วันนี้ขออนุญาตแบ่งปันสองเมนู อันนี้เป็นเมนูที่สอง "โจ๊กหมู" เมนูขั้นตอนง่ายๆ แต่เสียเวลาหน่อยนะครับ ปรกติโจ๊กแน่นอนว่า ชื่อก็บอกแล้วว่าโจ๊ก คือเละเป็นโจ๊ก โจ๊กฮ่องกงก็จะเนียนไปเลย เนียนแทบจะกลายเป็นน้ำข้าวแต่เหนียวกว่าน้ำข้าว สูตรนี้ผมจะกวนข้าวไว้ต่างหาก เราจะแบ่งเอามาใช้ได้ เหลือจะเก็บไว้ในตู้เย็นได้สัก อาทิตย์นึงก็พอ เราจะเคี่ยวกับน้ำซุปต่างหากนะครับ
วันนี้พอดีผมไม่มีน้ำกระดูก ก็เลยเอาซุปก้อนมาใช้แทนกัน
วันนี้ผมขอแบ่งปันเป็นแบบที่ผมทำกินกันบ่อยๆนะครับ เป็นโจ๊กหมู ตัวหมูก็ใช้สูตรเดียวกับหมูสับที่ผมเอาไว้ห่อเกี๊ยวแบบเดียวกัน
แต่ต่างกันตรงที่ผมจะตีนานขึ้น ตีนานกว่า 30 นาที เพิ่มไข่ขาวลงไปอีกสัก 20 กรัม และส่วนผสมสำคัญอีกตัวที่ผมจะใส่ลงไปอีกนิดหน่อยคือ "น้ำมันงา"
http://ppantip.com/topic/35573355
คราวนี้หมูก็จะเด้ง และเนียนนุ่มกว่าเดิมอีก แต่ก็มิอาจจะเหมือนโจ๊กแลนด์มาร์คได้นะครับ ผมถือว่า โจ๊กแลนด์มาร์คสำหรับผมคือที่สุดละ โดยเฉพาะหมูสับ ไม่รู้ทำยังไงเหมือนกัน
ส่วนผสม
1. ข้าวหอมมะลิ (ข้าวใหม่) หรือไม่ต้องใหม่ก็ได้
2. ขิงซอย
3. ขิงหั่นแว่น 3 แว่น
4. น้ำซุปกระดูก วันนี้ผมใช้ซุปก้อนแทน
5. ต้นหอมซอย
6. หมูสับปรุงรส
7. เกลือ
ข้าวหอมมะลิ ถ้าได้ข้าวใหม่ก็จะดี พอดีได้ตัวนี้มาพอดี
ขิงหั่นแว่น,ขิงซอย
หมูสับปรุงรส
วิธีทำ
1. ต้มข้าวหอม น้ำตอนแรก แค่ 2 องคุลีพอ ใส่เกลือ 1 ช้อนชาพูน กับขิงหั่นแว่น หลังจากนั้นค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อยๆ เติมไปเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้คุณแม่บ้านก็กวนไปเรื่อยๆ นะครับ
ต้องมี 30 นาทีขึ้นไป กวนไปเรื่อยๆ อย่าให้แห้งมาก และก็อย่าให้เหลวมาก กวนไปเรื่อยๆอย่าให้ไหม้ก้นหม้อ
ไฟกลางอ่อนนะครับ ง่ายๆ เคี่ยวจนกระทั่งเม็ดข้าวแทบจะแตกหมด
2. เคี่ยวไปจนกว่าจะงวด และเหนียวแบบลักษณะแบบนี้
(ถ้าต้องการแบบโจ๊กฮ่องกง ถ้าที่บ้านมี Hand Grinder ก็คือที่ปั่นมือถือ ก็เอาไปปั่นข้าวได้เลย คราวนี้ข้าวก็แทบจะเนียนละเอียด เหมือนโจ๊กฮ่องกงเลยล่ะครับ)
3. ได้ที่แล้วก็ยกพักไว้ รอให้เย็นแช่ตู้เย็น จะใช้ก็ตักแบ่งมาใช้ได้ครับ คราวนี้ก็ต้มซุป ต้มหมูสับก่อน ยกพักไว้ และแบ่งข้าวมาปริมาณที่ต้องการ ชอบข้นก็มากหน่อย ชอบใสๆ ก็ใส่น้อยหน่อย คราวนี้ก็เคี่ยวกวนให้ข้าวแตกตัวกับน้ำ ดูเนียนดี
โจ๊กจะคืนตัวตอนเย็นตัวแล้วหรือไม่อยุ่ที่ขั้นตอนนี้นะครับ กวนให้เข้าที่ใจเย็นๆ
สุดท้ายยกเสริฟ์ได้เลยครับ ขิงซอยกับต้นหอมซอย โรยไปเลย ถ้าอยากได้เค็มๆ ก็ซีอิ๊วขาวลงไปได้เลย แต่ระวังนิดนึง เพราะเราใส่เกลือลงไปที่ข้าวแล้ว ชิมก่อนใส่ซีอิ๊วนะครับ
โจ๊กนี้กินไม่ต้องเค็มมาก ร้อนๆ นี่แก้แฮงค์ได้อย่างดีนะครับ
มีความสุขกับการทำกับข้าวให้เด็กๆที่บ้านนะครับ
แบ่งปันครับ "โจ๊กหมู(เด้งๆ)" เมนูสุดง่าย ต้มเองก็ได้
วันนี้พอดีผมไม่มีน้ำกระดูก ก็เลยเอาซุปก้อนมาใช้แทนกัน
วันนี้ผมขอแบ่งปันเป็นแบบที่ผมทำกินกันบ่อยๆนะครับ เป็นโจ๊กหมู ตัวหมูก็ใช้สูตรเดียวกับหมูสับที่ผมเอาไว้ห่อเกี๊ยวแบบเดียวกัน แต่ต่างกันตรงที่ผมจะตีนานขึ้น ตีนานกว่า 30 นาที เพิ่มไข่ขาวลงไปอีกสัก 20 กรัม และส่วนผสมสำคัญอีกตัวที่ผมจะใส่ลงไปอีกนิดหน่อยคือ "น้ำมันงา"
http://ppantip.com/topic/35573355
คราวนี้หมูก็จะเด้ง และเนียนนุ่มกว่าเดิมอีก แต่ก็มิอาจจะเหมือนโจ๊กแลนด์มาร์คได้นะครับ ผมถือว่า โจ๊กแลนด์มาร์คสำหรับผมคือที่สุดละ โดยเฉพาะหมูสับ ไม่รู้ทำยังไงเหมือนกัน
ส่วนผสม
1. ข้าวหอมมะลิ (ข้าวใหม่) หรือไม่ต้องใหม่ก็ได้
2. ขิงซอย
3. ขิงหั่นแว่น 3 แว่น
4. น้ำซุปกระดูก วันนี้ผมใช้ซุปก้อนแทน
5. ต้นหอมซอย
6. หมูสับปรุงรส
7. เกลือ
ข้าวหอมมะลิ ถ้าได้ข้าวใหม่ก็จะดี พอดีได้ตัวนี้มาพอดี
ขิงหั่นแว่น,ขิงซอย
หมูสับปรุงรส
วิธีทำ
1. ต้มข้าวหอม น้ำตอนแรก แค่ 2 องคุลีพอ ใส่เกลือ 1 ช้อนชาพูน กับขิงหั่นแว่น หลังจากนั้นค่อยๆ เติมน้ำทีละน้อยๆ เติมไปเรื่อยๆ ขั้นตอนนี้คุณแม่บ้านก็กวนไปเรื่อยๆ นะครับ ต้องมี 30 นาทีขึ้นไป กวนไปเรื่อยๆ อย่าให้แห้งมาก และก็อย่าให้เหลวมาก กวนไปเรื่อยๆอย่าให้ไหม้ก้นหม้อ
ไฟกลางอ่อนนะครับ ง่ายๆ เคี่ยวจนกระทั่งเม็ดข้าวแทบจะแตกหมด
2. เคี่ยวไปจนกว่าจะงวด และเหนียวแบบลักษณะแบบนี้ (ถ้าต้องการแบบโจ๊กฮ่องกง ถ้าที่บ้านมี Hand Grinder ก็คือที่ปั่นมือถือ ก็เอาไปปั่นข้าวได้เลย คราวนี้ข้าวก็แทบจะเนียนละเอียด เหมือนโจ๊กฮ่องกงเลยล่ะครับ)
3. ได้ที่แล้วก็ยกพักไว้ รอให้เย็นแช่ตู้เย็น จะใช้ก็ตักแบ่งมาใช้ได้ครับ คราวนี้ก็ต้มซุป ต้มหมูสับก่อน ยกพักไว้ และแบ่งข้าวมาปริมาณที่ต้องการ ชอบข้นก็มากหน่อย ชอบใสๆ ก็ใส่น้อยหน่อย คราวนี้ก็เคี่ยวกวนให้ข้าวแตกตัวกับน้ำ ดูเนียนดี
โจ๊กจะคืนตัวตอนเย็นตัวแล้วหรือไม่อยุ่ที่ขั้นตอนนี้นะครับ กวนให้เข้าที่ใจเย็นๆ
สุดท้ายยกเสริฟ์ได้เลยครับ ขิงซอยกับต้นหอมซอย โรยไปเลย ถ้าอยากได้เค็มๆ ก็ซีอิ๊วขาวลงไปได้เลย แต่ระวังนิดนึง เพราะเราใส่เกลือลงไปที่ข้าวแล้ว ชิมก่อนใส่ซีอิ๊วนะครับ
โจ๊กนี้กินไม่ต้องเค็มมาก ร้อนๆ นี่แก้แฮงค์ได้อย่างดีนะครับ
มีความสุขกับการทำกับข้าวให้เด็กๆที่บ้านนะครับ