แชร์ประสบการณ์การรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ O.C.D (Obsessive Compulsive Disorder)

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การรักษาและลักษณะของโรคที่เราเป็นค่ะ

โรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ O.C.D (Obsessive Compulsive Disorder)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ในส่วนที่เราเป็นจะเป็นอาการย้ำคิดค่ะ จะมีอาการคิดถึงเรื่องความตาย จินตนาการความรู้สึกหลังตาย แต่ไม่ได้อยากตายนะคะ กลัวที่จะต้องตาย มองไปสุดปลายทางว่าตัวเองต้องตาย กลัวมากค่ะ หวาดระแวงจนต้องใช้ชีวิตแบบระวังจนไม่กล้าทำอะไรหลายๆอย่าง ยกตัวอย่างเช่น เวลาเดินข้ามถนนเราจะมองข้างหลังบ่อยมากทุก 30 วิเลยค่ะ หันจนตัวเองเวียนหัว อาการของโรคเป็นมานานค่ะ ตอนนี้อายุ 19 ตอนที่เริ่มมีอาการกลัวความตาย หรือไม่อยากให้ครอบครัวตายครั้งแรกตอนประมาณ 9 เกือบ 10 ขวบ ตอนนั้นเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆค่ะ แต่คิดจนไปถึงว่าถ้าพ่อตายแม่ตายตัวเองจะอยู่ได้ไหม จะรับได้ไหม ถ้าพ่อหรือแม่ตายก่อน จะฆ่าพ่อหรือแม่ตายตาม ฆ่าตัวเองตายตาม ความคิดมันผุดขึ้นมาเอง ทรมานมากค่ะ ที่เป็นส่วนมากทรมานจนร้องไห้ค่ะ แต่บางครั้งก็เป็นตอนที่อยู่กับเพื่อนก็ต้องพยายามดึงตัวเองออกมา หาวิธีดึงตัวเองออกมาเช่น โทรคุยแม่ เป็นต้นค่ะ


อาการเริ่มกลับมาเป็นหนักๆก็ช่วงม.4 ค่ะ นอนไม่หลับด้วย หลับยาก พอต้องข่มตัวเองนอน พอมันเห็นแต่ความมืดในสมองมันก็จะคิดนั่นนี่ให้หลับจนสุดท้ายมันจะวกกลับไปคิดเรื่องตาย หัวใจเราจะเต้นแรง นอนไม่ได้เลยค่ะ ถ้าวันไหนถ้าไม่ล้าก็จะนอนตี 3-4 บ่อยๆค่ะ ถ้าหลับเร็วหน่อยก็ประมาณ ตี 1-2 ตอนหลับก็ฝันทุกครั้งไม่ว่างีบหลับหรือนอนตอนกลางคืนนะคะ เวลาเรียนก็จะเพลีย หาวบ่อย เหมือนสมองไม่ค่อยได้พักเลยค่ะ เราเริ่มขอแม่ให้พาไปพบจิตแพทย์ตั้งแต่ช่วงม.4ค่ะเพราะเราทรมานมาก การเรียนก็เสีย ชีวิตประจำวันต่างๆก็เสีย เพราะเราเริ่มปลีกตัวจากคน ไม่ชอบการไปเจอคนเยอะๆ เวลามองคนเยอะๆ เช่นไปตลาดเราจะเวียนหัว รำคาญคน หงุดหงิดง่าย เก็บตัวอยู่คนเดียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช้าวันที่ 18 หมอให้ออกจากร.พ.ได้ ตอนเช้าเขาพาเราไปแผนกจิตเวชค่ะ ได้คุยกับจิตแพทย์ ได้ยามากิน 2 ตัวค่ะ ตัวหนึ่งเป็นยารักษาอีกตัวเป็นยานอนหลับ หมอบอกเราแต่แรกค่ะว่ายาต้องทานไปอย่างนอน 3 เดือนถึงจะเห็นผล พอเดือนก.พ.ก็มาตามนัดวันที่ 9 คราวนี้ได้เจอนักจิตวิทยาคลินิก ทดสอบ IQ ทดสอบความเชาว์ปัญญาต่างๆค่ะ ทำ 1 วันเต็มๆ อีก 1 อาทิตย์เราไปต้องไปหาหมออีกคราวนี้จะจิตแพทย์ท่านเดิมค่ะ ท่านพูดคุยเพิ่มเติมจากผลที่ทดสอบมาค่ะ ท่านก็บอกรวมๆว่าเราต้องพยายามลดความละเอียดลง เพราะแบบทดสอบออกมาว่าเราเป็นคนละเอียดเกินไป อันไหนทำใจช่างได้ก็ช่างมันไปค่ะ ส่วนเรื่องที่คิดก็กินยา หมอท่านก็ถามเรื่องฝันด้วยค่ะ เราก็ตอบว่าฝัน ท่านก็ถามว่าฝันแล้วจำได้ไหม เราก็บอกว่าจำได้บ้างค่ะ (แต่ก่อนส่วนมากถ้าเราฝันอะไรเราจะจำได้ซะส่วนมากค่ะ) ก็ไม่อะไรท่านก็สั่งยาให้อีก เราก็ยังมีการคิดเรื่องเดิมๆอยู่มันจะผุดมาตอนที่เราอยู่คนเดียว หรือเราหลับตาเห็นความมืด เรามองภาพไม่ชัดด้วยค่ะ(เราสายตาสั้นเกือบสี่ร้อย) เรากลัวเราเลยใส่แว่นอาบน้ำค่ะ ใส่อาบมาครึ่งเดือนแล้ว 555 แปลกนะคะยอมรับ แต่มันรู้สึกโอเคกว่าจริงๆ


หมอนัดอีก 15 มีนาคม คือช่วงปลายเดือนก.พ.เราก็กินยาปกติแต่ไม่ง่วงเหมือนช่วงแรกๆที่กินยาแล้วก็มีอาการคิดขึ้นมาบ่อยๆเราเลยเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้หมอฟัง หมดเลยปรับยาที่รักษาจาก 50 มิลลิกรัม(1 เม็ด) เป็น 75 มิลลิกรัม (1เม็ดกับครึ่งเม็ด) ยานอนหลับ 1 เม็ดเหมือนเดิม เราก็กินปกติแต่ช่วงระยะนั้นเราจม เราทรมานกับความคิดมากๆๆๆๆ แย่ ร้องไห้ กรี๊ด อยากกรี๊ดมากก ร้องไห้ครึ่งช.ม. ช.ม.หนึ่ง เราก็เครียด ครอบครัวก็เครียดกันหมด แล้วเรากินยามันมีอาการไม่อยากอาหาร ก่อนช่วงที่เราจะเข้าร.พ.ก็ยพยามกินจากน้ำหนัก 43ขึ้นไปที่ 45 พอเข้ารพวันที่ออกชั่งได้เหลือ 42 พอวันที่ 21 มีนาคม แม่เราจะขอย้ายพาเราไปรักษาโรงพยาบาลจิตเวชแห่งหนึ่งในจ.เขาบอกต้องมีใบส่งตัวจากหมอที่รักษาเรา เราเลลยกลับไปที่ร.พ.เราไปชั่งน.น.เหลือแค่ 40  พอดีวันนั้นไม่ใช่วันที่หมอเข้า แต่ตอนนั้นมีคนไข้ด่วยพยาบาลก็เลยโทรเรียกแต่พอดีมีจิตแพทย์ที่อยู่คลีนิกเลิกเหล้าเลิกบุหรี่อยู่คุณพยาบาลเลยให้เข้าไปคุณกับจิตแพทย์ท่านนั้น ท่านนี้เป็นหมอหนุ่ม ด้วยความที่อยู่คลีนิกเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ด้วยมั้งคะท่านเลยพูดคุย คนละแนวกับอีกท่าน เราคุยไป 2 ชม โดยมีแม่เข้าไปคุยด้วย ได้คุยอะไรหลายๆอย่าง หมอก็แนะแนวทางดึงตัวเองออกจากความคิด การปฏิบัติตัว ให้ออกกำลัง อย่าทำอะไรบนที่นอน ให้นอนเฉพาะเวลานอน ให้ร่างกายมันจำว่าอยู่ที่นี่ต้องนอน ความคิดความกลัวที่ว่าพ่อแม่จะจากไปก็เปรียบเทียบกับน้ำ ทุกอย่างบนโลกนี้ ไม่ได้หายไปไหน เขาแค่เปลี่ยนสถานะแค่นั้นเอง แม่อาจจะไม่อยู่ให้เราเห็นหรือสัมผัส แต่เรารับรู้ถึงพ่อแม่เราได้จากตัวเราเองเพราะครึ่งหนึ่งของเราคือพ่อ ครึ่งหนึ่งคือแม่ ให้จำคำสอนของท่านไว้ เมื่อคิดถึงก็คิดถึงคำสอนของท่านไว้ เราคุยไปหัวเราะไปร้องไห้ไป แต่มันทำให้เราได้ปลดปล่อย และได้อะไรมาเยอะ แล้วคุณหมอก็เปลี่ยนยานอนหลับให้ใหม่ แรงกว่าเดิมแต่ปลอดภัยกว่า ถามเหตุผลหมอบอกว่า ยาตัวเก่าถ้ากินเกิน 1 ปี จะติดยานอนหลับ ตัวใหม่ให้กิน 1/4 เม็ด มีคนเคยกิน1 เม็ดเต็มแล้วนอนไป 2 วันก็มี หมอบอกว่าถ้าแค่นั้นไม่หลับก็ปรับขนาดยาได้เลยกินครึ่งเม็ดก็ได้ แล้วยาจะช่วยให้อยากอาหารด้วย ตอนนี้ก็กินดีขึ้นมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่