ช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเที่ยวภูเก็ต จะมีอะไรที่ดีไปกว่าแสงแดด ท้องฟ้า และทะเลได้ นอกจากอาหารใต้ ก็แน่นอนล่ะว่าไปถึงถิ่นอาหารใต้ทั้งที จะพลาดเรื่องตะลุยกินไปได้อย่างไร ที่ภูเก็ตก็มีร้านอาหารท้องถิ่นดังๆหลายร้าน ซึ่งก็ถือว่าเป็นร้านที่อร่อย ขาดแต่เพียงมนต์เสน่ห์ของอาหารใต้แท้ๆ เนื่องจากการปรับสูตรให้เข้ากับรสปากของคนทั่วไป และบางเมนูที่เคยได้ยินแต่ชื่อนั้นก็หากินได้ยาก จนถึงวันที่ต้องกลับมากรุงเทพฯ ก็ยังไม่เจอร้านที่เป็นอาหารใต้ต้นตำหรับซักที และนี่เองที่คงทำให้ยังมีอะไรติดค้างอยู่ในใจกับอาหารใต้ แต่จะให้หาอาหารใต้กินในกรุงเทพ มันจะใช่เหรอ.. แต่ก็ต้องลองดู เลยตั้งภารกิจตะลุยหาร้านอาหารใต้ในกรุงเทพ ไม่ว่าจะร้านดังที่คนพูดกันปากต่อปาก หรือร้านที่อยู่ตามเวปไซด์แนะนำร้านอาหาร ก็ยังไม่ใช่อย่างที่ต้องการ จนคิดว่าไม่น่าจะมีหรอก ร้านอาหารใต้ที่เป็นรสชาติแบบต้นตำหรับ และมีเมนูแบบคนใต้จริงๆ จนมาเจอร้านแห่งหนึ่ง ที่ไม่คิดว่าในสถานที่แบบนี้น่ะเหรอ จะมีร้านอาหารใต้อร่อยแบบนี้ ในห้าง Central East Ville เนี่ยนะ!!
ต้องบอกว่านี่คือความบังเอิญมากที่มาเจอร้านนี้ แต่พอได้ลองแล้วเลยอยากบอกต่อ อย่างที่เกริ่นตอนแรกว่าไม่คิดว่าจะเจอร้านอาหารใต้ที่มีรสชาติดั้งเดิม เหมือนรสชาติท้องถิ่น เครื่องปรุงที่พิถีพิถันแบบคนยุดก่อน เมนูที่อร่อยและหากินไม่ได้ง่ายๆ แต่วันก่อนไปเดินห้างแล้วหิว และไปเจอร้าน กินข้าว (KIN KAO) ก็เลยลองไปเปิดๆเมนูหน้าร้านดู มีอาหารใต้ด้วย อ่ะลองก็ลอง.. (ร้านนี้อยู่ที่ชั้น 1 ในห้าง Central East Ville) แวบแรก คิดว่าลองกินดูถือซะว่าเป็นอีกร้านที่มาลองละกัน



ร้านกินข้าว ชื่อเรียกง่ายๆ แต่เป็นคำติดปากของคนไทยทุกคน ที่ร้านนี้ต้องบอกว่าประทับใจปนแปลกใจตั้งแต่เริ่มเปิดเมนูอาหารแล้ว ไม่เพียงแต่เมนูทั่วไปของอาหารใต้ เช่น คั่วกลิ้ง กุ้งผัดสะตอ ที่หาทานได้ตามร้านอาหารใต้แทบจะทุกร้าน แต่ที่ร้านนี้ยังมีเมนู แกงรัญจวน ยำใบชะคราม เนื้อปูผัดเคย ต้มจิ๋ว ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูอาหารใต้ที่หากินได้ยากมากๆแล้ว นี่สินะ..ร้านอาหารใต้ที่ตามหา แต่เดี๋ยวก่อน..ต้องขอชิมรสชาติก่อนว่ามันใช่รึเปล่า ว่าแล้วก็ระดมจิ้มเมนูต่างๆ (อย่างขาดสติ) ใบหลียงผัดไข่ แกงคั่วเนื้อปลาใบส้มแป้น พะแนงซี่โครงหมู ยำใบชะคราม แกงรัญจวนเนื้อ และปลาตะเพียนต้มเค็ม


(หน้าตาที่เอามาเสิร์ฟ สีสันในทุกๆจาน ถือว่าผ่าน)

แกงรัญจวน หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ซะด้วยซ้ำ นี่คือแกงที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เรียกได้ว่านี่คืออาหารชาววัง ซึ่งมีบันทึกไว้ว่า แกงรัญจวนเกิดจากการนำเอากะปิที่ตำไว้ (เหลือ)ในครกใหญ่ แบ่งมาทำเป็นแกง ซึ่งทั้งรสชาติและความหอมนั้นรัญจวนใจยิ่งนัก เป็นเมนูที่หากินได้ยากมาก เพียงแค่ตักเข้าปากคำแรก ความหอมก็คลุ้งในปาก ความเปรี้ยวผสานกับความเผ็ดนำมา และตามมาด้วยความกลมกล่อมของทุกรสชาติ ถ้าอธิบายง่ายๆรสชาติออกแนวต้มยำน้ำใส ที่มีความหอม เข้มข้น ที่ได้จากน้ำพริกกะปิ เป็นความอร่อยที่หายากเหมือนที่เคยได้ยินมาเลยจริงๆ



ยำใบชะคราม นี่คืออีกเมนูที่หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่าใบชะครามคือใบอะไร ต้นชะครามจะขึ้นตามป่าชายเลน ซึ่งจะดูดความเค็มเข้ามา ทำให้เต็มไปด้วยไอโอดีน โดยเฉพาะส่วนใบ ใบชะครามจะมีรสเค็มเล็กน้อย เมื่อนำมายำจะมีความเค็มๆมันๆ ตัดกับรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และยำใบชะครามของที่นี่บอกได้เลยว่า ครบรสจริงๆ แถมกุ้งสดๆตัวโต ยิ่งทำให้ความอร่อยนั้นเต็มๆคำ



นอกจากเมนูที่หากินได้ยากแล้วนั้น ที่ร้านนี้ยังมีเมนูทั่วๆไป แต่ความอร่อยไม่แพ้ใครเลย อย่างใบหลียงผัดไข่ แกงคั่วเนื้อปลาใบส้มแป้น ที่เนื้อปลาสดสุดๆขนาดเป็นลิ่มๆ เครื่องแกงที่นำมาทำก็หอมครบเครื่อง  (แอบถามพนักงาน เครื่องแกงที่ร้านนี้ตำเอง และทำสด ใหม่ ทุกวัน) หรือจะเป็นพะแนงซี่โครงหมู ที่เคี่ยวจนนุ่ม เนื้อหลุดออกจากกระดูกอย่างง่ายดาย รสชาติเข้มข้น เอามาราดบนข้าวหอมมะลิร้อนๆฟินมาก
มาถึงตรงนี้ใครที่อ่านตามระวังท้องร้องนะ และเมนูสุดท้ายของมื้อนี้ ปลาตะเพียนต้มเค็ม ที่บอกได้เลยว่าน่าจะใช้คำว่า ตุ๋น มากกว่าต้ม เพราะว่าปลาตะเพียนในจานนี้สามารถกินได้ทั้งหมด นอกจากเนื้อที่เนียนแล้ว ก้างของปลาตะเพียนที่ขึ้นชื่อว่าเยอะมากๆนั้น แทบจะละลายไปในปาก แม้แต่ก้างแกนกลางยังสามารถกินได้ เรื่องของรสชาติไม่พูดถึงก็ไม่ได้ เพราะว่าความหวานและความเค็มที่ผสมผสานอย่างลงตัว ทุกๆคำที่ตักเข้าปาก รสชาติความกลมกล่อมเข้าเนื้อมาจนถึงแกนกลาง ความหวานหอมของเมนูนี้มาจากการที่นำเอาปลาไปต้มกับอ้อย กินคู่กับขิงซอย หอมแดง มะม่วงซอย และพริกขี้หนูสด




(ใบเหลียงผัดไข่ ไม่แพ้ร้านอื่นๆเลย)


(แกงคั่วเนื้อปลาใบส้มแป้น เห็นความข้นของแกงนั่นมั้ย อยากให้ภาพโชว์กลิ่นและความเผ็ดร้อนได้จริงๆ)


(เห็นพะแนงซี่โครงหมู จานนี้แล้ว ขอข้าวสวยร้อนๆด่วน)

ปิดท้ายด้วยชาสมุนไพร ทั้งตะไคร้ มะกรูด ที่เปรี้ยวอมหวาน ที่ให้ความสดชื่น และดับความเผ็ดร้อนของอาหารใต้ได้เป็นอย่างดี ใครที่ตามหาร้านอาหารใต้อยู่ บอกเลยว่ามาร้านนี้ไม่ผิดหวังแน่ๆ ส่วนตัวแล้วคงต้องไปซ้ำอีกหลายรอบเลย เพราะยังมีอีกหลายเมนูเลยที่ยังไม่ได้ชิม


(ชาสมุนไพรที่เสิร์ฟมาในถังน้ำแข็งเล็กๆ เย็นชื่นใจยันหยดสุดท้ายเลย)

ฝากติดตามการรีวิวที่นี่ด้วยนะครับ
หรือที่ www.facebook.com/pepperupper