หากมีเวลาสัก 6 วันในคิวชู เราชวนมุ่งหน้าลงไปทางใต้ จะขับรถเที่ยวเองก็ได้ หรือบางสถานที่สามารถเดินทางด้วยรถไฟก็สะดวก โดยในทริปนี้เราใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 6 วัน 5 คืนเพื่อที่จะสัมผัสกับประสบการณ์การท่องเที่ยวในอีกเส้นทางของประเทศญี่ปุ่น ที่จะพาคุณสนุกสนานไปกับการนั่งรถไฟคาแรกเตอร์ตัวการตูนที่หลายคนหลงรักอย่างเจ้าหมีคุมะมง พร้อมทั้งการได้ชมวิวธรรมชาติที่สวยงาม อาหารท้องถิ่นและผลไม้ตามฤดูกาลแสนอร่อย ไปตามรอยเอนิเมะเรื่องที่เราชอบ เดินเข้าออกพิพิธภัณฑ์น่าสนใจที่มีมากมาย แถมยังมีวัดและศาลเจ้าที่สายมูจะต้องไปเช็คอินให้ได้ และบางพิกัดก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอัพเดทล่าสุดที่ไม่ซ้ำใคร เรียกว่าอ่านบทความนี้แล้ว สามารถไปตามพิกัดที่ให้ไว้แต่ละที่ได้เลย

โดย 5 จังหวัดในทริปนี้สามารถแบ่งสถานที่ท่องเที่ยวตามจังหวัดได้ตามนี้  

สรุปแผนการเดินทาง 5 จังหวัดในภูมิภาคคิวชูตอนใต้มีดังนี้ 

จังหวัดคาโกชิม่า (Kagoshima)  (鹿児島県）
A.ไปนั่งรถไฟคุมะมง “Kumamon WrappingTrain”
B.เที่ยวเมืองอิซุมิ หมู่บ้านซามูไร “Samurai Residences”
C.น้ำตก “Sogi Falls” ว่ากันว่าเป็นไนแองการ่าแห่งเอเชีย
D.เที่ยวพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง “Kirishima Open Air Museum”
E.ชิมและชมที่โรงงานผลิตน้ำส้มสายชูดำคุโรซุ “Sakamoto Kurozu”

จังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) (宮崎県）
A.ศาลเจ้าอาโอชิม่า “Aoshima Shrine” มาขอพรกันเรื่องความรัก
B.“Takachiho Gorge” เป็นช่องเขาที่เกิดจากรอยแตกของภูเขา
C.“Amanoiwato Shrine/Amanoyasugawara Cave” ศาลเจ้าที่เป็นต้นกำเนิดประเทศญี่ปุ่น 

จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto) （熊本県）
A.“Aso Nakadake-Kusasenri” ไปขี้ม้าชมปากปล่องภูเขาไฟ  
B.นั่งรถไฟวันพีซ “ONE PIECE Sunny-go Train!”
C.“Kamishikimi Kumanoimasu Shrine” ศาลเจ้าที่ดูลึกลับและมีความขลัง

จังหวัดโออิตะ (Oita)（大分県）
“Shingeki no Kyoji Museum Annex” พิพิธภัณฑ์จัดแสดงภาพวาด “ผ่าพิภพไททัน”

จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka)（福岡県）
A.เมือง “Kurume” เก็บผลไม้​ ได้เกือบทุกฤดูกาล
B.“Daihonzan Naritasan Kurume Temple” วัดที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจ
C.“Jojima Sake Brewery” แหล่งรวมโรงงานผลิตสาเกมากที่สุดในญี่ปุ่น
D.วัด “Nyorinji Temple” วัดที่รวมไอเทมกบกว่า 10,000 ชิ้น
E.ล่องเรือ “Hakata-Nakasu River Cruise ชมพระอาทิตย์ตกดินที่แม่น้ำ Nakasu

---

พร้อมแล้วมาเริ่มออกเดินทางกัน! โดยเราเริ่มต้นที่นี่ที่ จังหวัดคาโกชิม่า (Kagoshima) 

 

A.ไปนั่งรถไฟคุมะมง “Kumamon WrappingTrain” 

Orange Railway วิ่งเส้นทางคุมะโมโตะ⇄คาโกชิม่า มีคาแรกเตอร์อื่นๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนี้มีคุมะมง มายเมโลดี้ คุโรมิ เป็นต้น  

วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟออกจากสถานี Shin-minamata (จังหวัดคุมะโมโตะ) ไปลงสถานี Izumi (จังหวัดคาโกชิม่า) ใช้เวลา 27 นาที ราคา  510 เยน

B. เที่ยวเมืองอิซุมิ หมู่บ้านซามูไร “Samurai Residences”

ถึงเมืองอิซุมิ เราเปลี่ยนชุดยูกาตะเพื่อเตรียมตัวไปเดินเล่นในหมู่บ้านซามุไรอิซุมิ-ฟูโมโตะ ก่อนเลย ที่นี่เป็นหมู่บ้านซามูไรเก่าแก่กว่า 400 ปี ที่หลงเหลือจากอดีตราวๆ 150 หลัง และปัจจุบันยังคงเป็นที่อาศัยของคนที่นี่ ที่หมู่บ้านซามูไรแห่งนี้ เราสามารถนั่งรถเกวียนโดยมีวัวแดงลากเกวียนพาชมหมู่บ้านซามูไรรอบๆได้ จะมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของหมู่บ้าน และนอกจากเดินเที่ยวในหมู่บ้านซามูไรแล้ว ยังสามารถใส่ชุดยูกาตะหรือกิโมโนไปร่วมพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นและทดลองเรียนโกโตะ (เครื่องดนตรีญี่ปุ่น) ได้อีกด้วย

วิธีเดินทาง : จากสถานี Izumi นั่งรถไฟประมาณ 5 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที

C.น้ำตก “Sogi Falls” ว่ากันว่าเป็นไนแองการ่าแห่งเอเชีย

กลับมาที่แหล่งผลิตน้ำส้มสายชูดำของคาโกชิม่ากันอีกรอบ มาทุกครั้งก็ต้องแวะซื้อ Black Vinegar ของคาโกชิม่ากลับไปทุกที เพราะคาโกชิม่าเป็นแหล่งผลิตน้ำส้มสายชูดำที่มีมาตั้งแต่อดีต ที่ทำการหมักลงในไห(สึโบะ) ตั้งไว้กลางแจ้ง ด้วยความที่จังหวัดคาโกชิม่านั้นมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการหมักน้ำส้มสายชู ทำให้รสชาตินั้นกลมกล่อมและมีคุณภาพดี โดย Sakamoto Kurozu ที่เราได้ไปรอบนี้ มองเห็นสึโบะที่หมักน้ำส้มสายชู วิวซากุระจิม่าสวยงามในวันที่อากาศดี แถมมีร้านอาหารด้วย อาหารทุกอย่างใช้คุโรซึในการประกอบอาหาร ส่วนของฝากที่เราซื้อกลับมาเองทุกครั้ง คือ อุเมะคุโรซึ (น้ำส้มสายชูดำ+น้ำบ๊วย) ผสมน้ำดื่มแล้วใส่น้ำแข็ง ดื่มได้เลย อร่อย และดีต่อสุขภาพด้วย กับวิตามินเสริมที่ผสมคุโรซึ อุดมไปดิวยวิตามินและคอลลาเจน รวมถึงน้ำสลัดด้วย

วิธีเดินทาง : จากสถานี Kokubu นั่งรถบัสประมาณ 40 นาที หรือนั่งแท็กซี่จากสถานีก็ได้
เราสิ้นสุดการเดินทางในจ.คาโกชิม่ากันที่นี่ แล้วไปกันต่อที่จ.มิยาซากิน้า