มุทิตา แก้ความริษยา (สมเด็จพระญาณสังวร)



"มุทิตา แก้ความริษยา"

" .. มุทิตา คือภาวะจิตที่บันเทิงยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความสุขความเจริญด้วยสมบัติต่าง ๆ
ปราศจากความริษยา เห็นใครพรั่งพร้อมด้วยสมบัติก็พลอยมีมุทิตา ตัดความยินร้ายไม่ยินดีด้วยที่ริษยาเสียได้


"มุทิตา" นี้เป็นพรหมวิหารธรรมอีกข้อหนึ่ง "ที่พึงอบรมให้มีขึ้นในจิต"
วิธีอบรมคือระวังใจมิให้ริษยาในเมื่อได้เห็นได้ทราบสมบัติ คือความพรั่งพร้อมต่าง ๆ ของผู้อื่น

เมื่อความริษยาเกิดขึ้นก็พยายามระวังเสีย หัดคิดว่า "ตนเองมีความยินดีเมื่อตนได้สมบัติที่ชอบใจอย่างใดอย่างหนึ่ง
ไฉนเมื่อคนอื่นเขาได้จึงไปริษยาเขา ควรจะพลอยยินดีกับเขา"


พิจารณาให้เห็นโทษของความริษยา เช่นว่า "อรติ โลกนาสิกา...ความริษยาเป็นเหตุทำลายโลก"
เมื่อทำมุทิตาจิตให้เกิดขึ้นได้ ก็หัดแผ่จิตเช่นนี้ออกไปแก่คนอื่นสัตว์อื่นโดยเจาะจง
หรือโดยไม่เจาะจงทั่ไปด้วยความคิดว่า "จงอย่าวิบัติจากสิ่งที่ได้แล้ว"

อันที่จริงภาวะของจิตที่ยินดีในเวลาได้สมบัติต่าง ๆ ย่อมมีอยู่
ในเมื่อตนหรือคนเป็นที่รักได้สมบัติเป็นสามัญธรรมดา
แต่ยังเจือด้วยริษยาในเมื่อเห็นคนอื่นได้สมบัติและแม้ในสมบัติที่ตนได้ ก็ยังมีโสมนัสเจือตัณหา

พระบรมครูทรงสั่งสอนให้ปรับปรุงภาวะที่มีอยู่แล้วนี้แหละให้เป็นธรรมขึ้น
คือให้เป็นคุณอันบริสุทธิ์ที่เกื้อกูลกว้างขวางออกไป มิให้คับแคบเฉพาะตนและผู้ที่ตนรักเท่านั้น
แต่ให้กว้างออกไปตลอดถึงไม่มีจำกัดไม่มีประมาณ โดยให้ปราศจากริษยา

ทั้งปราศจากโสมนัสที่เจือกิเลสตัณหาด้วย "เพราะว่าริษยาเป็นศัตรูที่ใกล้ของมุทิตา"
ฉะนั้นก็พึงยกตนขึ้นเป็นพยานหรืออุปมาเช่นเดียวกับสองข้อข้างต้นและให้ยกบุคคลผู้เป็นที่รักขึ้นเป็นพยานหรือเป็นอุปมา

ดังพุทธภาษิตที่ตรัสสอนไว้ว่า "พึงแผ่จิตถึงสัตว์ทั้งปวงด้วยมุทิตา
เหมือนอย่างเห็นบุคคลผู้เป็นที่รักที่พอใจ ก็บันเทิงยินดีฉะนั้น
" .. "

สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่