[CR] 11 เมนูอาหารเจ ( 5 คาว 6 หวาน) อร่อยได้ตลอดปี

สวัสดีนักชิมจร้า ... ปีนี้ปีแรกที่พี่ลองลิ้มรสอาหารเจ ... ชักจะติดใจ ก็เลยหาเมนู เพราะอยากทำกินเองบ้าง กินไปเลยทั้งปี ... ก็ไปเจอเมนูน่าอร่อยที่เพจน้ำมันพืชคำ เลยหยิบมาฝาก หวังใจว่าเขาจะยินดีไม่คิดค่าลิขสิทธิ์
... เอาล่ะ ใครที่สนใจใคร่จะกินเจต่อเนื่อง หรือเอาไว้ทำตอนเทศกาลเจปีหน้าก็ลองดู หรือถ้าใครไม่กินเจ ... เพจนี้เขาก็มีเมนูอร่อยเริ่ดมาฝากกันทุกวัน ลองดูนะที่เพจน้ำมันพืชคำ
อะ ! ทีนี้มาที่ 11 เมนูเจที่พี่เอามาฝาก ... ตามนี้เลยคร้า


1.ซุปมิโซะเจ
วัตถุดิบ
น้ำซุปเห็ดหอม 800 มิลลิลิตร
สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ
เยื่อไผ่แห้ง 3-4 ชิ้น
เต้าหู้อ่อนญี่ปุ่น 1 ก้อน
มิโซะ 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
เอาสาหร่ายแห้งและเยื่อไผ่ไปแช่น้ำสุก ทิ้งไว้ให้นิ่มฟู จากนั้นก็เอาสาหร่ายขึ้นพักไว้ ส่วนเยื่อไผ่ก็หั่นเป็นท่อน ๆ แล้วพักไว้เช่นเดียวกัน คราวนี้ก็หันไปตั้งเตาต้มน้ำซุปค่ะ (สำหรับน้ำซุปเห็ดหอม เราใช้นำเปล่าหรือน้ำต้มผักธรรมดาแล้วใส่ซุปก้อนเห็ดหอมลงไปต้มก็ได้ค่ะ) พอน้ำเดือดก็ใส่สาหร่ายลงไป รอจนสาหร่ายคลายตัวนิ่มดีก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ตักมิโซะใส่หม้อ จากนั้นก็หั่นเต้าหู้เป็นลูกเต๋าตามลงไป ปิดฝาหม้อให้ระอุสักพักก็ปิดไฟได้ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ ซดขณะที่ยังร้อนๆ อยู่ คล่องคอดีค่ะ


2. เปาะเปี๊ยะสดเวียดนามใส่อโวคาโด (เจ)
วัตถุดิบ
แผ่นเปาะเปี๊ยะ
อโวคาโด 1-2 ลูก (แล้วแต่ขนาด)
แตงกวา 2 ลูก
แครอท ½ หัว
กะหล่ำปลีม่วง ¼ หัว
ผักกาดหอม 4-6 ใบ
น้ำจิ้ม (เจ) ตามชอบ
วิธีทำ
นำอโวคาโดมาผ่าครึ่ง เอาเมล็ดตรงกลางออกแล้วใช้ช้อนคว้านเอาเนื้ออโวคาโดออกมาจากเปลือก (ควรเลือกอโวคาโดที่ยังไม่สุกมากและทำขึ้นตอนนี้อย่างเบามือไม่ให้เละค่ะ) นำเนื้ออโวคาโดที่ได้มาสไลด์บางๆ พักไว้ค่ะ หั่นแตงกวาและแครอทเป็นแท่งตามยาว ซอยกะหล่ำปลีม่วงตามยาว สุดท้ายก็นำแผ่นเปาะเปี๊ยะแช่น้ำอุ่นให้นุ่ม เอาขึ้นวางเตรียมไว้บนเขียงค่ะ
เริ่มห่อกันเลยค่ะ นำอโวคาโดสไลด์บางมาเรียงกันบนแผ่นเปาะเปี๊ยะให้เป็นแนวยาวสัก 2 แนว วางด้านที่ใกล้ตัวเรา (เอาเนื้ออโวคาโดไว้ข้างนอกสุดจะได้ไม่เละค่ะ) จากนั้นก็วางผักกาดหอม ตามด้วย แตงกวา แครอท และกะหล่ำปลีม่วงให้เป็นแนวยาวเช่นเดียวกัน ลงมือม้วนเปาะเปี๊ยะออกจากตัวให้แน่นกำลังดี ไม่หลุด เท่านี้เราก็สามารถจัดใส่จาน ผ่าให้สวยงามน่าทานตามชอบ ทานคู่น้ำจิ้มแบบเจค่ะ


3. โปรตีนเกษตรผัดพริกขิง
วัตถุดิบ
น้ำมันพืชคำ 2 ถ้วย
โปรตีนเกษตร 200 กรัม
เครื่องแกงพริกขิงเจ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
งาขาวคั่ว 2 ช้อนชา
น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย
ใบมะกรูดหั่นฝอย 2-3 ใบ
วิธีทำ
นำโปรตีนเกษตรไปแช่น้ำจนอิ่มค่ะ (เลือกใช้โปรตีนเกษตรแผ่นหน้าสาหร่ายเพื่อให้เป็นชิ้นโตเต็มคำน่าทาน ...แบบก้อนก็ใช้ได้) หั่นโปรตีนเกษตรออกเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ตั้งเตาต้มน้ำให้เดือดแล้วนำโปรตีนเกษตรลงลวกสักพักแล้วเอาขึ้น รอให้สะเด็ดน้ำ หันมาตั้งกระทะไฟกลาง เทน้ำมันพืชลงไป พอร้อนได้ที่ก็นำโปรตีนเกษตรลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ก่อนค่ะ
คราวนี้ก็ลงมือผัดค่ะ เทน้ำมันจากกระทะออกเสียก่อน เหลือไว้เล็กน้อยให้พอผัดค่ะ ตั้งกระทะน้ำมันให้ร้อนใส่พริกขิงเจลงไป ผัดให้หอมแล้วค่อยเติมน้ำสะอาด นำน้ำตาลปี๊บลงละลายและปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว นำโปรตีนเกษตรที่ทอดไว้ลงผัดกับส่วนผสมให้ทั่ว เรียบร้อยแล้วก็จัดใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวและใบมะกรูดฝอย พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ


4. เห็ดเข็มทองทอดกรอบ (เจ)
วัตถุดิบ
น้ำมันพืชคำสำหรับทอด 2 ถ้วย
เห็ดเข็มทอง 300 กรัม
แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
น้ำเย็น 1 ถ้วย
ใบเตยหั่นท่อน 2-3 ใบ
ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ
ซอสหรือน้ำจิ้ม (เจ) ตามชอบ
วิธีทำ
ล้างเห็ดเข็มทอง ตัดโคนออกให้เหลือความยาวประมาณ 3-4 นิ้ว แล้วยีออกให้เป็นเส้นๆ พักไว้ก่อนให้สะเด็ดน้ำดี ผสมแป้งทอดกรอบและน้ำเย็นเข้าด้วยกัน นำเห็ดเข็มทอง ใบเตยหั่นท่อน และใบมะกรูดซอยลงชุบในส่วนผสมแป้งที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
หันมาตั้งกระทะไฟกลาง เทน้ำมันพืชลงไป พอร้อนได้ที่ให้หยิบส่วนผสมเห็ดเข็มทองทีละน้อย บีบน้ำแป้งออกให้หมาดๆ (หากบีบไม่หมาด แป้งเยอะเกินไป เห็ดของเราจะไม่กรอบค่ะ) นำลงทอดในกระทะให้เหลืองกรอบ นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน พอทอดได้ปริมาณตามต้องการแล้วก็จัดใส่จาน เสิร์ฟทานพร้อมกับซอสหรือน้ำจิ้มเจ


5. ดอกกะหล่ำทอด (เจ)
วัตถุดิบ
น้ำมันพืชคำสำหรับทอด 2 ถ้วย
ดอกกะหล่ำ 1 หัว
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
เกล็ดขนมปังบดละเอียด 1 ถ้วย
น้ำเย็น 1 ถ้วย
เกลือป่น ½ ช้อนชา
พริกไทยป่น ½ ช้อนชา
ซอสหรือน้ำจิ้ม (เจ) ตามชอบ
วิธีทำ
นำดอกกะหล่ำมาล้างทำความสะอาด หั่นออกเป็นดอกๆ ให้ขนาดพอดีคำ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ หลังจากนั้นก็ตั้งกระทะเทน้ำมันลงไป ระหว่างรอน้ำมันร้อนให้ผสมแป้งสาลี เกลือป่น พริกไทยป่น และน้ำเย็นเข้าด้วยกัน พอน้ำมันร้อนได้ที่ก็นำดอกกะหล่ำชุบส่วนผสมแป้ง ตามด้วยเกล็ดขนมปังป่นละเอียด แล้วเอาลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานทานคู่กับซอสหรือน้ำจิ้มเจค่ะ


6. เต้าทึงน้ำลำไย
วัตถุดิบ
รากบัวหั่นบาง 1 หัว
ลูกเดือย 1 ถ้วย
แปะก๊วย 1 ถ้วย
ถั่วแดง ½ ถ้วย
พุทราจีนเชื่อม ½ ถ้วย
เฉาก๊วยหั่นเต๋า 1 ซองเล็ก
ลำไยแห้ง ½ ถ้วย
น้ำตาลทราย ½-1 ถ้วย
น้ำสะอาด 6 ถ้วย
ใบเตย 2-3 ใบ
น้ำแข็ง (หากชอบทานแบบเย็น)
วิธีทำ
นำลูกเดือยและถั่วแดงไปแช่น้ำไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำรากบัว ลูกเดือย แปะก๊วยและถั่วแดงไปต้มให้สุก (แยกหม้อนะคะเพราะแต่ละอย่างใช้เวลาไม่เท่ากัน อย่างเช่นถั่วแดงอาจจะนานหน่อย) เรียบร้อยแล้วก็ก็นำเครื่องแต่ละอย่างขึ้นจากน้ำ พักไว้ให้หายร้อนค่ะ
ทำน้ำลำไยกันต่อเลย ล้างลำไยแห้งให้สะอาดและแช่น้ำไว้สักครู่ให้หายดำ จากนั้นนำลงต้มพร้อมน้ำสะอาด ต้มไปเรื่อยๆ จนลำไยลอยขึ้นมาและส่งกลิ่นหอม ใส่น้ำตาลลงละลาย จากนั้นก็ใส่ใบเตยลงไป รอสักครู่ให้มีกลิ่นหอมใบเตยอ่อนๆ ก็เอาใบเตยออก ปิดเตาได้ค่ะ
ถึงเวลาจะทานก็นำเครื่องที่ต้มสุกแต่ละอย่างใส่ถ้วย เสริมทัพด้วยพุทราจีนเชื่อมและเฉาก๊วย ปริมาณตามชอบ (หากใครชอบเย็นๆ ก็ใส่น้ำแข็งลงไปด้วยเล็กน้อย) จากนั้นก็ราดน้ำลำไยลงไป พร้อมทานแล้วค่ะ รับรองว่าหอมชื่นใจ บำรุงกำลังเป็นอย่างดี


7.ตือคาโค
วัตถุดิบ
ส่วนผสมตัวขนม
น้ำมันพืชคำสำหรับทอด 2 ถ้วย
เผือกต้มบดละเอียด ½ หัว
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
ถั่วดำต้มสุก ¾ ถ้วย
เกลือ 1 ช้อนชา
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 3-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
พริกแดงโขลกหยาบ 4-6 เม็ด
ถั่วลิสงคั่วโขลก 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
หาชามผสมใหญ่ ๆ  มา นำเผือกต้มบดละเอียด แป้งข้าวเจ้า แป้งสาลีอเนกประสงค์ น้ำเปล่า และกะทิลงไปผสมในชามให้เข้ากัน พยายามคนๆ คลุกๆ ให้เผือกต้มบดของเรากระจายทั่วส่วนผสมค่ะ พอเข้ากันดีแล้วโรยเกลือลงไปปรุงรสเล็กน้อย คนส่วนผสมอีกที จากนั้นหันไปตั้งกระทะเทน้ำมันพืชลงไป ใช้ไฟกลางนะคะ พอร้อนดีก็ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ตือคาโคหรือกระบวยก้นลึกที่สามารถลงทอดได้ พยายามให้มีถั่วดำติดขึ้นมาอย่างสมดุลด้วยนะคะ จุ่มลงทอดในน้ำมัน พอขนมเริ่มแข็งตัวก็แคะออกจากกระบวย ตักชิ้นใหม่ลงทอดได้เลยค่ะ ทอดขนมแต่ละชิ้นจนกว่าจะสุกเหลือง ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จานวางคู่กับน้ำจิ้ม พร้อมเสิร์ฟค่ะ
สำหรับตัวน้ำจิ้มก็ตั้งหม้อต้มน้ำ ใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บลงไปละลายให้เข้ากัน ตามด้วยพริกแดงโขลก คนให้เข้ากันอีกครั้งแล้วปิดไฟ เทใส่ถ้วยน้ำจิ้ม ตักถั่วลิสงโขลกใส่ลงไปด้านบน เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ


8. ทอดมันข้าวโพดเจ
วัตถุดิบ
น้ำมันพืชคำสำหรับทอด 2 ถ้วย
เมล็ดข้าวโพดต้มสุก 2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี ½ ถ้วย
น้ำพริกแกงคั่ว (เจ) 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1 ช้อนชา
ส่วนผสมน้ำจิ้ม
น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ½ ถ้วย
พริกแดงโขลกหยาบ 2-3 เม็ด
วิธีทำ
นำเมล็ดข้าวโพด แป้งข้าวเจ้า น้ำพริกแกงคั่วเจใส่ลงในชามผสม ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและเกลือ นวดผสมส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เมื่อนวดได้ที่ดีแล้วก็หันไปตั้งกระทะให้ร้อน เทน้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันได้ที่ก็จัดการปั้นส่วนผสมให้เป็นก้อนขนาดเท่าอุ้งมือ (หรือตามชอบก็ได้) จากนั้นก็คลุกกับแป้งสาลีให้ทั่วแล้วใส่กระทะทอด ควรทอดรอบละ 8-10 ก้อนก็พอนะคะ ทอดครั้งละมากๆ ไม่ดีเดี๋ยวทอดมันข้าวโพดของเราจะออกมาไม่กรอบ พอเหลืองกรอบใช้ได้ก็ตักขึ้น เสิร์ฟร้อน ๆ  ทานพร้อมน้ำจิ้มค่ะ
ส่วนของน้ำจิ้มให้ตั้งหม้อต้มน้ำ ใส่น้ำมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บลงไปละลายให้เข้ากัน ตามด้วยพริกแดงโขลก คนให้เข้ากันอีกครั้งแล้วปิดไฟ เทใส่ถ้วยน้ำจิ้ม โรยเศษข้าวโพดสุกเพื่อความสวยงามก็ได้ค่ะ


9. ไอศกรีมกะทิสด
วัตถุดิบ
กะทิ (ขนาด 1 ลิตร) 1 กล่อง
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ¼ ช้อนชา
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
ถั่วลิสงคั่วหรืออบสำหรับโรยหน้าไอศกรีม
วิธีทำ
เทกะทิ น้ำตาลทราย และเกลือป่น ลงไปในหม้อ (เหลือกะทิเอาไว้เล็กน้อยไว้ละลายแป้ง) คนให้เข้ากันค่ะ ผสมแป้งข้าวโพดกับกะทิส่วนที่เหลือให้ละลาย แล้วเทตามลงไปในหม้อ เติมกลิ่นวานิลลาลงไป คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดีอีกรอบแล้วนำหม้อไปตั้งเตา ใช้ไฟอ่อนๆ เท่านั้นนะคะเดี๋ยวจะไหม้ คนบนเตาไปเรื่อยๆ จนแป้งสุกเป็นครีมขาวสวย ยกลงจากเตาแล้วทิ้งไว้ให้เย็น
หลังจากที่ส่วนผสมไอศกรีมเย็นได้ที่แล้วก็เทใส่กล่องพลาสติกหรือภาชนะที่ใส่ช่องแข็งได้ค่ะ นำเข้าช่องแข็งประมาณ 6 ชั่วโมง นำออกมาตักใส่เครื่องปั่น (เครื่องปั่นน้ำผลไม้นี่แหละค่ะ) ปั่นจนเนื้อไอศกรีมกลายเป็นครีม เทใส่กล่องเกลี่ยหน้าให้เท่ากันแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นอีกครั้ง (การทำแบบนี้จะทำให้เราได้ไอศกรีมกะทิที่มีเนื้อเนียนสวย น่ารับประทาน) พอถึงกำหนดครบอีก 6 ชั่วโมงก็พร้อมทาน ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยถั่วลิสง ยกเสิร์ฟได้ค่ะ รีบทานนะคะเดี๋ยวจะละลาย ^^

  
10. ขนมฟักทอง (เจ)
วัตถุดิบ
เนื้อฟักทองนึ่ง 2 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
แป้งมัน 1 ถ้วย
กะทิ 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
เกลือป่น ½ ช้อนชา
มะพร้าวทึนทึกขูด 1 ถ้วย
วิธีทำ
นำฟักทองนึ่งสุกมาตักออกจากเปลือก บดให้ละเอียดในชามผสมค่ะ ผสมแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันให้เข้ากันแล้วเทตามลงไปในชาม นวดส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือป่น เติมหัวกะทิทีละน้อย ผสมให้เข้ากันเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลายหมด จากนั้นเติมน้ำลงในหม้อลังถึง นำไปตั้งบนเตาให้ไฟแรงๆ รอให้น้ำเริ่มเดือดค่ะ ตักส่วนผสมฟักทองลงในถ้วยเล็กๆ ตามชอบ โรยมะพร้าวขูดลงไปด้านบนให้สวยงาม นำถ้วยไปวางไว้ในหม้อลังถึง ปิดฝา นึ่งให้ขนมสุกประมาณ 15 นาที (ให้ส้อมแหลมๆ จิ้มลงไปในขนมดู ถ้าไม่มีน้ำเหลวๆ ติดขึ้นมาก็แสดงว่าขนมสุกแล้วค่ะ) เรียบร้อยแล้วก็ปิดเตา แคะขนมออกจากถ้วย เอาใบตองมารองให้มีสีสันสวยงามก็ได้ พร้อมทานค่ะ


11. เบอร์รี่สมูทตี้ (เจ)
วัตถุดิบ
ราสเบอร์รี่แช่แข็ง ¼ ถ้วย
บลูเบอร์รี่แช่แข็ง ¼ ถ้วย
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งบด ½ ถ้วย
ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และใบสะระแหน่สำหรับตกแต่ง
วิธีทำ
น้ำผลไม้ปั่นเป็นอะไรที่ทำง่าย โดยเฉพาะพวกเบอร์รี่ที่เอาออกจากช่องแข็งแล้วสามารถนำไปปั่นได้เลยค่ะ นำราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ น้ำมะนาว น้ำเชื่อม และน้ำแข็งบดใส่ลงในโถปั่น ปิดฝาแล้วลงมือปั่นส่วนผสมให้ละเอียดเข้ากัน ประมาณ 20-30 วินาท
ชื่อสินค้า:   อาหารเจ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่