[CR] ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.6 Yutoku Inari Shrine + Beppu)


ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.1 Tenjin - Dazaifu) (https://ppantip.com/topic/36290215)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.2 from Fukuoka to Osaka) (https://ppantip.com/topic/36301621)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.3 Osaka amazing pass) (https://ppantip.com/topic/36318774)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.4 Universal Studios Japan) (https://ppantip.com/topic/36361659)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.5 Ainoshima Cats Island) (https://ppantip.com/topic/36390481)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.6 Yutoku Inari Shrine + Beppu) (https://ppantip.com/topic/36426971)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.7 a day in Yufuin) (https://ppantip.com/topic/36524102)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.8 Kumamon Lovers) (https://ppantip.com/topic/36993275)
ญี่ปุ่น 10 วัน - ฉันไม่ง้อทัวร์ (EP.9 Karato fishmarket+kokura castle) (https://ppantip.com/topic/37058810)



Day 6 : 8 ธันวาคม 2559

" จังหวัดซากะ " สถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จัก จากภาพยนตร์เรื่อง " Stay – ซากะ ฉันจะคิดถึงเธอ "
จุดมุ่งหมายหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาดูความสวยงามของภูมิภาคคิวชู โดยสถานที่ที่เราจะไปกันวันนี้คือศาลเจ้ายูโทคุอินาริค่ะ


เริ่มต้นเช้านี้ด้วยการนั่งรถไฟ JR จากสถานี Hakata ไปลงสถานี Hizen Kashima เราได้นั่งรถไฟแสนสวยสองขบวนค่ะ
(เพราะต้องเปลี่ยนรถ) ขบวนแรกเป็นขบวนรถไฟอันโด่งดังที่ใครเห็นก็ต้องชอบ นั่นคือ " Aso Boy " ที่ข้างโบกี้จะเพ้นท์รูปเจ้าคุโระ
สุนัขสีดำหน้าตาน่ารัก มาสค็อตประจำขบวน แต่ไม่ใช่แค่ข้างนอกนะคะ ข้างในยังมีอะไรให้ดูอีกเยอะเลย ^^




ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไป แทบจะไม่มีใครนั่งติดเก้าอี้เลยค่ะ นักท่องเที่ยวพากันเดินถ่ายรูปไปทั่วทั้งขบวน
เพราะว่าเจ้า Aso Boy เค้าตกแต่งได้น่ารักมาก เรามาดูข้างในกันดีกว่า เริ่มจากโบกี้ที่สองที่เราจองไว้ค่ะ
สีเบาะ สีผ้าม่าน น่ารักมากกก แถมมีเจ้าคุโระอยู่ทุกที่เลย




เอาล่ะ เจอที่นั่งแล้วก็วางของไว้ แล้วลุกไปถ่ายรูปเหมือนคนอื่นบ้าง ถ้าไม่จองไม่ใช่ว่าจะได้นั่งง่ายๆนะเนี่ยยย
ระหว่างทางเดินไปโบกี้ที่สามตกแต่งด้วยรูปของเจ้าคุโระเต็มไปหมด มีห้องสำหรับหลบมาโทรศัพท์ด้วยนะ จะได้ไม่รบกวนคนอื่น



ประตูหน้าต่างก็มีเจ้าคุโระอยู่นะ เหมือนเป็นรถไฟสำหรับครอบครัว มันเหมาะกับเด็กๆมากที่สุดเลย ^^



ถัดมาเป็นโบกี้ที่สาม โบกี้นี้ตกแต่งพิเศษด้วยสีขาวสะอาดและเป็นเบาะสองขนาดค่ะ ริมหน้าต่างจะเป็นเบาะเด็ก
ทำให้เด็กๆรู้สึกเหมือนนี่เป็นที่นั่งสำหรับเค้าโดยเฉพาะ แถมยังมีห้องสมุด คาเฟ่ ขนาดสนามเด็กเล่นยังมีเลย ใส่ใจผู้โดยสารมากๆ





ที่คาเฟ่มีพุดดิ้งคุมะมงด้วยนะ อร่อยมากเลย >< นอกจากอาหารแล้วก็ยังมีพวกของที่ระลึกขายอีกด้วย



มาถึงโบกี้สุดท้ายคือโบกี้ที่สี่ค่ะ โบกี้นี้ก็มีมุมถ่ายรูปหลายมุมเลย มีโปสการ์ดให้เราประทับตราแล้วเอากลับบ้านเป็นที่ระลึกได้ด้วยนะ
ส่วนโบกี้ที่หนึ่งที่ข้ามไปในตอนแรกก็จะเป็นหัวขบวนค่ะ จะคล้ายๆกับโบกี้ที่สี่นี้แหละ วิวสวยเหมือนกันค่ะ ^^







ตัดอารมณ์จากเจ้าคุโระแสนน่ารัก เปลี่ยนขบวนมาขึ้นเจ้าคาโมเมะ 787 นกนางนวลสีเทาสุดเท่และเคร่งขรึม
ถ้าเปรียบ Aso  Boy เหมือนคนในครอบครัวที่อบอุ่น เจ้าคาโมเมะนี่ก็เหมือนเพื่อนร่วมงานที่แสนเนี้ยบเลยแหละ




สำหรับขบวนนี้ไม่ได้ลุกไปไหนค่ะ นั่งแล้วนั่งเลย ไม่ค่อยมีอะไรให้ถ่ายเล่น 5555



พอมาถึงสถานี Hizen Kashima นะคะ เราต้องไปต่อรถบัส ให้เดินข้ามถนนไปที่ Kashima Bus Center
จุดสังเกตคือตึก Yutoku ค่ะ หน้าตาเหมือนในรูปเลย โชคดีตอนนั้นมีคุณลุงเดินออกมาค่ะ แกก็กวักมือเรียกเราเข้าไป



ดูตารางเวลาที่รถจะมา แล้วก็นั่งรอค่ะ เราจะขึ้นที่ Platform 3 ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็จะถึงศาลเจ้ายูโทคุอินาริ ค่ารถ 320 เยนค่ะ
คุณลุงน่ารักจัดการเอาตั๋วมาให้เราเสร็จสรรพ ถ้าหิวก็หาของกินได้ค่ะ อาหาร ของที่ระลึก ลุงก็ขาย ฝากกระเป๋าก็ได้นะ มีล็อคเกอร์ด้วย




ตอนนั้นเราแอบทำร้ายจิตใจลุงนิดๆด้วยการเดินไปเซเว่น พยายามแอบไปไม่ให้ลุงเห็น เดี๋ยวลุงน้อยใจว่าไม่ซื้อของลุง 555
เดินไปเจอฝาท่อของเมืองคาชิมะ นักล่าฝาท่ออย่างเราก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อยมาทั้งทีพลาดได้ไง


รถมาแล้วคุณลุงก็ยังมาส่งเราขึ้นรถอีกค่ะ แกน่ารักมากจริงๆ นั่งไปประมาณ 15 นาที รถก็จะไปส่งเราที่ท่ารถเล็กๆแถวศาลเจ้าค่ะ
มีพี่คนไทยสองคนเป็นแฟนกันนั่งมากับเราด้วย พอมาถึงศาลเจ้าเหลือกันอยู่ 5 คน แอบมองหน้ากันจำกันไว้เผื่อหลงด้วยนะ ฮ่าๆๆ



เรามาถึงก็เจอร้านข้างทางเต็มเลยค่ะ แต่เค้าไม่ขายกัน คิดว่าน่าจะเตรียมไว้สำหรับเทศกาล
เพราะรู้สึกว่าเย็นนี้จะมีงานแหละ แค่เห็นแผงก็อยากกินอยากอยู่ร่วมงานกับเค้า แต่เราไม่ได้ตั้งใจมาอยู่ทั้งวันน่ะสิ




เดินไปตามทางนี้จะมีร้านขายของตลอดสองข้างทางเลยค่ะ เดินกันไปยาวๆเลยจนกว่าจะเจอตัวศาลเจ้า
แต่ระวังเงินในกระเป๋าด้วยนะ เพราะของกิน ของฝาก มันล่อตาล่อใจเราเหลือเกิน ><








พ้นแนวร้านค้ามาก็จะเจอทางเข้าจริงๆค่ะ มีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกอยู่ด้วย ซึ่งตามตำนานเล่าว่า สุนัขจิ้งจอกเป็นผู้นำสาส์นของเทพเจ้าค่ะ


ผ่านเสาโทริอิหินมาแล้วทางซ้ายมือจะเป็นโชซุยะ คือสถานที่ชำระล้างร่างกายและจิตใจให้สะอาดก่อนไปไหว้ศาลเจ้าค่ะ
เค้ามีป้ายบอกวิธีการล้างเป็นภาษาไทยด้วยนะ เพราะว่าที่นี่คนไทยไปเที่ยวเยอะ แถมยังเคยถ่ายละครกลกิโมโนด้วย


(ภาพจากละครกลกิโมโน ขุ่นพี่เบิร์ดและขุ่นพี่น้ำผึ้ง)


และจุดนี้จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน สีสันสวยงามมาก ยิ่งใครมาฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะยิ่งสวยสุดๆเลยค่ะ




เดินผ่านประตูเข้ามาจะเจอลานตรงกลางค่ะ เย็นวันนี้จะมีงานที่เค้าจะเผากอไผ่นี้กันซึ่งเราไม่รู้เค้าเรียกว่าอะไร แหะๆ


(ไปต่อที่ คห.1 เลยจ้าาา ตัวอักษรเต็ม ><)
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่