วันนี้อัคนีได้กลับบ้านเป็นครั้งแรก เราว่าวันนี้ความทรงจำกลับมารัวๆ เลยค่ะ เพราะไปอยู่ในที่ๆคุ้นเคย ได้เจอกับจันด้วย เราซึ้งอ่ะฉากนี้ ถึงอัคนีจะดุเอาๆ คาดคั้นอยู่นั่นแหละ เค้าตอบไม่ด้าย เราว่าจันกับคุณพระผูกพันกันมากเลย คือ เรารู้สึกว่า 2 คนนี้เล่นได้แบบรักกันจริงๆ เป็นนายบ่าวที่ภักดี แต่ที่จันมาทวงถามความชอบธรรมแทนอุบล ว่าคุณพระทำแบบนี้กับนายหญิงได้ยังไง เราว่ามันแปลกๆแฮะ จันรู้อยู่แล้วไม่ใช่หรือว่าคุณพระทำอะไรลงไปเพื่ออะไร จันก้มลงกราบคุณพระแล้วบอกว่าชีวิตนี้มอบให้คุณพระ คุณพระสั่งให้ลุกขึ้น บอกว่างั้นตามมา ข้าจะไปรับอุบล จันก็ถือตรวนวิ่งตามคุณพระไปที่เรือน แล้วจันเองก็น่าจะถูกคุณพระฆ่าตายให้เฝ้าสมบัติด้วยเหมือนกัน เพราะคุณพระบอกให้คอยดูแลนายหญิง แล้วจะไม่รู้เจตนาคุณพระได้ไงอ่ะ
เราชอบที่สุดวันนี้ คือ อัคนีเริ่มจำได้ เริ่มเผลอตัวกลายเป็นพระอรรคแล้ว เลิกตีหน้ามึนซะที ดูฉลาดขึ้นมาบ้าง ฉากที่เผลอตวาดจัน คือ กลายเป็นคุณพระไปชั่วขณะ แล้วที่ตวาดถามสโรชินีเรื่องหีบ นั่นก็นิสัยคุณพระชัดเจน นิสัยของพระอรรคที่ใจร้อน ทุกคนต้องฟัง ต้องทำตาม ถนัดออกคำสั่ง อัคนีเผลอตัวกลายเป็นพระอรรคไปหลายครั้งเลย คงเป็นเพราะกลับมาที่บ้าน อยู่ในสถานที่ๆคุ้นเคย พบคนที่คุ้นเคย เลยไปกระตุ้นความทรงจำได้ง่าย ลึกๆสโรชินีน่าจะดีใจนะ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน รุดหน้าขึ้นทุกทีๆ เริ่มจำได้มากขึ้นแล้ว
ที่ยังน่าเบื่ออย่างต่อเนื่องก็คือ ทิพอาภา จืดสุดๆ แล้วก็ยอมแพ้ตลอด เจอพูดจากระทบกระเทียบ โดนหลอกด่าก็จ๋อยตลอด กระดูกคนละเบอร์กับสโรชินีเลย จะสู้เค้าได้ไงลูกตอนจบอ่ะ ทิพอาภาคนนี้ไม่มีทางที่อัคนีจะรักได้เลยจริงๆอ่ะ แม้แต่ความนิยม ความเคารพนับถือ ก็หาตรงไหนที่จะให้คะแนนไม่ได้เลย พระอรรคและอัคนีต้องการผู้หญิงที่เก่ง ฉลาด เป็นคู่คิดได้เหมือนอย่างอุบล ฉากที่พระยาพลเทพมาเยี่ยมเรือนนี่เห็นได้ชัดเลยว่า อุบลเป็นนายหญิงแห่งบ้านได้สมศักดิ์ศรีจริงๆ คุณพระรีบกลบเกลื่อนที่สอบสวนคนปากบอนแพร่งพรายเรื่องอุโมงค์ มาเสทำเป็นชวนท่านลุงทานข้าวฝีมืออุบล ก็จัดแจงได้อย่างรวดเร็ว ทันกัน ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ ผู้หญิงแบบนี้สิ ที่จะเป็นคู่คิดของพระอรรคได้
ฉากที่สโรชินีพูดกับทิพอาภาว่าฉันคืนให้คุณทั้งสองอย่าง โดยก่อนหน้านั้นพูดถึงทิพย์อาภาว่าเป็นเพื่อนคนเดียวที่เคยไว้ใจที่สุด ดังนั้นสิ่งที่คืนให้ก็คือ รูปภาพ และความไว้ใจ บทเขียนได้เจ็บแสบมากๆ แล้วก็ตามเคยทิพอาภาจ๋อย ตีมึน ไม่ลุกขึ้นสู้เหมือนอัคนีบ้างเลย
ฉากขโมย thumb drive ก็ตื่นเต้น คิดว่าเอาไปได้แล้วจริงๆซะอีก ชอบที่ละครเวลาจะเล่าเรื่องอะไรในอดีต ต้องหาเหตุการณ์ในปัจจุบันมาเชื่อมโยงเปรียบเทียบตลอด อันนี้คือคำว่าซ้อนแผน ที่ทำกับคนเดียวกัน คือ พระยาพลเทพ/ ดนัย โดยคนๆเดียวกัน คือ พระอรรค/ อัคนี แล้วมันก็ทำให้เรื่องปัจจุบันดำเนินไปข้างหน้าด้วย ไม่ใช่แค่อยากจะเล่าก็เล่าออกมาเฉยๆ ชอบฉากแบบนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นฉากไหว้พระในโบสถ์ สาบานจะปกป้องอุบล ก็มาจากที่อัคนีต่อยกับคนของท่านดนัยเพื่อปกป้องสโรชินี ฉากอุบลเห็นอัคนีให้ดอกไม้ทิพอาภาแล้วทำให้นึกถึงความหลังกับพระอรรคที่เคยให้ดอกไม้เดียวกัน
เหมือนจะเคยรู้มาว่าทีมเขียนบททีมนี้มีด้วยกัน 3 คน เขียนไว้หลายปีแล้ว ตั้งแต่คิดจะสร้างครั้งแรกเมื่อปี 2553 ก็ไม่แปลกใจนะที่บทจะดีขนาดนี้ ค่อยๆเขียน ค่อยๆเกลามาหลายปี แทบไม่มีช่องให้ติได้เลยเรื่องความสมจริง วิธีการเล่าเรื่องเหนือชั้นมากๆ คำพูดของตัวละครก็ฉลาดทันกันมากๆ
สรุปว่าวันนี้สนุกมาก แต่คิดว่าจะได้ดูฉากลอยกระทงซะอีก มันคือพรุ่งนี้เหรอคะ แต่ในตัวอย่างตอนต่อไปไม่เห็นมีเลย
มาคุยกันค่ะ
คิดหัวข้อไม่ออก แค่อยากคุย วันนี้เป็นไงบ้างคะ ชอบฉากไหนกันบ้าง พิษสวาท 15 ส.ค 2559
เราชอบที่สุดวันนี้ คือ อัคนีเริ่มจำได้ เริ่มเผลอตัวกลายเป็นพระอรรคแล้ว เลิกตีหน้ามึนซะที ดูฉลาดขึ้นมาบ้าง ฉากที่เผลอตวาดจัน คือ กลายเป็นคุณพระไปชั่วขณะ แล้วที่ตวาดถามสโรชินีเรื่องหีบ นั่นก็นิสัยคุณพระชัดเจน นิสัยของพระอรรคที่ใจร้อน ทุกคนต้องฟัง ต้องทำตาม ถนัดออกคำสั่ง อัคนีเผลอตัวกลายเป็นพระอรรคไปหลายครั้งเลย คงเป็นเพราะกลับมาที่บ้าน อยู่ในสถานที่ๆคุ้นเคย พบคนที่คุ้นเคย เลยไปกระตุ้นความทรงจำได้ง่าย ลึกๆสโรชินีน่าจะดีใจนะ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน รุดหน้าขึ้นทุกทีๆ เริ่มจำได้มากขึ้นแล้ว
ที่ยังน่าเบื่ออย่างต่อเนื่องก็คือ ทิพอาภา จืดสุดๆ แล้วก็ยอมแพ้ตลอด เจอพูดจากระทบกระเทียบ โดนหลอกด่าก็จ๋อยตลอด กระดูกคนละเบอร์กับสโรชินีเลย จะสู้เค้าได้ไงลูกตอนจบอ่ะ ทิพอาภาคนนี้ไม่มีทางที่อัคนีจะรักได้เลยจริงๆอ่ะ แม้แต่ความนิยม ความเคารพนับถือ ก็หาตรงไหนที่จะให้คะแนนไม่ได้เลย พระอรรคและอัคนีต้องการผู้หญิงที่เก่ง ฉลาด เป็นคู่คิดได้เหมือนอย่างอุบล ฉากที่พระยาพลเทพมาเยี่ยมเรือนนี่เห็นได้ชัดเลยว่า อุบลเป็นนายหญิงแห่งบ้านได้สมศักดิ์ศรีจริงๆ คุณพระรีบกลบเกลื่อนที่สอบสวนคนปากบอนแพร่งพรายเรื่องอุโมงค์ มาเสทำเป็นชวนท่านลุงทานข้าวฝีมืออุบล ก็จัดแจงได้อย่างรวดเร็ว ทันกัน ไม่ต้องถามอะไรให้มากความ ผู้หญิงแบบนี้สิ ที่จะเป็นคู่คิดของพระอรรคได้
ฉากที่สโรชินีพูดกับทิพอาภาว่าฉันคืนให้คุณทั้งสองอย่าง โดยก่อนหน้านั้นพูดถึงทิพย์อาภาว่าเป็นเพื่อนคนเดียวที่เคยไว้ใจที่สุด ดังนั้นสิ่งที่คืนให้ก็คือ รูปภาพ และความไว้ใจ บทเขียนได้เจ็บแสบมากๆ แล้วก็ตามเคยทิพอาภาจ๋อย ตีมึน ไม่ลุกขึ้นสู้เหมือนอัคนีบ้างเลย
ฉากขโมย thumb drive ก็ตื่นเต้น คิดว่าเอาไปได้แล้วจริงๆซะอีก ชอบที่ละครเวลาจะเล่าเรื่องอะไรในอดีต ต้องหาเหตุการณ์ในปัจจุบันมาเชื่อมโยงเปรียบเทียบตลอด อันนี้คือคำว่าซ้อนแผน ที่ทำกับคนเดียวกัน คือ พระยาพลเทพ/ ดนัย โดยคนๆเดียวกัน คือ พระอรรค/ อัคนี แล้วมันก็ทำให้เรื่องปัจจุบันดำเนินไปข้างหน้าด้วย ไม่ใช่แค่อยากจะเล่าก็เล่าออกมาเฉยๆ ชอบฉากแบบนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นฉากไหว้พระในโบสถ์ สาบานจะปกป้องอุบล ก็มาจากที่อัคนีต่อยกับคนของท่านดนัยเพื่อปกป้องสโรชินี ฉากอุบลเห็นอัคนีให้ดอกไม้ทิพอาภาแล้วทำให้นึกถึงความหลังกับพระอรรคที่เคยให้ดอกไม้เดียวกัน
เหมือนจะเคยรู้มาว่าทีมเขียนบททีมนี้มีด้วยกัน 3 คน เขียนไว้หลายปีแล้ว ตั้งแต่คิดจะสร้างครั้งแรกเมื่อปี 2553 ก็ไม่แปลกใจนะที่บทจะดีขนาดนี้ ค่อยๆเขียน ค่อยๆเกลามาหลายปี แทบไม่มีช่องให้ติได้เลยเรื่องความสมจริง วิธีการเล่าเรื่องเหนือชั้นมากๆ คำพูดของตัวละครก็ฉลาดทันกันมากๆ
สรุปว่าวันนี้สนุกมาก แต่คิดว่าจะได้ดูฉากลอยกระทงซะอีก มันคือพรุ่งนี้เหรอคะ แต่ในตัวอย่างตอนต่อไปไม่เห็นมีเลย
มาคุยกันค่ะ