สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา,
สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา,
สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ.
ประโยคสุดท้าย
สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ไม่ใช่การสรุปความของสองประโยคข้างต้น ครับ
เพราะอะไรจึงกล่าวเช่นนั้น กรุณาดูพระสูตร "อานันทสูตร"
เป็นการตรัส ถึง สัพเพ ธัมมา อนัตตา โดยไม่ได้ยก อนิจจ และ ทุกขลักษณะ
มาตรัสปูพื้นเลย และ วัจฉโคตรปริพาชก ก็ยิงคำถามโดดๆ ออกมาถึงสัจจะสภาวะ
ซึ่งยุคนั้น มีอยู่สองแนวความเชื่อ คือ
1.สัสสตทิฏฐิ (ความเห็นว่าเที่ยง)
2.อุจเฉททิฏฐิ (ความเห็นว่าขาดสูญ)
ซึ่ง "ญาณ" ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้นั้น หาใช่ทั้งสองข้อข้างต้นไม่
แต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในสมัยพุทธกาล
จึงทรงตรัสสรุปความเอาไว้ว่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตา" ซึ่งแน่นอนว่า ย่อม
ไม่ยกเว้นแม้แต่สภาวะพระนิพพาน
ท่านสมาชิก กรุณาพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลาง และให้ตรงกับบริบทในยุคสมัยพุทธกาลครับ
ว่าแม้แต่ วัจฉโคตรปริพาชก ใน "อานันทสูตร" จะยิงคำถามออกมาตรงๆ ว่า "ความเป็นอัตตา"
มีอยู่ หรือไม่มีอยู่ พระพุทธองค์ก็นิ่งเสีย เพราะอะไร...
ก็ถ้าตรัสว่า "อัตตามี" ก็ไปตรงกับลัทธิหนึ่ง
แล้วถ้าตรัสว่า "อัตตาไม่มี" ก็จะไปตรงกับอีกลัทธิหนึ่งทันที
เพราะลักษณะ "อนัตตา" เป็นอีกลักษณะหนึ่ง ที่ไม่ใช่ทั้งความ "มีอัตตา" และความ "ไม่มีอัตตา"
มันเป็นสภาพธรรมที่ไม่มีแก่นแกนแบบอัตตา และ ไม่ได้หมายถึง ไม่มีอะไรเลยแบบ ไร้อัตตาครับ
แล้วถ้าพระพุทธองค์ตรัสว่า "อัตตามี" มันจะไม่ย้อนแย้งกับ "ญาณ" ที่พระพุทธองค์
ตรัสรู้มาหรือ ที่ว่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตา"
สัพเพ ธัมมา อนัตตา ไม่ใช่การสรุปธรรม เฉพาะสังขารธรรม.
สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา,
สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ.
ประโยคสุดท้าย สัพเพ ธัมมา อนัตตา
ไม่ใช่การสรุปความของสองประโยคข้างต้น ครับ
เพราะอะไรจึงกล่าวเช่นนั้น กรุณาดูพระสูตร "อานันทสูตร"
เป็นการตรัส ถึง สัพเพ ธัมมา อนัตตา โดยไม่ได้ยก อนิจจ และ ทุกขลักษณะ
มาตรัสปูพื้นเลย และ วัจฉโคตรปริพาชก ก็ยิงคำถามโดดๆ ออกมาถึงสัจจะสภาวะ
ซึ่งยุคนั้น มีอยู่สองแนวความเชื่อ คือ
1.สัสสตทิฏฐิ (ความเห็นว่าเที่ยง)
2.อุจเฉททิฏฐิ (ความเห็นว่าขาดสูญ)
ซึ่ง "ญาณ" ที่พระพุทธองค์ตรัสรู้นั้น หาใช่ทั้งสองข้อข้างต้นไม่
แต่เป็นสภาพธรรมที่เป็นอนัตตา ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ในสมัยพุทธกาล
จึงทรงตรัสสรุปความเอาไว้ว่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตา" ซึ่งแน่นอนว่า ย่อม
ไม่ยกเว้นแม้แต่สภาวะพระนิพพาน
ท่านสมาชิก กรุณาพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลาง และให้ตรงกับบริบทในยุคสมัยพุทธกาลครับ
ว่าแม้แต่ วัจฉโคตรปริพาชก ใน "อานันทสูตร" จะยิงคำถามออกมาตรงๆ ว่า "ความเป็นอัตตา"
มีอยู่ หรือไม่มีอยู่ พระพุทธองค์ก็นิ่งเสีย เพราะอะไร...
ก็ถ้าตรัสว่า "อัตตามี" ก็ไปตรงกับลัทธิหนึ่ง
แล้วถ้าตรัสว่า "อัตตาไม่มี" ก็จะไปตรงกับอีกลัทธิหนึ่งทันที
เพราะลักษณะ "อนัตตา" เป็นอีกลักษณะหนึ่ง ที่ไม่ใช่ทั้งความ "มีอัตตา" และความ "ไม่มีอัตตา"
มันเป็นสภาพธรรมที่ไม่มีแก่นแกนแบบอัตตา และ ไม่ได้หมายถึง ไม่มีอะไรเลยแบบ ไร้อัตตาครับ
แล้วถ้าพระพุทธองค์ตรัสว่า "อัตตามี" มันจะไม่ย้อนแย้งกับ "ญาณ" ที่พระพุทธองค์
ตรัสรู้มาหรือ ที่ว่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตา"