ในการไปทริปที่ประเทศเวียดนาม มีมื้อหนึ่งที่ได้รับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ในกรุงฮานอย นั่นคือร้าน He Thong Nha Hang Sen ซึ่งมีคนต่างชาติมารับประทานเยอะมาก


เหมือนเดิมนะครับ ขอฝากติดตามแฟนเพจวิจารณ์ร้านอื่นๆ ซึ่งมีทั้งในและต่างประเทศได้ที่ https://www.facebook.com/pages/World-Food-Review/1532831343634563 ถ้าชอบกดไลค์แชร์และคอมเมนต์ได้ครับ

สำหรับที่นี่ต้องซื้อบัตรก่อน แล้วจากนั้นจึงยื่นบัตรให้พนักงานที่ประตู ดังนั้นเมื่อเข้ามาแล้วจะออกไม่ได้ เว้นแต่จะรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ตัวร้านอาหารถือว่ามีความกว้างขวาง อาหารจะแบ่งเป็นซุ้มๆเหมือนเป็น food court แต่ก็มีส่วนที่ตักอาหารตรงกลางด้วย

นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองด้วย

เริ่มต้นจากโซนอาหารญี่ปุ่นก่อน แซลมอนซาชิมิซึ่งที่นี่ก็มีแค่แซลมอนอย่างเดียว สีดูค่อนข้างซีดๆ แต่เนื้อนุ่ม มัน ไม่ยุ่ย ไม่เด้งมาก ส่วนซูชินั้นข้าวไม่แน่นมาก ออกกลิ่นน้ำส้มสายชูเล็กน้อย

ตามมาด้วยสารพัดอาหารเวียดนาม
Bánh bèo huế (bloating fern-shaped cake) เรียกเป็นปากหม้อน่าจะดีกว่า มีอยู่ 3 แบบ คือ แบบทอดซึ่งข้างในจะเป็นไส้หมูกับเห็ดออกหวานนิดๆ ส่วนแป้งหนานิดๆแต่ก็กรอบดี ไม่มีส่วนที่แข็งไป ส่วนแบบที่สองเป็นแบบแป้งข้าวเจ้า แป้งนุ่ม ข้างในเป็นไข่แดง ส่วนแบบสุดท้ายเป็นแป้งมัน ให้ความเหนียวและแข็งนิดๆ ส่วนไส้จะเป็นหมูเห็ดเหมือนกันแต่จะได้ความเค็มและสากของไข่แดงเค็ม
มากกว่า
Quầy chả cá (fish cake) ก๋วยเตี๋ยวปลาทอด ปลาทอดด้วยขมิ้นมีกลิ่นหอมนิดๆ กรอบนิดๆ เนื้อนุ่มแน่น ส่วนเส้นจะเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวเวียดนามซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับขนมจีนของไทย ค่อนข้างนุ่มแต่ก็มีเด้งบ้างเหมือนมีแป้งมันผสม ปรุงรสด้วยเนื้อกมัมหรือน้ำปลาเวียดนามที่ออกหวานและเค็ม แต่จะจืดกว่าไทยมากๆ และก็พริกที่เผ็ดแต่ก็น้อยกว่าพริกขี้หนู

Bún bò nam bộ (Southern beef rice noodle) สำหรับจานนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว สำหรับเนื้อวัวจะผัดร้อนๆ รสค่อนข้างจืด แต่เนื้อเหนียวพอตัว

Bún chả (kebab rice noodle) เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูย่าง ตัวหมูย่างมีมันพอสมควร เนื้อแข็งหน่อยๆ ส่วนซุปจะมีมีความเปรี้ยวเล็กน้อย และมีกลิ่นของเนื้อหมูด้วย

ต่อมาเป็นส่วนของอาหารตะวันตก
Beef bourguignon สตูเนื้อไวน์แดง แต่รสชาติแทบไม่ได้กลิ่นไวน์แดงเลย ส่วนเนื้อค่อนข้างเหนียว
Pasta carbonara เป็นเส้น penne ที่นุ่มจนเกือบจะเละ ครีมก็ค่อนข้างแหยะๆ ไม่มีกลิ่นครีมนม

ตามด้วยกลุ่มอาหารตัก
ข้าวเหนียวกับไก่ สีเหมือนข้าวหมกไก่ แต่ก็ไม่ได้มีกลิ่นอะไร ข้าวออกเหนียวนิดๆประมาณข้าวญี่ปุ่นได้ ส่วนไก่ก็ค่อนข้างแห้งไปนิด ซอสจะออกเค็มนิดๆ
ข้าวเหนียวนกพิราบย่าง เนื้อนกหั่นค่อนข้างละเอียดจนไม่ได้เนื้อสัมผัส ออกเค็มมันนิดๆ
กั้งทอดเกลือ เป็นกั้งแก้วที่ไม่พบเจอในร้านอาหารบุฟเฟ่ต์เมืองไทย เนื้อจะเด้ง หวานนิดๆ เมนูนี้หมดค่อนข้างเร็วแต่ก็เติมใหม่บ่อยๆ
เนื้อจระเข้ทอด กรอบ เนื้อแน่นแต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกินสันในไก่แต่แน่นกว่า

ปลาคาร์พนึ่งซีอิ๊ว ปลาเนื้อแน่น หวานนิดๆ แต่ยังไม่ค่อยเข้าเนื้อ ส่วนน้ำซีอิ๊วไม่ได้เค็ม ออกไปทางจืด

โซนใหญ่อีกโซนหนึ่งสำหรับที่นี่คือบาร์บีคิวที่ทางร้านจะทำให้เยอะมาก
ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เนื้อนุ่มพอควร ออกเค็มนิดๆ

แซลมอน เนื้อนุ่ม ติดก้าง
เนื้อหมู จะออกกระด้างไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แข็งมาก
เนื้อแพะ มีความหยุ่นๆ กรอบๆ เด้ง

ซุปที่นี่ก็ใช้วิธีตักเนื้อให้พนักงาน พนักงานก็จะลวกและทำให้ออกมาเป็นซุปต้มยำเวียดนาม จะไม่เหมือนของประเทศไทย ได้ความเปรี้ยวจากมะเขือเทศเป็นหลักเลย ส่วนเต้าหู้ก็ค่อนข้างนุ่ม

ต่อมาเป็นของหวาน เริ่มจากหมวดน้ำแข็ง ที่ไม่ใช่น้ำแข็งไสแต่เป็นน้ำแข็งทุบ จริงๆมีทอปปิ้งเยอะมากทั้งสาคู ไข่มุกเหนียวๆหนึบๆ ราดด้วยน้ำเชื่อมกับน้ำแข็ง

Mini opera cake เนื้อแห้งนิดๆ หวานหน่อย ไม่ค่อยขมช็อคโกแลต
Mini passion cake - เนื้อแห้งนิดๆเหมือนกัน รสออกเปรี้ยวนิดๆจากเสาวรส
Creme brulee ไม่มีการบรูเล่เลยแม้แต่นิดเดียว เนื้อเนียนนุ่ม คาราเมลค่อนข้างหวานน้อย ไม่ติดขมด้วย
Mini frittle cake ออกหวานนิดๆ ่ผิวหน้าแห้งมากจนกรอบ เนื้อในยังพอนุ่มเหนียวนิดๆ
Passion mousse เป็นมูสที่เนื้อแน่นจนจะเป็นคัสตาร์ด ออกเปรี้ยวหวานจากเสาวรส
ไอศกรีมวานิลลา เป็นไอศกรีมแท่ง รสไม่ค่อยเหมือนวานิลลา เนื้อแน่น แข็ง


สรุป
1. บรรยากาศร้านใหญ่มากๆ ใครที่ไปที่ไหนแล้วหลงง่าย ที่นี่ก็อาจจะเป็นอีกที่ที่จะหลงได้
2. พนักงานพูดอังกฤษไม่เก่งถึงไม่ค่อยได้
3. นอกจากที่เป็นอาหารเวียดนามแล้ว ใช้ไม่ค่อยได้สักเท่าไร