วันนี้นั่งเปิดดูรูปเก่าๆ 8 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนัก จนถึงตอนนี้
ผมไม่อ้วนขึ้นเลย
ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเริ่มจากการลดน้ำหนัก ผ่าตัดหน้าอก และเทคฮอร์โมนเพื่อทำการข้ามเพศต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/35635454
ช่วงปี 52 เรียนจบอยากหุ่นดี ใส่ชุดครุยสวยๆ รับปริญญา นั่นคือจุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก (หนัก 83 กก.)
วิธีการลดของผมใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป 8 เดือนลดลงมาอยู่ที่ 60 กก. ผมใช้การวิ่ง และคุมอาหาร นับแคล
ตามกระทู้ข้างล่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/32483821
วิธีนับแคลและค่า BMI
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/32848269
สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก 8 ปีที่ผ่านมาในการลดน้ำหนักให้ยั่งยืน (ที่คนส่วนใหญ่มักทำไม่ได้) คือ
1.อย่ากดดันตัวเอง เวลาคุณกินมันก็ใช้เวลาในการสะสม ไม่ใช่กินวันนี้ อ้วนพรุ่งนี้ คุณกินมานาน คุณไม่ใช้พลังงาน
มันก็สะสม กินมา 10 ปี จะเอาออกภายใน 10 วันมันเป็นไปไม่ได้ ยิ่งรีบยิ่งย้วยยิ่งโทรม
2.อย่าอดอาหาร ในตอนแรกมันเหมือนจะลดเร็ว แต่ที่มันลดไปไม่ใช่ไขมัน มันคือ น้ำและมวลกล้ามเนื้อ
(กล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญ)ร่างกายมันฉลาดนะ พอคุณอดอาหาร ร่างกายมันจะพยามเซฟพลังงานลดการเผาผลาญ
เพื่อความอยู่รอด อีกอย่างคุณกินน้อยไปไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก วันนึงที่คุณกลับมากินเยอะ นั่นหล่ะครับ ที่ชอบเรียกว่าโยโย่
ระบบเผาผลาญมันทำงานไม่ทัน ร่างพัง อ้วนกระจายไป
3.แบ่งกินเป็นมื้อย่อยๆ เน้นโปรตีนและอาหารที่มีไฟเบอร์ ผมกินวันละ 5-6 มื้อ ตามที่เคยรีวิวไว้ ร่างกายมีเวลาย่อยและสามารถนำ
สารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วงแรกผมเน้นการออกกำลังกายแบบ คาดิโอ 45 - 60 นาที ทำ 4 วันพัก 1 -2 วัน ทำวนไป
เมื่อน้ำหนักลดอยู่ในระดับนึง ผมเริ่มเวทเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้ดูเฟิร์ม ที่เล่นผมไม่เน้นกล้ามใหญ่ ผมชอบแบบลีนๆ
เห็นลายกล้ามเนื้อสวยๆ (คุณผู้หญิงไม่ต้องกลัวมีกล้ามครับ เพราะสรีระและฮอร์โมนต่างจากผู้ชายคุณต้องเล่นหนักมากๆจึงจะมีกล้าม
ผู้หญิงเล่นแบบเน้นกระชับสัดส่วน)ส่วน 6 pack กล้ามเนื้อหน้าท้องทุกคนมีแต่ที่เรามองไม่เห็นเพราะไขมันบังครับ
ต่อให้ซิทอัพ แพลงก์ ครัชน์ หนักยังไงถ้ามีไขมันส่วนเกินที่หน้าท้องกล้ามเนื้อส่วนนี้ก็จะไม่ชัดเจน แปลว่าถ้าอยากมี 6 pack
คุณต้องเล่นคาดิโอเพื่อลดมวลไขมันทั่วร่างด้วย
โดยส่วนตัวผมเองก็ยังไม่มี 6 pack ที่ชัดเจนเพราะยังมีมวลไขมันที่ท้องอยู่ ก็ยังต้องพยายามต่อไป
5.ข้อนี้สำคัญสุด การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนจริงๆ คือการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต คุณต้องปรับการกินและนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ให้ได้ แต่ไม่ใช้คุมจนโน่นก็ไม่กิน นี่ก็ไม่กิน ร่างกายมันรับไม่ไหว และสิ่งที่หายไปคือความสุขในการได้ลิ้มรสครับ
ผมกินบุฟเฟ่ กินโทสต์ กินบิงซู กินขนมปัง เค้ก เบอร์เกอร์ พิซซ่า ฯลฯ ผมไม่เคยอดเลย แต่เวลาผมกินผมไม่ได้ซัดแหลก
ซัดทุกวัน โดยวันปกติ ผมกินข้าวราดแกง สลัดผัก ไก่ย่าง ขนมปัง นม แต่แบ่งเป็นมื้อ เน้นผัก ข้าวกล้อง โปรตีน เป็นหลัก
เลี่ยงของทอด ของมัน ไขมัน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เป็นวัน ฟรีเดย์ แต่ก็กินพอเหมาะนะครับ ไม่ใช่ฟรีเดย์แล้วซัดแหลก
ที่สำคัญอย่าละเลยการออกกำลังกายนะครับ
การลดความอ้วนที่ยั่งยืนคือการเปลี่ยนวิถีชีวิต อย่าทำๆหยุดๆ ต้องมีวินัย แต่ไม่ใช่การกดดันตัวเองจนไม่มีความสุข
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ ติดตามพูดคุยกันได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/napat.sone.5
ช่วงนี้หลังผ่าตัดออกกำลังกายไม่ได้
กลับมาออกกำลังกายได้
8 ปีได้เท่านี้สำหรับผมถือว่าประสบความสำเร็จ
ลิ้งค์สกู๊ปข่าวที่ผมเคยไปออกครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.voicetv.co.th/world/444348.html
ผมใช้เวลา 10 เดือนหลังจากการผ่าตัดและเทคฮอร์โมน ไม่ได้รีบครับค่อยๆลดค่อยๆทำ
เหนื่อยบ้าง เบื่อบ้าง ท้อบ้าง แต่ไม่เคยหยุด จนได้หุ่นแบบนี้ ผมไม่ใช้อาหารเสริมใดๆ (เวย์ก็ไม่ได้กิน)
ถามตัวเองดูครับว่าความสุขคืออะไร ถ้าคำตอบคือการได้กินในสิ่งที่ชอบก็ทำต่อไป
ถ้าคำตอบคือ สุขภาพ ความคล่องตัว บุคลิกภาพที่ดี ก็ตั้งเป้าหมายและเริ่มลงมือทำครับ
ผมเป็นกำลังใจให้ สู้ๆครับ
ปล.กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและให้เกียรติในเพศสภาพของผมด้วยครับ
ถ้าชอบกดโหวตเป็นกำลังใจให้ผมบ้างนะครับ ^^
ขอบคุณครับ
][ 8 ผ่านไป ][ เราไม่อ้วนขึ้นเลย How to sixpack.
วันนี้นั่งเปิดดูรูปเก่าๆ 8 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มลดน้ำหนัก จนถึงตอนนี้ ผมไม่อ้วนขึ้นเลย
ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองโดยเริ่มจากการลดน้ำหนัก ผ่าตัดหน้าอก และเทคฮอร์โมนเพื่อทำการข้ามเพศต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงปี 52 เรียนจบอยากหุ่นดี ใส่ชุดครุยสวยๆ รับปริญญา นั่นคือจุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนัก (หนัก 83 กก.)
วิธีการลดของผมใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป 8 เดือนลดลงมาอยู่ที่ 60 กก. ผมใช้การวิ่ง และคุมอาหาร นับแคล
ตามกระทู้ข้างล่างครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิธีนับแคลและค่า BMI
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สิ่งที่ผมเรียนรู้จาก 8 ปีที่ผ่านมาในการลดน้ำหนักให้ยั่งยืน (ที่คนส่วนใหญ่มักทำไม่ได้) คือ
1.อย่ากดดันตัวเอง เวลาคุณกินมันก็ใช้เวลาในการสะสม ไม่ใช่กินวันนี้ อ้วนพรุ่งนี้ คุณกินมานาน คุณไม่ใช้พลังงาน
มันก็สะสม กินมา 10 ปี จะเอาออกภายใน 10 วันมันเป็นไปไม่ได้ ยิ่งรีบยิ่งย้วยยิ่งโทรม
2.อย่าอดอาหาร ในตอนแรกมันเหมือนจะลดเร็ว แต่ที่มันลดไปไม่ใช่ไขมัน มันคือ น้ำและมวลกล้ามเนื้อ
(กล้ามเนื้อช่วยในการเผาผลาญ)ร่างกายมันฉลาดนะ พอคุณอดอาหาร ร่างกายมันจะพยามเซฟพลังงานลดการเผาผลาญ
เพื่อความอยู่รอด อีกอย่างคุณกินน้อยไปไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก วันนึงที่คุณกลับมากินเยอะ นั่นหล่ะครับ ที่ชอบเรียกว่าโยโย่
ระบบเผาผลาญมันทำงานไม่ทัน ร่างพัง อ้วนกระจายไป
3.แบ่งกินเป็นมื้อย่อยๆ เน้นโปรตีนและอาหารที่มีไฟเบอร์ ผมกินวันละ 5-6 มื้อ ตามที่เคยรีวิวไว้ ร่างกายมีเวลาย่อยและสามารถนำ
สารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4.ออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วงแรกผมเน้นการออกกำลังกายแบบ คาดิโอ 45 - 60 นาที ทำ 4 วันพัก 1 -2 วัน ทำวนไป
เมื่อน้ำหนักลดอยู่ในระดับนึง ผมเริ่มเวทเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อให้ดูเฟิร์ม ที่เล่นผมไม่เน้นกล้ามใหญ่ ผมชอบแบบลีนๆ
เห็นลายกล้ามเนื้อสวยๆ (คุณผู้หญิงไม่ต้องกลัวมีกล้ามครับ เพราะสรีระและฮอร์โมนต่างจากผู้ชายคุณต้องเล่นหนักมากๆจึงจะมีกล้าม
ผู้หญิงเล่นแบบเน้นกระชับสัดส่วน)ส่วน 6 pack กล้ามเนื้อหน้าท้องทุกคนมีแต่ที่เรามองไม่เห็นเพราะไขมันบังครับ
ต่อให้ซิทอัพ แพลงก์ ครัชน์ หนักยังไงถ้ามีไขมันส่วนเกินที่หน้าท้องกล้ามเนื้อส่วนนี้ก็จะไม่ชัดเจน แปลว่าถ้าอยากมี 6 pack
คุณต้องเล่นคาดิโอเพื่อลดมวลไขมันทั่วร่างด้วย
โดยส่วนตัวผมเองก็ยังไม่มี 6 pack ที่ชัดเจนเพราะยังมีมวลไขมันที่ท้องอยู่ ก็ยังต้องพยายามต่อไป
5.ข้อนี้สำคัญสุด การลดน้ำหนักที่ยั่งยืนจริงๆ คือการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต คุณต้องปรับการกินและนำมันมาใช้ในชีวิตประจำวัน
ให้ได้ แต่ไม่ใช้คุมจนโน่นก็ไม่กิน นี่ก็ไม่กิน ร่างกายมันรับไม่ไหว และสิ่งที่หายไปคือความสุขในการได้ลิ้มรสครับ
ผมกินบุฟเฟ่ กินโทสต์ กินบิงซู กินขนมปัง เค้ก เบอร์เกอร์ พิซซ่า ฯลฯ ผมไม่เคยอดเลย แต่เวลาผมกินผมไม่ได้ซัดแหลก
ซัดทุกวัน โดยวันปกติ ผมกินข้าวราดแกง สลัดผัก ไก่ย่าง ขนมปัง นม แต่แบ่งเป็นมื้อ เน้นผัก ข้าวกล้อง โปรตีน เป็นหลัก
เลี่ยงของทอด ของมัน ไขมัน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เป็นวัน ฟรีเดย์ แต่ก็กินพอเหมาะนะครับ ไม่ใช่ฟรีเดย์แล้วซัดแหลก
ที่สำคัญอย่าละเลยการออกกำลังกายนะครับ
การลดความอ้วนที่ยั่งยืนคือการเปลี่ยนวิถีชีวิต อย่าทำๆหยุดๆ ต้องมีวินัย แต่ไม่ใช่การกดดันตัวเองจนไม่มีความสุข
ผมเป็นกำลังใจให้นะครับ ติดตามพูดคุยกันได้ที่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ช่วงนี้หลังผ่าตัดออกกำลังกายไม่ได้
กลับมาออกกำลังกายได้
8 ปีได้เท่านี้สำหรับผมถือว่าประสบความสำเร็จ
ลิ้งค์สกู๊ปข่าวที่ผมเคยไปออกครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมใช้เวลา 10 เดือนหลังจากการผ่าตัดและเทคฮอร์โมน ไม่ได้รีบครับค่อยๆลดค่อยๆทำ
เหนื่อยบ้าง เบื่อบ้าง ท้อบ้าง แต่ไม่เคยหยุด จนได้หุ่นแบบนี้ ผมไม่ใช้อาหารเสริมใดๆ (เวย์ก็ไม่ได้กิน)
ถามตัวเองดูครับว่าความสุขคืออะไร ถ้าคำตอบคือการได้กินในสิ่งที่ชอบก็ทำต่อไป
ถ้าคำตอบคือ สุขภาพ ความคล่องตัว บุคลิกภาพที่ดี ก็ตั้งเป้าหมายและเริ่มลงมือทำครับ
ผมเป็นกำลังใจให้ สู้ๆครับ
ปล.กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพและให้เกียรติในเพศสภาพของผมด้วยครับ
ถ้าชอบกดโหวตเป็นกำลังใจให้ผมบ้างนะครับ ^^
ขอบคุณครับ