ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนที่ 13,14)

ตอนที่ 13 จุดเปลี่ยน


เปรมยุตา...ชลธีมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่
“ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกล่วงหน้านะคะ พอดีปรางผ่านมาแถวนี้เลยแวะมาทักทาย เห็นพนักงานบอกว่าคุณจะมีประชุมตอนบ่าย” หล่อนทักทายอย่างสดใส เขาสังเกตว่าอีกฝ่ายดูมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นกองกว่าตอนพบกันที่ออสเตรเลีย เขาสัญญาว่าถ้ากลับมาแล้วจะติดต่อไป แต่พอเจองานยุ่งเหยิงก็ลืมไปเสีย
“แล้วปรางมานานหรือยัง ไปดื่มกาแฟกันก่อนมั้ย?” เปรมยุตาตกลง เขาพาหล่อนไปนั่งคุยต่อในเล้าจ์           
“วันนี้ไม่ทำงานเหรอ?” เขาถามพลางจิบกาแฟดำ
“ปรางเสร็จงานของวันนี้แล้วล่ะค่ะถึงแวะมาหาคุณได้ไง ความจริงก็เบื่อๆเหมือนกันนะ งานตลาดนี่ปวดหัวจริงๆ” ใบหน้าหวานแสดงอาการเหนื่อยหน่ายตามที่บรรยายไว้ ชลธีนิ่งคิดอยู่สักพักก่อนจะถามอย่างจริงจัง
“ปรางครับ...ถ้าไม่ติดอะไร มาทำงานกับผมมั้ย? ถ้าคุณเบื่องานเดิม” เขาชวน เปรมยุตามองสนใจขึ้นมาทันที งานที่ทำประจำอยู่ก็มั่นคงและเป็นบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียง แต่การที่จะมาทำงานกับคน ‘เคย’ รักนั้นน่าสนใจมากกว่า บางที...อะไรๆมันอาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ง่ายดายขึ้น
“ปรางขอคิดดูก่อนนะคะชล” หล่อนตอบอย่างไว้เชิง
“ถ้าตกลง...ปรางพร้อมเมื่อไหร่บอกผมได้เลย คนมีความสามารถอย่างคุณ ใครๆก็อยากได้มาร่วมงานอยู่แล้ว” ชลธีบอกอย่างจริงใจ เปรมยุตาเป็นคนตั้งใจทำงานถ้าหล่อนอยากมาทำงานกับเขาก็ไม่มีปัญหา
“ถ้างั้นผมไปทำงานต่อนะ ประชุมทางไกลประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ปรางจะรอมั้ยล่ะ? เสร็จแล้วจะได้ไปทานข้าวกัน” เปรมยุตายิ้มดีใจเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยชวนและตอบตกลงทันที
“ไม่ต้องรีบนะคะชล ปรางรอได้...” ชายหนุ่มสะดุดหูกับประโยคสุดท้ายที่หลุดออกมาจากปากฉาบสีชมพูอมส้มนั่น หล่อนเคยบอกเขาแบบนี้เมื่อนานมาแล้ว

“ปรางจ๋า...ผมรักคุณเหลือเกิน รออีกนิดนะ...คุณรอผมได้มั้ย?”
“ค่ะ...ปรางจะรอคุณ”


เขา รีบไล่ภาพอดีตนี้ออกไปก่อนจะไปยังห้องประชุม เปรมยุตาเอนหลังพิงโซฟานุ่มพลางหลับตาลงอย่างใช้ความคิด ไม่คิดว่าตนกับชลธีจะมีวันนี้ได้อีก วันที่ได้มาคุยกันอีกครั้งทั้งๆที่เมื่อแปดปีก่อนได้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น ระหว่างทั้งคู่จนคิดว่าคงไม่อาจมีวันได้มิตรภาพดีๆกลับคืนมาเสียแล้ว  เปรมยุตาคิดทบทวนเหตุการณ์ในวันนั้นที่เป็นชนวนให้ตนเองตัดสินใจไปจากเขา คนที่เคยรัก...สุดหัวใจ

“ชลคะ...เอ่อ...เค้าไม่อยู่กับเราแล้วนะ”
“ปราง...ทำไมล่ะปราง ทำไมทำแบบนี้!” ชลธีจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยที่เมื่อก่อนนี้เคยมองเขาด้วยแววตารักลึกซึ้งอยู่เสมอ บัดนี้ฉายชัดเพียงความร้าวรานใจ กระทั่งตัวเขาเองยังมิอาจห้ามน้ำตาได้ เป็นครั้งแรกที่เปรมยุตาได้เห็น ‘น้ำตาลูกผู้ชาย’  
“ทำไมปรางไม่เชื่อใจผม...ว่ารับผิดชอบคุณได้ ทำไมไม่รอผม!” เขาเขย่าตัวหล่อนจนหัวสั่นหัวคลอน ความโกรธวูบหนึ่งแล่นเข้ามา  
“ปรางขอโทษนะ...แต่มันจำเป็น เราสองคนยังไม่พร้อม ปรางยังมีอนาคตอีกไกล ขอให้ชลเข้าใจปรางด้วย” หล่อนตอบด้วยเสียงอันสั่นเครือเช่นกัน ชลธีรู้สึกปวดใจไม่อาจจะบรรยายได้ ทั้งเสียใจทั้งผิดหวัง ไม่คิดว่าหญิงสาวที่แสนจะมีจิตใจอ่อนโยนและงดงามอย่างเปรมยุตาจะกล้าทำในสิ่งที่เรียกว่าเป็น ‘บาป’ มหันต์


วันรุ่งขึ้น...
    
แทน ดาวอาบน้ำแต่งตัวเตรียมจะไปข้างนอกกับมารดา ขณะที่กำลังหยิบของส่วนตัวใส่กระเป๋าถือ พี่สาวก็เดินนวยนาดเข้ามา แทนดาวเมินหน้าหนีเสียเพราะยังเคืองพี่สาวไม่หายที่เมื่อวานทิ้งตนเองไว้กับ รุ่นพี่ตามลำพัง  
“อ้าวเจ๊...ทำไมยังไม่ไปทำงานอีกล่ะ” น้องสาวทักห้วนๆ สรรพนามที่ใช้เรียกชวนให้คนฟังไม่พอใจ
                “ยัยพลู! อย่าเพิ่งมากวนใจกันตอนนี้ ฉันมีเรื่องจะถามเธอ เมื่อวาน...ทำไมถึงกลับมาเร็วล่ะ? ฉันนึกว่าคุณเวจะพาไปดูหนังฟังเพลงต่อซะอีก” ปลายเดือนทิ้งตัวลงนั่งที่ปลายเตียงแต่ตายังจับจ้องน้องสาวแบบว่าจะเอาเรื่องให้ได้
                “พี่เวก็ชวนอยู่ แต่พลูขอกลับเพราะบอกคุณแม่ว่าจะกลับประมาณบ่ายสาม” แทนดาวตอบเรื่อยๆ ปลายเดือนคว้าตุ๊กตาจิงโจ้กับหมีโคอาล่าบนเตียงมาพิจารณาดู
                “พี่ผึ้งยังมีความผิดที่ปล่อยปละละเลยหน้าที่ คุณย่าบอกให้อยู่เป็นเพื่อนก็มาทิ้งไป เกือบซวยเรื่องที่อยู่กับพี่เวอีก!” แทนดาวต่อว่าพี่สาวแต่คนเกิดก่อนเพียงแค่ยักไหล่ราวกับมันมิใช่ธุระสำคัญอะไร
                “เอ๊ะ!...ก็บอกอยู่ว่ามีงานเข้ามา แล้วจะให้ฉันทำยังไง? ถ้าเสียงานพี่หมากก็ต้องมาตำหนิฉันอีก แทนที่จะสำนึก จำใส่สมองไว้นะ...เงินเดือนหรือแม้แต่ปันผลที่เธอได้เก็บกินจนทุกวันนี้ฉันก็มีส่วนหามันมา รู้จักซะบ้างนะ...บุญคุณน่ะ” ปลายเดือนขึ้นเสียงแล้วได้โอกาสลำเลิกบุญคุณ
                “ไม่จริง! พี่หมากต่างหากที่ให้เงินเดือนพลู แล้วเงินปันผลก็เป็นส่วนที่คุณพ่อแบ่งให้อย่างถูกต้อง” น้องสาวขึ้นเสียงเถียงกลับ ปลายเดือนเงียบไม่นึกว่าน้องสาวจะรู้เรื่องอะไรแบบนี้
“น่ารักดีนี่ แหม...คุณชลนี่ช่างเป็น ‘พี่ชาย’ ที่แสนดีจริงๆ เธอว่ามั้ย?” หล่อนเสเปลี่ยนเรื่องเสีย
                “แล้วไงล่ะ? แผนการจับเค้าน่ะไปถึงไหนแล้ว?”
                “ฉันไม่จำเป็นเลยที่จะต้องออกแรงจับเค้า คุณชลเค้ารู้ดีหรอกว่าผู้หญิงแบบไหนคู่ควรที่จะเดินเคียงข้าง เป็นเพื่อนคู่คิดได้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว” ปลายเดือนพูดเยาะๆ ใช่สิ...ที่พูดมาทั้งหมดนี่ไม่มีในตัวน้องสาวสักอย่าง
                “นั่นสิคะ...พลูก็มั่นใจว่าผู้หญิงคุณบัติครบคนนั้นไม่ใช่พี่ผึ้งแน่ๆ” แทนดาวย้อน พี่สาวรีบปราดมายืนตรงหน้าคนพูดแล้วเงื้อมือตบหน้าน้องสาวด้วยความโมโหชั่ววูบ แทนดาวทรุดนั่งลงบนเตียง ยกมือข้างหนึ่งกุมแก้มด้วยความเจ็บชาและเสียใจ
                “ต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้เลยเหรอ! แค่ผู้ชายคนเดียว...ทั้งที่พลูเป็นน้องแท้ๆ” แทนดาวตัดพ้อต่อว่าพี่สาวด้วยความน้อยใจ ปลายเดือนรู้สึกตัวก็ตกใจและเสียใจเหมือนกันแต่ไม่รู้จะแก้สถานการณ์อย่างไร
                “ถึง ยังก็ตาม...ในฐานะที่ฉันเป็นพี่ก็จะขอบอกกันตรงนี้ คุณชลเค้าไม่มีวันจะมองเธอเกินไปกว่าน้องสาว ผู้หญิงที่เค้าเลือกจะต้องมีความพร้อมทุกๆด้าน รับผิดชอบตัวเองได้ มีความเป็นผู้ใหญ่ ทำงานเก่งทั้งในและนอกบ้าน เป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่อง แต่เธอไม่มีอะไรสักอย่าง แล้วที่เค้าซื้อของพวกนี้มาให้...ก็ไม่ได้ความว่าจะมาติดอกติดใจตัว อย่าฝันเฟื่องล่ะ” ปลายเดือนพูดอย่างมั่นใจเต็มที่ว่าตนเองมีคุณสมบัติครบทุกอย่างที่ว่ามา
                “พลูกับคุณชลน่ะเพิ่งจะรู้จักกันเองนะคะ เห็นหน้ากันแทบจะนับครั้งได้ พี่ผึ้งน่ะชอบมโนเองแล้วก็มาแขวะกับพลูอยู่เรื่อย” คนตัวเล็กเดินไปส่องกระจกดูหน้าที่โดนตบหมาดๆ
                “ให้มันจริงเถอะ เพราะถ้าเกิดวันนึงมันไม่ได้เป็นแบบที่เธอพูดขึ้นมา ก็จงรับรู้ไว้แต่เนิ่นๆว่ามันไม่ง่าย” พี่สาวทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว แทนดาวยังงงกับคำพูดร้อนแรงนั้นไม่จาง ซีกแก้มข้างนั้นยังคงชาจากแรงมือของพี่สาว พยายามมองหาหนทางว่าระหว่างตนกับชลธีจะมีทางเป็นอย่างที่พี่สาวคิดอย่างไร ได้ หล่อนยังเด็กเกินไปที่ชลธีจะมา ‘คิด’ อะไรๆด้วยซ้ำ

                “คุณน้องพลู! ออกมาเร้ว! เร็วๆค่า...” เสียงพี่เลี้ยงคนสนิทตะโกนเรียกดังมาจากชั้นล่าง แทนดาวกวาดข้าวของทั้งหมดกองรวมกันไว้อย่างเดิมแล้วรีบวิ่งออกมาจากห้อง
                “อะไรกันแป๋ม ตะโกนลั่นบ้านเลย”
                “คุณพ่อไม่สบายตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
                “อะไรนะ!”  แทนดาวไม่รอช้า รีบวิ่งไปหามารดาทันที
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่