สวัสดีค่ะ เราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำนะคะโรคนี้คือโรคจิตชนิดหนึ่งแต่ผู้ป่วยจะรู้ว่าตัวเองกำลังกระทำและคิดอะไรอยู่เหมือนคนทั่วๆไปนี่แหละค่ะ ถ้าใครไม่รู้ขออธิบายให้ฟังคร่าวๆนะคะ อาการจะประมาณว่ามีความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองซ้ำๆ(ย้ำคิด)โดยที่ความคิดนั้นไม่ใช่ความคิดของตัวเองและผู้ป่วยจะเกลียดความคิดนั้นมากๆผู้ป่วยจะไม่สามารถห้ามความคิดนั้นได้แล้วผู้ป่วยก็จะวิตกกังวลกับความคิดนั้นมากๆ ผู้ป่วยก็จะหาวิธีลดความกังวลโดยความวิตกกังวลโดยการกระทำอะไรออกมาซ้ำๆ(ย้ำทำ) โรค OCD มีรากฐานมาจากความกลัวค่ะมีอยู่ 2 ประเภทคือ
1.กลัวโชคร้าย เช่น ความคิดด่าสิ่งศักสิทธิ์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ(ย้ำคิด)ผู้ป่วยก็จะกังวลกับความคิดนั้นมากๆจนต้องหาวิธีลดความกังวลนั่นก็คือการนั่งขอขมาหรือขอโทษต่อสิ่งศักสิทธิ์จนไม่มีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน(ย้ำทำ) เหตุผลที่ต้องนั่งขอโทษหรือขอขมาซ้ำๆเพราะกลัวสิ่งศักสิทธิ์จะมาลงโทษหรือกลัวบาป(กลัวโชคร้าย)นั่นเองค่ะ
2.กลัวสกปรก เช่น ผู้ป่วยล้างมือเสร็จแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าเชื้อโรคยังมีอยู่ในมืออยู่เนื่องจากผู้ป่วยได้ใช้มือของตนเองที่เพิ่งล้างเสร็จใหม่ๆมาสัมผัสที่ก๊อกน้ำเพื่อปิดน้ำผู้ป่วยจึงกังวลว่ามือของตนเองที่เพิ่งล้างใหม่ๆนั้นได้สัมผัสโดนเชื้อโรคบนก๊อกน้ำ(ย้ำคิด)ทำให้ผู้ป่วยต้องลดความกังวลของตนเองโดยการล้างมืออีกครั้งแล้วผู้ป่วยก็จำเป็นต้องใช้มือปิดก๊อกน้ำอีกมือก็โดนเชื้อโรคบนก๊อกน้ำอีกก็ต้องล้างใหม่อีกแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ(ย้ำทำ) ผู้ป่วยบางรายต้องล้างมือบ่อยๆจนทำให้หนังลอกทำให้ผู้ป่วยทุกข์ยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้ป่วยโรค OCD ในปัจจุบันก็มีมากพอสมควร ซึ่งทุกรายก็เป็นทุกข์กับความคิดของตนเองมากๆ แม้แต่ จขกท.เองก็เป็น จขกท.จะเล่าอาการของจขกท.เองให้ฟังค่ะ
ระยะแรก: ความคิดจะด่าสิ่งศักสิทธิ์ทุกอย่างที่เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจถ้ากรณีอยู่ในที่สาธารณะ จขกท. ก็จะต้องทำปากขมุบขมิบพูดขอขมาหรือขอโทษทั้งวันจนไม่มีสมาธิทำกิจวัตรประจำวันต่างๆส่วนคนรอบข้างเวลาเราทำปากขมุบขมิบตลอดเวลาเขาก็จะมองเรากันใหญ่ประมาณว่าราบ้าหรือเปล่า 555 หลายคนอาจะสงสัยว่าทำไมไม่พูดขอโทษนใจล่ะจะพูดทำปากขมุบขมิบให้คนอื่นมองทำไม? ตอบคือ เพราะเราพูดในใจไม่ได้ค่ะยิ่งพูดในใจความคิดยิ่งผุดขึ้นมาเยอะกว่าเดิมค่ะ เราเคยพูดในใจนะคะว่าขอโทษอะไรประมาณนี้แล้วความคิดมันก็ตอบมาแบบ จะขอโทษทำไม อะไรประมาณนี้ จขกท. เลยจำเป็นต้องทำปากขมุบขมิบพูดคำว่าขอโทษออกมาจนเป็นที่แปลกตาของคนรอบข้าง -.- แล้ว จขกท. ก็จะกังวลประมาณว่า เราต้องเกิดเปรตอีกหลายชาติแน่ๆเลย เพราะเราด่าสิ่งศักสิทธิ์อย่างนี้โดยเฉพาะ พระพุทธเจ้า T_T
ระยะต่อมา: ผ่านไป 2 เดือนแล้วสินะ เจ้าโรค OCD ยังไม่หายอีกเหรอเนี่ยเหนื่อยกับความคิดจริงๆ อ้าว!แต่คราวนี้มันด่าอย่างเดียวไม่พอ ยังมาบน สาบาน สาปแช่งต่อสิ่งศักสิทธิ์อีกเหรอเนี่ย (อยากกลับไปด่าอย่างเดียวยังจะดีกว่า) ทำไงล่ะเนี่ย (ตอนนั้น จขกท. กังวลยิ่งกว่าเก่าอีก)เดี๋ยวไม่ไปแก้บนเราต้องซวยชีวิตไม่เจริญแน่ๆเลย ถ้าไม่ทำตามคำสาบานเราต้องเป็นไปตามที่จิตมันแช่งตัวเองเอาไว้แน่ๆเลย อ้าว!แล้วคำสาปแช่งล่ะ คำสาปแช่งต้องสะท้อนกลับมาหาเราแน่เลย <<<นี่คือความกังวลของเราตอนนั้น กังวลจนไม่มีสมาธิอยู่กับปัจจุบันแล้ววว
ระยะต่อมาอีก: ผ่านไปอีก 1 เดือน สรุปเราเป็น OCD มา4เดือนแล้วสินะ อันนี้กังวลเข้าไปใหญ่ ความคิดด่า บน สาบาน สาปแช่ง ยังไม่พอ มันยังไปบอกให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาชีวิตไปอีก จะบ้าตายยยย ทุกวันๆยิ่งกังวลอยู่เลยว่าจะมีใครเอาชีวิตเราไปมั้ย
----------------------------------มาดูวิธีรักษากันค่ะอันนี้วิธีรักษาไม่เหมือนจิตแพทย์ปัจจุบันนะคะเป็นวิธีรักษาฉบับจีน----------------------------
จขกท. ไปอ่านเจอวิธีรักษาโรคจิตของศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋ามา เขาบอกว่าโรคจิตทุกโรคจิตมันจะเกิดจากระบบภายใน จขกท.จำได้แค่โรคจิตขนิด OCD อย่างเดียวอ่ะค่ะ ในหนังสือเขาบอกว่าถ้าโรคจิตที่เกิดจากความกลัว(ซึ่งOCD ก็เกิดจากความกลัวเป็นหลักตามที่ได้อธิบายให้ฟังข้างต้นนะคะ)จะมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ จะต้องดื่มน้ำเยอะๆ และทานอาหารของธาตุน้ำมากๆ(เพราะกระเพาะปัสสาวะคือธาตุน้ำ คงรู้กันนะคะว่าปัสสาวะคือน้ำ555) และต้องฝึกเล่นโยคะบ่อยๆ และทางที่ดีคือ "ฝังเข็ม" ค่ะ เพราะโรคนี้ก็เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดเช่นกัน เราจึงควรไปฝังเข็มเพื่อกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จขกท.แนะนำว่าอย่าไปทานยาที่หมอให้มานะคะมันจะทำให้เราอาการหนักยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ เห็นผู้ป่วยหลายคนเขาบอกมาค่ะ ถ้าเราแก้ที่สาเหตุนั้นก็คือความผิดปกติของระบบภายในตามที่ลัทธิเต๋าบอกเอาไว้ก็จะดีกว่านะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรค OCD ทุกๆคนนะคะ ยังมีอีกหลายคนที่เป็นโรคเดียวกันกับคุณอยู่อย่าเครียดกับจิตมันมากค่ะ สู้ๆค่ะ
ปล.ใครที่เป็น OCD ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยค่ะ ช่วยบอกอาการให้ฟังด้วยนะคะ แต่ จขกท. คิดว่า จขกท. อาการหนักสุดแล้วล่ะค่ะ555 ฝากวิธีดีๆจากลัทธิเต๋าด้วยนะคะ
โรค OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) อธิบายอาการอย่างละเอียดพร้อมวิธีรักษาฉบับจีน(โบราณ)
1.กลัวโชคร้าย เช่น ความคิดด่าสิ่งศักสิทธิ์โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ(ย้ำคิด)ผู้ป่วยก็จะกังวลกับความคิดนั้นมากๆจนต้องหาวิธีลดความกังวลนั่นก็คือการนั่งขอขมาหรือขอโทษต่อสิ่งศักสิทธิ์จนไม่มีสมาธิอยู่กับปัจจุบัน(ย้ำทำ) เหตุผลที่ต้องนั่งขอโทษหรือขอขมาซ้ำๆเพราะกลัวสิ่งศักสิทธิ์จะมาลงโทษหรือกลัวบาป(กลัวโชคร้าย)นั่นเองค่ะ
2.กลัวสกปรก เช่น ผู้ป่วยล้างมือเสร็จแล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าเชื้อโรคยังมีอยู่ในมืออยู่เนื่องจากผู้ป่วยได้ใช้มือของตนเองที่เพิ่งล้างเสร็จใหม่ๆมาสัมผัสที่ก๊อกน้ำเพื่อปิดน้ำผู้ป่วยจึงกังวลว่ามือของตนเองที่เพิ่งล้างใหม่ๆนั้นได้สัมผัสโดนเชื้อโรคบนก๊อกน้ำ(ย้ำคิด)ทำให้ผู้ป่วยต้องลดความกังวลของตนเองโดยการล้างมืออีกครั้งแล้วผู้ป่วยก็จำเป็นต้องใช้มือปิดก๊อกน้ำอีกมือก็โดนเชื้อโรคบนก๊อกน้ำอีกก็ต้องล้างใหม่อีกแบบนี้ไปเรื่อยๆค่ะ(ย้ำทำ) ผู้ป่วยบางรายต้องล้างมือบ่อยๆจนทำให้หนังลอกทำให้ผู้ป่วยทุกข์ยิ่งขึ้นไปอีก
ผู้ป่วยโรค OCD ในปัจจุบันก็มีมากพอสมควร ซึ่งทุกรายก็เป็นทุกข์กับความคิดของตนเองมากๆ แม้แต่ จขกท.เองก็เป็น จขกท.จะเล่าอาการของจขกท.เองให้ฟังค่ะ
ระยะแรก: ความคิดจะด่าสิ่งศักสิทธิ์ทุกอย่างที่เห็นโดยไม่ได้ตั้งใจถ้ากรณีอยู่ในที่สาธารณะ จขกท. ก็จะต้องทำปากขมุบขมิบพูดขอขมาหรือขอโทษทั้งวันจนไม่มีสมาธิทำกิจวัตรประจำวันต่างๆส่วนคนรอบข้างเวลาเราทำปากขมุบขมิบตลอดเวลาเขาก็จะมองเรากันใหญ่ประมาณว่าราบ้าหรือเปล่า 555 หลายคนอาจะสงสัยว่าทำไมไม่พูดขอโทษนใจล่ะจะพูดทำปากขมุบขมิบให้คนอื่นมองทำไม? ตอบคือ เพราะเราพูดในใจไม่ได้ค่ะยิ่งพูดในใจความคิดยิ่งผุดขึ้นมาเยอะกว่าเดิมค่ะ เราเคยพูดในใจนะคะว่าขอโทษอะไรประมาณนี้แล้วความคิดมันก็ตอบมาแบบ จะขอโทษทำไม อะไรประมาณนี้ จขกท. เลยจำเป็นต้องทำปากขมุบขมิบพูดคำว่าขอโทษออกมาจนเป็นที่แปลกตาของคนรอบข้าง -.- แล้ว จขกท. ก็จะกังวลประมาณว่า เราต้องเกิดเปรตอีกหลายชาติแน่ๆเลย เพราะเราด่าสิ่งศักสิทธิ์อย่างนี้โดยเฉพาะ พระพุทธเจ้า T_T
ระยะต่อมา: ผ่านไป 2 เดือนแล้วสินะ เจ้าโรค OCD ยังไม่หายอีกเหรอเนี่ยเหนื่อยกับความคิดจริงๆ อ้าว!แต่คราวนี้มันด่าอย่างเดียวไม่พอ ยังมาบน สาบาน สาปแช่งต่อสิ่งศักสิทธิ์อีกเหรอเนี่ย (อยากกลับไปด่าอย่างเดียวยังจะดีกว่า) ทำไงล่ะเนี่ย (ตอนนั้น จขกท. กังวลยิ่งกว่าเก่าอีก)เดี๋ยวไม่ไปแก้บนเราต้องซวยชีวิตไม่เจริญแน่ๆเลย ถ้าไม่ทำตามคำสาบานเราต้องเป็นไปตามที่จิตมันแช่งตัวเองเอาไว้แน่ๆเลย อ้าว!แล้วคำสาปแช่งล่ะ คำสาปแช่งต้องสะท้อนกลับมาหาเราแน่เลย <<<นี่คือความกังวลของเราตอนนั้น กังวลจนไม่มีสมาธิอยู่กับปัจจุบันแล้ววว
ระยะต่อมาอีก: ผ่านไปอีก 1 เดือน สรุปเราเป็น OCD มา4เดือนแล้วสินะ อันนี้กังวลเข้าไปใหญ่ ความคิดด่า บน สาบาน สาปแช่ง ยังไม่พอ มันยังไปบอกให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เอาชีวิตไปอีก จะบ้าตายยยย ทุกวันๆยิ่งกังวลอยู่เลยว่าจะมีใครเอาชีวิตเราไปมั้ย
----------------------------------มาดูวิธีรักษากันค่ะอันนี้วิธีรักษาไม่เหมือนจิตแพทย์ปัจจุบันนะคะเป็นวิธีรักษาฉบับจีน----------------------------
จขกท. ไปอ่านเจอวิธีรักษาโรคจิตของศาสนาพุทธ ลัทธิเต๋ามา เขาบอกว่าโรคจิตทุกโรคจิตมันจะเกิดจากระบบภายใน จขกท.จำได้แค่โรคจิตขนิด OCD อย่างเดียวอ่ะค่ะ ในหนังสือเขาบอกว่าถ้าโรคจิตที่เกิดจากความกลัว(ซึ่งOCD ก็เกิดจากความกลัวเป็นหลักตามที่ได้อธิบายให้ฟังข้างต้นนะคะ)จะมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ จะต้องดื่มน้ำเยอะๆ และทานอาหารของธาตุน้ำมากๆ(เพราะกระเพาะปัสสาวะคือธาตุน้ำ คงรู้กันนะคะว่าปัสสาวะคือน้ำ555) และต้องฝึกเล่นโยคะบ่อยๆ และทางที่ดีคือ "ฝังเข็ม" ค่ะ เพราะโรคนี้ก็เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดเช่นกัน เราจึงควรไปฝังเข็มเพื่อกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จขกท.แนะนำว่าอย่าไปทานยาที่หมอให้มานะคะมันจะทำให้เราอาการหนักยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ เห็นผู้ป่วยหลายคนเขาบอกมาค่ะ ถ้าเราแก้ที่สาเหตุนั้นก็คือความผิดปกติของระบบภายในตามที่ลัทธิเต๋าบอกเอาไว้ก็จะดีกว่านะคะ ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยโรค OCD ทุกๆคนนะคะ ยังมีอีกหลายคนที่เป็นโรคเดียวกันกับคุณอยู่อย่าเครียดกับจิตมันมากค่ะ สู้ๆค่ะ
ปล.ใครที่เป็น OCD ช่วยมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยค่ะ ช่วยบอกอาการให้ฟังด้วยนะคะ แต่ จขกท. คิดว่า จขกท. อาการหนักสุดแล้วล่ะค่ะ555 ฝากวิธีดีๆจากลัทธิเต๋าด้วยนะคะ