**ถ้าไม่อยากอ่านอารัมภบท ก็ตัดลงไปอ่านที่ส่วนผสมกันเลยนะเพ่ !!**
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Pantip ครับ วันนี้มีเมนูแปลกแหวกแนวมานำเสนอ โดยไม่ได้ตั้งใจ สืบเนื่องจากมี “เศษหัวท้ายเบคอน” ที่พี่ส่งมาให้จากต่างจังหวัด ค้างหลงเหลืออยู่ในช่องฟรีซมานานแรม 2 เดือนเห็นจะได้ ตอนแรกกะจะเอามาทำข้าวผัด เลยเอาไปแช่น้ำทั้งถุง เพื่อละลายเบคอนแช่แข็ง แต่ปรากฏว่าถุงรั่ว น้ำเข้าไปในถุงเบคอนหมด จะเอาใส่ข้าวผัดทั้งหมดก็เยอะเกินไปตั้ง 1 กก. จะเอาทอดก็ไม่ได้เพราะเป็นน้ำ ฝืนทอดไปครัวเละแน่ หุหุ!! จะเอาไปอบก็เกรงว่าจะกินไม่หมด และเลี่ยน !! จะเอากลับไปแช่แข็งเหมือนเดิมก็กะไรอยู่ เฮ้ออ เอาไงดีฟระ ตั้ง 1 กก. เลยไปรื้อ ๆ ดูในตู้เก็บอาหารแห้ง แท๊น แทน แท้น..... ไปเจอเครื่องแกงฮังเล !! และส่วนผสมอื่น ๆ ก็มีครบ โอ๊ว...พระเจ้าจ๊อด..มันยอดมว๊ากก...
และนี่..ก็คือเครื่องแกงฮังเลย์..ของแท้แน่นอน ไม่ได้ใช้ผงกะหรี่นะครับ (สำหรับส่วนที่ขาดไปหาไม่เจอ 555 และในรูปนี้คือมันเหลืออยู่ประมาณ ½ ซอง) สำหรับเครื่องแกงฮังเลย์ซองนี้ 1 ซองใช้ต่อหมูหรือเนื้อ 2 กก. และถ้าจะใช้มากหรือน้อยกว่านี้ก็คำนวณเองละกันเนอะ ^_^
มามา..เข้าเรื่องกันซะที อารัมภมาหลายบทละ เริ่มทำกันได้ซะที !! อันดับแรกที่ต้องมีคือ เศษหัวท้ายเบคอน และทำไมถึงต้องเศษหัวท้ายเบคอน ? >> ตอบ เพราะมันทั้งชิ้นใหญ่และหนา บักเอ๊ก !! ถ้าจะใช้เบคอนที่ขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปทำแล้วละก็ คงเละแน่นอน ซึ่งมันทั้งบางและเล็ก !!
เอาละ มาดูส่วนผสมทั้งหมดกันนะครับ และอยากจะบอกว่านี่เป็นการเปิดเผยส่วนผสมและวิธีทำสูตรลับของยาย ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน แต่ถ้าจะบอกว่า บอกหมดเลยก็ไม่เชิง เพราะไม่ได้บอกละเอียดถึงว่าใส่ส่วนผสมแต่ละอย่างเท่าไหร่ กี่กรัม เพราะมันปรับเปลี่ยนตามวัตถุดิบที่ได้มา ซึ่งการทำแกงฮังเลเบคอนนี้ ก็จะลดส่วนผสมของซีอิ้ว และตัดเกลือออก เนื่องจากเบคอนมีความเค็มอยู่แล้ว แต่จะเก็บสูตรไว้เองก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใด แต่ถึงอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคนทำอีกนั่นแหละ 555
สำหรับแกงฮังเลนี้ ส่วนมากทางภาคเหนือ(ออกนอกเมืองหน่อยนะ เพราะส่วนมากในตัวเมืองเค้าจะไม่จัดเลิ้ยงเยอะขนาดนี้ เค้าจะทำเหมือนงานที่จัดใน กทม. คือเอาไว้ที่วัด เลี้ยงข้าวต้ม หรืออาหารว่างตอนเย็นจบ !! แต่ถ้าเป็นพิธีดั้งเดิม งานจะจัดกี่วัน ก็เลี้ยงมันทุกวันทุกมื้อนั่นแหละ กินกันจนเจ้าภาพหมดตัว 555) ส่วนมากจะทำกันตอนงานศพ ล้มหมู ล้มวัว กันมาเป็นตัว ๆ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน และแลดูว่าเจ้าภาพ ที่ทำแกงฮังเล หรือทำอาหารที่มีเนื้อเยอะ ๆ เลี้ยงแขกนี้ ดูออกจะภูมิฐาน ดูค่อนข้างมีฐานะหน่อย เนื่องจากมีแต่เนื้อล้วน ๆ และราคาค่อนข้างแพง ไม่มีผักอะไรมาเป็นส่วนผสมเลย ลองไปถามคนแถวภาคเหนือดูว่า การทำแกงฮังเลเลี้ยงแขกเฉพาะวันเผาศพ 1 หม้อนั้น ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ ? หุหุ และถ้าแกงฮังเลเหลือ หลังจากแขกเหรื่อที่มากินกันแล้ว ทั้งเหลือในหม้อ และเหลือในถ้วยตามโต๊ะต่าง ๆ นั้น เค้าก็จะเอามารวมกันในหม้อ และทำ “แกงโฮะ” เพื่อเลี้ยงคนที่มาช่วยงานหลังจากเผาศพแล้วต่อไป แต่ความอร่อยนี่ อยากจะบอกว่าฟินเลย ไว้มีโอกาส จะมารีวิว แกงโฮะ ให้ได้รับอ่านและรับชมกันนะครับ (แต่สำหรับสมัยนี้เค้าไม่ค่อยเอาแกงฮังเลเหลือตามโต๊ะ คืนกลับมาใส่หม้อ เนื่องจากจะทำให้บูดแล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อโรคจากคนสู่คนด้วย โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบ !!)
เอ๊า
ดด !! เริ่มโมโหตัวเอง ยิ่งโม้ยิ่งมัน มาดูส่วนผสมกันจริง ๆ จัง ๆ ซะทีนะ 555
ส่วนผสมแกงฮังเลเบคอน โดยประมาณ
1. เศษหัวท้ายเบคอน 1 กก.
2. เครื่องแกงฮังเลย์ 1 ซอง (ใช้จริงแค่ครึ่งซองเพราะอะไรย้อนกลับไปอ่านดูนะ หุหุ)
3. กระเทียมดอง 2 หัว พร้อมน้ำกระเทียมดอง (จขกท. ซื้อมาเป็นแบบถ้วยพลาสติก 1 ถ้วย และใส่หมดเลย)
4. น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
5. พริกแกงเผ็ด 50 กรัม
6. น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
7. กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
9. ซีอิ้วดำ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำเบคอนมาหั่นชิ้นประมาณซัก 1 นิ้วใส่ในหม้อ และนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อ ยกเว้นน้ำมะขามเปียก และเครื่องแกงฮังเลให้ใส่ในขั้นตอนนี้เพียง ¼ ซองเท่านั้น
ต่อจากนั้นคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันโดยใช้มือ ย้ำ !! ให้ใช้มือ จะใส่หรือไม่ใส่ถุงมือก็แล้วแต่คนทำนะ หุหุ พอคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เท่ากันแล้ว ให้หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชม. หรือถ้ามีเวลาหน่อยก็ประมาณ 3 – 4 ชม. ก็จะดีมาก ซึ่งจะทำให้น้ำและน้ำมันในเนื้อหมูนั้นซึมออกมา แต่ถ้าอยากจะใส่น้ำเปล่าก็ได้ ในกรณีที่ดูแล้วว่าน้ำน้อยกลัวจะไหม้ แต่ไม่ควรเกิน 1 ถ้วยเล็ก สำหรับ จขกท. ไม่ได้ใส่น้ำเปล่าเบยยย..
หลังจากหมักได้ที่แล้ว ก็นำขึ้นไปตั้งไฟกลาง กรณีถ้าใช้หมู 3 ชั้นทำ แนะนำให้ใช้เตาถ่านจะดีที่สุด หรือถ้าไม่มีก็ใช้เตาแก๊สไฟอ่อน ถึงกลาง คนบ่อย ๆ ในช่วงแรกจนกว่าน้ำมันหมูจะออกมาเยอะ ถ้าไม่อย่างงั้นแล้ว ไหม้แน่นอน และไม่แนะนำให้ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อลองดู !! สำหรับหมู 3 ชั้นต้องใช้เวลาตุ๋นประมาณ 3 ชม. เห็นจะได้ ไม่อย่างงั้นหมูจะไม่นุ่มและเปื่อย เหนียวติดฟันแน่นอน
แต่สำหรับแกงฮังเลเบคอนนี้ สามารถใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ระดับไฟกลางได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเคี่ยวนานใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชม. 30 นาที ไม่รวมหมักหมู แต่ถ้าอยากอร่อยยิ่งขึ้น แนะนำว่าเก็บไว้และนำมาอุ่นกินในวันถัดไป ถ้าอดใจไหวนะ !! อ้อ เกือบลืมไป หลังจากที่ดูว่าหมูสุกและเปื่อยได้ที่แล้ว ให้ใส่น้ำมะขามเปียกลงไป เพื่อที่จะได้ตัดเปรี้ยวหน่อยและอีกอย่างน้ำมะขามเปียกจะช่วยทำให้เนื้อหมูจับตัวกัน ไม่เละ (ระหว่างคำว่า “เปื่อย” กับ “เละ” มันก็ใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกันนะ เหอะ ๆ) แท๋น แทน แท๊น.... ในที่สุดก็สำเร็จ
อยากจะบอกว่าแกงฮังเลเบคอนหม้อนี้ หอมอร่อยยิ่งนัก มีกลิ่นและรสชาดในแบบแกงฮังเลเหนือ แอบมีกลิ่นอายฝรั่งเบคอนติดมาด้วย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ลำขนาด..ลำแต้..ลำว่า... (อร่อยฟินเวอร์) !!
++ แกงฮังเล เบคอน เมนูแปลก แหวกแนว !! ++
สวัสดีเพื่อน ๆ ชาว Pantip ครับ วันนี้มีเมนูแปลกแหวกแนวมานำเสนอ โดยไม่ได้ตั้งใจ สืบเนื่องจากมี “เศษหัวท้ายเบคอน” ที่พี่ส่งมาให้จากต่างจังหวัด ค้างหลงเหลืออยู่ในช่องฟรีซมานานแรม 2 เดือนเห็นจะได้ ตอนแรกกะจะเอามาทำข้าวผัด เลยเอาไปแช่น้ำทั้งถุง เพื่อละลายเบคอนแช่แข็ง แต่ปรากฏว่าถุงรั่ว น้ำเข้าไปในถุงเบคอนหมด จะเอาใส่ข้าวผัดทั้งหมดก็เยอะเกินไปตั้ง 1 กก. จะเอาทอดก็ไม่ได้เพราะเป็นน้ำ ฝืนทอดไปครัวเละแน่ หุหุ!! จะเอาไปอบก็เกรงว่าจะกินไม่หมด และเลี่ยน !! จะเอากลับไปแช่แข็งเหมือนเดิมก็กะไรอยู่ เฮ้ออ เอาไงดีฟระ ตั้ง 1 กก. เลยไปรื้อ ๆ ดูในตู้เก็บอาหารแห้ง แท๊น แทน แท้น..... ไปเจอเครื่องแกงฮังเล !! และส่วนผสมอื่น ๆ ก็มีครบ โอ๊ว...พระเจ้าจ๊อด..มันยอดมว๊ากก...
และนี่..ก็คือเครื่องแกงฮังเลย์..ของแท้แน่นอน ไม่ได้ใช้ผงกะหรี่นะครับ (สำหรับส่วนที่ขาดไปหาไม่เจอ 555 และในรูปนี้คือมันเหลืออยู่ประมาณ ½ ซอง) สำหรับเครื่องแกงฮังเลย์ซองนี้ 1 ซองใช้ต่อหมูหรือเนื้อ 2 กก. และถ้าจะใช้มากหรือน้อยกว่านี้ก็คำนวณเองละกันเนอะ ^_^
มามา..เข้าเรื่องกันซะที อารัมภมาหลายบทละ เริ่มทำกันได้ซะที !! อันดับแรกที่ต้องมีคือ เศษหัวท้ายเบคอน และทำไมถึงต้องเศษหัวท้ายเบคอน ? >> ตอบ เพราะมันทั้งชิ้นใหญ่และหนา บักเอ๊ก !! ถ้าจะใช้เบคอนที่ขายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปทำแล้วละก็ คงเละแน่นอน ซึ่งมันทั้งบางและเล็ก !!
เอาละ มาดูส่วนผสมทั้งหมดกันนะครับ และอยากจะบอกว่านี่เป็นการเปิดเผยส่วนผสมและวิธีทำสูตรลับของยาย ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน แต่ถ้าจะบอกว่า บอกหมดเลยก็ไม่เชิง เพราะไม่ได้บอกละเอียดถึงว่าใส่ส่วนผสมแต่ละอย่างเท่าไหร่ กี่กรัม เพราะมันปรับเปลี่ยนตามวัตถุดิบที่ได้มา ซึ่งการทำแกงฮังเลเบคอนนี้ ก็จะลดส่วนผสมของซีอิ้ว และตัดเกลือออก เนื่องจากเบคอนมีความเค็มอยู่แล้ว แต่จะเก็บสูตรไว้เองก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใด แต่ถึงอย่างไรมันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคนทำอีกนั่นแหละ 555
สำหรับแกงฮังเลนี้ ส่วนมากทางภาคเหนือ(ออกนอกเมืองหน่อยนะ เพราะส่วนมากในตัวเมืองเค้าจะไม่จัดเลิ้ยงเยอะขนาดนี้ เค้าจะทำเหมือนงานที่จัดใน กทม. คือเอาไว้ที่วัด เลี้ยงข้าวต้ม หรืออาหารว่างตอนเย็นจบ !! แต่ถ้าเป็นพิธีดั้งเดิม งานจะจัดกี่วัน ก็เลี้ยงมันทุกวันทุกมื้อนั่นแหละ กินกันจนเจ้าภาพหมดตัว 555) ส่วนมากจะทำกันตอนงานศพ ล้มหมู ล้มวัว กันมาเป็นตัว ๆ เพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพื่อเลี้ยงแขกเหรื่อที่มาร่วมงาน และแลดูว่าเจ้าภาพ ที่ทำแกงฮังเล หรือทำอาหารที่มีเนื้อเยอะ ๆ เลี้ยงแขกนี้ ดูออกจะภูมิฐาน ดูค่อนข้างมีฐานะหน่อย เนื่องจากมีแต่เนื้อล้วน ๆ และราคาค่อนข้างแพง ไม่มีผักอะไรมาเป็นส่วนผสมเลย ลองไปถามคนแถวภาคเหนือดูว่า การทำแกงฮังเลเลี้ยงแขกเฉพาะวันเผาศพ 1 หม้อนั้น ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ ? หุหุ และถ้าแกงฮังเลเหลือ หลังจากแขกเหรื่อที่มากินกันแล้ว ทั้งเหลือในหม้อ และเหลือในถ้วยตามโต๊ะต่าง ๆ นั้น เค้าก็จะเอามารวมกันในหม้อ และทำ “แกงโฮะ” เพื่อเลี้ยงคนที่มาช่วยงานหลังจากเผาศพแล้วต่อไป แต่ความอร่อยนี่ อยากจะบอกว่าฟินเลย ไว้มีโอกาส จะมารีวิว แกงโฮะ ให้ได้รับอ่านและรับชมกันนะครับ (แต่สำหรับสมัยนี้เค้าไม่ค่อยเอาแกงฮังเลเหลือตามโต๊ะ คืนกลับมาใส่หม้อ เนื่องจากจะทำให้บูดแล้ว ยังป้องกันการติดเชื้อโรคจากคนสู่คนด้วย โดยเฉพาะไวรัสตับอักเสบ !!)
เอ๊า
ส่วนผสมแกงฮังเลเบคอน โดยประมาณ
1. เศษหัวท้ายเบคอน 1 กก.
2. เครื่องแกงฮังเลย์ 1 ซอง (ใช้จริงแค่ครึ่งซองเพราะอะไรย้อนกลับไปอ่านดูนะ หุหุ)
3. กระเทียมดอง 2 หัว พร้อมน้ำกระเทียมดอง (จขกท. ซื้อมาเป็นแบบถ้วยพลาสติก 1 ถ้วย และใส่หมดเลย)
4. น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
5. พริกแกงเผ็ด 50 กรัม
6. น้ำตาลปี๊ป 2 ช้อนโต๊ะ
7. กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ
8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
9. ซีอิ้วดำ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
นำเบคอนมาหั่นชิ้นประมาณซัก 1 นิ้วใส่ในหม้อ และนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในหม้อ ยกเว้นน้ำมะขามเปียก และเครื่องแกงฮังเลให้ใส่ในขั้นตอนนี้เพียง ¼ ซองเท่านั้น
ต่อจากนั้นคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันโดยใช้มือ ย้ำ !! ให้ใช้มือ จะใส่หรือไม่ใส่ถุงมือก็แล้วแต่คนทำนะ หุหุ พอคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เท่ากันแล้ว ให้หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชม. หรือถ้ามีเวลาหน่อยก็ประมาณ 3 – 4 ชม. ก็จะดีมาก ซึ่งจะทำให้น้ำและน้ำมันในเนื้อหมูนั้นซึมออกมา แต่ถ้าอยากจะใส่น้ำเปล่าก็ได้ ในกรณีที่ดูแล้วว่าน้ำน้อยกลัวจะไหม้ แต่ไม่ควรเกิน 1 ถ้วยเล็ก สำหรับ จขกท. ไม่ได้ใส่น้ำเปล่าเบยยย..
หลังจากหมักได้ที่แล้ว ก็นำขึ้นไปตั้งไฟกลาง กรณีถ้าใช้หมู 3 ชั้นทำ แนะนำให้ใช้เตาถ่านจะดีที่สุด หรือถ้าไม่มีก็ใช้เตาแก๊สไฟอ่อน ถึงกลาง คนบ่อย ๆ ในช่วงแรกจนกว่าน้ำมันหมูจะออกมาเยอะ ถ้าไม่อย่างงั้นแล้ว ไหม้แน่นอน และไม่แนะนำให้ใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าโดยเด็ดขาด ถ้าไม่เชื่อลองดู !! สำหรับหมู 3 ชั้นต้องใช้เวลาตุ๋นประมาณ 3 ชม. เห็นจะได้ ไม่อย่างงั้นหมูจะไม่นุ่มและเปื่อย เหนียวติดฟันแน่นอน
แต่สำหรับแกงฮังเลเบคอนนี้ สามารถใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ระดับไฟกลางได้ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเคี่ยวนานใช้เวลาในการทำประมาณ 1 ชม. 30 นาที ไม่รวมหมักหมู แต่ถ้าอยากอร่อยยิ่งขึ้น แนะนำว่าเก็บไว้และนำมาอุ่นกินในวันถัดไป ถ้าอดใจไหวนะ !! อ้อ เกือบลืมไป หลังจากที่ดูว่าหมูสุกและเปื่อยได้ที่แล้ว ให้ใส่น้ำมะขามเปียกลงไป เพื่อที่จะได้ตัดเปรี้ยวหน่อยและอีกอย่างน้ำมะขามเปียกจะช่วยทำให้เนื้อหมูจับตัวกัน ไม่เละ (ระหว่างคำว่า “เปื่อย” กับ “เละ” มันก็ใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกันนะ เหอะ ๆ) แท๋น แทน แท๊น.... ในที่สุดก็สำเร็จ
อยากจะบอกว่าแกงฮังเลเบคอนหม้อนี้ หอมอร่อยยิ่งนัก มีกลิ่นและรสชาดในแบบแกงฮังเลเหนือ แอบมีกลิ่นอายฝรั่งเบคอนติดมาด้วย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ลำขนาด..ลำแต้..ลำว่า... (อร่อยฟินเวอร์) !!