ตอนที่ผ่าน ๆ มา =
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนที่ 1 = https://ppantip.com/topic/36682658
ตอนที่ 2 = https://ppantip.com/topic/36689592
ตอนที่ 3 = https://ppantip.com/topic/36698364
ตอนที่ 4 = https://ppantip.com/topic/36708706
ตอนที่ 5 = https://ppantip.com/topic/36724271
ตอนที่ 6 = https://ppantip.com/topic/36769147
หลวงจีนถิงซา ว่าที่เจ้าอาวาสวัดตงหลิน อดีตจอมโจรพยัคฆขาว "ป๋ายหู่" พยักหน้า ก่อนจะถามอีกหนึ่งคำถาม
"อาตมา จะบอก สิ่งที่เป็น อาการ 32 ให้แก่ประสก แต่ทว่า ทั้งหมดมีมากถึง 32 ประการ ประสกฟังแล้ว สามารถจดจำได้หมดหรือ ? อาตมาจะกล่าวเพียงหนเดียวเท่านั้น"
จอมพิณหยิวต้าหยงพยักหน้าพร้อมประสานมือคารวะ
"ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในตนเองว่าจะจำได้ นิมนต์ท่านชี้แนะมาเถิด"
"ประเสริฐ...ประเสริฐแท้..." หลวงจีนเฒ่ากล่าวพลางพยักหน้าพลาง "วันนี้ อาตมาได้มีวาสนาพานพบบัณฑิตผู้ทรงปัญญาแล้ว...ประสก และอาคันตุกะทุกท่าน เชิญสดับ ณ บัดนี้"
ทุกคนนิ่งเงียบ ต้าหยงตั้งใจรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
"อาการ 32 คือสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้และทรงถ่ายทอดสั่งสอนให้แก่เหล่าบรรพชิตสาวก
พระพุทธองค์ทรงเมตตา ตรัสสั่งสอนไว้ว่าดังนี้...
อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้แล
อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา
อะโธ เกฐะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป
ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ
ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด
มีประการต่างๆ
อัตถิ อิมัสสะมิง กาเย มีอยู่ในกายนี้
๑.เกสา ผมทั้งหลาย
๒.โลมา ขนทั้งหลาย
๓.นะขา เล็บทั้งหลาย
๔.ทันตา ฟันทั้งหลาย
๕.ตะโจ หนัง
๖.มังสัง เนื้อ
๗.นะหารู เอ็นทั้งหลาย
๘.อัฏฐี กระดูกทั้งหลาย
๙.อัฏฐิมิญชังเยื่อในกระดูก
๑๐.วักกัง ม้าม
๑๑.หะทะยัง หัวใจ
๑๒. ยะกะนัง ตับ
๑๓.กิโลมะกัง พังผืด
๑๔.ปิหะกัง ไต
๑๕.ปัปผาสัง ปอด
๑๖.อันตัง ไส ้ใหญ่
๑๗.อันตะคุณัง ไส้น้อย
๑๘.อุทะริยัง อาหารใหม่
๑๙.กะรีสัง อาหารเก่า
๒๐. ปิตตัง น้ำดี
๒๑.เสมหัง น้ำเสลด
๒๒. ปุพโพ น้ำเหลือง
๒๓.โลหิตัง นำเลือด
๒๔.เสโท น้ำเหงื่อ
๒๕.เมโท น้ำมันข้น
๒๖.อัฐสุ น้ำตา
๒๗.วะสา น้ำมันเหลว
๒๘.เขโฬ น้ำลาย
๒๙.สิงฆาณิกา น้ำมูก
๓๐.ละสิกา น้ำไขข้อ
๓๑.มุตตัง น้ำมูตร
๓๒.มัตถะเก มัตถะลุงคัง เยื่อในสมอง
อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้อย่างนี้
อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา
อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป
ตะจะ ปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ
ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่าง ๆ อย่างนี้
ร่างกายของคนเรา สามารถพิจารณาจำแนกออกเป็นธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และ ธาตุลม ในจำนวนธาตุทั้ง 4 นี้ มีอยู่ 2 ธาตุ ที่สามารถจับต้องได้ คือ ธาตุดิน กับ ธาตุน้ำ, ธาตุดิน เป็นธาตุแข็ง มี 19 อย่าง ได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า กับ มันสมอง อีก 1 อย่าง รวมเป็นทั้งหมด 20 อย่าง ส่วน ธาตุน้ำ เป็นธาตุที่มีลักษณะเอิบอาบ มี 12 อย่าง ได้แก่ ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ และ มูตร นับรวมธาตุทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ก็จะได้ 32 เราจึงเรียกว่า อาการ 32...
หากพิจารณาเห็น "ไตรลักษณ์" จากอาการ 32 ได้ ก็จะนำไปสู่การบรรลุอรหันต์ดังเช่นพระพุทธองค์ หรืออย่างน้อยก็สามารถเป็นพระโสดาบัน ออมีทอฝู ! (อมิตตพุทธ) พระพุทธองค์ทรงเมตตา..."
หลวงจีนถิงซากล่าวจบก็โน้มกายลง ตั้งมือขวาท่าพนมกลางอก
บัดนั้น จอมพิณก็บังเกิดดวงตาเห็นธรรมได้ครึ่งหนึ่ง...
"ไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา...ข้าจำได้ที่อาจารย์ท่านยายของข้าเคยสอน" เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ แต่ด้วยความเงียบสงัดทั่วบริเวณ ทุกคนจึงได้ยินกันทั่ว
หลวงจีนถิงซาพยักหน้า
"ถูกต้องแล้วประสก...ประสกท่านมีวาสนาจริงๆที่ได้พบกับอาจารย์ผู้ประเสริฐมาก่อน"
"ขอบคุณท่านว่าที่เจ้าอาวาส" ต้าหยงประสานมือกล่าวขอบคุณ
"ว่าแต่...ท่านผู้เป็นอาจารย์ของประสก คือผู้ใดกัน ?"
"อาจารย์ท่านยายของข้า เป็นแม่ชี มีฉายาว่า
แม่ชีไร้กังวล"
หลวงจีนถิงซาเบิกตากว้าง มีอาการผงะเล็กน้อย แต่ต้าหยง ไว่ซิง และคนอื่นๆ ล้วนสังเกตเห็น
"เป็นไรไปเล่า ท่านว่าที่เจ้าอาวาส ว่าที่เจ้าสำนัก ?" จอมพิณเอ่ยถามทันที จ้องตาหลวงจีนเฒ่าเขม็ง แววตาเริ่มแข็งกร้าว
หลวงจีนถิงซา ถอนหายใจ...ก่อนจะย้อนถาม
"ประสก อยากรู้จริงๆ หรือ ?"
"แน่นอน !!" ต้าหยงตอบอย่างหนักแน่น และเริ่มระแวงสงสัย...
หลวงจีนเฒ่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านยายกันแน่ ???
หลวงจีนถิงซาจึงเริ่มเล่าเรื่องในอดีตให้ทุกคนฟัง
"ในอดีต อาตมา มีชื่อว่า
จางป๋ายหู่ เคยทำงานรับส่งสินค้ามาก่อน ฐานะของอาตมาในตอนนั้นมิค่อยจะดีนัก ความรู้ก็มีไม่มาก คิดอยากรับราชการในวังหลวงก็ไม่มีโอกาส จึงได้แต่ทำงานรับของส่งของ และตอนนั้นบ้านเมืองเกิดกลียุค ข้าวยากหมากแพง ในที่สุด อาตมาก็ผันแปรจากการเป็นผู้รับจ้างรับส่งสินค้าไปเป็นโจร!"
หลวงจีนเฒ่า หยุดเล่าชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนรอฟังต่อด้วยใจระทึก ด้วยความคิดว่า เขากำลังจะสารภาพความผิดที่เขาเคยก่อต่อไปหรือไม่...
"แต่ก่อนที่อาตมาจะเปลี่ยนไปเป็นโจร อาตมา ได้พบกับสตรีนางหนึ่ง ซึ่งอาตมาพึงพอใจ ชมชอบนางมาก...ได้คบหากับนาง เราสองคนรักใคร่กันมาก แต่ด้วยฐานะของอาตมาในตอนนั้น มันต่ำต้อยเกินกว่าจะฝันถึงพิธีแต่งงาน อาตมาต้องการทรัพย์สินเงินทองให้มากเสียก่อน จึงบอกกับนางว่าจะเลิกทำงานรับส่งสินค้า และจะเป็นโจร มีแต่ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้อาตมามีเงินทองทรัพย์สินและจะได้แต่งงานกับนางได้โดยเร็ว แต่นางไม่เห็นด้วยกับอาตมา เมื่ออาตมากลายเป็นโจรแล้ว นางก็เสียใจ และหลบลี้หนีหน้าอาตมาไป จนภายหลังจึงได้ทราบว่านางตัดสินใจบวชเป็นนางชี...ฉายา แม่ชีไร้กังวล!"
หยิวต้าหยงตะลึงงัน!
เขาได้ทราบเรื่องไม่คาดฝันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว...
"แล้วเหตุใด...ท่านจึงตัดสินใจเลิกเป็นโจรแล้วมาบวชเป็นหลวงจีนอยู่ที่นี่ ?"
คำถามนี้มาจาก ไว่ซิง หรือเฉิงจี เซียนขลุ่ย
"เพราะอาตมา สำนึกตัวว่า ทำผิดทำบาปมามาก ศัตรูของอาตมาก็มาก อาตมา จึงละทิ้งชีวิตทางโลก หันเข้าหาชีวิตทางธรรมของพระพุทธองค์"
"ท่านสำนึกตัวกลัวบาป จริงหรือ ?" ต้าหยงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคั่งแค้น
หลวงจีนถิงซารู้สึกสะดุดหูยิ่งเมื่อได้ยิน และพยักหน้า
"อาตมา สำนึกตัวกลัวบาป เป็นความสัตย์จริง ประสกท่าน ดูเหมือนมีความคับข้องใจบางอย่างอยู่ในใจ ใช่หรือไม่ ?"
"มิผิด!" ต้าหยงตอบสวนทันควัน แล้วยิงคำถามตรงไม่อ้อมค้อมโดยทันที
"ท่าน...กับบรรดาบริวารโจรของท่าน คือผู้ที่ลงมือสังหารล้างตระกูลหยิว ใช่หรือไม่ !!!???"
หลวงจีนถิงซาขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"ประสก ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ผู้ใดบอกท่าน ?"
"ตอบคำถามของข้าก่อนเถิด !!! อย่าย้อนถามข้า !!!" เสียงต้าหยงดังขึ้นจนเกือบเป็นตะโกน
หลวงจีนเฒ่า พยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆ สามสี่ครั้ง
"ประสก เห็นทีจะเป็นทายาทผู้เดียวของตระกูลหยิวเป็นแม่นมั่น ประเสริฐ...ประเสริฐจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า..."
อดีตจอมโจรเปล่งเสียงหัวเราะดังก้องกังวาน ก่อนจะเล่าความจริงต่อไป
"อาตมา สู้อุตส่าห์ปกปิดเรื่องนี้มานานหลายสิบปี มิคาดคิดว่าวันหนึ่งจะได้ยินผู้ใดกล่าวถึงมันอีก...ถูกต้องแล้ว!!! เป็นอาตมา กับบริวารโจรจริงๆ ที่ลงมือสังหารคนในตระกูลหยิว!! อาตมาทราบด้วยว่า มีทายาทคนหนึ่งรอดชีวิต ต้องเป็นประสกแน่ ใช่หรือไม่ ?"
"มิผิด !!! จอมโจรพยัคฆ์ขาว !!!" ต้าหยงกล่าวเสียงสั่น กายสั่นเทิ้ม สายตาฉายแววแห่งความแค้นหาประมาณมิได้
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า.."
หลวงจีนเฒ่าเปล่งเสียงหัวเราะหนักกว่าเดิม
"อาตมา ไม่ได้ยินใครเรียกอาตมาด้วยนามนี้มานานแสนนาน...วันนี้เป็นวันอันแสนประเสริฐแท้!!"
"ท่านเลิกเรียกตัวเองว่า อาตมา ได้แล้ว!!! ท่านหาใช่บรรพชิต หาใช่หลวงจีนอันใดไม่ !!!" จอมพิณตะโกนก้อง
อดีตจอมโจรแค่นเสียงคราหนึ่ง แล้วเอ่ยถามยิ้มๆ อย่างมีปริศนา
"ขอทราบชื่อทายาทคนสุดท้ายของตระกูลหยิวท่านหน่อยเถิด!"
"เขาคือ หยิวต้าหยง" เซียนขลุ่ยตอบแทน
อดีตจอมโจรพยักหน้าช้าๆพลางกล่าว
"ต้าหยง...หยิวต้าหยง....โอ....ช่างเป็นนามที่เยี่ยมยอดเสียนี่กระไร....ต้าหยง...ผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ สมนามโดยแท้ เพราะท่านกล้าหาญมาถึงที่นี่...และเมื่อได้ทราบความจริงแล้วเช่นนี้ ท่านจะคิดทำประการใดต่อไป ?"
"ข้ายังมีอีกเรื่องที่จะถามท่าน!" จอมพิณตอบ เริ่มรู้สึกเหมือนทั้งกายร้อนดังไฟ
"เชิญถามมาเถิด คุณชายหยิว!!"
"มารดาของข้า...มารดาของข้า ตายเช่นไร ? เหตุใดนางจึงป่วยหนักจนกระทั่งถึงกับละทิ้งข้า ยังมีบิดาของข้าอีก ?"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า.." หลวงจีนเฒ่าหัวเราะอีกครั้ง...ก่อนจะตอบ และออกคำสั่งกับหลวงจีนลูกวัดอย่างไม่มีใครคาดคิด
"อาตมาจะตอบคำถามคุณชายในภายหลัง ตอนนี้จะให้คุณชายและสหายทุกท่านพักผ่อนอยู่ด้วยกันก่อน
เหลียงจิ่ง !!!"
"ขอรับ !!!" หลวงจีนหนุ่มซึ่งยืนอยู่ใกล้เสาต้นหนึ่งขานรับ
"เปิดห้องแขก !!!"
ทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่ง หลวงจีนเหลียงจิ่งผลักมือขวาเข้าที่เสาต้นนั้น
"ครืดดด"
ฉับพลันโดยที่จอมพิณและสหายทุกคนมิได้ทันระวังตัว พื้นหินที่ทุกคนยืนเหยียบอยู่ก็แยกออกไปทางซ้าย ขวา หน้า และหลัง เปิดให้เห็นช่อง 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่ซึ่งมีความดำมืดรออยู่เบื้องล่าง ยังผลให้อาคันตุกะทุกคน ตกร่วงลงไปทันที !!!
ครั้นทุกคนลงถึงพื้นเบื้องล่างซึ่งเป็นพื้นแห่งห้องขังแล้ว ทุกคนก็ได้ยินเสียงดัง "ครืดดด" อีกครั้ง...
แหงนหน้าขึ้นไปมองช่องที่พวกตนเพิ่งจะตกร่วงลงมา ก็พบว่า ช่องนั้น ถูกหินเลื่อนปิดสนิทแล้ว !!!
มีช่องหน้าต่างกรงเหล็กอยู่ช่องหนึ่งด้านหลังของทุกคน ได้ยินเสียงของหลวงจีนถิงซาดังมาจากข้างหลัง ทุกคนจึงหันไป และมองเห็นใบหน้าหลวงจีนเฒ่าอยู่หลังซี่กรงเหล็ก
"อาคันตุกะทุกท่าน เชิญพักผ่อนอยู่ในห้องรับแขกนี้ตามสบาย!" หลวงจีนเฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ที่แท้ ท่านหาได้สำนึกผิดกลัวบาปอันใดไม่เลย !!!" ต้าหยงร้องตะโกน "คราวนี้ ตอบข้ามา...เรื่องบิดามารดาข้า!!!"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า......" หลวงจีนอดีตจอมโจรหัวเราะอีกครั้ง
"คุณชายหยิวเอ๋ย....
มารดาของท่าน เป็นหญิงงามยิ่ง จนอาตมา มิอาจจะอดใจไว้ได้..."
"ท่าน....ท่านว่าอะไรนะ !!!" จอมพิณร้องเสียงหลง รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
"อาตมา...นำพาเอามารดาของท่านไปอยู่ที่รังโจรของอาตมา และนาง...ได้เป็นภรรยาของอาตมา..."
" ไม่ !!! ไม่จริง !!! หลวงจีนท่าน...ท่านมุสาแล้ว !!!"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า......" หลวงจีนอดีตจอมโจรหัวเราะอย่างขบขัน
"ทีแรก ข้าไปสู่ขอนางกับตระกูลของท่านแล้ว หลังจากที่ข้าเก็บรวมรวมเงินทองมามาก!" หลวงจีนเฒ่าเล่าเรื่องต่อ " แต่คนในตระกูลของท่าน ทุกคนเหยียดหยามอาตมา ด่าว่าอาตมาว่า เป็นโจรชั่วช้าสามานย์ และคำด่าต่างๆอีกมาก ขับไล่อาตมา...อาตมาจึงโกรธแค้น และตั้งใจว่า จะให้มารดาของท่านเป็นภรรยาของตนให้จงได้ ... อาตมาจึงกลับไปหาเหล่าบริวาร และพาพวกเขาบุกตระกูลหยิวท่าน สังหารทุกคน แล้วนำมารดาของท่านกลับไป...
คุณชายหยิวเอยคุณชายหยิว....ท่านคงไม่จำเป็นต้องถามถึงบิดาอีกต่อไปแล้ว !!!"
"ท่านช่างอำมหิตนัก..." ต้าหยงร้องครางเสียงแผ่ว "แล้วเหตุใด นางจึงป่วยไข้มากมายจนต้องละทิ้งข้าไป ?"
อดีตโจรป๋ายหู่ในคราบหลวงจีนส่ายหน้า
"หลังจากที่นางอยู่กับอาตมา นางไม่ใคร่จะยอมกินอาหาร อาตมาพยายามอ้อนวอนนาง ขอให้นางเห็นใจ แต่ไร้ผล นางเริ่มซูบผอมลง แต่นางก็ได้คลอดบุตรชายที่น่ารัก อาตมาคิดจะเลี้ยงดูทั้งนางและเด็ก มิคาดคิด วันหนึ่งนางหลบหนีจากอาตมาไปพร้อมทั้งลูกน้อย ตอนนั้นนางป่วยมากแล้ว...อาตมากับบริวารพยายามตามหานางและลูก สุดท้ายพบนางยืนอยู่ที่ริมเขาขาดแห่งหนึ่ง อยู่แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีบุตรน้อยอยู่ด้วย..."
(มีต่อครับ)
⚡️⚡️⚡️ /// เพลงพิณปลิดวิญญาณ /// ⚡️⚡️⚡️ - ตอนอวสาน "ลาก่อน...มิตรสหายทั้งหลาย" ⚡️⚡️⚡️
หลวงจีนถิงซา ว่าที่เจ้าอาวาสวัดตงหลิน อดีตจอมโจรพยัคฆขาว "ป๋ายหู่" พยักหน้า ก่อนจะถามอีกหนึ่งคำถาม
"อาตมา จะบอก สิ่งที่เป็น อาการ 32 ให้แก่ประสก แต่ทว่า ทั้งหมดมีมากถึง 32 ประการ ประสกฟังแล้ว สามารถจดจำได้หมดหรือ ? อาตมาจะกล่าวเพียงหนเดียวเท่านั้น"
จอมพิณหยิวต้าหยงพยักหน้าพร้อมประสานมือคารวะ
"ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในตนเองว่าจะจำได้ นิมนต์ท่านชี้แนะมาเถิด"
"ประเสริฐ...ประเสริฐแท้..." หลวงจีนเฒ่ากล่าวพลางพยักหน้าพลาง "วันนี้ อาตมาได้มีวาสนาพานพบบัณฑิตผู้ทรงปัญญาแล้ว...ประสก และอาคันตุกะทุกท่าน เชิญสดับ ณ บัดนี้"
ทุกคนนิ่งเงียบ ต้าหยงตั้งใจรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
"อาการ 32 คือสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้และทรงถ่ายทอดสั่งสอนให้แก่เหล่าบรรพชิตสาวก พระพุทธองค์ทรงเมตตา ตรัสสั่งสอนไว้ว่าดังนี้...
อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้แล
อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา
อะโธ เกฐะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป
ตะจะปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ
ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด
มีประการต่างๆ
อัตถิ อิมัสสะมิง กาเย มีอยู่ในกายนี้
๑.เกสา ผมทั้งหลาย
๒.โลมา ขนทั้งหลาย
๓.นะขา เล็บทั้งหลาย
๔.ทันตา ฟันทั้งหลาย
๕.ตะโจ หนัง
๖.มังสัง เนื้อ
๗.นะหารู เอ็นทั้งหลาย
๘.อัฏฐี กระดูกทั้งหลาย
๙.อัฏฐิมิญชังเยื่อในกระดูก
๑๐.วักกัง ม้าม
๑๑.หะทะยัง หัวใจ
๑๒. ยะกะนัง ตับ
๑๓.กิโลมะกัง พังผืด
๑๔.ปิหะกัง ไต
๑๕.ปัปผาสัง ปอด
๑๖.อันตัง ไส ้ใหญ่
๑๗.อันตะคุณัง ไส้น้อย
๑๘.อุทะริยัง อาหารใหม่
๑๙.กะรีสัง อาหารเก่า
๒๐. ปิตตัง น้ำดี
๒๑.เสมหัง น้ำเสลด
๒๒. ปุพโพ น้ำเหลือง
๒๓.โลหิตัง นำเลือด
๒๔.เสโท น้ำเหงื่อ
๒๕.เมโท น้ำมันข้น
๒๖.อัฐสุ น้ำตา
๒๗.วะสา น้ำมันเหลว
๒๘.เขโฬ น้ำลาย
๒๙.สิงฆาณิกา น้ำมูก
๓๐.ละสิกา น้ำไขข้อ
๓๑.มุตตัง น้ำมูตร
๓๒.มัตถะเก มัตถะลุงคัง เยื่อในสมอง
อะยัง โข เม กาโย กายของเรานี้อย่างนี้
อุทธัง ปาทะตะลา เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา
อะโธ เกสะมัตถะกา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงไป
ตะจะ ปะริยันโต มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ
ปูโร นานัปปะการัสสะ อะสุจิโน เต็มไปด้วยของไม่สะอาด มีประการต่าง ๆ อย่างนี้
ร่างกายของคนเรา สามารถพิจารณาจำแนกออกเป็นธาตุทั้ง 4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และ ธาตุลม ในจำนวนธาตุทั้ง 4 นี้ มีอยู่ 2 ธาตุ ที่สามารถจับต้องได้ คือ ธาตุดิน กับ ธาตุน้ำ, ธาตุดิน เป็นธาตุแข็ง มี 19 อย่าง ได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ พังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า กับ มันสมอง อีก 1 อย่าง รวมเป็นทั้งหมด 20 อย่าง ส่วน ธาตุน้ำ เป็นธาตุที่มีลักษณะเอิบอาบ มี 12 อย่าง ได้แก่ ดี เสลด หนอง เลือด เหงื่อ มันข้น น้ำตา เปลวมัน น้ำลาย น้ำมูก ไขข้อ และ มูตร นับรวมธาตุทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน ก็จะได้ 32 เราจึงเรียกว่า อาการ 32...หากพิจารณาเห็น "ไตรลักษณ์" จากอาการ 32 ได้ ก็จะนำไปสู่การบรรลุอรหันต์ดังเช่นพระพุทธองค์ หรืออย่างน้อยก็สามารถเป็นพระโสดาบัน ออมีทอฝู ! (อมิตตพุทธ) พระพุทธองค์ทรงเมตตา..."
หลวงจีนถิงซากล่าวจบก็โน้มกายลง ตั้งมือขวาท่าพนมกลางอก
บัดนั้น จอมพิณก็บังเกิดดวงตาเห็นธรรมได้ครึ่งหนึ่ง...
"ไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา...ข้าจำได้ที่อาจารย์ท่านยายของข้าเคยสอน" เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆ แต่ด้วยความเงียบสงัดทั่วบริเวณ ทุกคนจึงได้ยินกันทั่ว
หลวงจีนถิงซาพยักหน้า
"ถูกต้องแล้วประสก...ประสกท่านมีวาสนาจริงๆที่ได้พบกับอาจารย์ผู้ประเสริฐมาก่อน"
"ขอบคุณท่านว่าที่เจ้าอาวาส" ต้าหยงประสานมือกล่าวขอบคุณ
"ว่าแต่...ท่านผู้เป็นอาจารย์ของประสก คือผู้ใดกัน ?"
"อาจารย์ท่านยายของข้า เป็นแม่ชี มีฉายาว่า แม่ชีไร้กังวล"
หลวงจีนถิงซาเบิกตากว้าง มีอาการผงะเล็กน้อย แต่ต้าหยง ไว่ซิง และคนอื่นๆ ล้วนสังเกตเห็น
"เป็นไรไปเล่า ท่านว่าที่เจ้าอาวาส ว่าที่เจ้าสำนัก ?" จอมพิณเอ่ยถามทันที จ้องตาหลวงจีนเฒ่าเขม็ง แววตาเริ่มแข็งกร้าว
หลวงจีนถิงซา ถอนหายใจ...ก่อนจะย้อนถาม
"ประสก อยากรู้จริงๆ หรือ ?"
"แน่นอน !!" ต้าหยงตอบอย่างหนักแน่น และเริ่มระแวงสงสัย...หลวงจีนเฒ่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านยายกันแน่ ???
หลวงจีนถิงซาจึงเริ่มเล่าเรื่องในอดีตให้ทุกคนฟัง
"ในอดีต อาตมา มีชื่อว่า จางป๋ายหู่ เคยทำงานรับส่งสินค้ามาก่อน ฐานะของอาตมาในตอนนั้นมิค่อยจะดีนัก ความรู้ก็มีไม่มาก คิดอยากรับราชการในวังหลวงก็ไม่มีโอกาส จึงได้แต่ทำงานรับของส่งของ และตอนนั้นบ้านเมืองเกิดกลียุค ข้าวยากหมากแพง ในที่สุด อาตมาก็ผันแปรจากการเป็นผู้รับจ้างรับส่งสินค้าไปเป็นโจร!"
หลวงจีนเฒ่า หยุดเล่าชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนรอฟังต่อด้วยใจระทึก ด้วยความคิดว่า เขากำลังจะสารภาพความผิดที่เขาเคยก่อต่อไปหรือไม่...
"แต่ก่อนที่อาตมาจะเปลี่ยนไปเป็นโจร อาตมา ได้พบกับสตรีนางหนึ่ง ซึ่งอาตมาพึงพอใจ ชมชอบนางมาก...ได้คบหากับนาง เราสองคนรักใคร่กันมาก แต่ด้วยฐานะของอาตมาในตอนนั้น มันต่ำต้อยเกินกว่าจะฝันถึงพิธีแต่งงาน อาตมาต้องการทรัพย์สินเงินทองให้มากเสียก่อน จึงบอกกับนางว่าจะเลิกทำงานรับส่งสินค้า และจะเป็นโจร มีแต่ทางนี้เท่านั้นที่จะทำให้อาตมามีเงินทองทรัพย์สินและจะได้แต่งงานกับนางได้โดยเร็ว แต่นางไม่เห็นด้วยกับอาตมา เมื่ออาตมากลายเป็นโจรแล้ว นางก็เสียใจ และหลบลี้หนีหน้าอาตมาไป จนภายหลังจึงได้ทราบว่านางตัดสินใจบวชเป็นนางชี...ฉายา แม่ชีไร้กังวล!"
หยิวต้าหยงตะลึงงัน!
เขาได้ทราบเรื่องไม่คาดฝันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว...
"แล้วเหตุใด...ท่านจึงตัดสินใจเลิกเป็นโจรแล้วมาบวชเป็นหลวงจีนอยู่ที่นี่ ?"
คำถามนี้มาจาก ไว่ซิง หรือเฉิงจี เซียนขลุ่ย
"เพราะอาตมา สำนึกตัวว่า ทำผิดทำบาปมามาก ศัตรูของอาตมาก็มาก อาตมา จึงละทิ้งชีวิตทางโลก หันเข้าหาชีวิตทางธรรมของพระพุทธองค์"
"ท่านสำนึกตัวกลัวบาป จริงหรือ ?" ต้าหยงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคั่งแค้น
หลวงจีนถิงซารู้สึกสะดุดหูยิ่งเมื่อได้ยิน และพยักหน้า
"อาตมา สำนึกตัวกลัวบาป เป็นความสัตย์จริง ประสกท่าน ดูเหมือนมีความคับข้องใจบางอย่างอยู่ในใจ ใช่หรือไม่ ?"
"มิผิด!" ต้าหยงตอบสวนทันควัน แล้วยิงคำถามตรงไม่อ้อมค้อมโดยทันที
"ท่าน...กับบรรดาบริวารโจรของท่าน คือผู้ที่ลงมือสังหารล้างตระกูลหยิว ใช่หรือไม่ !!!???"
หลวงจีนถิงซาขมวดคิ้ว ใบหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"ประสก ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ผู้ใดบอกท่าน ?"
"ตอบคำถามของข้าก่อนเถิด !!! อย่าย้อนถามข้า !!!" เสียงต้าหยงดังขึ้นจนเกือบเป็นตะโกน
หลวงจีนเฒ่า พยักหน้าขึ้นลงอย่างช้าๆ สามสี่ครั้ง
"ประสก เห็นทีจะเป็นทายาทผู้เดียวของตระกูลหยิวเป็นแม่นมั่น ประเสริฐ...ประเสริฐจริงๆ วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า..."
อดีตจอมโจรเปล่งเสียงหัวเราะดังก้องกังวาน ก่อนจะเล่าความจริงต่อไป
"อาตมา สู้อุตส่าห์ปกปิดเรื่องนี้มานานหลายสิบปี มิคาดคิดว่าวันหนึ่งจะได้ยินผู้ใดกล่าวถึงมันอีก...ถูกต้องแล้ว!!! เป็นอาตมา กับบริวารโจรจริงๆ ที่ลงมือสังหารคนในตระกูลหยิว!! อาตมาทราบด้วยว่า มีทายาทคนหนึ่งรอดชีวิต ต้องเป็นประสกแน่ ใช่หรือไม่ ?"
"มิผิด !!! จอมโจรพยัคฆ์ขาว !!!" ต้าหยงกล่าวเสียงสั่น กายสั่นเทิ้ม สายตาฉายแววแห่งความแค้นหาประมาณมิได้
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า.."
หลวงจีนเฒ่าเปล่งเสียงหัวเราะหนักกว่าเดิม
"อาตมา ไม่ได้ยินใครเรียกอาตมาด้วยนามนี้มานานแสนนาน...วันนี้เป็นวันอันแสนประเสริฐแท้!!"
"ท่านเลิกเรียกตัวเองว่า อาตมา ได้แล้ว!!! ท่านหาใช่บรรพชิต หาใช่หลวงจีนอันใดไม่ !!!" จอมพิณตะโกนก้อง
อดีตจอมโจรแค่นเสียงคราหนึ่ง แล้วเอ่ยถามยิ้มๆ อย่างมีปริศนา
"ขอทราบชื่อทายาทคนสุดท้ายของตระกูลหยิวท่านหน่อยเถิด!"
"เขาคือ หยิวต้าหยง" เซียนขลุ่ยตอบแทน
อดีตจอมโจรพยักหน้าช้าๆพลางกล่าว
"ต้าหยง...หยิวต้าหยง....โอ....ช่างเป็นนามที่เยี่ยมยอดเสียนี่กระไร....ต้าหยง...ผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ สมนามโดยแท้ เพราะท่านกล้าหาญมาถึงที่นี่...และเมื่อได้ทราบความจริงแล้วเช่นนี้ ท่านจะคิดทำประการใดต่อไป ?"
"ข้ายังมีอีกเรื่องที่จะถามท่าน!" จอมพิณตอบ เริ่มรู้สึกเหมือนทั้งกายร้อนดังไฟ
"เชิญถามมาเถิด คุณชายหยิว!!"
"มารดาของข้า...มารดาของข้า ตายเช่นไร ? เหตุใดนางจึงป่วยหนักจนกระทั่งถึงกับละทิ้งข้า ยังมีบิดาของข้าอีก ?"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า.." หลวงจีนเฒ่าหัวเราะอีกครั้ง...ก่อนจะตอบ และออกคำสั่งกับหลวงจีนลูกวัดอย่างไม่มีใครคาดคิด
"อาตมาจะตอบคำถามคุณชายในภายหลัง ตอนนี้จะให้คุณชายและสหายทุกท่านพักผ่อนอยู่ด้วยกันก่อน เหลียงจิ่ง !!!"
"ขอรับ !!!" หลวงจีนหนุ่มซึ่งยืนอยู่ใกล้เสาต้นหนึ่งขานรับ
"เปิดห้องแขก !!!"
ทันทีที่สิ้นเสียงคำสั่ง หลวงจีนเหลียงจิ่งผลักมือขวาเข้าที่เสาต้นนั้น
"ครืดดด"
ฉับพลันโดยที่จอมพิณและสหายทุกคนมิได้ทันระวังตัว พื้นหินที่ทุกคนยืนเหยียบอยู่ก็แยกออกไปทางซ้าย ขวา หน้า และหลัง เปิดให้เห็นช่อง 4 เหลี่ยมขนาดใหญ่ซึ่งมีความดำมืดรออยู่เบื้องล่าง ยังผลให้อาคันตุกะทุกคน ตกร่วงลงไปทันที !!!
ครั้นทุกคนลงถึงพื้นเบื้องล่างซึ่งเป็นพื้นแห่งห้องขังแล้ว ทุกคนก็ได้ยินเสียงดัง "ครืดดด" อีกครั้ง...
แหงนหน้าขึ้นไปมองช่องที่พวกตนเพิ่งจะตกร่วงลงมา ก็พบว่า ช่องนั้น ถูกหินเลื่อนปิดสนิทแล้ว !!!
มีช่องหน้าต่างกรงเหล็กอยู่ช่องหนึ่งด้านหลังของทุกคน ได้ยินเสียงของหลวงจีนถิงซาดังมาจากข้างหลัง ทุกคนจึงหันไป และมองเห็นใบหน้าหลวงจีนเฒ่าอยู่หลังซี่กรงเหล็ก
"อาคันตุกะทุกท่าน เชิญพักผ่อนอยู่ในห้องรับแขกนี้ตามสบาย!" หลวงจีนเฒ่ากล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างชั่วร้าย
"ที่แท้ ท่านหาได้สำนึกผิดกลัวบาปอันใดไม่เลย !!!" ต้าหยงร้องตะโกน "คราวนี้ ตอบข้ามา...เรื่องบิดามารดาข้า!!!"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า......" หลวงจีนอดีตจอมโจรหัวเราะอีกครั้ง
"คุณชายหยิวเอ๋ย....มารดาของท่าน เป็นหญิงงามยิ่ง จนอาตมา มิอาจจะอดใจไว้ได้..."
"ท่าน....ท่านว่าอะไรนะ !!!" จอมพิณร้องเสียงหลง รู้สึกเหมือนจะเป็นลม
"อาตมา...นำพาเอามารดาของท่านไปอยู่ที่รังโจรของอาตมา และนาง...ได้เป็นภรรยาของอาตมา..."
" ไม่ !!! ไม่จริง !!! หลวงจีนท่าน...ท่านมุสาแล้ว !!!"
"ฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่ะฮ่า......" หลวงจีนอดีตจอมโจรหัวเราะอย่างขบขัน
"ทีแรก ข้าไปสู่ขอนางกับตระกูลของท่านแล้ว หลังจากที่ข้าเก็บรวมรวมเงินทองมามาก!" หลวงจีนเฒ่าเล่าเรื่องต่อ " แต่คนในตระกูลของท่าน ทุกคนเหยียดหยามอาตมา ด่าว่าอาตมาว่า เป็นโจรชั่วช้าสามานย์ และคำด่าต่างๆอีกมาก ขับไล่อาตมา...อาตมาจึงโกรธแค้น และตั้งใจว่า จะให้มารดาของท่านเป็นภรรยาของตนให้จงได้ ... อาตมาจึงกลับไปหาเหล่าบริวาร และพาพวกเขาบุกตระกูลหยิวท่าน สังหารทุกคน แล้วนำมารดาของท่านกลับไป...คุณชายหยิวเอยคุณชายหยิว....ท่านคงไม่จำเป็นต้องถามถึงบิดาอีกต่อไปแล้ว !!!"
"ท่านช่างอำมหิตนัก..." ต้าหยงร้องครางเสียงแผ่ว "แล้วเหตุใด นางจึงป่วยไข้มากมายจนต้องละทิ้งข้าไป ?"
อดีตโจรป๋ายหู่ในคราบหลวงจีนส่ายหน้า
"หลังจากที่นางอยู่กับอาตมา นางไม่ใคร่จะยอมกินอาหาร อาตมาพยายามอ้อนวอนนาง ขอให้นางเห็นใจ แต่ไร้ผล นางเริ่มซูบผอมลง แต่นางก็ได้คลอดบุตรชายที่น่ารัก อาตมาคิดจะเลี้ยงดูทั้งนางและเด็ก มิคาดคิด วันหนึ่งนางหลบหนีจากอาตมาไปพร้อมทั้งลูกน้อย ตอนนั้นนางป่วยมากแล้ว...อาตมากับบริวารพยายามตามหานางและลูก สุดท้ายพบนางยืนอยู่ที่ริมเขาขาดแห่งหนึ่ง อยู่แต่เพียงผู้เดียว ไม่มีบุตรน้อยอยู่ด้วย..."
(มีต่อครับ)