ตอนที่ 5 ซินเดอเรลลา
“พี่พลูมาช่วยดูหน่อยสิ ชุดที่แม่เตรียมให้ขวัญมันไม่เหมาะกับงานคืนนี้เลย ขวัญไม่ชอบกระโปรงยาวลากพื้นแบบนี้อ่ะ กลัวสะดุดล้ม” เสียงเรียกของน้องสาวทำให้แทนดาวที่ยังติดสินใจเลือกไม่ได้ระหว่างคอกเทลเดรสที่คุณแม่เตรียมไว้ให้สลับกับชุดที่ ‘เขา’ ส่งมาให้ ถ้าพี่หมากเกิดจำได้ขึ้นมาจะว่าอย่างไร แทนดาวมองน้องสาวที่กำลังหมุนตัวอยู่หน้าบานกระจกอย่างพิจารณาแล้วก็ยิ้มกว้าง
“งั้นลองสวมชุดนี้แล้วกัน นี่เพิ่งซื้อมายังไม่ได้ใส่เลยนะ ถ้าน้องขวัญใส่ได้พอดีพี่ยกให้เลย” หล่อนหยิบชุดราตรีสั้นแขนตุ๊กตาให้ลูกผู้น้อง
“จริงนะพี่พลู สวยจัง ขวัญชอบมากเลยค่ะ” แทนขวัญรับมาด้วยความดีใจรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด แทนดาวแอบยิ้มกับตัวเองแล้วหยิบเดรสไหล่เฉียงสีโอลด์โรสมาทาบตัวอีกครั้ง
“ขอบใจนะน้องขวัญ”
บรรยากาศตอนค่ำครึกครื้นกว่าเมื่อเช้ามากเพราะผู้ที่มาร่วมงานประกอบด้วยคนหลายวัย ทั้งรุ่นเด็ก รุ่นหนุ่มสาววัยทำงานที่มารวมตัวกันอย่างกับงานเลี้ยงรุ่นซึ่งก็มีครบทุกรุ่นจริงๆ และถึงแม้จะจัดขึ้นภายในบ้านแต่ผู้ที่ได้รับเชิญมาต่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศเพื่อให้เกียรติเจ้าของงานซึ่งเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาเป็นที่นับถือกันมานานนม บนเวทีมีนักร้องขับกล่อมบทเพลงไพเราะสลับด้วยการแสดงของเด็กๆจากโรงเรียนที่เจ้าภาพมอบทุนการศึกษาให้ทุกปี
คุณลำเภานั่งรับของขวัญอยู่ที่โต๊ะข้างๆเวที ท่านไม่สะดวกที่จะเดินไปมาเพราะสังขารไม่อำนวยนัก มีหลานสาวทั้งสองคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ทางขวาเป็นสตรีร่างระหงเจ้าของใบหน้างามผุดผาดเทียบชั้นดาราในชุดเปิดไหล่สีครีมเข้ากับชุดเครื่องเพชรหรูหราล้อแสงไฟระยับก็ยิ่งขับให้ร่างผุดผ่องดูสง่างามสมบูรณ์ หล่อนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสคอยต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตรจนไม่น่าแปลกใจเลยที่มักจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เดินมาเมียงๆมองๆอยู่เป็นระยะๆ บ้างก็คอยส่งน้ำส่งขนมให้ ใครเลยจะไม่รู้จักปลายเดือน ทวีกิจไพศาล ถึงจะไม่ใช่ดาราแต่ก็เป็นเซเลบริตี้ที่เวลาได้ไปงานไหนก็ต้องมีเรื่องลงคอลัมน์ประเภทซุบซิบไฮโซทั้งหลาย
ถัดมาก็เป็นสาวแรกรุ่นอีกคนที่งดงามไม่แพ้กันในชุดสีโอลด์โรสเปิดไหล่ข้างเดียว ผมยาวเกล้าแบบเก๋ปล่อยปอยผมรุ่ยร่ายเป็นธรรมชาติ โครงหน้างามได้รูปแต่งแต้มเข้ากับสีชุดอย่างลงตัว ถึงจะมิได้เป็นที่รู้จักอย่างพี่สาวแต่หนุ่มๆพวกที่มาเมียงมองปลายเดือนเสร็จแล้วก็เป็นต้องหยุดที่สาวน้อยอีกคนทุกรายไป หล่อนไม่ได้ยืนยิ้มแย้มทักทายแขกอย่างที่ควรจะทำแต่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารสารพัดชนิดที่เพื่อนร่วมก๊วนช่วยส่งมาให้เรื่อยๆ แทนดาวไม่ถนัดนักหรอกกับการเข้าสังคมจึงไม่สนใจใครมากนักนอกจากเวลาที่คุณย่าหรือพี่สาวจะแนะนำให้ไหว้คนนั้นคนนี้
เทียมภพพาแฟนสาวมาร่วมงานนี้ด้วย ใบหน้าเรียวงามสวยของจัดจ้านของชุสิตาสะกดสายตาหลายคู่ รูปร่างอรชรเอวคอดกิ่วจนแทบจะขาดจากกกันซ่อนอยู่ในชุดเกาะอกสีเขียวมรกตซึ่งแทนดาววิจารณ์ว่ามันจะเกาะต่ำไปเสียหน่อยจนมองเห็นเนินเนื้อเสริมซิลิโคนโผล่พ้นขอบชุดขึ้นมาครึ่งหนึ่ง เพื่อนๆรวมทั้งแทนขวัญลูกผู้น้องพากันไปรุมล้อมดาราสาวสวยเพื่อขอถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดและขอลายเซ็น ซ้ำยังออกอาการปลื้มทำท่าว่าจะเปลี่ยนฝั่งไปสวามิภักดิ์กับแม่นั่น ไหนจะพวกหนุ่มโสดนอกบ้านทั้งเพื่อนพี่ชาย ทั้งญาติหนุ่มที่พยายามเสนอตัวเข้าไปทำความรู้จัก
“พี่สิตาตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีก ไม่หยิ่งด้วยล่ะ ดูสิ...พี่เค้าเขียนอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้ฉันด้วย” อรกานต์พูดถึงแฟนพี่ชายเพื่อนอย่างชื่นชมพลางอวดรูปที่ถ่ายคู่กันให้ดูรอบวง
“โมที่เกาหลีมาทั้งตัว จับไปเจอแต่ซิลิโคนไม่ก็ฟิลเลอร์” แทนดาววิจารณ์แรง
“นี่แก...ดาราสมัยนี้มีใครมั่งไม่อัพหน้าฮะ? มีพี่สะใภ้เป็นนางแบบเนี่ย...แกจะดังด้วยโดยไม่รู้ตัวนะ ไม่ชอบเหรอ” ดารตาเพื่อนอีกคนเสริม
“ยี๋...ฉันไม่ชอบพี่สะใภ้พลาสติกเดินได้ยัดไส้ซิลิโคนย่ะ” แล้วก็เบ้หน้าให้เพื่อนๆที่ยังไม่หยุดอวดรูปถ่ายกับลายเซ็นของนางแบบคนนั้น
“เฮียเบิ้ม!” สาวน้อยลืมความขุ่นมัวทุกอย่างแล้วรีบวิ่งไปหาคนที่เรียกว่าเฮียเบิ้มอย่างร่าเริงพร้อมพอถึงตัวก็โผเข้ากอดเสียแน่นด้วยความคิดถึงแต่ก็กอดได้ไม่รอบเพราะติดพุงอันใหญ่โตของพี่ใหญ่ เฮียเบิ้มหรือบุรนันท์เป็นบุตรชายคนโตของคุณหลีซึ่งมีนิสัยละม้ายคล้ายคลึงกับเทียมภพมากที่สุด ทั้งเรื่องขี้วีน ใจร้อนและเจ้าชู้ ทุกคนผูกพันกันดุจพี่น้องท้องเดียว สมัยเด็กๆเฮียทั้งสี่ก็เคยมาอยู่กินนอนที่นี่ช่วงปิดเทอม มีเฮียเบิ้มที่อายุมากที่สุดเป็นหัวโจกคอยนำทีมเล่นซนไม่เว้นแต่ละวัน ปลายเดือนยกมือไหว้บุรุษหนุ่มเชื้อสายจีนสองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยความดีใจไม่แพ้กัน
“ไงเรา...นี่ใช่น้องพลูตัวจริงเปล่าเนี่ย ไอ้บิ๊ก...ช่วยดูซิ” บุรนันท์คลายวงแขนออกเพื่อแสร้งดูหน้าคนตัวเล็กให้ชัดขึ้นพร้อมกับบุ้ยใบ้ไปทางน้องชายคนรอง
“ผิดคนมั้งเฮีย ยัยพลูตัวจริงมันมอมแมมกว่านี้นี่ แต่น้องผึ้งคนสวยนี่ตัวจริงเสียงจริงนะ สวยไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนยัยพลูจะสวยทุกวันพระ” วิบูลกิจหรือเฮียบิ๊กช่วยผสมโรง คนตัวเล็กย่นจมูกใส่
“ฮื่อ...ไม่เจอกันสามเดือนจำน้องสาวคนเล็กไม่ได้ สวยขึ้นละสิ...ฮึ” หญิงสาวเชิดใส่เต็มที่เลยถูกเฮียคนหนึ่งบีบจมูกด้วยความหมั่นไส้
“เอ่อ...แล้วเฮียบุ้งไม่มาเหรอจ๊ะ?” ปลายเดือนถามเสียงเรียบแต่ในใจก็กังวล สองพี่น้องมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนที่พี่คนโตจะถองน้องรองให้ตอบคำถามนี้
“ไอ้บุ้งมันบอกเหนื่อยก็เลยอยู่เฝ้าบ้าน อีกอย่างตอนเช้าก็มาแล้วรอบนึง มันเลยกลัวน้องผึ้งเบื่อขี้หน้าเพราะว่าวันนี้...อุ๊บส์!” วิบูลเกียรติน้องชายคนที่สามเดินมาสมทบพอดียกมือข้างที่ถือกระเช้าของขวัญกระแทกหลังพี่รองแรงๆเป็นสัญญาณบอกว่า “หยุดพูดได้แล้ว” เพราะความจริงนั้นน้องชายคนเล็กกลับไปถึงบ้านก็ดื่มจนเมามายเลยได้ยินคำสารภาพความในใจทุกหน่วยเม็ด
“อาบุ้งมันต้องตื่นแต่เช้าพาอาม่าไปหาหมอทำกายภาพ เฮียสามคนก็เลยมาเป็นตัวแทน นี่แน่ะ..ซ้อใหญ่กับซ้อรองฝากของมาให้ พวกเจ๊ๆต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านก็เลยไม่ได้มานะ” วิบูลเกียรติหรือเฮียเบ้งตอบแล้วยื่นกระเช้าผลไม้หน้าตาแปลกๆให้ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้เทียมภพที่ยืนชูแก้วส่งสัญญาณเรียกให้ไปหาอยู่อีกฟาก
“อ้อ...เอ่อ ได้ข่าวว่าซ้อใหญ่จะมีน้องอีกคนแล้ว ผึ้งดีใจด้วยนะจ๊ะเฮียเบิ้ม ว่างๆจะเข้าไปหาที่บ้าน” ปลายเดือนรีบเปลี่ยนเรื่องคุย แทนดาวเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศกร่อยๆเลยรีบแก้สถานการณ์นี้เสียด้วยการดึงตัวเฮียๆไปที่ชอบๆ
“เฮียสาม บ. มานี่เลย พี่หมากอุ่นเครื่องรอตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน วันนี้ไม่มีซ้อทั้งสามตามมาคุมนี่นา เต็มที่ไปเลย...น้องพลูไม่ไปฟ้องแน่ๆ” แทนดาวออกแรงดันหลังหนุ่มหน้าตี๋พิมพ์เดียวกันสามคนไปหาพี่ชาย ปล่อยให้ปลายเดือนยังยืนอยู่ที่เดิมอย่างใช้ความคิด
“สวัสดีครับคุณย่า สุขสันต์วันเกิดอีกรอบนะครับ” เสียงทักทายคุ้นหูดึงความสนใจของแทนดาวที่กลับมาก้มหน้าก้มตารับประทานต่อ เจ้าของใบหน้าคมเข้มเหมือนเจ้าชายแขกแบบที่แทนขวัญบรรยายไว้กำลังทำความเคารพหญิงชรา เขาอยู่ในชุดสูทเต็มยศดูโก้เชียว ผมเซ็ทเข้าทรงมากกว่าเมื่อตอนกลางวันแต่สีหน้าก็ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิมอยู่ดี ในมือมีห่อของขวัญดูคล้ายกรอบรูปแต่แทนดาวไม่ได้สนใจตรงนั้น สิ่งที่ดึงความคิดทั้งมวลไว้ก็คือสตรีร่างบอบบางในชุดผ้าชีฟองยาวพลิ้วสีเหลืองอำพันจางๆที่ยืนอยู่ข้างๆที่มาด้วยกันต่างหาก ปลายเดือนที่โปรยยิ้มให้อยู่นานแล้วก็ดูจะมีอาการกระตุกไปบ้างเพราะมีคำถามเดียวกันกับน้องสาวว่าสตรีที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆเป็นใคร สาวเจนสังคมอย่างตนเองไม่น่าจะตกข่าวถ้าหากชลธีคนนี้ไม่โสดอย่างที่เข้าใจ
“ตามสบายเลยนะ แล้วนั่นพาแฟนมาด้วยรึ?” คุณลำเภาถามแทนทุกคนที่สงสัย แทนดาวคิดในใจว่าน่าจะใช่เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาก็ยังไม่ได้เหลือบตาแลมาทางนี้หรือแม้แต่กับปลายเดือนที่คุ้นเคยกัน อาจจะด้วยเกรงใจคนที่พามาด้วยกระมัง
“คุณย่าจำไม่ได้เหรอครับ? นี่รมณ์นลินไง...คราวนี้คุ้นมั้ยครับ” เขาดันร่างสตรีที่ยืนอยู่ข้างๆให้ขยับขึ้นมาจนใบหน้ากระทบกับแสงสว่าง รมณ์นลินยกมือไหว้หญิงชราอย่างอ่อนน้อม แทนดาวหูยิ้มแก้มแทบปริแล้วเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความแปลกใจปนดีใจ
“พี่แฟง! พี่แฟงกลับมาแล้ว” คนถูกเรียกดูไม่ตื่นเต้นหรือตกใจเพราะเป็นครู-ศิษย์กันอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งก็เนื่องด้วยคำขอของผู้มีศักดิ์เป็นพี่อย่างชลธีที่ไม่ให้บอกว่าเป็นพี่น้องกัน รมณ์นลินเองก็ต้องจำใจตามใจพี่ชาย
“วันนี้น้องพลูน่ารักจังเลย” รมณ์นลินกล่าวชมลูกศิษย์สาว แน่นอน...ชลธีเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้น้องสาวฟังหมด ตอนที่นั่งรถมาด้วยกันพี่ชายบอกว่า “เดี๋ยวแฟงจะได้เห็นซินเดอเรลล่าตัวจริง’’
“เอ่อ...พี่แฟง...พี่ชล” พอดีใจได้แป๊บเดียวก็กลับเข้าโหมดมึนอีกครั้งเมื่อทบทวนในใจว่า
“นี่พี่แฟงเป็นแฟนกับเค้าหรือนี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
ปลายเดือนที่ตอนนี้หุบยิ้มกริบเพราะตัวเองก็แปลกใจไม่น้อย หล่อนรู้จักรมณ์นลินในฐานะที่เป็นครูสอนเปียโนของน้องสาวแต่ไม่เคยรู้ว่ามีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกับชลธี
“ขอโทษที่ไม่เคยบอกคุณย่าว่าแฟงเป็นน้องสาวผม” คำเฉลยที่ได้ยินทำให้ปลายเดือนโล่งใจจนยิ้มออกมาได้ในที่สุดแต่แทนดาวยังอึ้งๆอยู่ ก็นะ...คุณครูไม่เคยปริปากบอกเลยนี่นาว่ามีพี่ชายแถมยังเป็นคนๆเดียวกับ ‘คุณอาธารา หรือ คุณชลธี’ มาดนิ่งพายุพัดไม่ไหวติงคนนี้
“แหม...ดูสิ ย่าแก่จนความจำเลอะเลือน วันนี้แต่งตัวสวยเสียจำไม่ได้ เจ้าพลู...พาครูเราไปหาอะไรกินสิ” คุณลำเภายิ้มกว้างพลางร้องบอกหลานสาวคนเล็ก แทนดาวเดินเข้าไปหาครูสาวด้วยอาการยิ้มแย้มแช่มชื่น ไม่ได้เจอกันตั้งสองสัปดาห์เพราะคุณครูพาเด็กไปแข่งไวโอลินชิงแชมป์เอเชียที่สิงคโปร์ รมณ์นลินเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมากทั้งยังอ่อนหวานและยิ้มเก่งต่างกับชลธีที่เป็นเสือยิ้มยาก ยังเคยยุให้พี่ชายจีบคุณครูแต่เจ้าตัวก็บอกว่า ‘จืด’ เกินไปไม่ตรงสเป็ก
“คุณสีผึ้งสวยจังครับวันนี้ ผมนึกว่าเซเลบที่ไหนมายืนอยู่...ว่ามั้ยแฟง?” ชลธีชมซึ่งหน้า รมณ์นลินพยักหน้าเห็นด้วย
“ขอบคุณค่ะ ต๊ายดูสิ...ผึ้งจำคุณแฟงไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าคุณชลควงใครมาเปิดตัว” คนถูกชมพูดแก้เขินแม้จะพอใจอยู่มากที่เขาชมว่าสวยแต่ยังคงสงวนท่าทีได้ดีสมกับเป็นสาวสังคมที่รู้จักการวางตัวได้ในทุกสถานการณ์ ปลายเดือนช้อนตามองบุรุษหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาพราวระยับ ทำให้คนที่ออกปากชมเมื่อครู่เกิดรู้สึกอึดอัดขึ้นมาดื้อๆ
แทนดาวหน้าตึงเมื่อเขายังไม่ทักทายหรือไม่แม้แต่จะมองมาทางนี้เลย เมื่อดูเชิงแล้วเขาคงไม่เสวนาด้วยแน่ๆเลยพารมณ์นลินไปที่ซุ้มอาหารและจัดการหาพาไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับแก๊งเพื่อนสาว ใจยังเคืองเขาอยู่นิดๆที่ไม่ยอมปรายตามามองแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังทำราวกับว่าหล่อนไม่มีตัวตน หรือว่าเขาอาจจะยังโกรธเรื่องที่ไปกัดเข้าเมื่อตอนกลางวัน
“น้องพลู...มากับพี่หน่อยสิจ๊ะ” เสียงหวานๆของพี่สาวเรียกให้ไปหา ตอนแรกก็ว่าจะดื้อแพ่งไม่ไปตามคำสั่งแต่ก็ยอมในนาทีสุดท้ายเพราะวันนี้เป็นวันเกิดคุณย่า ไม่อยากให้พี่สาวมีเรื่องไปฟ้องให้ท่านไม่สบายใจ
“พี่จะแนะนำให้รู้จักเพื่อนๆของพี่นะคะ” ปลายเดือนแตะข้อศอกน้องสาวให้มาอยู่กลางวง
ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 5,6)
“พี่พลูมาช่วยดูหน่อยสิ ชุดที่แม่เตรียมให้ขวัญมันไม่เหมาะกับงานคืนนี้เลย ขวัญไม่ชอบกระโปรงยาวลากพื้นแบบนี้อ่ะ กลัวสะดุดล้ม” เสียงเรียกของน้องสาวทำให้แทนดาวที่ยังติดสินใจเลือกไม่ได้ระหว่างคอกเทลเดรสที่คุณแม่เตรียมไว้ให้สลับกับชุดที่ ‘เขา’ ส่งมาให้ ถ้าพี่หมากเกิดจำได้ขึ้นมาจะว่าอย่างไร แทนดาวมองน้องสาวที่กำลังหมุนตัวอยู่หน้าบานกระจกอย่างพิจารณาแล้วก็ยิ้มกว้าง
“งั้นลองสวมชุดนี้แล้วกัน นี่เพิ่งซื้อมายังไม่ได้ใส่เลยนะ ถ้าน้องขวัญใส่ได้พอดีพี่ยกให้เลย” หล่อนหยิบชุดราตรีสั้นแขนตุ๊กตาให้ลูกผู้น้อง
“จริงนะพี่พลู สวยจัง ขวัญชอบมากเลยค่ะ” แทนขวัญรับมาด้วยความดีใจรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยนชุด แทนดาวแอบยิ้มกับตัวเองแล้วหยิบเดรสไหล่เฉียงสีโอลด์โรสมาทาบตัวอีกครั้ง
“ขอบใจนะน้องขวัญ”
บรรยากาศตอนค่ำครึกครื้นกว่าเมื่อเช้ามากเพราะผู้ที่มาร่วมงานประกอบด้วยคนหลายวัย ทั้งรุ่นเด็ก รุ่นหนุ่มสาววัยทำงานที่มารวมตัวกันอย่างกับงานเลี้ยงรุ่นซึ่งก็มีครบทุกรุ่นจริงๆ และถึงแม้จะจัดขึ้นภายในบ้านแต่ผู้ที่ได้รับเชิญมาต่างก็แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศเพื่อให้เกียรติเจ้าของงานซึ่งเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาเป็นที่นับถือกันมานานนม บนเวทีมีนักร้องขับกล่อมบทเพลงไพเราะสลับด้วยการแสดงของเด็กๆจากโรงเรียนที่เจ้าภาพมอบทุนการศึกษาให้ทุกปี
คุณลำเภานั่งรับของขวัญอยู่ที่โต๊ะข้างๆเวที ท่านไม่สะดวกที่จะเดินไปมาเพราะสังขารไม่อำนวยนัก มีหลานสาวทั้งสองคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ ทางขวาเป็นสตรีร่างระหงเจ้าของใบหน้างามผุดผาดเทียบชั้นดาราในชุดเปิดไหล่สีครีมเข้ากับชุดเครื่องเพชรหรูหราล้อแสงไฟระยับก็ยิ่งขับให้ร่างผุดผ่องดูสง่างามสมบูรณ์ หล่อนกำลังยิ้มแย้มแจ่มใสคอยต้อนรับทุกคนอย่างเป็นมิตรจนไม่น่าแปลกใจเลยที่มักจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เดินมาเมียงๆมองๆอยู่เป็นระยะๆ บ้างก็คอยส่งน้ำส่งขนมให้ ใครเลยจะไม่รู้จักปลายเดือน ทวีกิจไพศาล ถึงจะไม่ใช่ดาราแต่ก็เป็นเซเลบริตี้ที่เวลาได้ไปงานไหนก็ต้องมีเรื่องลงคอลัมน์ประเภทซุบซิบไฮโซทั้งหลาย
ถัดมาก็เป็นสาวแรกรุ่นอีกคนที่งดงามไม่แพ้กันในชุดสีโอลด์โรสเปิดไหล่ข้างเดียว ผมยาวเกล้าแบบเก๋ปล่อยปอยผมรุ่ยร่ายเป็นธรรมชาติ โครงหน้างามได้รูปแต่งแต้มเข้ากับสีชุดอย่างลงตัว ถึงจะมิได้เป็นที่รู้จักอย่างพี่สาวแต่หนุ่มๆพวกที่มาเมียงมองปลายเดือนเสร็จแล้วก็เป็นต้องหยุดที่สาวน้อยอีกคนทุกรายไป หล่อนไม่ได้ยืนยิ้มแย้มทักทายแขกอย่างที่ควรจะทำแต่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารสารพัดชนิดที่เพื่อนร่วมก๊วนช่วยส่งมาให้เรื่อยๆ แทนดาวไม่ถนัดนักหรอกกับการเข้าสังคมจึงไม่สนใจใครมากนักนอกจากเวลาที่คุณย่าหรือพี่สาวจะแนะนำให้ไหว้คนนั้นคนนี้
เทียมภพพาแฟนสาวมาร่วมงานนี้ด้วย ใบหน้าเรียวงามสวยของจัดจ้านของชุสิตาสะกดสายตาหลายคู่ รูปร่างอรชรเอวคอดกิ่วจนแทบจะขาดจากกกันซ่อนอยู่ในชุดเกาะอกสีเขียวมรกตซึ่งแทนดาววิจารณ์ว่ามันจะเกาะต่ำไปเสียหน่อยจนมองเห็นเนินเนื้อเสริมซิลิโคนโผล่พ้นขอบชุดขึ้นมาครึ่งหนึ่ง เพื่อนๆรวมทั้งแทนขวัญลูกผู้น้องพากันไปรุมล้อมดาราสาวสวยเพื่อขอถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดและขอลายเซ็น ซ้ำยังออกอาการปลื้มทำท่าว่าจะเปลี่ยนฝั่งไปสวามิภักดิ์กับแม่นั่น ไหนจะพวกหนุ่มโสดนอกบ้านทั้งเพื่อนพี่ชาย ทั้งญาติหนุ่มที่พยายามเสนอตัวเข้าไปทำความรู้จัก
“พี่สิตาตัวจริงสวยกว่าในทีวีอีก ไม่หยิ่งด้วยล่ะ ดูสิ...พี่เค้าเขียนอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้ฉันด้วย” อรกานต์พูดถึงแฟนพี่ชายเพื่อนอย่างชื่นชมพลางอวดรูปที่ถ่ายคู่กันให้ดูรอบวง
“โมที่เกาหลีมาทั้งตัว จับไปเจอแต่ซิลิโคนไม่ก็ฟิลเลอร์” แทนดาววิจารณ์แรง
“นี่แก...ดาราสมัยนี้มีใครมั่งไม่อัพหน้าฮะ? มีพี่สะใภ้เป็นนางแบบเนี่ย...แกจะดังด้วยโดยไม่รู้ตัวนะ ไม่ชอบเหรอ” ดารตาเพื่อนอีกคนเสริม
“ยี๋...ฉันไม่ชอบพี่สะใภ้พลาสติกเดินได้ยัดไส้ซิลิโคนย่ะ” แล้วก็เบ้หน้าให้เพื่อนๆที่ยังไม่หยุดอวดรูปถ่ายกับลายเซ็นของนางแบบคนนั้น
“เฮียเบิ้ม!” สาวน้อยลืมความขุ่นมัวทุกอย่างแล้วรีบวิ่งไปหาคนที่เรียกว่าเฮียเบิ้มอย่างร่าเริงพร้อมพอถึงตัวก็โผเข้ากอดเสียแน่นด้วยความคิดถึงแต่ก็กอดได้ไม่รอบเพราะติดพุงอันใหญ่โตของพี่ใหญ่ เฮียเบิ้มหรือบุรนันท์เป็นบุตรชายคนโตของคุณหลีซึ่งมีนิสัยละม้ายคล้ายคลึงกับเทียมภพมากที่สุด ทั้งเรื่องขี้วีน ใจร้อนและเจ้าชู้ ทุกคนผูกพันกันดุจพี่น้องท้องเดียว สมัยเด็กๆเฮียทั้งสี่ก็เคยมาอยู่กินนอนที่นี่ช่วงปิดเทอม มีเฮียเบิ้มที่อายุมากที่สุดเป็นหัวโจกคอยนำทีมเล่นซนไม่เว้นแต่ละวัน ปลายเดือนยกมือไหว้บุรุษหนุ่มเชื้อสายจีนสองคนที่เพิ่งมาถึงด้วยความดีใจไม่แพ้กัน
“ไงเรา...นี่ใช่น้องพลูตัวจริงเปล่าเนี่ย ไอ้บิ๊ก...ช่วยดูซิ” บุรนันท์คลายวงแขนออกเพื่อแสร้งดูหน้าคนตัวเล็กให้ชัดขึ้นพร้อมกับบุ้ยใบ้ไปทางน้องชายคนรอง
“ผิดคนมั้งเฮีย ยัยพลูตัวจริงมันมอมแมมกว่านี้นี่ แต่น้องผึ้งคนสวยนี่ตัวจริงเสียงจริงนะ สวยไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนยัยพลูจะสวยทุกวันพระ” วิบูลกิจหรือเฮียบิ๊กช่วยผสมโรง คนตัวเล็กย่นจมูกใส่
“ฮื่อ...ไม่เจอกันสามเดือนจำน้องสาวคนเล็กไม่ได้ สวยขึ้นละสิ...ฮึ” หญิงสาวเชิดใส่เต็มที่เลยถูกเฮียคนหนึ่งบีบจมูกด้วยความหมั่นไส้
“เอ่อ...แล้วเฮียบุ้งไม่มาเหรอจ๊ะ?” ปลายเดือนถามเสียงเรียบแต่ในใจก็กังวล สองพี่น้องมองหน้ากันเลิกลั่กก่อนที่พี่คนโตจะถองน้องรองให้ตอบคำถามนี้
“ไอ้บุ้งมันบอกเหนื่อยก็เลยอยู่เฝ้าบ้าน อีกอย่างตอนเช้าก็มาแล้วรอบนึง มันเลยกลัวน้องผึ้งเบื่อขี้หน้าเพราะว่าวันนี้...อุ๊บส์!” วิบูลเกียรติน้องชายคนที่สามเดินมาสมทบพอดียกมือข้างที่ถือกระเช้าของขวัญกระแทกหลังพี่รองแรงๆเป็นสัญญาณบอกว่า “หยุดพูดได้แล้ว” เพราะความจริงนั้นน้องชายคนเล็กกลับไปถึงบ้านก็ดื่มจนเมามายเลยได้ยินคำสารภาพความในใจทุกหน่วยเม็ด
“อาบุ้งมันต้องตื่นแต่เช้าพาอาม่าไปหาหมอทำกายภาพ เฮียสามคนก็เลยมาเป็นตัวแทน นี่แน่ะ..ซ้อใหญ่กับซ้อรองฝากของมาให้ พวกเจ๊ๆต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านก็เลยไม่ได้มานะ” วิบูลเกียรติหรือเฮียเบ้งตอบแล้วยื่นกระเช้าผลไม้หน้าตาแปลกๆให้ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้เทียมภพที่ยืนชูแก้วส่งสัญญาณเรียกให้ไปหาอยู่อีกฟาก
“อ้อ...เอ่อ ได้ข่าวว่าซ้อใหญ่จะมีน้องอีกคนแล้ว ผึ้งดีใจด้วยนะจ๊ะเฮียเบิ้ม ว่างๆจะเข้าไปหาที่บ้าน” ปลายเดือนรีบเปลี่ยนเรื่องคุย แทนดาวเองก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศกร่อยๆเลยรีบแก้สถานการณ์นี้เสียด้วยการดึงตัวเฮียๆไปที่ชอบๆ
“เฮียสาม บ. มานี่เลย พี่หมากอุ่นเครื่องรอตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ตกดิน วันนี้ไม่มีซ้อทั้งสามตามมาคุมนี่นา เต็มที่ไปเลย...น้องพลูไม่ไปฟ้องแน่ๆ” แทนดาวออกแรงดันหลังหนุ่มหน้าตี๋พิมพ์เดียวกันสามคนไปหาพี่ชาย ปล่อยให้ปลายเดือนยังยืนอยู่ที่เดิมอย่างใช้ความคิด
“สวัสดีครับคุณย่า สุขสันต์วันเกิดอีกรอบนะครับ” เสียงทักทายคุ้นหูดึงความสนใจของแทนดาวที่กลับมาก้มหน้าก้มตารับประทานต่อ เจ้าของใบหน้าคมเข้มเหมือนเจ้าชายแขกแบบที่แทนขวัญบรรยายไว้กำลังทำความเคารพหญิงชรา เขาอยู่ในชุดสูทเต็มยศดูโก้เชียว ผมเซ็ทเข้าทรงมากกว่าเมื่อตอนกลางวันแต่สีหน้าก็ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิมอยู่ดี ในมือมีห่อของขวัญดูคล้ายกรอบรูปแต่แทนดาวไม่ได้สนใจตรงนั้น สิ่งที่ดึงความคิดทั้งมวลไว้ก็คือสตรีร่างบอบบางในชุดผ้าชีฟองยาวพลิ้วสีเหลืองอำพันจางๆที่ยืนอยู่ข้างๆที่มาด้วยกันต่างหาก ปลายเดือนที่โปรยยิ้มให้อยู่นานแล้วก็ดูจะมีอาการกระตุกไปบ้างเพราะมีคำถามเดียวกันกับน้องสาวว่าสตรีที่ยืนอมยิ้มอยู่ข้างๆเป็นใคร สาวเจนสังคมอย่างตนเองไม่น่าจะตกข่าวถ้าหากชลธีคนนี้ไม่โสดอย่างที่เข้าใจ
“ตามสบายเลยนะ แล้วนั่นพาแฟนมาด้วยรึ?” คุณลำเภาถามแทนทุกคนที่สงสัย แทนดาวคิดในใจว่าน่าจะใช่เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาก็ยังไม่ได้เหลือบตาแลมาทางนี้หรือแม้แต่กับปลายเดือนที่คุ้นเคยกัน อาจจะด้วยเกรงใจคนที่พามาด้วยกระมัง
“คุณย่าจำไม่ได้เหรอครับ? นี่รมณ์นลินไง...คราวนี้คุ้นมั้ยครับ” เขาดันร่างสตรีที่ยืนอยู่ข้างๆให้ขยับขึ้นมาจนใบหน้ากระทบกับแสงสว่าง รมณ์นลินยกมือไหว้หญิงชราอย่างอ่อนน้อม แทนดาวหูยิ้มแก้มแทบปริแล้วเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความแปลกใจปนดีใจ
“พี่แฟง! พี่แฟงกลับมาแล้ว” คนถูกเรียกดูไม่ตื่นเต้นหรือตกใจเพราะเป็นครู-ศิษย์กันอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งก็เนื่องด้วยคำขอของผู้มีศักดิ์เป็นพี่อย่างชลธีที่ไม่ให้บอกว่าเป็นพี่น้องกัน รมณ์นลินเองก็ต้องจำใจตามใจพี่ชาย
“วันนี้น้องพลูน่ารักจังเลย” รมณ์นลินกล่าวชมลูกศิษย์สาว แน่นอน...ชลธีเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้น้องสาวฟังหมด ตอนที่นั่งรถมาด้วยกันพี่ชายบอกว่า “เดี๋ยวแฟงจะได้เห็นซินเดอเรลล่าตัวจริง’’
“เอ่อ...พี่แฟง...พี่ชล” พอดีใจได้แป๊บเดียวก็กลับเข้าโหมดมึนอีกครั้งเมื่อทบทวนในใจว่า
“นี่พี่แฟงเป็นแฟนกับเค้าหรือนี่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย”
ปลายเดือนที่ตอนนี้หุบยิ้มกริบเพราะตัวเองก็แปลกใจไม่น้อย หล่อนรู้จักรมณ์นลินในฐานะที่เป็นครูสอนเปียโนของน้องสาวแต่ไม่เคยรู้ว่ามีความสัมพันธ์พิเศษอะไรกับชลธี
“ขอโทษที่ไม่เคยบอกคุณย่าว่าแฟงเป็นน้องสาวผม” คำเฉลยที่ได้ยินทำให้ปลายเดือนโล่งใจจนยิ้มออกมาได้ในที่สุดแต่แทนดาวยังอึ้งๆอยู่ ก็นะ...คุณครูไม่เคยปริปากบอกเลยนี่นาว่ามีพี่ชายแถมยังเป็นคนๆเดียวกับ ‘คุณอาธารา หรือ คุณชลธี’ มาดนิ่งพายุพัดไม่ไหวติงคนนี้
“แหม...ดูสิ ย่าแก่จนความจำเลอะเลือน วันนี้แต่งตัวสวยเสียจำไม่ได้ เจ้าพลู...พาครูเราไปหาอะไรกินสิ” คุณลำเภายิ้มกว้างพลางร้องบอกหลานสาวคนเล็ก แทนดาวเดินเข้าไปหาครูสาวด้วยอาการยิ้มแย้มแช่มชื่น ไม่ได้เจอกันตั้งสองสัปดาห์เพราะคุณครูพาเด็กไปแข่งไวโอลินชิงแชมป์เอเชียที่สิงคโปร์ รมณ์นลินเป็นผู้หญิงที่เรียบร้อยมากทั้งยังอ่อนหวานและยิ้มเก่งต่างกับชลธีที่เป็นเสือยิ้มยาก ยังเคยยุให้พี่ชายจีบคุณครูแต่เจ้าตัวก็บอกว่า ‘จืด’ เกินไปไม่ตรงสเป็ก
“คุณสีผึ้งสวยจังครับวันนี้ ผมนึกว่าเซเลบที่ไหนมายืนอยู่...ว่ามั้ยแฟง?” ชลธีชมซึ่งหน้า รมณ์นลินพยักหน้าเห็นด้วย
“ขอบคุณค่ะ ต๊ายดูสิ...ผึ้งจำคุณแฟงไม่ได้ ตอนแรกคิดว่าคุณชลควงใครมาเปิดตัว” คนถูกชมพูดแก้เขินแม้จะพอใจอยู่มากที่เขาชมว่าสวยแต่ยังคงสงวนท่าทีได้ดีสมกับเป็นสาวสังคมที่รู้จักการวางตัวได้ในทุกสถานการณ์ ปลายเดือนช้อนตามองบุรุษหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาพราวระยับ ทำให้คนที่ออกปากชมเมื่อครู่เกิดรู้สึกอึดอัดขึ้นมาดื้อๆ
แทนดาวหน้าตึงเมื่อเขายังไม่ทักทายหรือไม่แม้แต่จะมองมาทางนี้เลย เมื่อดูเชิงแล้วเขาคงไม่เสวนาด้วยแน่ๆเลยพารมณ์นลินไปที่ซุ้มอาหารและจัดการหาพาไปนั่งที่โต๊ะเดียวกับแก๊งเพื่อนสาว ใจยังเคืองเขาอยู่นิดๆที่ไม่ยอมปรายตามามองแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังทำราวกับว่าหล่อนไม่มีตัวตน หรือว่าเขาอาจจะยังโกรธเรื่องที่ไปกัดเข้าเมื่อตอนกลางวัน
“น้องพลู...มากับพี่หน่อยสิจ๊ะ” เสียงหวานๆของพี่สาวเรียกให้ไปหา ตอนแรกก็ว่าจะดื้อแพ่งไม่ไปตามคำสั่งแต่ก็ยอมในนาทีสุดท้ายเพราะวันนี้เป็นวันเกิดคุณย่า ไม่อยากให้พี่สาวมีเรื่องไปฟ้องให้ท่านไม่สบายใจ
“พี่จะแนะนำให้รู้จักเพื่อนๆของพี่นะคะ” ปลายเดือนแตะข้อศอกน้องสาวให้มาอยู่กลางวง