ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 21,22)

ตอนที่ 21 ชมดวงดาว


เปรมยุตามองสาวหมวยที่นั่งทำหน้าแป้นแล้วอยู่หน้าห้องชลธีด้วยความรู้สึกอธิบายยาก อยู่ดีๆวันนี้เขาก็เรียกตัวหล่อนขึ้นมาแล้วแนะนำให้รู้จักกับพนักงานใหม่ แถมยังฝากฝังให้ตนเองสอนงานให้
“นี่ปาลิดาหรือลูกปลานะปราง  เพิ่งมาจากระยองน่ะ บ้านเราอยู่รั้วติดกัน รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ ลูกปลาเค้าอยากมาทำงานกับผม เห็นว่าปรางมีคนน้อยเลยจะให้ลูกปลามาช่วย ยังไงก็ฝากด้วยนะ” เขาพูดแนะนำปาลิดาที่ลิงโลดสุดขีดเมื่อในที่สุดชลธีก็ยอมให้มาทำงานด้วย
“ลูกปลาต้องตั้งใจฟังทุกอย่างที่คุณปรางเค้าสอนนะ แล้วที่นี่น่ะ...ลูกปลามีสถานะเป็นพนักงานเหมือนคนอื่นๆ ห้ามใช้ชื่อพี่ไปอ้างทำเรื่องป่วนล่ะ ไม่งั้นก็ต้องได้รับบทลงโทษตามกฎ แล้วที่สำคัญนะ...ต้องคอยประกบคุณปรางอย่าให้คลาดสายตา” สองสาวจ้องหน้าเขาเมื่อพูดถึงตรงนี้ ชลธีรู้สึกตัวจึงแก้เสียใหม่
“หมายความว่า...ให้ตามไปดูคุณปรางว่าแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง มีอะไรไม่เข้าใจก็ถาม ก่อนเลิกงานก็ต้องเขียนรายงานประจำวันว่าวันนี้เราทำอะไร เจอปัญหาอะไรแล้วก็แก้ไขยังไง”
“งานง่ายๆแค่นี้ลูกปลาทำได้อยู่แล้วค่ะ บอกแล้วว่าหนักเอา เบาสู้ ไม่อู้ด้วย” สตรีหน้าหมวยปากสีส้ม กรีดอายไลเนอร์ขึ้นมาเสียครึ่งเปลือกตารับคำเป็นมั่นเหมาะ
พอแนะนำตัวกันเรียบร้อยชลธีก็ออกไป เขาแอบยิ้มกับตัวเองเมื่อคิดว่าแผนการนี้น่าจะประสบความสำเร็จ จากเหตุการณ์เมื่อวันก่อนทำให้เขากลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับเปรมยุตาอีก ยิ่งทำงานที่เดียวกันก็ยิ่งเลี่ยงยาก ดูเหมือนว่าอดีตคนรักจะมีความสามารถพิเศษในตามติดตามเขาไปทุกที่ จนแอบคิดขำๆไม่ได้ว่า หล่อนเอาจีพีเอสมาฝังไว้ในตัวเขาหรือเปล่าถึงได้รู้ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เขาหวังว่าแผนการเอาปาลิดามานั่งหน้าห้องเป็นด่านสกัดดาวรุ่งนี้จะช่วยกันเปรมยุตาให้อยู่ห่างๆตนเองได้
“ลูกปลาเคยจัดอีเว้นท์มาก่อนมั้ยคะ?” พอคล้อยหลังชลธี เปรมยุตาก็หันมาถามสตรีปากสีสดที่ยังคงส่องกระจกไม่หยุด
“ไม่เคยหรอกค่ะ ตอนอยู่ระยองเตี่ยก็ให้ไปเก็บเงินพวกแม่ค้าที่สะพานปลาอย่างเดียว อ้อ...บอกก่อนนะคะว่าลูกปลาไม่ถนัดงานแบกหามนะ เตี่ยไม่เคยให้ทำงานหนัก แล้วงานที่ต้องออกพื้นที่ไรงี้ก็ไม่ไหวนะคะ ข้างนอกมันร้อน ขอทำอยู่แต่ในห้องแอร์อย่างเดียว” ปาลิดาพูดจบก็หยิบลิปสติกสีเดิมมาปาดเพิ่มเพราะคิดว่ามันเริ่มจะซีด
“อ้าว...เมื่อกี้ยังบอกว่าหนักเอาเบาสู้อยู่เลยนี่?”  
“อืม...แค่พูดไม่จบค่ะ หนักเอา เบาสู้ ไม่อู้ด้วย แต่ช่วยเท่าที่จำเป็น” สาวหมวยลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่ยี่หระพลางแตะบลัชออนสีพีชลงบนพวงแก้มที่แดงอยู่แล้วให้แดงขึ้นอีก ส่วนเปรมยุตาก็ได้แต่ยืนทำท่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่อย่างนั้น

วันเสาร์นี้แล้วที่แทนดาวจะต้องไปแข่งเปียโนรอบชิงชนะเลิศ ดังนั้นตลอดวันที่ผ่านมาก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาซ้อมจนคนในบ้านเป็นห่วงว่าจะเหนื่อยจนหมดแรงไปเสียก่อน รมณ์นลินเองก็บอกแล้วว่าไม่ต้องไปเครียดมากนักแต่ลูกศิษย์สาวผู้มีความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมก็ไม่ฟัง คิดแต่ว่าจะต้องได้ออกโฆษณาทีวีให้ได้
    “น้องพลูขอต่ออีกนิดเดียวเอง กำลังจะจบแล้วเชียว” หล่อนท้วงเมื่อพี่ชายที่วันนี้กลับบ้านมาเร็วผิดปกติมาอุ้มตัวไปจากม้านั่งเมื่อรู้ว่าน้องสาวซ้อมเข้มมาสี่ชั่วโมงติดต่อกันแล้ว
    “พักบ้างสิคะ พี่ว่าหนูก็เล่นได้ดีไม่พลาดแล้วนี่นา หรือว่าไงครับ...คุณครู?” เทียมภพหันมาขอความเห็นจากรมณ์นลินที่นั่งอยู่ข้างๆ หล่อนพยักหน้าเห็นด้วยซึ่งเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเห็นพ้องต้องกัน
    “พี่ว่าน้องพลูหักโหมมากเกินไปแล้วนะคะ เดี๋ยวพอถึงพรุ่งนี้จริงๆจะเพลียเอานะ เก็บแรงเอาไว้ใช้วันพรุ่งนี้ให้เต็มที่ดีกว่า” รมณ์นลินเสริม
    “น้องพลูไม่ได้หวังว่าจะชนะหรอกนะคะ แค่อยากทำให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง” ถึงปากจะบอกอย่างนั้นแต่ใจจริงก็อยากจะคว้าชัยชนะเต็มเปี่ยม
    “ฝีมืออย่างน้องพลูเนี่ย...พี่เชื่อว่าต้องได้ซักรางวัลแน่นอนค่ะ” รมณ์นลินให้กำลังใจ เทียมภพมองแล้วยิ้มบางๆ
    “อืม...ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ผมคงต้องให้รางวัลทั้งน้องพลูและคุณครูล่ะสิเนี่ย” คนใจป้ำบอกน้องสาวและเผื่อแผ่สายไปไปที่คุณครูคนสวยด้วย
    “ให้ก่อนไม่ได้เหรอคะ” น้องสาวแกล้งถาม
    “เฮ้ย...ได้ไง ถ้าเราไม่ชนะพี่ก็เสียงเงินฟรีสิ” พี่ชายรีบสกัดดาวรุ่ง
    “นี่คุณแฟง...เดี๋ยววันนี้ผมไปส่งนะหรือจะไปไหนต่อหรือเปล่า?” คนถูกถามเงยหน้ามองเลยทันได้เห็นตาหวานเชื่อมที่ทำเอาหนาวๆร้อนๆขึ้นมาทันที
    “วันนี้พี่ชลจะมารับเองค่ะ” ตาหวานเชื่อมของคนถามเปลี่ยนเป็นไม่พอใจที่ได้ยินชื่อศัตรู    “โอเค...งั้นผมไปทำงานต่อแล้วกัน ขนงานกลับมาอื้อเลย” เขาก้มลงจูบแก้มน้องสาวหนึ่งทีก่อนจะไปทำงานอย่างที่บอก
    “พี่หมากเนี่ยขยั๊น...ขยัน ช่วงหลังนี้ขนงานกลับมาทำที่บ้านประจำ แต่แปลกค่ะ...แกจะกลับบ้านเร็วกว่าปกติถ้าวันไหนพี่แฟงมาที่บ้าน” แทนดาวแกล้งพูดลอยๆเมื่อคล้อยหลังพี่ชาย    
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ ไม่น่าจะเกี่ยวกับพี่นะจ๊ะ” ครูสาวบ่ายเบี่ยงพลางพลิกสมุดโน้ตไปเรื่อย แทนดาวลอบยิ้มกับตัวเอง ประจวบเหมาะกับที่แม่บ้านวัยรุ่นยกแก้วกาแฟกำลังจะเอาไปใช้เทียมภพ
    “แป๋ม...นั่นของพี่หมากใช่มั้ย?” สาวใช้พยักหน้า แทนดาวจึงรีบแย่งถาดกาแฟนั้นมา
“เอามานี่...เดี๋ยวเธอไปเตรียมจัดยาให้คุณพ่อ” สาวใช้พยักหน้าอีกครั้งแล้วเดินออกไป
“น้องพลูก็ว่าจะไปดูคุณพ่อเดี๋ยวนะคะ ยังไงพี่แฟงช่วยยกกาแฟนี่ไปให้พี่หมากหน่อยนะคะ...ห้องเดิมค่ะ” คำว่า ‘ห้องเดิม’ ทำให้คนฟังประหม่า แต่ยังไม่ทันจะว่ากระไรแม่สื่อสาวก็ยัดเยียดถาดกาแฟกับของว่างให้คุณครูถือ
“อ้าว...น้องพลู” รมณ์นลินมองตามหลังลูกศิษย์ที่รีบเดินหลบฉากออกไปอย่างร่าเริง
    รมณ์นลินจำต้องนำของว่างไปเสิร์ฟคนเจ้าอารมณ์อย่างเลี่ยงไม่ได้ เทียมภพนั่งก่านเอกสารอยู่ในห้องสมุดกึ่งห้องทำงานอันเงียบสงบและหลบสายตาจากทุกคน เขาเลิกคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นว่าใครยกกาแฟมาวางตรงหน้า
    “น้องพลูให้เอามาให้ค่ะ” เจ้าของใบหน้านวลตอบคำถามจากสายตาสงสัยนั้นเสียเอง เทียมภพอยากจะตีน้องสาวจอมแก่แดดนี่จริงๆ “จะรู้งานเกินไปแล้วนะยัยพลู”
    “เหรอ...เอามาวางใกล้ๆสิ วางซะห่างใครจะไปหยิบถึง” เขาแกล้งสั่งเสียงดุ คนถูกสั่งมองอย่างไม่พอแต่ก็ย้อมเดินอ้อมโต๊ะมาข้างๆแล้วค่อยๆเลื่อนถาดไปให้ เทียมภพจึงกระตุกร่างบางให้ลงมานั่งบนตัก
    “ว๊าย...คุณหมาก!” รมณ์นลินตกใจที่ถูกคนเจ้าเล่ห์หลอกเอา
    “ป้อนหน่อย” คนตัวโตกอดร่างบางเอาไว้หลวมๆพลางบอกให้คนบนตักหยิบขนมป้อน รมณนลินอึกอัก
    “มีมือก็กินเองสิคะ ปล่อยค่ะ...ฉันต้องไปสอนต่อให้จบ” เจ้าของร่างบางประท้วงและพยายามดิ้นรน
    “พอแล้ว น้องพลูแกซ้อมมาทั้งวัน คุณเองก็ควรพักบ้าง เร็ว...ป้อนหน่อย” คนเอาแต่ใจยังร้องขออยู่อย่างนั้น รมณ์นลินหมดปัญญาขัดขืนจึงเอื้อมมือไปหยิบคุ้กกี้ในจานจ่อให้ใกล้ๆปาก คนตัวโตกัดกินอย่างพึงพอใจแถมยังส่งสายตาแพรวพราวให้คนป้อนไม่หยุดหย่อน ขณะที่ด้านนอก...แม่น้องสาวจอมวางแผนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่สองคนนั้นป้อนขนมให้กันแล้วเดินเลี่ยงไปปล่อยให้คู่หวานกันจนกาแฟดำที่ขมคอเปลี่ยนเป็นหวานปานน้ำผึ้ง
    แม้เทียมภพจะกินคุกกี้ที่รมณ์นลินเพียรป้อนให้จนหมดจานแล้วแต่ก็ยังไม่คลายอ้อมแขนจากคนที่นั่งซ้อนตักอยู่เพราะว่ากำลังเพลิดเพลินกับการลิ้มรสความหอมหวานละมุนลิ้นจากริมฝีปากบาง....
    
    
    ชลธีกำลังรีบสะสางงานที่กองพะเนินเทินทึกอยู่บนโต๊ะ การเข้ามาบริหารงานอยู่สองที่จึงต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นสองเท่า ยิ่งทวีกิจด้วยยิ่งต้องดูแลเป็นพิเศษ เขากับเทียมภพต้องช่วยกันผลักที่นี่ให้พ้นวิกฤติโดยเร็ว
    “คุณชลคะ ขอเวลาผึ้งสักห้านาทีได้มั้ย?” ชลธีเงยหน้าจากกองงานก็เห็นปลายเดือนยืนยิ้มอยู่หวานอยู่ตรงหน้า หล่อนเข้ามาโดยไม่ได้เคาะประตูซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ค่อยชอบนัก
    “มีอะไรด่วนเหรอครับ? พอดีผมกำลังดูแผนบริหารอันใหม่ที่ร่างขึ้นมา” เขาวางงานลงที่เดิมทำท่าเชื้อเชิญหล่อนให้นั่งแต่อีกฝ่ายเดินอ้อมมายืนข้างๆเก้าอี้จนได้กลิ่นน้ำหอมแล้ววางแฟ้มเอกสารในมือทับงานของเขา    
“ผึ้งอ่านตรงไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะ ไม่รู้ว่าคุณชลตีความแล้วเข้าใจตรงกันมั้ย?” ชลลีมองตามที่นิ้วที่ฉาบสีเล็บแดงสดชี้ให้ดู แต่เขารู้ล่ะว่าตรงที่หล่อนอยากจะให้ดูจริงๆเป็นคอเสื้อที่อาจจะ...ตั้งใจก้มต่ำลงมามากเกินความจำเป็น
    “อืม...ตรงนี้ต้องอธิบายยาวเลย เอางี้มั้ย...ถ้าเดี๋ยวค่อยหาเวลานัดมาคุยทีหลัง ตอนนี้ผมขอเคลียร์งานก่อน พรุ่งนี้จะไปดูน้องพลูจะแข่งเปียโนอยากให้งานเสร็จไวๆ” เขาบอกปัดและรีบเบือนหน้าหนีจากคอเสื้อที่อีกฝ่ายพยายามก้มต่ำ
    “ผึ้งก็อยากให้งานเสร็จไวๆเหมือนกันแหละค่ะ พรุ่งนี้จะได้ไปดูน้องอย่างหมดห่วง” ปลายเดือนไม่พอใจขึ้นมาทันทีที่อีกฝ่ายให้ความสำคัญกับน้องสาวมากกว่าตน ตั้งใจก้มลงมากกว่าเดิมจนมั่นใจว่าเขาจะเห็นร่องอกรำไรได้ชัดถนัดตา ผู้ชายร้อยทั้งร้อย...ถ้าเจอแบบนี้แล้วไม่หวั่นไหวล่ะก็...ไม่เป็นเกย์ก็คงเสื่อมสมรรถภาพ
    “เอ่อ...ขอโทษจริงๆครับ ผมขอทำงานต่อนะ” ชลธีถีบเก้าอี้ให้ห่างออกมา รู้สึกอึดอัดบอกไม่ถูก ไอ้จะขับไล่ออกไปตรงๆก็ไม่ได้
    “ผึ้งไม่รบกวนแล้วล่ะค่ะ เอาไว้คุยกันนอกรอบแล้วกัน” หล่อนพูดเสียงเศร้าๆ ชลธีแกล้งทำเป็นจัดข้าวของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง พอปลายเดือนออกไปแล้วก็รีบเดินไปล็อกประตูทันทีแล้วก็กลับมานั่งถอนหายใจแรงๆ
    “อะไรกันเนี่ย!” เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ อยู่ที่โรงแรมก็เจอเปรมยุตาที่ทำท่าจะร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นหน้าเขา พอมาที่ทวีกิจก็มีปลายเดือนที่คอยจะยั่วให้ตบะแตกอยู่เรื่อย

    ตกเย็นชลธีก็เตรียมจะไปรับน้องสาวที่บ้านทวีกิจไพศาลแต่ก็ต้องมีเรื่องให้ลำบากใจอีกครั้งเมื่อปลายเดือนมารอตรงที่จอดรถประจำของตน
    “คุณชลจะกลับแล้วใช่มั้ยคะ? ผึ้งขอไปด้วยนะ พอดีว่าเพิ่งให้เด็กเอารถไปล้างอัดฉีดค่ะ คงรอคิวอีกนาน” หล่อนบอกเสียงหวาน
    “เชิญครับ” เขาเปิดประตูรถให้อย่างมีมารยาท ปลายเดือนถึงกับเป็นปลื้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่