สวัสดีครับ กระทู้นี้ขออนุญาตพาทุกคนไปตะลุยร้าน Est. 33 ที่ The Up พระราม 3 กันครับ
ร้าน Est.33 หรือ Established in 1993 ร้านอยู่ที่ The Up พระราม 3 อยู่ใกล้ๆกับเซ็นทรัลพระราม 3
เปิดวัน จันทร์ – พฤหัส เวลา 17.00 น. – 23.59 น.
ศุกร์ – เสาร์ เวลา 17:00 น. – 01:00 น.
อาทิตย์ เวลา 17:00 น. – 23.59 น.
และก็ยังมีอีก 2 สาขาคือที่ เดอะไนน์ พระราม 9 และก็ที่ CDC ด้วยครับ
สามารถนำรถส่วนตัวมาได้ครับ เพราะว่าที่ The Up พระราม 3 เขามีที่จอดรถให้ครับ
นี่คือบรรยากาศบริเวณภายนอกร้านครับ
ภายในร้านค่อนข้างกว้างขวางเลยครับ มีที่นั่งเยอะแยะ
ร้านนี้มี Concept ร้านว่า “The Great Discovery” หรือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของท่านพระยาภิรมย์ ภักดี ที่ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศต่างๆจนค้นพบเครื่องดื่ม เบียร์ ที่เยอรมัน และได้นำมาประยุกต์จนเกิดโรงเบียร์แห่งแรกของไทย คือบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่นั่นเองครับ ร้านนี้เลยถือเป็นร้าน No.1 ในด้านของ Craft Beer เลยละครับ
ภายในร้านจะเป็นการตกแต่งแบบดิบๆ แต่เนี้ยบ เป็นการจำลองอู่ต่อเรือมาไว้ในร้าน เพดานจะค่อนข้างสูงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเรือจริงๆ
เฟอร์นิเจอร์จะออกโทนมืดๆ Classicๆหน่อย
ร้านนี้ยังเป็นร้านที่ขาย Beer Hof ที่แรกในไทยอีกด้วยครับ สำหรับใครที่เป็นคอเบียร์น่าจะชอบกันนะครับ เพราะเป็นตัวเบียร์สูตรพิเศษที่แรกในไทย ที่มีแอลกอฮอล์เพียงแค่ 0.5% เบาๆ หอมๆ และแคลลอรี่ต่ำอีกด้วย
อันนี้เป็นมุมบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มต่างๆครับ
มาพูดถึงเมนูอาหารกันบ้างครับ
โดยร้านนี้จะมีการปรุงอาหารแบบ International Fusion ภายใต้คอนเซ็ป Brewtique Cuisine โดยนำเอาวัตถุดิบชั้นเยี่ยมต่างๆมาปรุง และยังมีการนำเอาวัตถุดิบในการผลิตเบียร์มาปรุงในอาหารด้วยเช่นกัน ให้รสชาติถูกปากคนไทยได้มากที่สุด
เมนูแรกเลย
“ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิวรสคลาสสิกสูตร EST.33”
ถือว่าเป็นเมนู Signature จากทางร้านเลย
โดยเมนูนี้ทางร้านจะนำเอาตัวซี่โครงไปหมักกับเบียร์ก่อน ซึ่งทำให้ตัวซี่โครงนุ่มมาก ประกอบกับตัวซอสที่ใช้ทาเป็นซอสบาร์บีคิว โดยผสมผสานกับเครื่องเทศและเครื่องปรุงรสต่างๆ 33 ชนิดด้วยกัน ขอบอกว่าเมนูนี้มีครบทุกรสเลยครับ หวาน เผ็ด เปรี้ยว ชอบมากๆๆๆครับ แอบบอกว่าเนื้อมันนุ่มจนใช้ตะเกียบคีบซี่โครงขึ้นมา เนื้อก็ร่อนออกมาแล้วละครับ
“เคสชาติยาแกะหมักเบียร์”
เมนูนี้ถูกปรับมาจากอาหารแมกซิกัน โดยจริงๆเมนูนี้ออริจินอลจะเป็นไส้ไก่ แต่ทางร้านจะมีไส้แกะให้เลือกลองทานด้วย ใครที่กลัวว่าเนื้อแกะจะเหม็นสาบรึป่าว ไม่ต้องห่วงครับ ทางร้านได้นำไปเนื้อไปหมักน้ำซอสข้ามคืนเพื่อให้ไม่มีกลิ่น แน่นอนครับ รับประกัน
“แซลมอนคาปาซิโอ”
เมนูนี้ก็เป็นอีกเมนูนึงที่ขายดีมากของทางร้านเช่นกัน มันก็คือแซลมอนรมควันนั่นเองครับ โดยน้ำซอสที่ราดก็จะมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นด้วย ละมุนมากครับเมนูนี้
สำหรับของหวานเด็ดดวงของร้านนี้ก็จะมี
“ไททีพานาคอตต้า”
พานาคอตต้าทีเด็ดของร้านนี้จะเป็นรสชาไทย อร่อยมากๆๆๆๆครับ นุ่มๆ ไม่หนักท้อง ทานของคาวเสร็จแล้ว ทานตัวนี้ต่อได้ชิวๆเลยครับ
“เบียร์รามิสุ”
ที่ชื่อเมนูว่า เบียร์รามิสุ ก็เนื่องจากทางร้านจะใส่ตัวเบียร์ดำผสมลงไปนิดหน่อย แต่รสชาติก็ไม่ได้ออกรสเบียร์นะครับ มีแค่กลิ่นเบาๆ อร่อยเช่นกันครับเมนูนี้ สายทิรามิสุน่าจะชอบกัน ของจริงชิ้นค่อนข้างใหญ่ครับ
แล้วช่วงนี้ถึงวันที่ 12 เมษา เป็นช่วงของ “Prawn Festival” คนที่ชอบทานกุ้งเป็นชีวิตจิตใจน่าจะชอบกันนะครับ ไปดูกันเลยครับ
“พาสต้ากุ้งลายเสือรสเผ็ดผัดไข่กุ้ง”
เส้นพาสต้าหอมนุ่มดีครับ เมนูของร้านนี้ถ้าดูจากหน้าตาแต่ละเมนูอาจจะดูไปทางฝรั่ง แต่ทางร้านจะแฝงความเป็นเอเชี่ยนเข้าไปด้วย อย่างเมนูพาสต้านี้จะมีตัวไข่กุ้งใส่ไปด้วยครับ
“ราวีโอลีใส่ริคอตต้าชีสกุ้งลายเสือย่างซอสครีมบิสค์”
เมนูนี้เป็นราวีโอลีซึ่งก็คือพาสต้าที่ห่อไส้ไว้ข้างใน คล้ายๆกับเกี๊ยว เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งและซอสสูตรพิเศษ โดยทางร้านจะใช้กุ้งลายเสือ ซึ่งบอกเลยว่าเนื้อแน่นแล้วสดมากๆครับ
“สลัดผักกุ้งลายเสือย่างซอสน้ำผึ้งบัลซามิค”
เมนูนี้สาย Healthy น่าจะชอบกัน เป็นน้ำสลัดบัลซามิคผสมกับน้ำผึ้ง จะมีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ และมีความเผ็ดซ่อนไว้นิดนึงตรงปลายๆ เพื่อให้มีรสชาติมากขึ้น
“กุ้งอบซอสกระเทียมพริกไทย”
กุ้งซอสกระเทียมพริกไทย ทางร้านใส่ซอสไวน์ขาวลงไปด้วย มีความเผ็ดกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังกระเทียม กินแกล้มกันลงตัวมากๆครับ
“บันบันกุ้งป๊อปคลุกซอสเปรี้ยวหวาน”
มาถึงเมนูสุดท้าย เป็นเมนูที่เราชอบที่สุด เป็นกุ้งชุปแป้งทอด โดยซอสที่นำไปคลุกจะเป็นซอสมะขามที่มีรสชาติออกเปรี้ยวๆหวานๆ เผ็ดซ่อนเล็กๆเช่นกัน คือบอกเลยว่าอร่อยมากๆ รับประกันเลยครับเมนูนี้ มันครบรสจริงๆครับ บอกไม่ถูก ใครมีโอกาสได้ไปลองร้านนี้ก็ขอให้ลองสั่งเมนูนี้มาทานนะครับ ชอบจริงๆ555 แล้วคือตัวบันนี้ ทางร้านจะใช้เป็นแป้งหมั่นโถวด้วยเพื่อที่จะให้มันเบามากขึ้น ไม่หนักจนเกินไปครับ ทานคู่กับเฟร้นช์ฟรายส์ยิ่งฟินครับ55
โดยร้านนี้จะมีเชฟที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลมากมายและนี่ก็คือโฉมหน้าของเชฟปิ๊กครับ
บรรยากาศตอนกลางคืนค่อนข้างดีเลยครับ มีดนตรีให้ฟัง โดยจะมีศิลปินมาเล่นให้ฟังสดๆด้วย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านทางเลือกสำหรับมื้อเย็น มื้อดึก ที่อยากให้ลองไปสัมผัสกันครับ
ขอบคุณครับ
[SR] พาไปดื่มด่ำจัดเต็ม! กับบรรยากาศชิวๆและอาหารรสเลิศ ที่ร้าน Est.33 The Up พระราม 3 ><
ร้าน Est.33 หรือ Established in 1993 ร้านอยู่ที่ The Up พระราม 3 อยู่ใกล้ๆกับเซ็นทรัลพระราม 3
เปิดวัน จันทร์ – พฤหัส เวลา 17.00 น. – 23.59 น.
ศุกร์ – เสาร์ เวลา 17:00 น. – 01:00 น.
อาทิตย์ เวลา 17:00 น. – 23.59 น.
และก็ยังมีอีก 2 สาขาคือที่ เดอะไนน์ พระราม 9 และก็ที่ CDC ด้วยครับ
สามารถนำรถส่วนตัวมาได้ครับ เพราะว่าที่ The Up พระราม 3 เขามีที่จอดรถให้ครับ
นี่คือบรรยากาศบริเวณภายนอกร้านครับ
ภายในร้านค่อนข้างกว้างขวางเลยครับ มีที่นั่งเยอะแยะ
ร้านนี้มี Concept ร้านว่า “The Great Discovery” หรือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ของท่านพระยาภิรมย์ ภักดี ที่ได้เดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศต่างๆจนค้นพบเครื่องดื่ม เบียร์ ที่เยอรมัน และได้นำมาประยุกต์จนเกิดโรงเบียร์แห่งแรกของไทย คือบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่นั่นเองครับ ร้านนี้เลยถือเป็นร้าน No.1 ในด้านของ Craft Beer เลยละครับ
ภายในร้านจะเป็นการตกแต่งแบบดิบๆ แต่เนี้ยบ เป็นการจำลองอู่ต่อเรือมาไว้ในร้าน เพดานจะค่อนข้างสูงทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในเรือจริงๆ
เฟอร์นิเจอร์จะออกโทนมืดๆ Classicๆหน่อย
ร้านนี้ยังเป็นร้านที่ขาย Beer Hof ที่แรกในไทยอีกด้วยครับ สำหรับใครที่เป็นคอเบียร์น่าจะชอบกันนะครับ เพราะเป็นตัวเบียร์สูตรพิเศษที่แรกในไทย ที่มีแอลกอฮอล์เพียงแค่ 0.5% เบาๆ หอมๆ และแคลลอรี่ต่ำอีกด้วย
อันนี้เป็นมุมบาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มต่างๆครับ
มาพูดถึงเมนูอาหารกันบ้างครับ
โดยร้านนี้จะมีการปรุงอาหารแบบ International Fusion ภายใต้คอนเซ็ป Brewtique Cuisine โดยนำเอาวัตถุดิบชั้นเยี่ยมต่างๆมาปรุง และยังมีการนำเอาวัตถุดิบในการผลิตเบียร์มาปรุงในอาหารด้วยเช่นกัน ให้รสชาติถูกปากคนไทยได้มากที่สุด
เมนูแรกเลย
“ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิวรสคลาสสิกสูตร EST.33”
ถือว่าเป็นเมนู Signature จากทางร้านเลย
โดยเมนูนี้ทางร้านจะนำเอาตัวซี่โครงไปหมักกับเบียร์ก่อน ซึ่งทำให้ตัวซี่โครงนุ่มมาก ประกอบกับตัวซอสที่ใช้ทาเป็นซอสบาร์บีคิว โดยผสมผสานกับเครื่องเทศและเครื่องปรุงรสต่างๆ 33 ชนิดด้วยกัน ขอบอกว่าเมนูนี้มีครบทุกรสเลยครับ หวาน เผ็ด เปรี้ยว ชอบมากๆๆๆครับ แอบบอกว่าเนื้อมันนุ่มจนใช้ตะเกียบคีบซี่โครงขึ้นมา เนื้อก็ร่อนออกมาแล้วละครับ
“เคสชาติยาแกะหมักเบียร์”
เมนูนี้ถูกปรับมาจากอาหารแมกซิกัน โดยจริงๆเมนูนี้ออริจินอลจะเป็นไส้ไก่ แต่ทางร้านจะมีไส้แกะให้เลือกลองทานด้วย ใครที่กลัวว่าเนื้อแกะจะเหม็นสาบรึป่าว ไม่ต้องห่วงครับ ทางร้านได้นำไปเนื้อไปหมักน้ำซอสข้ามคืนเพื่อให้ไม่มีกลิ่น แน่นอนครับ รับประกัน
“แซลมอนคาปาซิโอ”
เมนูนี้ก็เป็นอีกเมนูนึงที่ขายดีมากของทางร้านเช่นกัน มันก็คือแซลมอนรมควันนั่นเองครับ โดยน้ำซอสที่ราดก็จะมีกลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นด้วย ละมุนมากครับเมนูนี้
สำหรับของหวานเด็ดดวงของร้านนี้ก็จะมี
“ไททีพานาคอตต้า”
พานาคอตต้าทีเด็ดของร้านนี้จะเป็นรสชาไทย อร่อยมากๆๆๆๆครับ นุ่มๆ ไม่หนักท้อง ทานของคาวเสร็จแล้ว ทานตัวนี้ต่อได้ชิวๆเลยครับ
“เบียร์รามิสุ”
ที่ชื่อเมนูว่า เบียร์รามิสุ ก็เนื่องจากทางร้านจะใส่ตัวเบียร์ดำผสมลงไปนิดหน่อย แต่รสชาติก็ไม่ได้ออกรสเบียร์นะครับ มีแค่กลิ่นเบาๆ อร่อยเช่นกันครับเมนูนี้ สายทิรามิสุน่าจะชอบกัน ของจริงชิ้นค่อนข้างใหญ่ครับ
แล้วช่วงนี้ถึงวันที่ 12 เมษา เป็นช่วงของ “Prawn Festival” คนที่ชอบทานกุ้งเป็นชีวิตจิตใจน่าจะชอบกันนะครับ ไปดูกันเลยครับ
“พาสต้ากุ้งลายเสือรสเผ็ดผัดไข่กุ้ง”
เส้นพาสต้าหอมนุ่มดีครับ เมนูของร้านนี้ถ้าดูจากหน้าตาแต่ละเมนูอาจจะดูไปทางฝรั่ง แต่ทางร้านจะแฝงความเป็นเอเชี่ยนเข้าไปด้วย อย่างเมนูพาสต้านี้จะมีตัวไข่กุ้งใส่ไปด้วยครับ
“ราวีโอลีใส่ริคอตต้าชีสกุ้งลายเสือย่างซอสครีมบิสค์”
เมนูนี้เป็นราวีโอลีซึ่งก็คือพาสต้าที่ห่อไส้ไว้ข้างใน คล้ายๆกับเกี๊ยว เสิร์ฟพร้อมกับกุ้งและซอสสูตรพิเศษ โดยทางร้านจะใช้กุ้งลายเสือ ซึ่งบอกเลยว่าเนื้อแน่นแล้วสดมากๆครับ
“สลัดผักกุ้งลายเสือย่างซอสน้ำผึ้งบัลซามิค”
เมนูนี้สาย Healthy น่าจะชอบกัน เป็นน้ำสลัดบัลซามิคผสมกับน้ำผึ้ง จะมีรสชาติเปรี้ยวๆหวานๆ และมีความเผ็ดซ่อนไว้นิดนึงตรงปลายๆ เพื่อให้มีรสชาติมากขึ้น
“กุ้งอบซอสกระเทียมพริกไทย”
กุ้งซอสกระเทียมพริกไทย ทางร้านใส่ซอสไวน์ขาวลงไปด้วย มีความเผ็ดกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังกระเทียม กินแกล้มกันลงตัวมากๆครับ
“บันบันกุ้งป๊อปคลุกซอสเปรี้ยวหวาน”
มาถึงเมนูสุดท้าย เป็นเมนูที่เราชอบที่สุด เป็นกุ้งชุปแป้งทอด โดยซอสที่นำไปคลุกจะเป็นซอสมะขามที่มีรสชาติออกเปรี้ยวๆหวานๆ เผ็ดซ่อนเล็กๆเช่นกัน คือบอกเลยว่าอร่อยมากๆ รับประกันเลยครับเมนูนี้ มันครบรสจริงๆครับ บอกไม่ถูก ใครมีโอกาสได้ไปลองร้านนี้ก็ขอให้ลองสั่งเมนูนี้มาทานนะครับ ชอบจริงๆ555 แล้วคือตัวบันนี้ ทางร้านจะใช้เป็นแป้งหมั่นโถวด้วยเพื่อที่จะให้มันเบามากขึ้น ไม่หนักจนเกินไปครับ ทานคู่กับเฟร้นช์ฟรายส์ยิ่งฟินครับ55
โดยร้านนี้จะมีเชฟที่มีชื่อเสียงและได้รับรางวัลมากมายและนี่ก็คือโฉมหน้าของเชฟปิ๊กครับ
บรรยากาศตอนกลางคืนค่อนข้างดีเลยครับ มีดนตรีให้ฟัง โดยจะมีศิลปินมาเล่นให้ฟังสดๆด้วย
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านทางเลือกสำหรับมื้อเย็น มื้อดึก ที่อยากให้ลองไปสัมผัสกันครับ
ขอบคุณครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น