โมฮิงกา ขนมจีนน้ำยาป่าข้นๆ ใส่เนื้อปลาและหยวกกล้วย น้ำยาข้นเพราะใส่แป้งถั่วลูกไก่และข้าวคั่วลงไป  ส่วนพริกแกงประกอบไปด้วย หอมแดง กระเทียม ตระใคร้ พริก ขิง และ ขมิ้น

โมฮิงกาถูกจัดให้เป็นอาหารประจำชาติเมียนมา  เพราะเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมทานกันอย่างแพร่หลาย ไปทีใหนตั้งแต่เช้ายันค่ำจะหาโมฮิงกาทานได้เสมอ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมทานกันในเวลาเช้ามากกว่า   โมฮิงกามีขายตาม หาบเร่ แผงริมถนน ร้านน้ำชา ร้านอาหาร และ ร้านอาหารหรูๆ

โมฮิงกาก็มีสูตรหลากหลายมากเปลี่ยนไปตามท้องที่  บางท้องที่จะใส่กะทิด้วย
ในย่านแม่น้ำจะนิยมใช้ปลาดุกมาทำ ส่วนย่านที่อยู่ชายทะเลก็จะใช้ปลาทะเล

โมฮิงกาที่ขายกัน ในน้ำยาจะมีแต่หยวกกล้วย แทบจะหาเนื้อปลาไม่เจอ

พอดีได้มีโอกาศไปชิมโมฮิงกาตามบ้าน ถึงได้เจอโมฮิงกาที่ใส่เนื้อปลาเยอะ เข้มข้น และไม่ได้ใส่หยวกกล้วย  ก็เลยเข้าใจว่า โมฮิงกาที่ทำขายต้องใส่หยวกกล้วยลงไปเยอะเพราะเนื้อปลาแพงมาก

ทำโมฮิงกา 2 ครั้ง ครั้งแรกใช้เนื้อปลาช่อน และหยวกกล้วย  และทำอีกครั้ง ใช้เนื้อปลาช่อนใส่กะทิ แต่ไม่ใส่หยวกกล้วย

ปลาช่อน 1.5  กก. นำมาต้มกับ ตระใคร้ ขิง ขมิ้น พอปลาสุก ตักปลาขึ้นมา แกะเนื้อปลา เอาก้างปลาไปต้มต่ออีก 10 นาที กรองเอาน้ำซุปไว้ทำน้ำยาต่อไป


พริกแกง หอมแขก กระเทียม พริก ขิง ตระใคร้ ขมิ้นผง

หยวกกล้วย ประมาณ 2 ถ้วย

แป้งถั่วลูกไก่อบ (Chick Pea) ซื้อมาจากเมียนมา ข้าวคั่ว

เอาแป้งและข้าวคั่วละลายน้ำให้เข้ากัน

โมฮิงกาของแท้ จะใส่ ไข่ต้มสับและหอมแดงทั้งลูกลงไปในแกงด้วย

เริ่มทำน้ำแกง โดยการเอาพริกแกงไปผัดกับน้ำมันให้หอมก่อน

ใส่เนื้อปลาลงไป

เติมน้ำซุปที่ได้จากการต้มปลา พอเดือด ใส่หยวกกล้วย  น้ำแป้งถั่ว/ข้าวคั่ว ไข่ต้ม หอมแดง และ กะปิ

ปรุงรสด้วยน้ำปลา



โมฮิงกา จะทานพร้อมกับ อาหารทอดกรอบ ลูกชิ้นปลาทอด และ ผัดสด (ผักชี ถั่วฝักยาว) ไข่ต้ม ปรุงรสเผ็ดด้วยพริกป่นคั่ว รสเปรี้ยวด้วยมะนาว

เครื่องเคียง  ประกอบไปด้วย ผักชี ถั่วฝักยาว มะนาว พริกป่น (น้ำแกงไม่มีรสเผ็ด) ไข่ต้ม และ ถั่วทอด ปลาท่องโก๋

อาหารทอดกรอบใช้ ถั่วลิสงทอดแทน ส่วนปลาท่องโก๋ นั้นเพิ่มเข้าไปเอง

ลูกชิ้นปลาทอดไม่ได้ใส่ เพราะ แกงที่ทำใส่เนื้อปลาเยอะมาก


โมฮิงกาเนื้อปลาช่อน แกงด้วยกะทิ ไม่ใส่หยวกกล้วย


สวัสดี