ในตอนแรกก็มีความเห็นว่าตัวผมเองนั้นความจริงแล้วแค่กำลังทำไปตามความคิดของตน
และตัวผมนั้นก็เป็นในสิ่งที่ความคิดสมมติให้เป็น
นั่นเป็นสิ่งที่ผมมองเห็นจิตใจตนเองในก่อนหน้านี้
แล้วต่อมาผมก็ได้สังเกตุเห็นรายละเอียดของรูปแบบความคิดตัวเองมากขึ้น
ว่าเอ๊ะ!มันไม่เหมือนกันอยู่นะ
กล่าวคือรูปแบบหนึ่งนั้นเกิดขึ้นก่อนกระทำและอีกรูปแบบหนึ่งเกิดขึ้นได้หลังจากกระทำไปแล้ว
ประมาณว่าอย่างหนึ่งคือกิเลสตัณหา+กรรม และอีกอย่างหนึ่งคือกิเลสตัณหา+วิบาก
ผมสังเกตุได้ในความแตกต่างของตัวตนหรืออัตตานั้นว่า
อย่างแรกจะไม่มีตัวตนในความเป็นจะมีก็แต่เจตนาและการปลงใจ
ส่วนอย่างหลังจะมีตัวตนเป็นผู้แสดงตนในภพของความคิดนึก
เลยอยากถามว่าข้อนี้เป็นความก้าวหน้าหรือเปล่าครับ
หรือแค่นอนฝันไปเฉยๆ
เครดิตภาพ search google เอง
ความก้าวหน้าของอรชุนหรือแค่มโนไปเอง
และตัวผมนั้นก็เป็นในสิ่งที่ความคิดสมมติให้เป็น
นั่นเป็นสิ่งที่ผมมองเห็นจิตใจตนเองในก่อนหน้านี้
แล้วต่อมาผมก็ได้สังเกตุเห็นรายละเอียดของรูปแบบความคิดตัวเองมากขึ้น
ว่าเอ๊ะ!มันไม่เหมือนกันอยู่นะ
กล่าวคือรูปแบบหนึ่งนั้นเกิดขึ้นก่อนกระทำและอีกรูปแบบหนึ่งเกิดขึ้นได้หลังจากกระทำไปแล้ว
ประมาณว่าอย่างหนึ่งคือกิเลสตัณหา+กรรม และอีกอย่างหนึ่งคือกิเลสตัณหา+วิบาก
ผมสังเกตุได้ในความแตกต่างของตัวตนหรืออัตตานั้นว่า
อย่างแรกจะไม่มีตัวตนในความเป็นจะมีก็แต่เจตนาและการปลงใจ
ส่วนอย่างหลังจะมีตัวตนเป็นผู้แสดงตนในภพของความคิดนึก
เลยอยากถามว่าข้อนี้เป็นความก้าวหน้าหรือเปล่าครับ
หรือแค่นอนฝันไปเฉยๆ
เครดิตภาพ search google เอง