ที่หมู่บ้านมีร้านขายของชำ ประมาณ 4 ร้าน
หนึ่งใน 4 ร้านมีของสดขายอยู่ร้านนึง เช่น หมูสด ผักสด คือ วัตถุดิบทำกับข้าวเย็นนั่นแหละว่าง่ายๆ
และ ปัญหาในหมู่บ้านนี้คือ ไม่มีร้านข้าวตามสั่ง หรือ ไม่มีร้านอาหารที่เปิดได้ตอนเย็นๆ
ร้านข้าวตามสั่งที่หมู่บ้านผมเหมือนเป็นอาถรรพ์ เปิดแล้วก็ไม่ค่อยมีใครเปิดได้นาน ปิดแทบทุกร้าน ผมกับแฟนมาวิเคราะห์กันว่า คนก็คงไม่ชอบอะไรเดิมๆนั่นแหละ เพราะไปถามมากี่ร้านก็บอกแบบนั้น(ลูกค้าร้านป้าน้อยมาก ทำไม่ไหวเลยปิด , ก็ใครเขาจะไปกินละป้า) มันไม่มีความแปลกใหม่ มันเป็นเมนูสิ้นคิดผสมผงชูรสไปเสียแล้ว ...
แบบ มื้อเย็น คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน มี 2 ทางเลือก คือ
1. ขับรถไปนั่งกินข้าวเย็นตามร้าน ในตลาด
2. ขับรถไปซื้อกับข้าวจากตลาด มากินที่บ้าน (กับข้าวสำเร็จ) หรือ มาทำที่บ้าน (วัตถุดิบ)
ไปกลับก็ 14 กิโล ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกกินข้าวที่บ้าน โดยจะซื้อกับข้าวมาจากตลาด หรือ ซื้อวัตถุดิบมาเข้าครัวทำเอง
ซึงผมมาไล่เรียงปัญหาของพวกเค้า จากที่เจอๆมานะครับ
1. เดาไม่ได้ ว่าไปตลาดของจะมีหรือจะหมดในสิ่งที่เค้าต้องการ เช่น ปลาทับทิม หรือ บร๊อคโคลี่ หรือ น้ำพริก บางทีก็หมดไว ล้มแผนทำกับข้าว แต่ปัญหานี้ผมคิดว่ามันเรื่องเล็ก เพราะตลาดย่อมมีของมากมายให้เลือกไปทำกับข้าว ผมไม่สามารถเอามาเป็นข้อดีของธุรกิจตัวเองได้
2. กับข้าวแบบสำเร็จในตลาดน่าเบื่อเลยต้องทำเอง แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากเลือกวัตถุดิบด้วย (คนกินกับข้าวสำเร็จ ตอนเย็นในตลาดจะรู้ครับว่ามันก็เดิมๆทั้งนั้น ยกเว้นตลาดใหญ่มาก) ลาบหมูถุง ปลาดุกย่าง เงี้ย บางทีก็ได้น้อยมาก ลาบหมูหมูน้อยมาก มีแต่หนังหมูกับเศษหมู แถมกว่าจะถึงบ้านก็เย็นหมดแล้ว อย่างต้มมะระ อะไรแบบนี้ เพราะงี้คนเลยอยากจะทำเอง
3. ร้านข้าวในหมู่บ้านก็ไม่มี ถึงต่อให้มีก็ไม่พ้น กระเพรา พริกแกง หมูกระเทียม ที่มีผงชูรสมากน้อยก็ตามแต่
4. ร้านชำที่ขายของสดในหมู่บ้านนั้น ขายไม่ดี เพราะของน้อย ผักมีประมาณ 4 อย่าง เนื้อหมูหย่อมนึง และพวกเครื่องเทศ ขิงข่าตะไคร้ นิดหน่อย ที่ผมอยากทำคืออยากทำให้ตัวเองเป็นแผงใหญ่กว่าเขา
ผมอยากจะขายของสดในบ้านผม เพื่อให้คนมาซื้อไปทำกับข้าวกิน
ซึ่งผมได้มีข้อดีของการขายของสดไว้ที่บ้านดังนี้
1. คนในหมู่บ้านสามารถมาถามไถ่ หรือซื้อซ้ำได้ หากวัตถุดิบทำกับข้าวไม่พอ
2. หากจะกินข้าวเย็นพวกเค้าจะนึกถึงร้านผมที่แรกเพราะไม่ต้องเข้าไปในตลาด
3. ไม่ต้องเป็นร้านข้าว ซื้อมาและขายไป ไม่มีปัญหากับความอร่อย ไม่อร่อย เพราะต้องเอาไปทำเอง
4. ในอนาคตถ้ามันเติบโตได้ มันจะกลายเป็นตลาดสดในหมู่บ้าน และจะลดงานผมลงหรือเปลี่ยนรูปแบบงานไป
มีเพื่อนเปิดร้านขายของชำ ลงของทีละเป็นแสน แต่เอามาขายปลีกทีละชิ้นสองชิ้น กำไรเยอะมาก บุหรี่กำไรแบบว่า เยอะสุดๆ (แบ่งขายแบบผิด กม. เพราะคนซื้อสูบแบบซองไม่ไหวแพงจัด) เบียร์ เหล้าขาว ขายดีมาก กำไรมาจากของพวกนี้มีให้กินตลอด เพื่อนผมแชร์ให้ฟัง เพิงไปกินเบียร์กันมาเมื่อวันจันทร์
ผมก็ไม่เคยขายของสดมาก่อน เคยขายแต่ขนมในตลาดและขายดีมากแต่มีเหตุจำเป็นต้องหยุด
คำถามคือ
- จะลงของสด ผักสด ยังไงให้พอมีกำไรคุ้มหน่อย เช่น ขายผักกำละ 5 บาท ผักกำเดียวทำกำไรเกิน 30% จะลดต้นทุนยังไง
- เค้าเก็บของสดกันยังไง ผักสด เนื้อหมู ปลา ตะไคร้ กระเทียม ฯลฯ ไม่มีความรู้เท่าไหร่ครับ
จากประสบการณ์ขายของในตลาดสดมา รู้เลยว่า การขายปลีกย่อยๆนั้นได้กำไรมากที่สุด(ซึ่งต้องมาจากการลงของโวลุ่มมากๆ หรือใช้วิธีลดต้นทุนในระยะยาว) แต่ราคาจะเป็นราคาปลีกสุดๆ อัตราส่วนกำไรก็จะมาก
ผมอาจจะพอมีทำเล ที่อยู่ริมถนนพอที่จะให้คนหมู่บ้านอื่นๆแวะเวียนมาซื้อด้วยได้ แต่ตัวธุรกิจผมก็ต้องดีด้วย (มีร้านผักสดห่างออกไป 3.5 กิโล) จึงมาปรึกษาและขอคำแนะนำครับ
หรือ ผมไม่ควรทำ เพราะไม่คุ้ม ?
มีความเห็นว่าไงมั่งครับ หากท่านต้องมาขายของสดท่านจะบริหารจัดการยังไง
ขายของสด ทำยังไงให้อยู่ได้ มีกำไรครับ ขอคำปรึกษา
หนึ่งใน 4 ร้านมีของสดขายอยู่ร้านนึง เช่น หมูสด ผักสด คือ วัตถุดิบทำกับข้าวเย็นนั่นแหละว่าง่ายๆ
และ ปัญหาในหมู่บ้านนี้คือ ไม่มีร้านข้าวตามสั่ง หรือ ไม่มีร้านอาหารที่เปิดได้ตอนเย็นๆ
ร้านข้าวตามสั่งที่หมู่บ้านผมเหมือนเป็นอาถรรพ์ เปิดแล้วก็ไม่ค่อยมีใครเปิดได้นาน ปิดแทบทุกร้าน ผมกับแฟนมาวิเคราะห์กันว่า คนก็คงไม่ชอบอะไรเดิมๆนั่นแหละ เพราะไปถามมากี่ร้านก็บอกแบบนั้น(ลูกค้าร้านป้าน้อยมาก ทำไม่ไหวเลยปิด , ก็ใครเขาจะไปกินละป้า) มันไม่มีความแปลกใหม่ มันเป็นเมนูสิ้นคิดผสมผงชูรสไปเสียแล้ว ...
แบบ มื้อเย็น คนส่วนใหญ่ในหมู่บ้าน มี 2 ทางเลือก คือ
1. ขับรถไปนั่งกินข้าวเย็นตามร้าน ในตลาด
2. ขับรถไปซื้อกับข้าวจากตลาด มากินที่บ้าน (กับข้าวสำเร็จ) หรือ มาทำที่บ้าน (วัตถุดิบ)
ไปกลับก็ 14 กิโล ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกกินข้าวที่บ้าน โดยจะซื้อกับข้าวมาจากตลาด หรือ ซื้อวัตถุดิบมาเข้าครัวทำเอง
ซึงผมมาไล่เรียงปัญหาของพวกเค้า จากที่เจอๆมานะครับ
1. เดาไม่ได้ ว่าไปตลาดของจะมีหรือจะหมดในสิ่งที่เค้าต้องการ เช่น ปลาทับทิม หรือ บร๊อคโคลี่ หรือ น้ำพริก บางทีก็หมดไว ล้มแผนทำกับข้าว แต่ปัญหานี้ผมคิดว่ามันเรื่องเล็ก เพราะตลาดย่อมมีของมากมายให้เลือกไปทำกับข้าว ผมไม่สามารถเอามาเป็นข้อดีของธุรกิจตัวเองได้
2. กับข้าวแบบสำเร็จในตลาดน่าเบื่อเลยต้องทำเอง แต่ในขณะเดียวกัน ก็อยากเลือกวัตถุดิบด้วย (คนกินกับข้าวสำเร็จ ตอนเย็นในตลาดจะรู้ครับว่ามันก็เดิมๆทั้งนั้น ยกเว้นตลาดใหญ่มาก) ลาบหมูถุง ปลาดุกย่าง เงี้ย บางทีก็ได้น้อยมาก ลาบหมูหมูน้อยมาก มีแต่หนังหมูกับเศษหมู แถมกว่าจะถึงบ้านก็เย็นหมดแล้ว อย่างต้มมะระ อะไรแบบนี้ เพราะงี้คนเลยอยากจะทำเอง
3. ร้านข้าวในหมู่บ้านก็ไม่มี ถึงต่อให้มีก็ไม่พ้น กระเพรา พริกแกง หมูกระเทียม ที่มีผงชูรสมากน้อยก็ตามแต่
4. ร้านชำที่ขายของสดในหมู่บ้านนั้น ขายไม่ดี เพราะของน้อย ผักมีประมาณ 4 อย่าง เนื้อหมูหย่อมนึง และพวกเครื่องเทศ ขิงข่าตะไคร้ นิดหน่อย ที่ผมอยากทำคืออยากทำให้ตัวเองเป็นแผงใหญ่กว่าเขา
ผมอยากจะขายของสดในบ้านผม เพื่อให้คนมาซื้อไปทำกับข้าวกิน
ซึ่งผมได้มีข้อดีของการขายของสดไว้ที่บ้านดังนี้
1. คนในหมู่บ้านสามารถมาถามไถ่ หรือซื้อซ้ำได้ หากวัตถุดิบทำกับข้าวไม่พอ
2. หากจะกินข้าวเย็นพวกเค้าจะนึกถึงร้านผมที่แรกเพราะไม่ต้องเข้าไปในตลาด
3. ไม่ต้องเป็นร้านข้าว ซื้อมาและขายไป ไม่มีปัญหากับความอร่อย ไม่อร่อย เพราะต้องเอาไปทำเอง
4. ในอนาคตถ้ามันเติบโตได้ มันจะกลายเป็นตลาดสดในหมู่บ้าน และจะลดงานผมลงหรือเปลี่ยนรูปแบบงานไป
มีเพื่อนเปิดร้านขายของชำ ลงของทีละเป็นแสน แต่เอามาขายปลีกทีละชิ้นสองชิ้น กำไรเยอะมาก บุหรี่กำไรแบบว่า เยอะสุดๆ (แบ่งขายแบบผิด กม. เพราะคนซื้อสูบแบบซองไม่ไหวแพงจัด) เบียร์ เหล้าขาว ขายดีมาก กำไรมาจากของพวกนี้มีให้กินตลอด เพื่อนผมแชร์ให้ฟัง เพิงไปกินเบียร์กันมาเมื่อวันจันทร์
ผมก็ไม่เคยขายของสดมาก่อน เคยขายแต่ขนมในตลาดและขายดีมากแต่มีเหตุจำเป็นต้องหยุด
คำถามคือ
- จะลงของสด ผักสด ยังไงให้พอมีกำไรคุ้มหน่อย เช่น ขายผักกำละ 5 บาท ผักกำเดียวทำกำไรเกิน 30% จะลดต้นทุนยังไง
- เค้าเก็บของสดกันยังไง ผักสด เนื้อหมู ปลา ตะไคร้ กระเทียม ฯลฯ ไม่มีความรู้เท่าไหร่ครับ
จากประสบการณ์ขายของในตลาดสดมา รู้เลยว่า การขายปลีกย่อยๆนั้นได้กำไรมากที่สุด(ซึ่งต้องมาจากการลงของโวลุ่มมากๆ หรือใช้วิธีลดต้นทุนในระยะยาว) แต่ราคาจะเป็นราคาปลีกสุดๆ อัตราส่วนกำไรก็จะมาก
ผมอาจจะพอมีทำเล ที่อยู่ริมถนนพอที่จะให้คนหมู่บ้านอื่นๆแวะเวียนมาซื้อด้วยได้ แต่ตัวธุรกิจผมก็ต้องดีด้วย (มีร้านผักสดห่างออกไป 3.5 กิโล) จึงมาปรึกษาและขอคำแนะนำครับ
หรือ ผมไม่ควรทำ เพราะไม่คุ้ม ?
มีความเห็นว่าไงมั่งครับ หากท่านต้องมาขายของสดท่านจะบริหารจัดการยังไง