ปกติบ้านผม Meat Lover ชอบเนื้อกันทั้งบ้าน

วันก่อน อ่าน review  7 ร้าน Steak ที่ควรไปลอง ตามลิ้งค์นี้ ดูแล้วเข้า ท่า

http://www.ryoiireview.com/article/7-restaurants-steak-meat-premium/

เคยลอง ทาน ร้านดัง Arnold ร้านดังจองยาก ราคาแรง ตามลิ้งค์นั้นแล้วเนื้อโอเค

ส่วน Wholy Cow  อารีย์ 2 ข้างคอนโด ผม นั่น แวะไปทานบ่อย เนื้อ premium melt in mouth นุ่มละลาย ในปาก ราคาชิ้นละต่ำพัน  ที่นี่ ก้อใช้ได้ ราคาไม่แรง โดยเฉพาะ อาหารอื่น พวกสปาเก็ตตี้ ก้ออร่อย ใครว่างไปลองได้ครับ

แต่วันนี้ที่อยากลองคือร้านใหม่ ที่ยังไม่เคยลอง Kuh Grill & Bar ร้านเล็กๆ ตกแต่งสบายๆ อยู่อารีย2 ใกล้คอนโด ผมเหมือนกัน อยู่ต้นซอยอารีย์ 2 หากมาทางราชครู อยู่ก่อนถึง wholy cow ประมาณ  100 เมตร




ป้าย ร้านตกแต่งเรียบง่ายดูดี ชอบชื่อร้าน kuh ที่แปลว่าวัวตัวเมียครับ




เมนูแผ่นเล็กๆ เรียบง่าย มี เมนูไม่มาก แต่ให้รายละเอียดครบ ถ้วนพร้อมทั้งราคา

ร้านนี้เพิ่งเปิดได้แค่เดือนเดียว

เท่าที่สังเกต เหมือนพวกน้องๆ เจ้าของร้านเพื่อนๆ กันเค้าจะลงทุนทำกันด้วยใจรัก

น้องที่มารับออเดอร์ หุ่นเหมือนเชฟใหญ่ สุภาพ น่ารักให้คำแนะนำ เรื่องอาหาร อย่างดี

วันนี้ มากัน 3 คน แต่ความที่อยาก แค่ชิมเนื้อ เป็นหลัก เลยสั่ง main แค่ 2 รายการ คือ

พระเอกของที่นี่ Saga Wagyu Rib Eye A5 ที่ว่ากัน ว่า มันเป็นเนื้อเกรดสูงสุดที่นุ่มมาก และอุดมไขทันแทรกในเนื้อ

กับตัว พระรอง เนื้อ Ausie 150 day grain fed Tenderloin

และ Burger Aus tenderloin beef (แต่วันนี้ หมด อดชิม)

ส่วน Soup ลอง สั่ง Edamame sweet corn soup มาลอง รวมทั้ง Cesar slad เมนูดังของที่นี่ ที่ว่ากันว่าต้องลอง


ซุปถั่วแระ กับข้าวโพด เสริฟมา จัดได้สวย เลย ชามโตกำลังดีผสมมาด้านล่ะครึ่งในชามเดียวกัน ด้านเขียวถ่วแระญี่ปุ่นออกเค็มนิดๆ ส่วนข้าวโพด ออกหวาน รวมๆ อร่อย ผมชอบนะ กับราคา 160 + ไม่ได้ถูกเท่าไร แต่ก้อถือว่าไม่ได้แรงมาก  รับได้


Caesar Salad จานนี้ แต่งมาสวย ใช้ขนมปังปิ้งบางกรอบหอม แต่งเป็นถ้วย
ใส่ผักสลัด  รสชาติดี แต่จานเล็กไปนิด สำหรับ สลัดราคา 220+ บาท


มาถึงจานพระรอง  Ausie tenderloin  เสริฟมากับ rosemary brown gravy sauce จานนี้สั่งความสุกเป็น medium แต่ความที่เนื้อชิ้นหนามั้งหั่นออกมาเลย ค่อนข้าง rare ไปเยอะ  
เนื้อนุ่มใช้ได้แม้จะ rare ไปนิดสำหรับผม มันฝรั่งอบเนื้อแน่น อร่อยดี สำหรับจานนี้ ราคา880+ บาท สำหรับร้านเล็กๆ น่ารัก อย่างนี้  ยังคงรับได้ (อ้อ ไม่ใจ +ค่าซอซ 60 บาท เพิ่มมาต่างหากเป็น 940+ ตกพันเศษนิดๆ ก้อต้องถือว่าเป็นราคากลางๆ


มาถึงจาน ท้าย พระเอกของงาน ดูจากเมนู ราคาต่อชิ้น 250 กรัม 2680+ ตกแล้วก้อประมาณ 3 พัน สำหรับ วากิว A5 ถือว่าไม่แรง
เสริฟมาแต่งจานได้สวย  จานนี้ไม่ต้องสั่งซอซเพิ่มให้เปลืองตังค์
เค้า มี วาซาบิกับเกลือภูเขา เสริฟมาให้พร้อม


ชิ้นนี้ สั่ง Medium เช่นกัน ดูตอนแรกคิดว่าสุกเกิน มันขาวเหมือนหมูปิ้งเลย
แต่หั่นลงไป โอเค สุกกำลังดี.

แต่ ที่คาดหวังไว้ สำหรับเนื้อ A5 เราคาดว่ามันจะเป็นเนื้อลายหินอ่อน มีมันแทรกสวยนุ่มลิ้น
แต่เนื้อ มันออกมาแบบเนื้อปนมันแยกกัน ไม่เนียนแฮะ และ พอตัดเคี้ยวต้องยอมรับว่า มันเหนียว และมีผังผืด รสชาติไม่ผ่าน พาลให้นึกถึงเนื้อ A5 ของร้านคิตาโอจิ ที่ทองหล่อของค่าย เบียร์สิงห์ที่เคยไปลองเลย อันนั้นนุ่มอร่อยจริงๆ

จบมื้อค่ำ ก่อนนอนเบาๆ ได้ทั้ง อันที่ถูกใจ และผิดหวัง

น้องท่าทางคงเป็นหุ้นส่วนเข้ามาสอบถามตอนเช็คบิลว่า อาหารเป็นไงมั่ง ก้อตอบเค้าไปตามตรง ทั้งเรื่อง การปรุงสุก และ ความปิดหวังในตัว วากิว น้องเค้าก้อรับไปปรับปรุง

อยากบอกว่า น้องๆ เค้าทำกันมาได้เดือนเดียว คงอาจจะต้องปรับปรุงทั้งเรื่องรสชาติ และราคา รวมทั้งกาาเลือกวาง positioning ของร้านว่าจะไปอยู่ระดับไหนดี ถึงจำไปได้สวย ประสบความสำเร็จ

ส่วนตัวให้คะแนนด้านความตั้งใจ และ การบริการ 5 ดาว เลย

ส่วนความคุ้มค่าของราคา กับคุณภาพ ของอาหาร  ขอลดลงมาที่ 3 ดาว ละกัน