าเป็นช่วงก่อนปิดเทอมเนี่ยเราเล่นเยอะกว่านี้ค่ะ
วิ่ง1ชั่วโมง+ฮูลาฮูบ1ชั่วโมง+โดดเชือก2000+อบไอน้ำสมุนไพรขับเหงื่อ
ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ตรงนี้ค่ะ!!!
ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนคนบ้า!! อยากกินแทบตายแต่ก็กินไม่ได้เพราะกินแล้วรู้สึกผิด กลัวอ้วน มากจนไม่รู้จะทำยังไง ถ้ากินเยอะกว่าที่กำหนดไปนิดเดียวจะไปล้วงคอเอาออกทันที นี่มันไม่ปกติ คนเราเวลาจะกินอะไรเขาไม่คิดมากขนาดนี้ เราควรทำยังไงดีเราอยากกลับไปกินได้เหมือนเดิมแต่เราไม่กล้า!! ไม่รู้จะทำยังไงดีค่ะสับสนมาก ไม่อยากชั่งน้ำหนักแล้วแต่ถ้าไม่ทำเราก็จะไม่รู้ว่าเรากนักเท่าไหร่ต้องกินแค่ไหนนำ้หนักจะไม่ขึ้น เราอยากผอมกว่านี้อยากหนักซัก53 เราไม่รู้ว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง เคยคิดไว้ว่าถ้านำ้หนักลงมาเท่านี้57 จะกลับไปกินแหลกเหมือนเดิมแต่ตอนนี้กินข้าวจานเดียวให้หมดยังไม่ได้เลยค่ะ
ขอคำปรึกษาทุกคนด้วยค่ะ😭🙏🏻