บทนำ
หล่อนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร นี่ที่ไหนกันแน่
ใยแสงระยิบระยับจากดวงดาวบนท้องนภาจึงอยู่ใกล้เสียเหลือเกิน
เพียงแค่เอื้อมมือออกไปก็อาจคว้าดาวมาไว้ในอุ้งมือได้โดยง่าย
ทว่าจุดที่กำลังยืนอยู่กลับมืดหม่น เงียบวังเวงจนน่ากลัว หล่อนรู้แต่ว่าต้องรีบหาทางออกไปจากที่ตรงนี้ให้ได้
ตึกตักตึกตัก
กุบกับกุบกับ
เสียงอะไรบางอย่างดังถี่รัวซ้อนเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างเร่งรีบ
มันดังขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนก้องไปมาราวกับอยู่เบื้องหน้านี้เอง เจ้าของฝีเท้าเร่งความเร็วขึ้น พร้อมกับหันมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น กลับพบแต่ความมืดภายใต้เมฆหมอกหนาทึบ
อากาศเย็นชื้นจนต้องห่อตัวเข้าหากัน ริมฝีปากบางสั่นระริก ทั้งหนาว ทั้งหวาดกลัว
เท้าเปล่าเปลือยสองข้างปวดระบม ยามเมื่อเหยียบย่ำไปบนเม็ดดิน หินแหลมคมและเศษไม้ที่มองไม่เห็น ป่านนี้เลือดคงไหลโชกไปทั้งฝ่าเท้าแล้ว
ตึกตักตึกตัก
ดวงตากลมโตเพ่งมองฝ่าความมืดไปข้างหน้าเมื่อรู้สึกเสียงประหลาดคุ้นๆที่เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ดังชัดขึ้นทุกที
แล้วหล่อนก็ได้เห็น เงาอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้า
คน คนแน่ๆ
ถึงจะสวมเสื้อสีดำกลืนไปกับความมืดแห่งรัตติกาล แลเห็นเพียงด้านหลังแค่ครึ่งตัวในท่านั่งคุกเข่า แต่ก็รู้ ต้องเป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่มาก เขาก้มทำอะไรบางอย่าง สายตาหล่อนเลื่อนมองตาม จึงเห็นเงารางๆของใครอีกคนนอนนิ่งอยู่บนพื้น
ทว่า ฉับพลันนั้นเอง เหมือนคนที่ก้มหันหลังจะรู้ถึงการมาของหล่อน
เขาเอี้ยวตัวหันขวับมาทันที ประกายสีแดงวิบวับราวกับเปลวไฟลุกโชนเปล่งแสงอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้น
ดูดุดันน่ากลัว แต่ยังไม่เท่าริมฝีปากบางหยักที่สะท้อนแสงจันทร์ทราสีเหลืองนวลเห็นเป็นสีแดงวาววาม
คราบเลือด?
ยังไม่ทันพิจารณารายละเอียดบนใบหน้าชัดเจน หญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้าง ด้วยความตระหนกตกใจสุดขีด
ตึกตักตึกตัก
เสียงนั้น อยู่ที่นั่นเอง ที่มือข้างหนึ่งของชายลึกลับ ประคองอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้อยู่ในอุ้งมือ และสิ่งนั้น หล่อนคุ้นเคยดี
หัวใจ! หัวใจมนุษย์ หัวใจมนุษย์ที่ยังเต้นอยู่ !
หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปาก หากเสียงกรีดร้องก็ยังดังเล็ดลอดออกมา
กรี๊ด!
ซีรีส์แพทย์ ยุ่งนักรักคุณหมอแวมไพร์ (รอยสักรักแวมไพร์)
หล่อนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร นี่ที่ไหนกันแน่
ใยแสงระยิบระยับจากดวงดาวบนท้องนภาจึงอยู่ใกล้เสียเหลือเกิน
เพียงแค่เอื้อมมือออกไปก็อาจคว้าดาวมาไว้ในอุ้งมือได้โดยง่าย
ทว่าจุดที่กำลังยืนอยู่กลับมืดหม่น เงียบวังเวงจนน่ากลัว หล่อนรู้แต่ว่าต้องรีบหาทางออกไปจากที่ตรงนี้ให้ได้
ตึกตักตึกตัก
กุบกับกุบกับ
เสียงอะไรบางอย่างดังถี่รัวซ้อนเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวเดินอย่างเร่งรีบ
มันดังขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนก้องไปมาราวกับอยู่เบื้องหน้านี้เอง เจ้าของฝีเท้าเร่งความเร็วขึ้น พร้อมกับหันมองรอบตัวอย่างหวาดหวั่น กลับพบแต่ความมืดภายใต้เมฆหมอกหนาทึบ
อากาศเย็นชื้นจนต้องห่อตัวเข้าหากัน ริมฝีปากบางสั่นระริก ทั้งหนาว ทั้งหวาดกลัว
เท้าเปล่าเปลือยสองข้างปวดระบม ยามเมื่อเหยียบย่ำไปบนเม็ดดิน หินแหลมคมและเศษไม้ที่มองไม่เห็น ป่านนี้เลือดคงไหลโชกไปทั้งฝ่าเท้าแล้ว
ตึกตักตึกตัก
ดวงตากลมโตเพ่งมองฝ่าความมืดไปข้างหน้าเมื่อรู้สึกเสียงประหลาดคุ้นๆที่เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ดังชัดขึ้นทุกที
แล้วหล่อนก็ได้เห็น เงาอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้า
คน คนแน่ๆ
ถึงจะสวมเสื้อสีดำกลืนไปกับความมืดแห่งรัตติกาล แลเห็นเพียงด้านหลังแค่ครึ่งตัวในท่านั่งคุกเข่า แต่ก็รู้ ต้องเป็นคนที่รูปร่างสูงใหญ่มาก เขาก้มทำอะไรบางอย่าง สายตาหล่อนเลื่อนมองตาม จึงเห็นเงารางๆของใครอีกคนนอนนิ่งอยู่บนพื้น
ทว่า ฉับพลันนั้นเอง เหมือนคนที่ก้มหันหลังจะรู้ถึงการมาของหล่อน
เขาเอี้ยวตัวหันขวับมาทันที ประกายสีแดงวิบวับราวกับเปลวไฟลุกโชนเปล่งแสงอยู่ในดวงตาคมกริบคู่นั้น
ดูดุดันน่ากลัว แต่ยังไม่เท่าริมฝีปากบางหยักที่สะท้อนแสงจันทร์ทราสีเหลืองนวลเห็นเป็นสีแดงวาววาม
คราบเลือด?
ยังไม่ทันพิจารณารายละเอียดบนใบหน้าชัดเจน หญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้าง ด้วยความตระหนกตกใจสุดขีด
ตึกตักตึกตัก
เสียงนั้น อยู่ที่นั่นเอง ที่มือข้างหนึ่งของชายลึกลับ ประคองอะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวได้อยู่ในอุ้งมือ และสิ่งนั้น หล่อนคุ้นเคยดี
หัวใจ! หัวใจมนุษย์ หัวใจมนุษย์ที่ยังเต้นอยู่ !
หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปาก หากเสียงกรีดร้องก็ยังดังเล็ดลอดออกมา
กรี๊ด!