วันนี้มาแนะนำร้านเนื้อย่างสไตล์ญี่ปุ่นฮะ
เช่นเดิมคือ แดรกเอง จกตังค์เอง กระเป๋าแหกเอง 555
วันนี้เป็นร้านอลาคาร์ตที่ชื่อว่า Yakiniku Kirabi ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเค้ามีสองสาขานะ วันนี้มาชิมที่สุขุมวิท 51 ฮะ
เตัวร้านขนาดเล็ก โต๊ะเป็นแบบคอกส่วนตัวมากๆ ชอบใจมาก บรรยากาศญี่ปุ่นเด๊ะๆ เลยฮะ
เมนูเด่นของร้านก็ คือ คุโรเกะวากิวเซต ซึ่งประกอบด้วยเนื้อส่วนต่างๆ 5 ส่วน ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะจัดการเมนูนี้ฮะ
อีกตัวที่เด่นมาก็คือ คารูบิวากิว ที่จานละแค่ 290 บาท อีกทั้งถ้าเราอยากชิมมันทุกๆส่วน ก็เลือกสั่งเป็นชิ้นๆ ได้เช่นกันฮะ ซึ่งเริ่มที่ 70 บาท
และถ้าราคาหนักไป ก็ลองเนื้อไทยได้ จะมีส่วนที่เป็นฮารมิ และคารุบิ ที่ราคา 180 บาทเท่ากันฮะ
นี่มก็พูดมากไปละ ขอเข้ารีวิวเลยละกันฮะ
จัดจานเตรียมลุยฮะ น้ำจิ้มที่นี่มี 2 สูตร คือ แบบบาบีคิวสูตรของร้าน และแบบเต้าเจี้ยวเผ็ด โดยเค้าจะมีวาซาบิแถมมาให้ในถ้วยน้ำจิ้ม เผื่อใครต้องการความสดชื่นแทรกเข้าไปในรสชาติเนื้อ
สภาพเตาย่างก็ทั่วๆ ไป เป็นเตาถ่าน ส่วนตะแกรงน่าจะเป็นแบบใช้แล้วทิ้งมั้ง เพราะดูใหม่และบอบบางมากมาย
เริ่มที่จานเด็ดฮะ เซตคุโรเกะวากิว มีเนื้อ 5 ชนิด ลายสวยงามมากมาย
ชอบฮารามิฮะ ถึงจะเป็นเนื้อไทยก็ต้องลอง
หอยโฮตาเตะ ตัวละ 80 บาท ตัวเป้งมากมาย
ถ่ายรวมๆ ให้อิจฉาเล่น อิอิ
เริ่มย่างจากเนื้อ Uchihira ลายแทรกสวย เนื้อตัวนี้นุ่มและได้เคี้ยว อร่อยดีฮะ
เนื้อ Hiuchi หน้าตาคล้ายคอหมูย่าง แต่ฟินกว่าซัก 10 เท่าได้ กับฮารามิบนเตาร้อนๆ
ย่างเพลินเต็มเตากันไป กินแบบชิวๆ อร่อยยาวๆ
จัดวากิวคารูบิมาเพิ่ม จานนี้เทพมากราคาถูกมากถ้าเทียบกับคุณภาพของวากิว A5 ที่ได้สัมผัส
ปิ้งเนื้อวนไปฮะ ความสุกอย่างนึงของการแดรกเนื้อชั้นดีก็คือ การค่อยๆปิ้งไปทีละคำ ดูมันเนื้อละลาย ดมกลิ่นหอมๆ โอ้ยยยยสวรรรรรรค์
เทียบลายมันระหว่าง Misuji และ Karubi ฮะ ต้องบอกว่าความอร่อยสูสีมาก แต่ Misuji ชนะไปในเรื่องความละลายๆ คาปาก
เนื้อย่างกินกับข้าวร้อนๆ อร่อยที่สุดฮะ
ตบท้ายด้วยชีสเค้กฮอกไกโด ซึ่งอร่อยและปิดท้ายความฟินได้ลงตัวที่สุด
ทิ้งท้ายกับความเสียดาย เนื้ออย่างละชิ้นที่ผมดูแล้วเป็นศิลปะที่มองวนไปวนมาได้ไม่เคยจะเบื่อฮะ
สรุปนะฮะ
รสชาติอาหาร - เนื้อคุณภาพดีมาก ด้วยความเป็น A5 มันแทรกโหดร้าย แต่สวยงาม ทานกับข้าวกับผักโคตรดีงาม ที่สำคัญน้ำจิ้มอร่อยมาก ไม่จำเป็นต้องปรุงรสแบบไทยๆ เลย เนื้อที่อร่อยแบบคุ้มที่สุด คือ คารูบิวากิว ลองได้รัวๆ ราคาไม่หนัก
บรรยากาศ - ร้านแบบญี่ปุ่น ทะมึนๆ และดูเป็นส่วนตัวดี
การเดินทาง - ลำบากนิด ซ่อนอยู่ในซอยที่ไม่ใช่แหล่งที่คนพลุกพล่านเท่าไร
การบริการ - บริการดีมาก กดกริ่งเรียก 3 วิ พนักงานก็เดินมาหาละ
ความคุ้มค่า - ราคาสูงแต่ก็ไม่ได้แรงแบบจับต้องไม่ไหว อร่อยคุ้มค่าดีฮะ
ปล. รูปไม่ชัดถ่ายจาก เสียวหมี่ Mi Note 4
ข้อมูลร้าน
🏁 Yakinku Kirabi@Sukhumvit 51 (150m จากปากซอย)
💲 อลาคาร์ต เนื้อญี่ปุ่นเริ่มที่ 70/ชิ้น, 290/จาน มี VAT + Service
📅 ทุกวัน 18:00 - 0:30 (last order 0:00)
🅿 มีที่จอดรถ
[CR] ปิ้งย่าง Black Wagyu A5 ในราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้
เช่นเดิมคือ แดรกเอง จกตังค์เอง กระเป๋าแหกเอง 555
วันนี้เป็นร้านอลาคาร์ตที่ชื่อว่า Yakiniku Kirabi ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเค้ามีสองสาขานะ วันนี้มาชิมที่สุขุมวิท 51 ฮะ
เตัวร้านขนาดเล็ก โต๊ะเป็นแบบคอกส่วนตัวมากๆ ชอบใจมาก บรรยากาศญี่ปุ่นเด๊ะๆ เลยฮะ
เมนูเด่นของร้านก็ คือ คุโรเกะวากิวเซต ซึ่งประกอบด้วยเนื้อส่วนต่างๆ 5 ส่วน ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะจัดการเมนูนี้ฮะ
อีกตัวที่เด่นมาก็คือ คารูบิวากิว ที่จานละแค่ 290 บาท อีกทั้งถ้าเราอยากชิมมันทุกๆส่วน ก็เลือกสั่งเป็นชิ้นๆ ได้เช่นกันฮะ ซึ่งเริ่มที่ 70 บาท
และถ้าราคาหนักไป ก็ลองเนื้อไทยได้ จะมีส่วนที่เป็นฮารมิ และคารุบิ ที่ราคา 180 บาทเท่ากันฮะ
นี่มก็พูดมากไปละ ขอเข้ารีวิวเลยละกันฮะ
จัดจานเตรียมลุยฮะ น้ำจิ้มที่นี่มี 2 สูตร คือ แบบบาบีคิวสูตรของร้าน และแบบเต้าเจี้ยวเผ็ด โดยเค้าจะมีวาซาบิแถมมาให้ในถ้วยน้ำจิ้ม เผื่อใครต้องการความสดชื่นแทรกเข้าไปในรสชาติเนื้อ
สภาพเตาย่างก็ทั่วๆ ไป เป็นเตาถ่าน ส่วนตะแกรงน่าจะเป็นแบบใช้แล้วทิ้งมั้ง เพราะดูใหม่และบอบบางมากมาย
เริ่มที่จานเด็ดฮะ เซตคุโรเกะวากิว มีเนื้อ 5 ชนิด ลายสวยงามมากมาย
ชอบฮารามิฮะ ถึงจะเป็นเนื้อไทยก็ต้องลอง
หอยโฮตาเตะ ตัวละ 80 บาท ตัวเป้งมากมาย
ถ่ายรวมๆ ให้อิจฉาเล่น อิอิ
เริ่มย่างจากเนื้อ Uchihira ลายแทรกสวย เนื้อตัวนี้นุ่มและได้เคี้ยว อร่อยดีฮะ
เนื้อ Hiuchi หน้าตาคล้ายคอหมูย่าง แต่ฟินกว่าซัก 10 เท่าได้ กับฮารามิบนเตาร้อนๆ
ย่างเพลินเต็มเตากันไป กินแบบชิวๆ อร่อยยาวๆ
จัดวากิวคารูบิมาเพิ่ม จานนี้เทพมากราคาถูกมากถ้าเทียบกับคุณภาพของวากิว A5 ที่ได้สัมผัส
ปิ้งเนื้อวนไปฮะ ความสุกอย่างนึงของการแดรกเนื้อชั้นดีก็คือ การค่อยๆปิ้งไปทีละคำ ดูมันเนื้อละลาย ดมกลิ่นหอมๆ โอ้ยยยยสวรรรรรรค์
เทียบลายมันระหว่าง Misuji และ Karubi ฮะ ต้องบอกว่าความอร่อยสูสีมาก แต่ Misuji ชนะไปในเรื่องความละลายๆ คาปาก
เนื้อย่างกินกับข้าวร้อนๆ อร่อยที่สุดฮะ
ตบท้ายด้วยชีสเค้กฮอกไกโด ซึ่งอร่อยและปิดท้ายความฟินได้ลงตัวที่สุด
ทิ้งท้ายกับความเสียดาย เนื้ออย่างละชิ้นที่ผมดูแล้วเป็นศิลปะที่มองวนไปวนมาได้ไม่เคยจะเบื่อฮะ
สรุปนะฮะ
รสชาติอาหาร - เนื้อคุณภาพดีมาก ด้วยความเป็น A5 มันแทรกโหดร้าย แต่สวยงาม ทานกับข้าวกับผักโคตรดีงาม ที่สำคัญน้ำจิ้มอร่อยมาก ไม่จำเป็นต้องปรุงรสแบบไทยๆ เลย เนื้อที่อร่อยแบบคุ้มที่สุด คือ คารูบิวากิว ลองได้รัวๆ ราคาไม่หนัก
บรรยากาศ - ร้านแบบญี่ปุ่น ทะมึนๆ และดูเป็นส่วนตัวดี
การเดินทาง - ลำบากนิด ซ่อนอยู่ในซอยที่ไม่ใช่แหล่งที่คนพลุกพล่านเท่าไร
การบริการ - บริการดีมาก กดกริ่งเรียก 3 วิ พนักงานก็เดินมาหาละ
ความคุ้มค่า - ราคาสูงแต่ก็ไม่ได้แรงแบบจับต้องไม่ไหว อร่อยคุ้มค่าดีฮะ
ปล. รูปไม่ชัดถ่ายจาก เสียวหมี่ Mi Note 4
ข้อมูลร้าน
🏁 Yakinku Kirabi@Sukhumvit 51 (150m จากปากซอย)
💲 อลาคาร์ต เนื้อญี่ปุ่นเริ่มที่ 70/ชิ้น, 290/จาน มี VAT + Service
📅 ทุกวัน 18:00 - 0:30 (last order 0:00)
🅿 มีที่จอดรถ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้