▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ศาสนา
ศาสนาพุทธ
...แสงส่องใจ... จาก หนังสือธรรมะใกล้ตัว ฉบับที่ 222 - 223 ค่ะ โดยสมเด็จพระสังฆราช (สกลมหาสังฆปริณายก)
โดยสมเด็จพระสังฆราช (สกลมหาสังฆปริณายก)
แสงส่องใจให้เพียงพรหม
เทศนานิพนธ์
ใน
สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
การอบรมเมตตาจะไม่เป็นคุณแก่ผู้อื่นก่อนแก่ตนเอง ตนเองจะได้รับคุณของเมตตาก่อนแน่นอน เมตตาเป็นความเย็น เมื่อทำความเย็นให้เกิดขึ้นในใจตนเองก็ต้องเป็นความเป็นความเย็นแก่ตน ก่อนที่เมตตาจะส่งไปถึงผู้อื่น
เพียงมั่นใจในความถูกต้องเป็นจริงเท่ารั้น ว่าเมตตาเป็นคุณอย่างยิ่งสำหรับตน แล้วการอบรมเมตตาก็จะตามมาไม่ยาก แต่แม้ไม่มั่นใจว่าเมตตาเป็นคุณแก่ตนเองยิ่งกว่าแก่ผู้อื่น การอบรมเมตตาย่อมเป็นไปได้ยาก เพราะจะไม่สนใจอบรม เมื่อไม่อบรมก็ไม่เกิดผล ไม่เป็นผู้มีเมตตา อะไรทั้งนั้นถ้าไม่ทำ จะเรียกว่าทำไม่ได้หาได้ไม่ ต้องทำเสียงก่อน อบรมเมตตาก็เช่นกัน ทำเสียก่อนจะเป็นผู้มีเมตตา
อะไรทั้งนั้นถ้าไม่ทำ จะเรียกว่าทำไม่ได้หาได้ไม่ ต้องทำเสียก่อน อบรมเมตตาก็เช่นกัน ทำเสียก่อน จะเป็นผู้มีเมตตา
แม้ฝืนใจคิดปรารถนาให้ผู้มีทุกข์พ้นจากทุกข์อยู่เสมอ ความคิดเช่นนี้ก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับใจได้ คือเป็นเมตตาได้ แต่จำเป็นต้องให้ใจนึกจริง ๆ ไม่ใช่พูดแต่ปาก ใจไม่รับรู้ด้วย ใจต้องรับรู้ด้วยทุกอย่างจึงจะเกิดผล เพราะใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ
การอบรมใจให้อ่อนละมุนด้วยเมตตานับว่าเป็นการอบรมทะนุถนอมใจที่ดีที่สุดประการหนึ่ง ความสุขสงบเยือกเย็นของใจที่เมตตามีมากพอสมควรแล้วเป็นความสุข ที่ผู้ได้รับจะรับรองได้ ว่ามีค่าอย่างยิ่ง พึงหวงแหนรักษาอย่างยิ่ง สำหรับผู้ยังไม่เคยได้รับผลเช่นนั้นแม้ลองเชื่อไว้ก่อนและอบรมเมตตาให้เกิดโดยอาศัยความเชื่อเป็นกำลังส่งเสริม วันหนึ่งจะต้องได้รับผลด้วยตนเอง ผู้ที่ไม่ยอมเชื่ออะไรเลย แม้ไม่ยอมเชื่อเรื่องเมตตาและการให้ผลของเมตตา ก็จักขาดประโยชน์อย่างยิ่งประการหนึ่งที่ควรได้รับ
เมตตากรุณาไม่ได้หมายถึงการคลุกคลีหรือการเสวนาคบหา การเสวนาคบหาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาเลือกเฟ้นอย่างรอบคอบ แต่เมตตากรุณาพึงมีอย่างปราศจากขอบเขต เมตตากรุณาจึงไม่หมายถึงการต้องคบหาคลุกคลีกับคนทั้งหมดเสมอกัน อันการคบคนนั้นท่านสอนให้เลือก ถ้าคบคนพาลย่อมไม่พ้นโทษของการคบคนพาล พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าการไม่คบคนพาลเป็นมงคลอันอุดม แต่การจะให้เมตตากรุณานั้นเลือกพาลเลือกบัณฑิตไม่ได้ เมตตากรุณาต้องแผ่ไปทั่ว ถึงทั้งพาลและบัณฑิต ทั้งคนดีและคนไม่ดี ทั้งผู้สูงกว่าผู้ต่ำกว่าและผู้เสมอกัน และตนเองด้วย แต่การปฏิบัติเพื่อแสดงเมตตากรุณาต้องเหมาะต้องควรต้องให้เกิดมงคลแก่ตน
ให้เมตตากรุณาต่อคนพาลต้องเป็นอย่างหนึ่ง ให้เมตตากรุณาต่อคนดีต้องเป็นอย่างหนึ่ง การแสดงออกซึ่งเมตตากรุณาโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องย่อมมีโทษมีภัย การแสดงออกซึ่งเมตตากรุณาต้องเหมาะสม เมื่อจะแสดงออกซึ่งเมตตากรุณาไม่พึงคิดว่าเข้าข้างคนผิดคนไม่ดีไว้ก่อนเป็นการแสดงเมตตากรุณาที่แท้จริง เพราะคนถูกคนดีย่อมถูกย่อมดีอยู่ด้วยตนเองแล้ว คนผิดคนไม่ดีที่ต้องการเมตตากรุณาเพื่อเป็นกำลังใจ ความเข้าใจและปฏิบัติเมตตากรุณาเช่นนี้ไม่ถูกต้อง การลงโทษที่เหมาะสมแก่ความผิดด้วยจิตใจที่ปรารถนาให้เขาได้สำนึกและกลับตัวกลับใจทำดี เช่นนี้เป็นการแสดงออกซึ่งเมตตากรุณาที่ถูกต้องแท้จริง