"ประเทศญี่ปุ่น" ดินแดนในฝันของนักเดินทางหลายๆคน
เป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราที่จะไปญี่ปุ่นครั้งแรกและใช้เวลายาวนานถึง 10 วัน ด้วยความที่คิดว่าไปทั้งที จะไปน้อยๆได้ยังไง
กำหนดการเดินทางของเราคือ 2-13 ธันวาคม 2559 ปักหมุดลงที่ฟุกุโอกะค่ะ แต่....(เอ๊ะทำไมมีแต่ 555) เราไม่ได้ไปแค่ฟุกุโอกะ
แต่เราไปถึงโอซาก้า!  อ้าว! ไปไงมาไง ทำไมอยู่ดีๆไปโผล่โอซาก้า อยากรู้ต้องติดตามค่ะ ><

ทริปนี้ใช้บริการสายการบินเวียดนามค่ะ ราคาตั๋วไปกลับอยู่ที่เจ็ดพันปลายๆ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิราวๆ 6 โมงเย็น
โดยจะแวะ transit ที่เวียดนามก่อนและบินต่อไปลงที่ฟุกุโอกะในตอนเช้า
(ราคานี้ฟูลเซอร์วิส รวมอาหาร เลือกที่นั่ง และน้ำหนักกระเป๋า30กก.)
สนามบิน Noibai ที่เราไป transit มีไวไฟฟรีให้เล่น หามุมสงบแล้วก็นอนดูหนังเพลินๆได้เลยค่ะ

เรามาถึงสนามบินฟุกุโอกะในตอนเช้า ประมาณเกือบๆแปดโมง ที่นี่เป็นสนามบินเล็กๆ ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่านค่ะ ตม.ก็ผ่านง่าย
ไม่ได้วุ่นวาย รับกระเป๋าเสร็จก็หยิบเสื้อกันหนาวคนละตัว เตรียมเข้าเมืองกันค่ะ เดินออกมาจากสนามบินจะมีจุดรอรถ โดยเราใช้บริการ Nishitetsu Airport Bus เพื่อไปยังสถานีฮากาตะ ซึ่งในช่วงนั้นมีโปรโมชั่นสำหรับผู้ถือบัตร JCB เราสามารถติดต่อรับตั๋วนี้ฟรีที่เคาน์เตอร์ JTB ในสนามบินได้เลยค่ะ (ราคาปกติดูได้ตามลิ้งค์นี้จ้า http://www.nishitetsu.jp/en/access/ )

พอไปถึงสถานีฮากาตะ พวกเราก็ไปจองเที่ยวรถไฟกับแลกตั๋วจริงที่ JR office จากนั้นก็เข้าที่พัก เก็บกระเป๋า
แล้วออกไปเดินเที่ยวกันค่ะ ที่แรกที่เราไปคือ เทนจิน(Tenjin) ย่านช้อปปิ้งใจกลางฟุกุโอกะที่มีร้านน่ารักๆมากมาย
ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า ร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นที่มาเดินกัน

มุมอาร์ทๆก็มีนะ ใครมาที่นี่น่าจะเดินชิวๆถ่ายรูปสวยๆได้เยอะเลยแหละ เพราะแต่ละร้านเค้าดีไซน์มาน่ารักมาก
แต่เราเหมือนมาเดินเซอเวย์เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปกันเท่าไหร่ ท้องก็หิวเลยตัดสินใจไปที่ต่อไปกันเลยดีกว่า

แทรกนิสสสนึงเรื่องการเดินทาง เราซื้อ Fukuoka Tourist City pass ค่ะ สำหรับใช้ 1 วัน ราคา 1,340 เยน
เวลาจะใช้ก็ขูดที่วันกับเดือนค่ะ ตอนขึ้นรถไฟก็โชว์พาสให้เจ้าหน้าที่ดูแค่นั้นเองค่าา สะดวกสบายจริงๆ

ช่วงบ่ายๆเรานั่งรถไฟไปที่ดาไซฟุ(Dazaifu)ค่ะ เพื่อไปศาลเจ้าเทนมันกุ(Tenmangu shrine)
นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ บรรยากาศก็ดี ออกจากสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวขวาตรงสี่แยกก็จะเจอร้านรวงมากมายตลอดสองข้างทาง
ทั้งร้านของฝาก ขนมอร่อยๆ และที่สำคัญ ที่นี่มีสตาร์บัคชื่อดังด้วยนะ

ของดีต้องลอง คือเจ้าดังโงะแสนอร่อย อร่อยมากกก ก ไก่ ล้านตัว เหนียวนุ่มหนึบ ซอสชุ่มฉ่ำ~

ขนมขึ้นชื่ออีกหนึ่งอย่างที่ห้ามพลาดก็คือ ขนมโมจิย่างไส้ถั่วแดง (Umegae-Mochi)
กรอบนอกนุ่มใน กินตอนอากาศหนาวๆนี่ได้อารมณ์มาก

ได้เวลาเข้าไปด้านในซะที หลังจากโดนดักด้วยของกินอร่อยๆมาหลายร้าน ประกอบกับท้องที่ร้องโครกครากตั้งแต่เช้า
และสิ่งที่เรารอคอยจะได้เจอก็มาถึงแล้ว เจ้าใบไม้แดงแสนสวยยยย หูยยย ครั้งแรกในชีวิตเลยนะเนี่ย ><

ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่อยู่กับเจ้าใบไม้แดง หันมองรอบๆอีกทีคนก็หายไปหมดแล้ว เลยเดินตามคนอื่นๆเข้าไป
มาเจอเจ้าวัวนอนอ้วนอยู่และมีเด็กๆมาลูบไล้เจ้าวัวกันอย่างเมามัน 555 นักท่องเที่ยวเองก็มาลูบกันใหญ่เลย
ว่ากันว่า ถ้ามาลูบวัวตัวนี้และอธิษฐานขอพรในเรื่องการเรียนก็จะประสบความสำเร็จ

ก่อนจะไปถึงตัวศาลเจ้าข้างใน จะต้องข้ามสะพานสีแดงก่อน จุดนี้สวยมากก รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ น้ำก็ใส อากาศก็ดี

มาถึงจุดที่ผู้คนจะเดินเข้าไปสักการะข้างในตัวศาลเจ้ากัน เห็นคนต่อคิวยาวมากก
เราเป็นพวกไม่ชอบรอเลยเดินวนดูรอบๆก่อนจะเดินกลับออกไป

มีนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยมาที่นี่ เราเลยได้เห็นภาพครอบครัวน่ารักๆ
รวมไปถึงภาพของเพื่อนสาวที่ชวนกันมาสร้างความทรงจำเหมือนพวกเรา

ได้เวลาอาหารเย็นแล้ววว เราจะไปฝากท้องที่ห้างโยโดบาชิกัน แต่กว่าจะถึงก็หาอะไรรองท้องก่อนดีกว่า
เลยไปแวะที่แฟมิลี่มาร์ทตรงสี่แยก มาเจอเจ้าถิ่นตัวอ้วนนอนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่หน้าร้าน

ฝากท้องไว้กับอะไรน่ะเหรอ... ข้าวปั้นนั่นเองงงง เวลาดูราคาให้ดูที่รวม Tax แล้วนะ

พออยู่ท้องแล้วก็ขึ้นรถไฟ ไปต่อๆๆ ไปห้างโยโดบาชิกันค่ะ เพราะสาขานี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักเรา คือแถวๆสถานีฮากาตะ
เป็นร้านขายเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ปลอดภาษียอดนิยมของนักท่องเที่ยว แต่ก็มีอย่างอื่นด้วยน้าาไม่ได้มีแค่เครื่องใช้ไฟฟ้า
เครื่องสำอางค์ ร้านอาหาร รวมอยู่ในนี้หมดแล้ว ว่าแล้วก็ไปหาอาหารเย็นดีกว่า แหะๆ

มาดูหน้าตาอาหารของพวกเราสามคนกัน ขอบอกว่าอร่อยมากกก เป็นร้านอูด้งเล็กๆ ที่อยู่ชั้นไหนก็ไม่รู้จำไม่ได้
นี่เป็นการกินอาหารในร้านอย่างจริงจังร้านแรกของทริปเลยนะ ซดอูด้งร้อนๆหลังจากฝ่าอากาศหนาวมานี่มันดีจริงๆ

อิ่มแล้วไปไหนต่อ หึหึ เกมเซนเตอร์จ้าาาา ไปค่ะพุ่งเข้าไปหากาจาปองกัน ฮิ้วววว~~~~

หลังจากค้นพบว่าทุกคนเริ่มจะควบคุมการเงินตัวเองไม่ได้ เลยตัดสินใจกลับไปนอนเอาแรงดีกว่า
เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางข้ามภูมิภาคกัน หูยยยยย อะไรยังไง ต้องไปติดตามใน EP.2 นะ แต่ตอนนี้กลับที่พักก่อน แหะๆ

ที่พักของเราอยู่ใกล้สถานีฮากาตะค่ะ สามารถเดินไปได้ไม่ไกลมาก ช่วงที่เราไปมีอีเว้นท์คริสมาสต์อยู่พอดี
ข้างหน้าสถานีจัดงานประดับไฟยิ่งใหญ่สวยงามมาก มีลานเบียร์ มีดนตรีเล่นสด ดี๊ดีย์อ่าาา~~~

ปิดท้ายวันแรกด้วยการรีวิวที่พักกันดีกว่า ที่พักของเราอยู่ในอพาร์ทเมนท์ชื่อ pure dome เดินมาจากสถานีฮากาตะนิดเดียวก็ถึง
เราจองผ่าน air bnb ในราคา 7960 บาท/คน/10 คืน พักที่นี่เรารู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านตัวเองยังไงก็ไม่รู้
คุณยูเจ้าของห้องพักมีข้าวของเครื่องใช้ไว้ให้เราแทบทุกอย่าง เตาอบ ไมโครเวฟ ตู้เย้น ตู้กดน้ำดื่ม ฮีทเตอร์
ที่นอนก็นุ่มมากก ชักโครกก็อุ๊นอุ่น 5555 แบบนี้นี่เองที่เค้าเรียกกันว่าชักโครกอุ่นตู๊สสสส

อวดนิดนึง นี่คือกาจาปองวันแรกของพวกเรา ให้ตายเถอะ มาเพื่อสิ่งนี้เหรออออ

ติดตาม EP.2 กันต่อด้วยน้าา ทริปนี้ยาวๆเลยสิบวัน ตามไปที่ลิ้งค์นี้เลย (https://ppantip.com/topic/36301621)
ลากันไปด้วยโยเกิร์ตเมจิยักษ์จาก Lawson กินเพียวๆนี่หน้าเบ้เลยจะบอกให้
แต่กินคู่คอนเฟลคเป็นอาหารเช้านี่ใช้ได้เลยแหละ มีติดตู้เย็นไว้ก็ดีนะ ^^