"ไส้คั่ว" เริ่มต้นอย่างสุดท้ายไปอีกอย่าง แต่ก็ไม่ผิดหวังเลยครับ

กระทู้สนทนา
เมนูนี้แรงบันดาลใจมาจากการที่ได้อ่านกระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 3543479  ที่มาโพสต์เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง
เห็นแล้วน้ำลายไหลเลย เลยคิดไว้ว่าเมื่อมีโอกาสอยากลองจัดดูสักคร้ง  จริง ๆ แล้วเมนูแบบนี้เคยทำหลายครั้ง
แต่จะมีวิธีการอีกอย่าง ไม่ได้หมักด้วยผงพะโล้  ทุกครั้งจะทอดไปพร้อมเครื่องสมุนไพรไทย

การทำครั้งนี้มันค่อนข้างพลิกไปพลิกมาเล็กน้อย  แต่สุดท้ายก็ถือว่าไม่เสียของครับ  หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว



ไม่ว่าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับไส้  ที่น่าเบื่อที่สุดคือเรื่องของการล้างไส้เพราะถ้าล้างไม่สะอาดมันค่อนข้างจะมีกลิ่น
แป้งมัน  เกลือป่น  ล้างกลับนอกกลับในหลายครั้ง ปิดท้ายด้วยน้ำส้มสายชู  ค่อนข้างจะเอาอยูู่





จากนั้นน้ำมาหั่นเป็นชิ้น ๆ  ทุกครั้งที่ทำไส้คั่วผมจะใช้ ตะไคร้เป็นต้น ๆ ทุบ หั่นใส่ลงไป พร้อมใบมะกรูด แต่คราวนี้
ลองใช้ผงพะโล้  เกลือป่น ผงรสดีนิดหนึ่ง น้ำมันหอยนิดเดียวเหมือนกัน  คือต้องการจะเลี่ยงสีดำ ยิ่งถ้าเป็นน้ำตาล
เวลานำไปทอดจะไหม้ทำให้ไส้ดำไม่สวยครับ



คลุก ๆ ให้เข้ากันลงกระทะ  เติมน้ำลงไปประมาณ 1 แก้ว  ความตั้งใจคืออยากให้ผงพะโล้เข้าเนื้อในไส้เหมือนเราต้มพะโล้
เปิดไฟอ่อน ต้นไส้จนนุ่มและน้ำแห้ง



น้ำแห้งแล้วเติมน้ำมันปาล์มลงไปในกระทะ  ไม่ต้องมากเพราะเดี๋ยวน้ำมันจากหมูจะออกมาอีก



ที่เรียกว่าไส้คั่ว  ไม่เรียกไส้ทอดคงเป็นเพราะคั่วในน้ำมันน้อยนี่หรือเปล่า



ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร  ไส้เริ่มจะหดตัวและแห้งขึ้น ความคาดหวังว่ามันจะต้องหอมกลิ่นพะโล้ชวนกิน
หลังจากเอามาลองชิมดู ปรากฎว่ากลิ่นพะโล้ไม่รู้หายไปตอนไหน คงมีแต่รสเค็มนิด ๆ  ตอนนี้ต้องตัดสินใจ
ปรับแผน  เอาขมิ้นสดมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วทุบให้แค่พอแหลกใส่ลงไป



มีขั้นตอนที่ไม่ได้ถ่ายรูปคือ หลังจากทอดไปจนค่อนข้างจะแห้ง ผมปิดไฟปล่อยไส้ทั้งหมดแช่น้ำมันทิ้งไว้
3-4 ชั่วโมง  จนเย็นคากระทะ  กะใช้วิชาแคบหมูมาช่วยในขั้นตอนสุดท้ายนี้ ให้ได้เรื่องของความกรอบ
หลังจากทอดอีกครั้งในจังหวะ 2 ก็ได้ไส้คั่วค่อนข้างจะแห้งแต่ไม่ถึงกับกรอบ จะออกแนวเหนียวหนึกท่าฟัน
มากกว่า

ที่เป็นทีเด็ดพอจะแก้ต้วเรื่องกลิ่นและคุยได้ก็คือกลิ่นของขมิ้นสดที่ใส่ลงทอดไปทีหลัง  ช่วยให้ไส้หอมกลิ่นขมิ้น
และยิ่งกากขมิ้นที่ทอดจริง ๆ แล้วต้องเขี่ยออกหรือทิ้งไป พอลองเอาเคี้ยว ๆ ดู ต้องบอกว่าอร่อยกว่าไส้เสียด้วย
ซ้ำไป



จัดใส่จานแล้วมันท้าข้าวนึ่งเสียเหลือเกิน  หรือใครที่โปรด ๆ น้ำเก๊กฮวยกระป๋องถือว่าน่าจะเข้ากันได้อย่างดีทีเดียว







ถ้าทำเป็นน้ำจิ้มแจ่วก็น่าจะเข้าท่า  หรือได้ซ๊อสพริกสำเร็จก็คงดี  แต่สล่าปู่จัดไปคู่กับน้ำพริกมะกอกก็ถือว่าไม่ผิดหวัง
เหมือนกัน



ลากันไปพร้อมกับลมหนาวเริ่มมาเยือน  มีอะไรดี ๆ จะนำมาเล่าสู่กันอีกต่อไป  ถ้าไม่เบื่อกันไปเสียก่อน

สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่