สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นเลยต้องขอฝากเนื้อฝากตัวก่อนนะคะ เนื่องจากเราและเพื่อนเป็นสองสาวที่รักการกินเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ในประเทศแดนปลาดิบแห่งนี้ เราเลยอยากจะทำรีวิวอาหารกับเค้าบ้าง เพราะใครๆก็รู้ว่าประเทศนี้เรื่องอาหารการกินนั้นไม่เป็นสองรองใคร ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนจะเจอร้านอาหารอยู่ทุกตรอกซอกซอยของถนน ร้านเล็กๆร้านใหญ่ๆดันอร่อยไม่แพ้กันอีกซะนี่ มีทั้งร้านที่เปิดตอนกลางวันและร้านที่เรียกได้ว่าเปิดทั้งคืน พูดได้ว่าถ้ามีสตางค์ในกระเป๋า รับรองว่าน้ำหนักพุ่งพรวดๆแน่นอนค่ะ
ตอนแรกของพวกเราทั้งที เราก็ขอจัดเต็มด้วยร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูเลยแล้วกันนะคะ ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน Onyasai (โอนยะไซ) มีมากกว่า 250 สาขาทั่วประเทศ ในโตเกียวก็มีหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นอุเอโนะ อิเคะบุกุโระ ชิบุย่า ชินจุกุ รปปงงิ จุดเด่นของร้านนี้ก็คือความหลากหลายและความยืดหยุ่นที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นคอร์สที่หลากหลาย มีทั้งบุฟเฟ่ต์และไม่บุฟเฟ่ต์หลายราคา นอกจากนั้นประเภทน้ำซุป เครื่องเคียง และของหวานก็มีให้เลือกหลายชนิด ราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพ เรียกได้ว่าไปครั้งแรกก็ประทับใจและต้องขอกลับมาจัดอีกแน่นอนค่ะ
จริงๆตอนแรกเราสองคนจะไปกินกันวันเสาร์ที่สาขาแถวบ้าน เลยคิดว่าไม่ต้องจองหรอก เดินเข้าไปเต็มค่ะ ต้องรออีกชั่วโมงครึ่ง เลยตัดสินใจจองวันพรุ่งนี้ตอนเย็นแทน ดังนั้นใครสนใจไปทานแนะนำให้จองก่อนนะคะ
บรรยากาศของร้านก็จะญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแบบนี้ล่ะค่ะ จะเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างส่วนตัว ไม่ต้องกินไปจ้องหน้าคนโต๊ะข้างๆไป
มาดูกันต่อที่ความหลากหลายของเมนูค่ะ แค่น้ำซุปก็ปาเข้าไป 7 น้ำซุป!!! มีซุปน้ำเต้าหู้ ซุปคัทสึโอะปลาตากแห้ง ซุปพริกเผ็ด ซุปยาจีน ซุปสุกี้ยากี้น้ำดำ ซุปสาหร่าย ซุปมะเขือเทศสุก และยังมีน้ำซุปแบบพิเศษที่จะผลัดเปลี่ยนมาเรื่อยๆตามฤดูกาลอีกด้วยค่ะ ตอนนี้จะมีเป็นน้ำซุปบ๊วย ส่วนเดือนหน้าเห็นว่าจะมีเป็นซุปต้มยำกุ้งด้วยค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกน้ำซุปได้สองซุปค่ะ
วันนี้เราเลือกกินคอร์สแบบบุปเฟ่ต์ราคา 2980 เยน (ไม่รวมvat 8%) ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเพิ่ม 380เยน (ไม่รวมvat 8%) เพื่อ soft drink ไม่อั้น และสามารถจ่ายเงินเพิ่มอีก 300 เยน (ไม่รวมvat 8%) เพื่อทานบุฟเฟ่ต์ของหวานด้วย โดยจะสามารถนั่งทานได้ 2 ชั่วโมง และ last order 90 นาทีค่ะ
เรามาดูรายละเอียดคอร์สบุฟเฟ่ต์คร่าวๆกันนะคะ สำหรับคอร์สบุฟเฟ่ต์ราคา 2,780 เยน สามารถสั่งได้เฉพาะหมูและไก่ค่ะ ส่วนคอร์ส 2,980 เยน จะสามารถสั่งเนื้อวัวเพิ่มเข้ามาได้ แต่ถ้าเพิ่มเป็นคอร์ส 3,580 เยนก็จะมีส่วนของเนื้อหมูอะคะกิให้เลือกด้วย เนื้อหมูอันนี้เค้าว่ากันว่าจะชุ่มฉ่ำและให้รสสัมผัสหวานนุ่มเด้งดึ๋งจากส่วนไขมันของมันนั่นเองค่ะ ส่วนสิ่งที่เพิ่มมาในคอร์สราคา 4,280เยน ก็คือ Japanese black wagyu นั่นเองค่ะ ส่วนคอร์สที่ราคาแพงที่สุดจะอยู่ที่ราคา 5,480 เยน จุดเด่นของคอร์สนี้ก็คือจะมี Japanese black wagyu ที่เนื้อนั้นจะมีคุณภาพสูงขึ้นนั่นเองค่ะ
สำหรับเราสาววัยพึ่งเรียนจบอย่างพวกเรา ก็ขอจัดบุฟเฟ่ต์ชุด 2,980 เยนไปก่อนนะคะ
วันนี้เราเลือกซุปเต้าหู้ คิดว่าแปลกดีและไม่เคยทานเลยจัดซะเลยค่ะ อีกซุปคือ สุกี้ยากี้ หรือซุปน้ำดำนั่นเอง
มาต่อกันที่เมนูผักและเครื่องเคียง! ถ้าสั่งบุฟเฟ่ต์แล้วล่ะก็ คุณคุณก็สามารถสั่งเมนูเหล่านี้ได้ไม่อั้นเลยจ้า แต่ถ้าใครมาสายกินน้อย ทางร้านก็มีแบบไม่บุฟเฟ่ต์ สั่งเป็นเซ็ตๆได้ด้วยจ้า
เมื่อสั่งเสร็จ นั่งรอสักพัก หม้อน้ำซุปก็มาเสิร์ฟค่ะ รสชาติของซุปเต้าหู้นั้นดีงามค่ะ รสชาติอ่อนๆ แต่ซดแล้วสดชื่น มีกลิ่นหอมของเต้าหู้ ส่วนเจ้าน้ำดำนั้น เราทั้งสองชอบมากเป็นการส่วนตัว เพราะว่ารสชาติกลมกล่อมมากๆเลยค่ะ ไม่เค็มจนไปเกินไป สามารถซดทานเปล่าๆก็อร่อยแล้วค่ะ
และแล้วเครื่องเคียงที่เราสั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ เจ้ามันฝรั่งอบชีสนี่มันฟินดีจริงๆค่ะ มันฝรั่งเนื้อนุ่มหอมชีสมาก แต่เครื่องเคียงอย่างอื่นก็รสชาติธรรมดาไม่ว้าวนะคะ
ในที่สุดดดดด เซตแรกที่ทางร้านจัดให้ก็มาแล้วว ร้านจะนำมาเสิร์ฟแบบนี้ให้ทุกโต๊ะเป็น starter menu นะคะ หลังจากนั้นเราถึงจะทำการสั่งเมนูอื่นเพิ่ม
เนื้อที่สามารถสั่งได้ทั้งหมดก็จะมีเนื้อหมูสันนอก/คาลบิ เนื้อไก่ อุมามิกิว(เนื้อวัวแปรรูป) และเนื้อวัวส่วนที่เป็น shoulder roast และ beef loin
ลองสั่งมากินดูทุกอย่างยกเว้นไก่ก็อร่อยหมดทุกอย่างค่ะ คุณภาพเนื้อไปด้วยกันได้ดีกับราคามาก แต่เนื้อที่ฟินมากที่สุดก็คือเนื้อที่มีชื่อว่า “อุมามิกิว” ที่สั่งมาสองสามรอบเลยทีเดียว ในเมนูเขียนว่าเป็นเนื้อแปรรูป เป็นเนื้อที่ไม่มีมัน ไม่รู้ว่าเค้าเอาไปแปรรูปท่าไหนแต่ว่ามันนุ่มมากกกกกกกและอร่อยมากค่ะ กดแนะนำรัวๆ
ทานไปทานมาก็อิ่มแปล้แล้วค่ะ หยุดของคาวแล้ว last order ด้วยของหวาน มีของหวานให้เลือกประมาณ 6-7 อย่าง แต่ในบุฟเฟ่ต์ 1 คนเลือกทานได้แค่ 1 เมนู แต่ถ้าอยากฟินกับของหวานแบบไม่อั้นก็สามารถเลือกจ่ายเพิ่ม 300 เยนได้ค่า วันนี้เราสองคนสั่งไอติมวานิลลาราดคาราเมลกับคินาโกะกับสตรอเบอร์รี่ชีสทาร์ต
สตรอเบอร์รี่ชีสทาร์ต ส่วนตัวคิดว่าตัวชีสทาร์ตจืดไปหน่อยแต่พอทานกับสตรอเบอร์รี่เปรี้ยวๆก็ทานได้เรื่อยๆจนหมดค่ะ
แต่ความฟินอยู่ที่เจ้าไอติมวานิลลาราดคาราเมลกับคินาโกะ หอม หวาน มัน ฟินสุดๆค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดของมื้อนี้ก็คนละประมาณ 3630 เยนค่า (รวม vat แล้ว) ถือว่ามื้อนี้อิ่มอร่อยและคุ้มค่าราคาจริงๆเลยนะคะเนี่ย สองสาวเราให้สามผ่านเลยค่ะ
การรีวิวครั้งแรกของเราสองคนก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตาม ท้องร้องจ๊อกจ๊อก ในตอนหน้าค่า รับประกันความหิวตามเพิ่มขึ้นทวีคูณอย่างแน่นอนค่า
สำหรับใครที่อยากดูข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูในเว็บไซต์ของร้านตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
http://www.onyasai.com
[CR] [Review/ รีวิว by ท้องร้องจ๊อกจ๊อก] ร้านอาหารสุดฟินในญี่ปุ่น เสนอตอนชาบูชาบู Onyasai (โอนยะไซ)
ตอนแรกของพวกเราทั้งที เราก็ขอจัดเต็มด้วยร้านบุฟเฟ่ต์ชาบูเลยแล้วกันนะคะ ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน Onyasai (โอนยะไซ) มีมากกว่า 250 สาขาทั่วประเทศ ในโตเกียวก็มีหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นอุเอโนะ อิเคะบุกุโระ ชิบุย่า ชินจุกุ รปปงงิ จุดเด่นของร้านนี้ก็คือความหลากหลายและความยืดหยุ่นที่ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นคอร์สที่หลากหลาย มีทั้งบุฟเฟ่ต์และไม่บุฟเฟ่ต์หลายราคา นอกจากนั้นประเภทน้ำซุป เครื่องเคียง และของหวานก็มีให้เลือกหลายชนิด ราคาก็สมเหตุสมผลกับคุณภาพ เรียกได้ว่าไปครั้งแรกก็ประทับใจและต้องขอกลับมาจัดอีกแน่นอนค่ะ
จริงๆตอนแรกเราสองคนจะไปกินกันวันเสาร์ที่สาขาแถวบ้าน เลยคิดว่าไม่ต้องจองหรอก เดินเข้าไปเต็มค่ะ ต้องรออีกชั่วโมงครึ่ง เลยตัดสินใจจองวันพรุ่งนี้ตอนเย็นแทน ดังนั้นใครสนใจไปทานแนะนำให้จองก่อนนะคะ
บรรยากาศของร้านก็จะญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแบบนี้ล่ะค่ะ จะเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างส่วนตัว ไม่ต้องกินไปจ้องหน้าคนโต๊ะข้างๆไป
มาดูกันต่อที่ความหลากหลายของเมนูค่ะ แค่น้ำซุปก็ปาเข้าไป 7 น้ำซุป!!! มีซุปน้ำเต้าหู้ ซุปคัทสึโอะปลาตากแห้ง ซุปพริกเผ็ด ซุปยาจีน ซุปสุกี้ยากี้น้ำดำ ซุปสาหร่าย ซุปมะเขือเทศสุก และยังมีน้ำซุปแบบพิเศษที่จะผลัดเปลี่ยนมาเรื่อยๆตามฤดูกาลอีกด้วยค่ะ ตอนนี้จะมีเป็นน้ำซุปบ๊วย ส่วนเดือนหน้าเห็นว่าจะมีเป็นซุปต้มยำกุ้งด้วยค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกน้ำซุปได้สองซุปค่ะ
วันนี้เราเลือกกินคอร์สแบบบุปเฟ่ต์ราคา 2980 เยน (ไม่รวมvat 8%) ลูกค้าสามารถจ่ายเงินเพิ่ม 380เยน (ไม่รวมvat 8%) เพื่อ soft drink ไม่อั้น และสามารถจ่ายเงินเพิ่มอีก 300 เยน (ไม่รวมvat 8%) เพื่อทานบุฟเฟ่ต์ของหวานด้วย โดยจะสามารถนั่งทานได้ 2 ชั่วโมง และ last order 90 นาทีค่ะ
เรามาดูรายละเอียดคอร์สบุฟเฟ่ต์คร่าวๆกันนะคะ สำหรับคอร์สบุฟเฟ่ต์ราคา 2,780 เยน สามารถสั่งได้เฉพาะหมูและไก่ค่ะ ส่วนคอร์ส 2,980 เยน จะสามารถสั่งเนื้อวัวเพิ่มเข้ามาได้ แต่ถ้าเพิ่มเป็นคอร์ส 3,580 เยนก็จะมีส่วนของเนื้อหมูอะคะกิให้เลือกด้วย เนื้อหมูอันนี้เค้าว่ากันว่าจะชุ่มฉ่ำและให้รสสัมผัสหวานนุ่มเด้งดึ๋งจากส่วนไขมันของมันนั่นเองค่ะ ส่วนสิ่งที่เพิ่มมาในคอร์สราคา 4,280เยน ก็คือ Japanese black wagyu นั่นเองค่ะ ส่วนคอร์สที่ราคาแพงที่สุดจะอยู่ที่ราคา 5,480 เยน จุดเด่นของคอร์สนี้ก็คือจะมี Japanese black wagyu ที่เนื้อนั้นจะมีคุณภาพสูงขึ้นนั่นเองค่ะ
สำหรับเราสาววัยพึ่งเรียนจบอย่างพวกเรา ก็ขอจัดบุฟเฟ่ต์ชุด 2,980 เยนไปก่อนนะคะ
วันนี้เราเลือกซุปเต้าหู้ คิดว่าแปลกดีและไม่เคยทานเลยจัดซะเลยค่ะ อีกซุปคือ สุกี้ยากี้ หรือซุปน้ำดำนั่นเอง
มาต่อกันที่เมนูผักและเครื่องเคียง! ถ้าสั่งบุฟเฟ่ต์แล้วล่ะก็ คุณคุณก็สามารถสั่งเมนูเหล่านี้ได้ไม่อั้นเลยจ้า แต่ถ้าใครมาสายกินน้อย ทางร้านก็มีแบบไม่บุฟเฟ่ต์ สั่งเป็นเซ็ตๆได้ด้วยจ้า
เมื่อสั่งเสร็จ นั่งรอสักพัก หม้อน้ำซุปก็มาเสิร์ฟค่ะ รสชาติของซุปเต้าหู้นั้นดีงามค่ะ รสชาติอ่อนๆ แต่ซดแล้วสดชื่น มีกลิ่นหอมของเต้าหู้ ส่วนเจ้าน้ำดำนั้น เราทั้งสองชอบมากเป็นการส่วนตัว เพราะว่ารสชาติกลมกล่อมมากๆเลยค่ะ ไม่เค็มจนไปเกินไป สามารถซดทานเปล่าๆก็อร่อยแล้วค่ะ
และแล้วเครื่องเคียงที่เราสั่งไปก็ทยอยมาเสิร์ฟ เจ้ามันฝรั่งอบชีสนี่มันฟินดีจริงๆค่ะ มันฝรั่งเนื้อนุ่มหอมชีสมาก แต่เครื่องเคียงอย่างอื่นก็รสชาติธรรมดาไม่ว้าวนะคะ
ในที่สุดดดดด เซตแรกที่ทางร้านจัดให้ก็มาแล้วว ร้านจะนำมาเสิร์ฟแบบนี้ให้ทุกโต๊ะเป็น starter menu นะคะ หลังจากนั้นเราถึงจะทำการสั่งเมนูอื่นเพิ่ม
เนื้อที่สามารถสั่งได้ทั้งหมดก็จะมีเนื้อหมูสันนอก/คาลบิ เนื้อไก่ อุมามิกิว(เนื้อวัวแปรรูป) และเนื้อวัวส่วนที่เป็น shoulder roast และ beef loin
ลองสั่งมากินดูทุกอย่างยกเว้นไก่ก็อร่อยหมดทุกอย่างค่ะ คุณภาพเนื้อไปด้วยกันได้ดีกับราคามาก แต่เนื้อที่ฟินมากที่สุดก็คือเนื้อที่มีชื่อว่า “อุมามิกิว” ที่สั่งมาสองสามรอบเลยทีเดียว ในเมนูเขียนว่าเป็นเนื้อแปรรูป เป็นเนื้อที่ไม่มีมัน ไม่รู้ว่าเค้าเอาไปแปรรูปท่าไหนแต่ว่ามันนุ่มมากกกกกกกและอร่อยมากค่ะ กดแนะนำรัวๆ
ทานไปทานมาก็อิ่มแปล้แล้วค่ะ หยุดของคาวแล้ว last order ด้วยของหวาน มีของหวานให้เลือกประมาณ 6-7 อย่าง แต่ในบุฟเฟ่ต์ 1 คนเลือกทานได้แค่ 1 เมนู แต่ถ้าอยากฟินกับของหวานแบบไม่อั้นก็สามารถเลือกจ่ายเพิ่ม 300 เยนได้ค่า วันนี้เราสองคนสั่งไอติมวานิลลาราดคาราเมลกับคินาโกะกับสตรอเบอร์รี่ชีสทาร์ต
สตรอเบอร์รี่ชีสทาร์ต ส่วนตัวคิดว่าตัวชีสทาร์ตจืดไปหน่อยแต่พอทานกับสตรอเบอร์รี่เปรี้ยวๆก็ทานได้เรื่อยๆจนหมดค่ะ
แต่ความฟินอยู่ที่เจ้าไอติมวานิลลาราดคาราเมลกับคินาโกะ หอม หวาน มัน ฟินสุดๆค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดของมื้อนี้ก็คนละประมาณ 3630 เยนค่า (รวม vat แล้ว) ถือว่ามื้อนี้อิ่มอร่อยและคุ้มค่าราคาจริงๆเลยนะคะเนี่ย สองสาวเราให้สามผ่านเลยค่ะ
การรีวิวครั้งแรกของเราสองคนก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ โปรดติดตาม ท้องร้องจ๊อกจ๊อก ในตอนหน้าค่า รับประกันความหิวตามเพิ่มขึ้นทวีคูณอย่างแน่นอนค่า
สำหรับใครที่อยากดูข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูในเว็บไซต์ของร้านตามลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
http://www.onyasai.com