เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 เป็นวันออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วงประชามติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และเมื่อวันศุกร์ที่ 22 เมษายน พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ก็ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน

การเตรียมพร้อมของ กกต.ต่อการลงประชามติที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นบันไดสำคัญในการนำพาประเทศกลับคืนสู่การเลือกตั้งและการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย เรื่องนี้ ดร.ประวิช รัตนเพียร-กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการการมีส่วนร่วม ประเมินถึงการตื่นตัวของประชาชนต่อการออกเสียงประชามติที่จะมีขึ้นว่า สิ่งที่จะบอกก็คือใครจะคิดเห็นขัดแย้งกัน จะคิดเห็นชอบหรือไม่ชอบ จะด้วยเหตุผลใดก็สุดแล้วแต่ จะด้วยเหตุผลเช่นการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญอย่างดีแล้ว บางคนชอบมาตรานี้แต่ไม่ชอบมาตราอื่น สิ่งเหล่านี้คือสิทธิ์ของประชาชนโดยแท้ ที่จะตัดสินใจว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ แต่เรากำลังจะบอกว่าจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ จะขัดแย้งกันอย่างไรในทางความคิด แต่ในวันลงประชามติ 7 สิงหาคม ต้องไปตัดสิน

นี้คือหัวใจที่เราจะบอกทุกคนว่า 65 ล้าน ดอกไม้ ต้นไม้ประชาธิปไตยบานสะพรั่ง คืออยากให้ออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 7 สิงหาคม จะเห็นชอบหรือไม่ชอบ ไม่มีใครว่าอะไรเลย แต่ขอให้เดินออกไป นี่คือสิ่งที่เรากำลังเดินหน้า ซึ่งเรื่องการแสดงความเห็นว่าชอบหรือไม่ชอบตามที่ปรากฏตามสื่อทุกวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสความสนใจในเรื่องประชามติคงอยู่ตลอดไป ซึ่งไม่มีอะไรที่เสียหาย

อยากทราบว่า    บริษัทที่ได้รับงานดังกล่าว มีบริษัทใดบ้างครับ  ( อย่างต่ำตีพิมพ์ 65 ล้านฉบับ )