แสงส่องใจ จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 220 ค่ะ
โดยสมเด็จพระสังฆราช (สกลมหาสังฆปริณายก)
แสงส่องใจให้เพียงพรหม
เทศนานิพนธ์
ใน
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
มุทิตา คือพลอยยินดีด้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข
ความหมายของมุทิตาก็มีเป็นสอง คือหมายถึงพลอยยินดีด้วยกับผู้อื่น เมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข และพลอยยินดีด้วยกับตนเอง เมื่อตนได้ดีมีสุข ความพลอยยินดีด้วยนี้จะเป็นเหตุนำไปสู่ความดีอีกชั้นหนึ่งถ้ารู้จักคิดให้ลึกให้ถูก เมื่อตนได้ดีมีสุข อย่าปล่อยให้การได้ดีมีสุขนั้นผ่านไปเฉย ๆ แต่ให้พลอยยินดีกับตนเอง ให้ตั้งใจสงวนรักษาความดีที่ได้มานั้นไว้ และเพิ่มพูนให้ยิ่งขึ้น นี้หมายถึงผู้ยังเป็นปุถุชนที่ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ ซึ่งยังจำเป็นต้องอาศัยความดีเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่ความพ้นทุกข์ ส่วนผู้ศึกษาปฏิบัติธรรมจนล่วงทุกข์ได้สิ้นเชิงแล้วย่อมไม่มีความยินดียินร้ายเหลืออยู่ ความยินดีกับความได้ดีมีสุขแม้ของตนก็ย่อมไม่มี
ที่พึงยินดีกับความได้ดีมีสุขของตน ก็เพื่อให้ใจสงบสบายได้พอสมควร ไม่ทะเยอทะยานให้ยิ่งขึ้นจนเกินไป เช่นได้ดีเพียงใดก็ให้ยินดีกับการได้ดีเพียงนั้น อย่าไม่พอใจเพราะต้องการให้ยิ่งกว่านั้น ส่วนการขยันหมั่นเพียรให้ยิ่งขึ้นอย่างถูกต้องสมควรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผู้ยินดีในความได้ดีมีสุขของตนอาจปฏิบัติได้
สำหรับต่อผู้อื่นที่ได้ดีมีสุข มุทิตาความพลอยยินดีด้วยเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงอบรมให้มี เมื่อมีเมตตากรุณาแล้วก็เป็นไปได้ที่มุทิตาจะเกิดตามมา ถ้าเมตตากรุณาบริสุทธิ์งดงามจริงใจ เป็นเมตตากรุณาจริง ซึ่งบางทีก็ยาก บางคนมีเมตตากรุณาได้มากมายต่อผู้ที่ลำบากหรือผู้ที่ต่ำต้อยกว่า แต่จะมีไม่ได้ต่อผู้ที่ดีกว่าผู้ที่สูงกว่า
เมตตากรุณาที่แท้จริงนั้นมิได้เป็นสิ่งที่ผู้สูงกว่าจะพึงมีต่อผู้ที่ต่ำกว่าด้อยว่าเท่านั้น เมตตากรุณาที่แท้ไม่ใช่เรื่องของความสูงความต่ำความดีความไม่ดี เมตตากรุณาที่แท้จริงย่อมมีได้แม้ในคนยากจนเข็ญใจ ต่อเศรษฐีมหาเศรษฐี มีได้แม้ในผู้มีสกุลต่ำยศต่ำ ต่อผู้มีสกุลสูงยศสูง เมตตากรุณาเป็นเรื่องของความงดงามแห่งจิตใจโดยแท้ ไม่เกี่ยวกับอะไรอื่น คนสูงคนต่ำคนรวยคนจนต่างมีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีความเกิดย่อมตามมาด้วยความทุกข์ คือความแก่ความเจ็บความตายเป็นต้น พิจารณาเช่นนี้แล้วย่อมเห็นว่าทุกคนมีเมตตากรุณาต่อกันได้ และทุกคนพึงมีเมตตากรุณาต่อกันด้วย
ความพลอยยินดีเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข ผลดีที่จะเกิดขึ้นนั้นเราจะเป็นผู้ได้รับก่อนผู้อื่นทั้งนั้น
ความพลอยยินดีด้วยกับความริษยาให้ความเย็นร้อนต่างกัน
ขณะที่ใจเกิดความยินดีเราเองนั้นแหละสบายใจ สบายก่อนใครอื่นทั้งหมด ผู้อื่นกว่าจะได้รับความสบายใจที่เกิดจากใจยินดีด้วยของเรา ก็เป็นอันดับรองจากตัวเรา ตรงกันข้าม ขณะที่ใจเกิดความริษยา เราเองนั้นแหละทุกข์ร้อนก่อนใครอื่นทั้งหมด ผู้อื่นกว่าจะได้รับความร้อนใจที่เกิดจากใจริษยาของเรา ก็เป็นอันดับรองจากตัวเรา
ความพลอยยินดีด้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข เป็นสิ่งพึงอบรมให้มี จะว่าเพื่อประโยชน์ตนก่อนประโยชน์ผู้อื่นก็ไม่ผิด เพราะรานั่นแหละจะได้รับผลดีเป็นความเย็นใจก่อนผู้ใดอื่นทั้งนั้น
มุทิตา ความพลอยยินดี้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเองได้เมื่อมีเมตตากรุณาพร้อมอย่างถูกแท้จริง และอาจอบรมให้เกิดได้สำหรับในกรณีที่ยังไม่เกิดขึ้นเองด้วยความพร้อมของเมตตากรุณาแท้
...แสงส่องใจ... จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 220 - 221 ค่ะ โดยสมเด็จพระสังฆราช (สกลมหาสังฆปริณายก)
โดยสมเด็จพระสังฆราช (สกลมหาสังฆปริณายก)
แสงส่องใจให้เพียงพรหม
เทศนานิพนธ์
ใน
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
มุทิตา คือพลอยยินดีด้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข
ความหมายของมุทิตาก็มีเป็นสอง คือหมายถึงพลอยยินดีด้วยกับผู้อื่น เมื่อผู้อื่นได้ดีมีสุข และพลอยยินดีด้วยกับตนเอง เมื่อตนได้ดีมีสุข ความพลอยยินดีด้วยนี้จะเป็นเหตุนำไปสู่ความดีอีกชั้นหนึ่งถ้ารู้จักคิดให้ลึกให้ถูก เมื่อตนได้ดีมีสุข อย่าปล่อยให้การได้ดีมีสุขนั้นผ่านไปเฉย ๆ แต่ให้พลอยยินดีกับตนเอง ให้ตั้งใจสงวนรักษาความดีที่ได้มานั้นไว้ และเพิ่มพูนให้ยิ่งขึ้น นี้หมายถึงผู้ยังเป็นปุถุชนที่ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ ซึ่งยังจำเป็นต้องอาศัยความดีเป็นบันไดก้าวขึ้นสู่ความพ้นทุกข์ ส่วนผู้ศึกษาปฏิบัติธรรมจนล่วงทุกข์ได้สิ้นเชิงแล้วย่อมไม่มีความยินดียินร้ายเหลืออยู่ ความยินดีกับความได้ดีมีสุขแม้ของตนก็ย่อมไม่มี
ที่พึงยินดีกับความได้ดีมีสุขของตน ก็เพื่อให้ใจสงบสบายได้พอสมควร ไม่ทะเยอทะยานให้ยิ่งขึ้นจนเกินไป เช่นได้ดีเพียงใดก็ให้ยินดีกับการได้ดีเพียงนั้น อย่าไม่พอใจเพราะต้องการให้ยิ่งกว่านั้น ส่วนการขยันหมั่นเพียรให้ยิ่งขึ้นอย่างถูกต้องสมควรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ผู้ยินดีในความได้ดีมีสุขของตนอาจปฏิบัติได้
สำหรับต่อผู้อื่นที่ได้ดีมีสุข มุทิตาความพลอยยินดีด้วยเป็นสิ่งที่ทุกคนพึงอบรมให้มี เมื่อมีเมตตากรุณาแล้วก็เป็นไปได้ที่มุทิตาจะเกิดตามมา ถ้าเมตตากรุณาบริสุทธิ์งดงามจริงใจ เป็นเมตตากรุณาจริง ซึ่งบางทีก็ยาก บางคนมีเมตตากรุณาได้มากมายต่อผู้ที่ลำบากหรือผู้ที่ต่ำต้อยกว่า แต่จะมีไม่ได้ต่อผู้ที่ดีกว่าผู้ที่สูงกว่า
เมตตากรุณาที่แท้จริงนั้นมิได้เป็นสิ่งที่ผู้สูงกว่าจะพึงมีต่อผู้ที่ต่ำกว่าด้อยว่าเท่านั้น เมตตากรุณาที่แท้ไม่ใช่เรื่องของความสูงความต่ำความดีความไม่ดี เมตตากรุณาที่แท้จริงย่อมมีได้แม้ในคนยากจนเข็ญใจ ต่อเศรษฐีมหาเศรษฐี มีได้แม้ในผู้มีสกุลต่ำยศต่ำ ต่อผู้มีสกุลสูงยศสูง เมตตากรุณาเป็นเรื่องของความงดงามแห่งจิตใจโดยแท้ ไม่เกี่ยวกับอะไรอื่น คนสูงคนต่ำคนรวยคนจนต่างมีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น เมื่อมีความเกิดย่อมตามมาด้วยความทุกข์ คือความแก่ความเจ็บความตายเป็นต้น พิจารณาเช่นนี้แล้วย่อมเห็นว่าทุกคนมีเมตตากรุณาต่อกันได้ และทุกคนพึงมีเมตตากรุณาต่อกันด้วย
ความพลอยยินดีเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข ผลดีที่จะเกิดขึ้นนั้นเราจะเป็นผู้ได้รับก่อนผู้อื่นทั้งนั้น
ความพลอยยินดีด้วยกับความริษยาให้ความเย็นร้อนต่างกัน
ขณะที่ใจเกิดความยินดีเราเองนั้นแหละสบายใจ สบายก่อนใครอื่นทั้งหมด ผู้อื่นกว่าจะได้รับความสบายใจที่เกิดจากใจยินดีด้วยของเรา ก็เป็นอันดับรองจากตัวเรา ตรงกันข้าม ขณะที่ใจเกิดความริษยา เราเองนั้นแหละทุกข์ร้อนก่อนใครอื่นทั้งหมด ผู้อื่นกว่าจะได้รับความร้อนใจที่เกิดจากใจริษยาของเรา ก็เป็นอันดับรองจากตัวเรา
ความพลอยยินดีด้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข เป็นสิ่งพึงอบรมให้มี จะว่าเพื่อประโยชน์ตนก่อนประโยชน์ผู้อื่นก็ไม่ผิด เพราะรานั่นแหละจะได้รับผลดีเป็นความเย็นใจก่อนผู้ใดอื่นทั้งนั้น
มุทิตา ความพลอยยินดี้วยเมื่อมีผู้ได้ดีมีสุข เป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นเองได้เมื่อมีเมตตากรุณาพร้อมอย่างถูกแท้จริง และอาจอบรมให้เกิดได้สำหรับในกรณีที่ยังไม่เกิดขึ้นเองด้วยความพร้อมของเมตตากรุณาแท้