เริ่มต้นจากวันหนึ่งเพื่อนในกลุ่ม Chiang Mai Memories ลงภาพสถานที่นี้ขึ้นมาแล้วถามว่าภาพนี้คือที่ไหน
บอกได้ว่า หมูมาก ... วัดพระธาตุหริภุญไชย
เพราะเจดีย์เหลี่ยมทรงมณฑปสี่เหลี่ยม มีไม่กี่วัดเท่าที่เคยเห็นมีอยู่ 5 วัด
ได้รับอิทธิพลมาจากไหนไม่แจ้งชัด แต่บ่งบอกว่าเป็นเจดีย์ที่เกี่ยวพันกับเมืองหริภุญไชย
วัดละโว้
รู้จักวัดนี้จากการไปวัดบ้านถวาย อ.หางดง ว่า
วัดบ้านถวายเป็นวัดที่ชาวบ้านถวาย ได้มารวมตัวกันเพื่อจะถวายสิ่งของแก่พระนางจามเทวี ระหว่างการไปสร้างวัดละโว้
คือ
พระนางจามเทวีได้เสด็จมาจากเมืองละโว้ เพื่อครองเมืองหริภุญไชย ในปีพ.ศ. 1205
ทรงมีพระประสงค์ จะนำพระพุทธรูปประจำพระองค์ที่นำมาจากกรุงละโว้ ไปไว้ที่ยอดดอยคำ
ในระหว่างทางที่ชักลากเชือกที่ผูกมัดที่ประทับพระพุทธรูป ได้ขาดลง จึงหยุดพักเพื่อทำการซ่อมแซม ปัจจุบันเรียกว่า บ้านยั้งปวน หรือวัดมงคลเกษม
(ยั้ง แปลว่าหยุด ปวน แปลว่าเชื่อกที่ผูกประทับพระพุทธรูป)
เมื่อชักลากพระพุทธรูปได้ก็เคลื่อนต่อ จนมาถึงบริเวณที่มีหนองน้ำเล็กๆ เต็มไปด้วยโคลน เป็นที่อาศัยของวัว ควายรกไปด้วยต้นไม้และเครือเถาวัลย์
ปรากฏว่าแท่นประทับพระพุทธรูปได้จมลงไปในหนองน้ำนั้น
พระนางจามเทวีจึงได้ตรัสสั่งให้พวกเสนาอำมาตย์ตลอดจนถึงบริวารที่ ติดตามให้ช่วยกันก่อฐานประดิษฐานองค์พระพุทธรูปไว้ ด้วยทรงคิดว่าพระพุทธรูปคงพึงพอใจที่จะประดิษฐาน ณ ที่นี่
และรับสั่งให้เสนาอำมาตย์และบริวารที่ติดตามมาปลูกสร้างบ้าน เมือง เรียกว่า เวียงละโว้ และ สร้างวัดละโว้ ในปัจจุบัน
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดจามเทวี
เดิมเรียกว่าวัดกู่กุด เพราะส่วนยอดของเจดีย์หายไป
(กู่ คือที่ไว้กระดูก)
ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ได้มาสำรวจโบราณสถานแห่งนี้และพยว่าเป็นวัดที่สร้างโดยพระนางจามเทวี และได้มาบวชชีอยู่วัดนี้ จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดจามเทวี
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดพระธาตุหริภุญไชย
พระสุวรรณเจดีย์
สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช หลังสร้างพระธาตุหริภุญไชย เสร็จได้ 4 ปี
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดเจดีย์เหลี่ยม
หรือวัดกู่คำหลวง สร้างโดยพญามังราย เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกกรามข้างขวาของพระพุทธเจ้า
ได้รับอิทธิพลจากหริภุญไชย
ได้รับการซ่อมบูรณะในปี พ.ศ.2445 โดยหม่องปันโย ต้นสกุลพระราชทาน อุปโยคิน คหบดีค้าไม้ชาวพม่า
ทำให้มีซุ้มพระเจ้าที่ฐานของเจดีย์สี่ด้าน
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
และ ... สิงห์ที่มุมของเจดีย์ตามศิลปะจากพม่า
วัดพญาวัด
วัดนี้อยู่ที่จังหวัดน่าน
เป็นศูนย์กลางเมืองน่านในสมัยที่ย้ายเมืองจากพระบรมธาตุแช่แห้งมาตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน
เจดีย์ที่สร้างด้วยช่างหริภุญไชย ด้วยศิลปะหริภุญไชย
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
ไม่ทราบว่ายังมีเจดีย์ทรงนี้ที่เราตกหล่นไม่ได้ไปอีกไหมหนอ
เจดีย์เหลี่ยมล้านนา
เริ่มต้นจากวันหนึ่งเพื่อนในกลุ่ม Chiang Mai Memories ลงภาพสถานที่นี้ขึ้นมาแล้วถามว่าภาพนี้คือที่ไหน
บอกได้ว่า หมูมาก ... วัดพระธาตุหริภุญไชย
เพราะเจดีย์เหลี่ยมทรงมณฑปสี่เหลี่ยม มีไม่กี่วัดเท่าที่เคยเห็นมีอยู่ 5 วัด
ได้รับอิทธิพลมาจากไหนไม่แจ้งชัด แต่บ่งบอกว่าเป็นเจดีย์ที่เกี่ยวพันกับเมืองหริภุญไชย
วัดละโว้
รู้จักวัดนี้จากการไปวัดบ้านถวาย อ.หางดง ว่า
วัดบ้านถวายเป็นวัดที่ชาวบ้านถวาย ได้มารวมตัวกันเพื่อจะถวายสิ่งของแก่พระนางจามเทวี ระหว่างการไปสร้างวัดละโว้
คือ
พระนางจามเทวีได้เสด็จมาจากเมืองละโว้ เพื่อครองเมืองหริภุญไชย ในปีพ.ศ. 1205
ทรงมีพระประสงค์ จะนำพระพุทธรูปประจำพระองค์ที่นำมาจากกรุงละโว้ ไปไว้ที่ยอดดอยคำ
ในระหว่างทางที่ชักลากเชือกที่ผูกมัดที่ประทับพระพุทธรูป ได้ขาดลง จึงหยุดพักเพื่อทำการซ่อมแซม ปัจจุบันเรียกว่า บ้านยั้งปวน หรือวัดมงคลเกษม
(ยั้ง แปลว่าหยุด ปวน แปลว่าเชื่อกที่ผูกประทับพระพุทธรูป)
เมื่อชักลากพระพุทธรูปได้ก็เคลื่อนต่อ จนมาถึงบริเวณที่มีหนองน้ำเล็กๆ เต็มไปด้วยโคลน เป็นที่อาศัยของวัว ควายรกไปด้วยต้นไม้และเครือเถาวัลย์
ปรากฏว่าแท่นประทับพระพุทธรูปได้จมลงไปในหนองน้ำนั้น
พระนางจามเทวีจึงได้ตรัสสั่งให้พวกเสนาอำมาตย์ตลอดจนถึงบริวารที่ ติดตามให้ช่วยกันก่อฐานประดิษฐานองค์พระพุทธรูปไว้ ด้วยทรงคิดว่าพระพุทธรูปคงพึงพอใจที่จะประดิษฐาน ณ ที่นี่
และรับสั่งให้เสนาอำมาตย์และบริวารที่ติดตามมาปลูกสร้างบ้าน เมือง เรียกว่า เวียงละโว้ และ สร้างวัดละโว้ ในปัจจุบัน
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดจามเทวี
เดิมเรียกว่าวัดกู่กุด เพราะส่วนยอดของเจดีย์หายไป
(กู่ คือที่ไว้กระดูก)
ภายหลังสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ได้มาสำรวจโบราณสถานแห่งนี้และพยว่าเป็นวัดที่สร้างโดยพระนางจามเทวี และได้มาบวชชีอยู่วัดนี้ จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดจามเทวี
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดพระธาตุหริภุญไชย
พระสุวรรณเจดีย์
สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช หลังสร้างพระธาตุหริภุญไชย เสร็จได้ 4 ปี
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
วัดเจดีย์เหลี่ยม
หรือวัดกู่คำหลวง สร้างโดยพญามังราย เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกกรามข้างขวาของพระพุทธเจ้า
ได้รับอิทธิพลจากหริภุญไชย
ได้รับการซ่อมบูรณะในปี พ.ศ.2445 โดยหม่องปันโย ต้นสกุลพระราชทาน อุปโยคิน คหบดีค้าไม้ชาวพม่า
ทำให้มีซุ้มพระเจ้าที่ฐานของเจดีย์สี่ด้าน
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
และ ... สิงห์ที่มุมของเจดีย์ตามศิลปะจากพม่า
วัดพญาวัด
วัดนี้อยู่ที่จังหวัดน่าน
เป็นศูนย์กลางเมืองน่านในสมัยที่ย้ายเมืองจากพระบรมธาตุแช่แห้งมาตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน
เจดีย์ที่สร้างด้วยช่างหริภุญไชย ด้วยศิลปะหริภุญไชย
เป็นเจดีย์ทรงมณฑปสี่เหลี่ยมลด 5 ชั้น
ฐานล่างเป็นฐานเขียงสี่เหลี่ยมก่อด้วยศิลาแลง
มณฑปแต่ละชั้นมีซุ้มแก้ว ประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปางต่างๆ ด้านละ 3 ซุ้ม
รวมทั้งหมด 4 ด้าน 5 ชั้น ประคิษฐานพระพุทธรูป 60 องค์
บ้างก็ว่าเป็นปางต่าง ๆ ของพระพุทธเจ้า บ้างก็ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ ที่ได้ทรงตรัสรู้
ไม่ทราบว่ายังมีเจดีย์ทรงนี้ที่เราตกหล่นไม่ได้ไปอีกไหมหนอ